Monday, March 21, 2011

18/03/2011 * มองเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2011 (12)

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1003.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย TMB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 30 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปิดเขียว อินเดียร่วงจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่วนจีนนั้นในตอนท้ายวันมีประกาศสั่งให้ธนาคารกันสำรองเพิ่มอีก คงต้องดูผลกระทบในวันถัดไป ด้านสหประชาชาติมีมติให้ใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงประเทศลิเบีย

ช่วงนี้เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ตลาดยางพาราราคาแกว่งยิ่งกว่าคลื่นในทะเล หลังจากที่ราคาดำดิ่งลงติดฟลอร์มาหลายวัน ก็กลับมารีบาวด์และราคาติดเพดานมา 3 วันติดกันแล้ว แต่เท่าที่ดูจากปริมาณซื้อขาย ผู้ที่เปิดสัญญาด้านชอร์ตเอาไว้คงพอปิดสัญญาและออกได้ คงไม่ต้องถูกขังติดต่อกันหลายวัน ราคาเพดานและพื้นของฟิวเจอร์ส์ยางพารา RSS3 ในขณะนี้อยู่ที่ 7 บาท คือขึ้นหรือลงได้สูงสุดไม่เกิน 7 บาทต่อวันซึ่งหมายความว่าลงทุนไป 1 สัญญาเงินอาจงอกหรือหดได้ถึงวันละ 35,000 บาท

ทางด้านราคาทองคำ (GC) ช่วงนี้ราคาแกว่งมากเช่นกัน ตั้งแต่เหตุการณ์ภัยพิบัติที่ญี่ปุ่นราคาทองก็ร่วงลงมา ทั้งนี้ เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น (ปกติหากเงินเยนแข็งราคาทองคำจะลง) ประกอบกับนักลงทุนประเมินกันว่าในภาวการณ์เช่นนี้ประเทศญี่ปุ่นต้องการเงินมาฟื้นฟูประเทศ ดังนั้นจึงไม่ใช่เวลาที่จะมาถือทองแต่ต้องถือเงินสด รวมทั้งอาจมีการขายทองออกมาเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดอีกด้วย ดังนั้นราคาทองคำจึงร่วง แต่วันนี้เอง ราคาทองคำกลับพุ่งขึ้นอีก น่าจะเป็นเนื่องจากข่าวที่สหประชาชาติมีมติแทรกแซงลิเบียและเตรียมส่งกองกำลังเข้าไป

จะเห็นว่าการขึ้นลงของราคาหุ้นหรือสินค้าล้วนแต่เกี่ยวพันกับปัจจัยมากมาย ดังนั้นการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานจึงมีความยากอยู่ที่ว่านำเอาปัจจัยอะไรมาพิจารณาบ้าง และจะให้น้ำหนักปัจจัยไหนเท่าไร ผลกระทบต่อราคาเป็นเท่าไร บางปัจจัยก็มีน้ำหนักต่างกันในระยะเวลาที่ต่างกัน ยากที่ใครจะคำนวณได้อย่างถูกต้อง

การขึ้นลงของราคาเป็นผลจากอารมณ์ของนักลงทุนที่ตอบสนองต่อข่าวสารมากกว่าผลจากปัจจัยพื้นฐาน อารมณ์ของนักลงทุนก็มีหลากหลาย ดังนั้นภายใต้ภาวการณ์ที่อารมณ์ตลาดรุนแรงและไม่แน่นอนเช่นนี้ การเก็งกำไรระยะสั้นด้วยการกะเก็งอารมณ์ตลาดอาจพลาดพลั้งได้ง่าย หรือแม้แต่การเก็งกำไรระยะสั้นด้วยเครื่องมือทางเทคนิคระยะสั้นก็ยังทำได้ยาก



มองเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2011 (12)


ในตอนที่แล้วลุงแมวน้ำคุยถึงตลาดหุ้นในกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง โดยกล่าวถึงกลุ่มละตินอเมริกาไปแล้ว วันนี้เรามาดูตลาดหุ้นในกลุ่มที่ 2 นี้กันต่อ


กลุ่มที่ 2 ตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง


ทวีปอเมริกา

แคนาดา

มาดูกราฟตลาดหุ้นของแคนาดากัน ดังภาพต่อไปนี้



แม้ว่าประเทศแคนาดาจะอยู่ในกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในคลื่น B เหมือนกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่เนื่องจากแคนาดามีทรัพยากรธรรมชาติมาก เศรษฐกิจจึงค่อนข้างมั่นคง ประกอบกับพัฒนาการของตลาดหุ้นค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวามาก ประกอบกับจากภาพข้างบนก็แยกแยะได้ยากว่ายอดคลื่นที่ผ่านมาเป็นคลื่น 3 หรือ 5 กันแน่ ดังนั้นจึงบอกได้ยากว่าปัจจุบันอยู่ในคลื่น 5 หรือคลื่น B กันแน่ หากเป็น 5 คลื่น 5 นี้ก็มีโอกาสไปได้อีกไกล หากเป็นคลื่น B ก็คงใกล้จบคลื่นแล้ว ลุงแมวน้ำมองค่อนไปทางปัจจุบันเป็นคลื่น 5 มากกว่า ดังนั้นจึงจัดให้อยู่ในกลุ่มน่าลงทุนแต่ความเสี่ยงสูงเนื่องจากเผื่อการนับคลื่นผิด


ยุโรปตะวันออก

ทางด้านยุโรปตะวันออก (ยุโรปนี้มีวิธีจัดแบ่งกลุ่มที่นิยมกันอยู่สองแบบ คือ แบบหนึ่งแบ่งเป็นยุโรปตะวันตก ยุโรปกลาง และยุโรปตะวันออก กับอีกแบบหนึ่งแบ่งเป็นยุโรปตะวันตกกับตะวันออก ลุงแมวน้ำใช้แบบหลัง) ในทางปัจจัยพื้นฐานถือว่าเป็นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มแจ่มใสทีเดียว อาทิ โปแลนด์ สาธารณรัฐเชค ฮังการี ฯลฯ ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มยูโรโซน สำหรับโปแลนด์ เชค และฮังการีนั้นในทางเทคนิคก็ถือว่ากราฟดัชนีตลาดหุ้นอยู่ใน คลื่น 5 แต่ไม่ใช่ต้นคลื่น โดยเฉพาะโปแลนด์เนื่องจากดัชนีอยู่ในระดับหลายหมื่นจุดแล้ว ถือว่าเดินทางมาไกลแล้ว ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน







ทวีปแอฟริกา

แอฟริกาใต้

เมื่อจบทวีปอเมริกาแล้วก็มาดูทางด้านทวีปแอฟริกากันบ้าง ประเทศที่เนื้อหอมเป็นที่หมายปองของนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากมีความมั่งคั่งด้านทรัพยากรธรรมชาติและโอกาสในการลงทุน นั่นก็คือประเทศแอฟริกาใต้ ลองดูกราฟต่อไปนี้



จากภาพ เห็นได้ค่อนข้างชัดว่าตลาดหุ้นของแอฟริกาใต้อยู่ในคลื่น 5 แต่เนื่องจากไม่ใช่ต้นคลื่นแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าคลื่นนี้จะจบที่ใด จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มที่ 1


เอเชีย

จากทวีปแอฟริกาก็มาที่ทวีปเอเชีย ทวีปนี้มีหลายประเทศที่ลุงแมวน้ำจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 นี้

รัสเซีย

ดูกราฟตลาดหุ้นรัสเซีย



ตลาดหุ้นรัสเซียน่าจะอยู่ในคลื่น 5 เท่าที่ลุงแมวน้ำติดตามข่าวสารมา กองทุนหลายแห่งหลีกเลี่ยงการลงทุนในรัสเซียแม้จะดูว่าเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสทำกำไรได้ ทั้งนี้ ก็เนื่องจากปัญหาด้านธรรมาภิบาล หากตลาดไม่โปร่งใสอะไรก็เกิดขึ้นได้


อินเดีย

ตอนนี้อินเดียมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตที่รวดเร็วเกินไป เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูงกำลังเป็นปัญหาหนักอกของรัฐบาลอินเดีย



ส่วนทางด้านตลาดหุ้นนั้น จากกราฟลุงแมวน้ำประเมินว่าน่าจะอยู่ในคลื่น 5 และไม่ใช่ต้นคลื่นแล้ว


อินโดนีเซีย

ดูกราฟตลาดหุ้นอินโดนีเซียดังต่อไปนี้



ลุงแมวน้ำประเมินว่าอยู่ในคลื่น 5 ซึ่งดำเนินไปไกลมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะจบคลื่นช้าเร็วเพียงใด


ปากีสถาน


ตลาดหุ้นปากีสถานก็เป็นตลาดเกิดใหม่ที่เนื้อหอมอีกตลาดหนึ่ง ดูจากกราฟแล้วน่าจะอยู่ในคลื่น 5 หากเปรียบเทียบกับกราฟของอินเดียและอินโดนีเซียแล้วนับว่าเป็นคลื่น 5 ที่ไปไกลน้อยกว่าตลาดทั้งสอง ความเสี่ยงจึงดูน่าจะน้อยกว่า


ศรีลังกา



ตลาดหุ้นศรีลังกาเป็นตลาดที่ลุงแมวน้ำประเมินว่าน่าจะอยู่ในคลื่น 3 ไม่ใช่คลื่น 5 เหมือนตลาดอื่นๆที่ผ่านมา ทว่าแม้จะเป็นคลื่น 3 แต่ว่าก็ไปไกลมากแล้ว หากจบคลื่น 3 เมื่อไรก็เป็นคลื่น 4 ที่อาจลงลึกและแกว่งตัวกินเวลานานกว่าจะเข้าคลื่น 5 ดังนั้นด้วยความที่เป็นคลื่น 3 จึงน่าลงทุน แต่ด้วยความที่เป็นคลื่น 3 ที่ไปไกลแล้วจึงถือว่ามีความเสี่ยงสูง


อิสราเอล

ประเทศสุดท้ายในกลุ่มเอเชียและเป็นประเทศสุดท้ายในกลุ่ม 2 นี้ลุงแมวน้ำขอเสนอประเทศอิสราเอล



ประเทศอิสราเอลไม่ใช่เรื่องไกลตัว ขณะนี้บ้านเราก็มีกองทุนตราสารหนี้ประเทศอิสราเอลออกขาย ตลาดหุ้นของประเทศอิสราเอลอยู่ในคลื่น 5 เท่าที่ดูจากพัฒนาการของคลื่นถือว่าตลาดแห่งนี้มีพัฒนาการที่มั่นคง ไม่หวือหวาเกินไป แต่ก็มีความเสีย่งสูงเนื่องจากเป็นคลื่น 5 ที่ไม่ใช่ระยะต้นคลื่นแล้ว


สำหรับตลาดในกลุ่ม 2 ก็คงมีเพียงเท่านี้ ลุงแมวน้ำตั้งข้อสังเกตว่ากองทุนที่เป็นกองทุนลงทุนในตลาด BRIC หรือว่าลงทุนในตลาดบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนนั้น มีเพียงตลาดจีนเท่านั้นที่อยู่ในกลุ่มที่ 1 ส่วนอีกสามประเทศลุงแมวน้ำจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ความเสี่ยงดูจะไม่เท่ากัน





No comments: