Friday, July 31, 2009

30/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 621.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.07 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำไม่ซื้อและไม่ขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 45 ตัว เท่าเมื่อวาน

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทุกตัวอยู่ในสถานะ long หมดแล้ว และไม่มีสัญญาณซื้อขาย ดังนั้นจึงถือต่อไป

Wednesday, July 29, 2009

29/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 614.88 จุด ลดลง 7.08 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำขาย ADVANC ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 45 ตัว ลุงแมวน้ำคาดว่าอีกไม่นานดัชนีจะขึ้นต่อ และโปรแกรมจะซื้อจนหมดทั้ง 50 ตัว แต่ตอนนี้ต้องเจอกับ correction บ้าง ก็ต้องปฏิบัติไปตามสัญญาณซื้อขาย ตัวไหนที่เกิดสัญญาณขายก้ต้องขายเอาไว้ก่อน เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ต้องเล่นตามแนวโน้ม อย่าเล่นนำแนวโน้ม หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ BEC, BH, CPALL, EGCO, KTB, MAKRO, MCOT, TTW หุุ้้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อ ได้แก่ RATCH

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทุกตัวอยู่ในสถานะ long หมดแล้ว แต่ราคาทองคำกับน้ำมันดิบร่วงหนัก ช่วงนี้ทองแกว่งจนลุงแมวน้ำก็มึนไปเหมือนกัน

28/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 621.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ THAI ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 46 ตัว ลุงแมวน้ำคาดว่าอีกไม่นานโปรแกรมจะซื้อจนหมดทั้ง 50 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทุกตัวอยู่ในสถานะ long หมดแล้ว ทองคำราคาย่อลงมาบ้าง

Tuesday, July 28, 2009

27/07/2009 * DJIA, HSKI, SET, CL, RSS, GC

วันนี้ SET ปิดที่ 617.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ TOP ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 45 ตัว ลุงแมวน้ำคาดว่าอีกไม่นานโปรแกรมจะซื้อจนหมดทั้ง 50 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทุกตัวอยู่ในสถานะ long หมดแล้ว และมีกำไรในพอร์ตดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ยกเว้นแต่ทองคำที่ยังทรงๆอยู่

วันนี้ลองมาอัปเดตสถานการณ์ของตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆกันดู

DJIA

ดัชนีดาวโจนส์ DJIA ของสหรัฐอเมริกาเป็นตัวชี้นำทิศทางของตลาดหลักทรัพย์ต่างๆทั่วโลก ถ้าดาวโจนส์ถดถอย (ไม่ใช่เศรษฐกิจถดถอย) ตลาดหลักทรัพย์อื่นๆก็ถดถอยตามไปด้วย



ในกรอบเวลาที่นานมากๆ ประมาณว่าเป็นลูกคลื่นยักษ์รายหลายสิบปี (น่าจะ 40-50 ปี) ขณะนี้ดีชนีดาวโจนส์น่าจะอยู่ในขาหลังของลูกคลื่นยักษ์รายหลายสิบปี นั่นคือ อยู่ในคลื่น B ซึ่งแม้เป็น corection ของคลื่นขาลง แต่เนื่องจากกรอบเวลานานมาก ดังนั้นคลื่น B ในน่าจะดำเนินไปโดยกินเวลาหลายเดือน อาจยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งก็ยังสามารถลงทุนได้ (แต่ถ้าเป็นคลื่น B ในกรอบเวลาสั้นๆ เช่น ในลูกคลื่นรายปีหรือรายเดือนก็ไม่ควรเข้าลงทุน เพราะอาจหนีไม่ทัน)

ขณะนี้เรายังไม่จบคลื่น B ของลูกคลื่นยักษ์รายหลายสิบปี ดังนั้นแม้เราอาจจะนับคลื่นย่อยที่เกิดข้างในคลื่นยักษ์นี้ผิดไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็สรุปได้ว่าตลาดยังไปต่อได้อีกหลายเดือนถึงนานเป็นปีอยู่ดี คำถามต่อมาคือว่าคลื่น B นี้ีจะไปสูงสุดที่ใด คำตอบก็คือจริงๆก็ไม่ทราบ แต่ถ้าให้ประเมินก็คิดว่าอาจเป็นไปได้ที่คลื่น B นี้ไปจบที่ดัชนี 12,500 จุด โดยพิจารณาจากความสอดคล้องของค่า fibonacci หลังจากนั้นก็คงลงไปยาวเป็นเวลาหลายปี

สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่าดัชนีดาวโจน์อยู่ในทิศทางขาขึ้น

HSKI

ลองมาดูดัชนีหั่งเส็ง HSKI ของฮ่องกงกันบ้าง ดัชนีนี้ตามตลาดดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน



ดังนั้น คาดการณ์ได้ว่าดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงน่าจะขึ้นตามดาวโจนส์ได้เป็นเวลานานหลายเดือนหรืออาจข้ามปีไปถึงปีหน้า

สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่าดัชนีหั่งเส็งอยู่ในทิศทางขาขึ้น

SET

SET ของไทยก็น่าจะเป็นไปตามทิศทางของดาวโจนส์และหั่งเส็ง นั่นคือ ยังมีเวลาอีกนานกว่าจะจบคลื่นยักษ์ B



สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่า SET อยู่ในทิศทางขาขึ้น

CL น้ำมันดิบ

ในระดับลูกคลื่นรายหลายปี น้ำมันดิบยังอยู่ในคลื่นขาคลื่น คาดว่าน่าจะเป็นคลื่น 5 ตามภาพ เป้าหมายราคาเมื่อจบคลื่นยักษ์ 5 น่าจะเป็นที่ 160 ดอลลาร์ โดยพิจารณาจากความสอดคล้องของค่า fibonacci



ในระดับคลื่นที่ย่อยลงมา ขณะนี้เราน่าจะอยู่ในคลื่น 3 ราคา่ยังน่าจะอยู่ในขาขึ้นไปได้อีกหลายเดือนหรืออาจข้ามปี จนกว่าจะจบคลื่นยักษ์ 5

สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่าน้ำมันดิบยังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง แต่คาดว่าอีกไม่นานแนวโน้มระยะสั้นน่าจะเปลี่ยนไปอยู่ในภาวะขาขึ้น

ยางแผ่นรมควัน RSS


ทิศทางของราคายางสอดคล้องกับทิศทางของราคาน้ำมันดิบ เพราะผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมเป็นวัสดุทดแทนยาง เมื่อน้ำมันดิบมีทิศทางขาขึ้น ยางก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในระดับคลื่นยักษ์รายหลายปี ลุงแมวน้ำนับลูกคลื่นของน้ำมันดิบกับยางแล้วยังไม่สอดคล้องกันเท่าที่ควร แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าในระยะหลายเดือนต่อไปข้างหน้านี้ถึงอย่างไรก็ยังน่าจะเป็นขาขึ้นอยู่



สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่าราคายางอยู่ในทิศทางขาขึ้น เป้าหมายของราคายางในขั้นต้นน่าจะอยู่ที่ 80-85 บาท

ทองคำ GC

การนับลูกคลื่นของราคาทอง ทั้งในระดับลูกคลื่นรายหลายปี และลูกคลื่นรายปี ยังสับสน ลุงแมวน้ำนับจนเมาคลื่นก็ยังไม่มั่นใจ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในระดับคลื่นรายหลายปี ยังมองว่าความน่าจะเป็นที่เรากำลังอยู่ในคลื่น 5 มีมากกว่าความน่าจะเป็นที่เราอยู่ในคลื่น B แต่ถึงจะเป็นคลื่น 5 หรือ B ก็ตาม ในระยะหลายเดือนต่อไปนี้ราคาทองคำน่าจะอยู่ในทิศทางขาขึ้น



สำหรับในระยะสั้น ขณะนี้อินดิเคเตอร์ diretional movement บ่งชี้ว่าราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาขึ้น


Monday, July 27, 2009

24/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 614.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ PTTCH ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 44 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้น้ำมันดิบ CL เกิดสัญญาณซื้อ จึง open long position ไป 1 สัญญา

ขณะนี้โปรแกรมซื้อหุ้นในกลุ่ม SET50 ไปแล้ว 44 ตัว ทั้ง SET, SET50 และกลุ่มฟิวเจอร์ส ไม่ว่ายาง ทองคำ น้ำมันดิบ ล้วนแล้วแต่เกิดสัญญาณซื้อแล้วทั้งหมด สัญญาณทั้งหมดสอดคล้องกันเช่นนี้แปลว่าทั้งตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกน่าจะมีทิศทางขาขึ้นต่อไปได้อีกช่วงหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้ยังไม่ควรขายหุ้นหรือ open short position

จากการประเมินอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ลุงแมวน้ำมีความเห็นดังนี้

SET ยังขึ้นต่อ (รวมทั้ง S50 ด้วย)
ทองคำ ยังขึ้นต่อ
น้ำมัน ยังขึ้นต่อ (รวมทั้งยางด้วย)
ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ยังขึ้นต่อ
ดัชนีดอลลาร์ ยังลงต่อ และน่าจะทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม (จุดต่ำสุดเดิมคือ 78.47)

Friday, July 24, 2009

23/07/2009 * DX

วันนี้ SET ปิดที่ 612.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.97 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ DELTA, KSL, MBK ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 43 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขายใดๆ

ทองคำ GC ขณะนี้เครื่องมือ directional movement บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะขาขึ้น ความเป็นไปได้ที่ขณะนี้เรายังอยู่ในคลื่น 5 ยังมีอยู่ อาจจะไม่ได้อยู่ในคลื่น B

น้ำมันดิบ CL แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นมาหลายวัน แต่เครื่องมือ directional movement ก็ยังบ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะไร้ทิศทางอยู่ ขณะนี้เราน่าจะอยู่ในต้นคลื่น 5 รออีกไม่กี่วันก็น่าจะเกิดสัญญาณซื้อและสัญญาณทางเทคนิคก็น่าจะบ่งชี้ว่าเข้าสู่ขาขึ้น

ดัชนีดอลลาร์ dollar index อยู่ในทิศทางขาลงชัดเจน ต้องรอดูกันต่อไปว่าราคาจะหลุดต่ำกว่า 78.47 หรือไม่ ถ้าหลุดต่ำกว่าก็น่าจะลงได้อีกยาว ถ้าไม่หลุดก็อาจมีสัญญาณกลับทิศทางเป็นขาขึ้นในเวลาอีกไม่นานนี้ ต้องติดตามดูกันไปอีกสักระยะ

S50 ยังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง อาจแกว่งต่อไป

ดัชนีดอลลาร์ dollar index อยู่ในทิศทางขาลงชัดเจน ต้องรอดูกันต่อไปว่าราคาจะหลุดต่ำกว่า 78.47 หรือไม่ ถ้าหลุดต่ำกว่าก็น่าจะลงได้อีกยาว ถ้าไม่หลุดก็อาจมีสัญญาณกลับทิศทางเป็นขาขึ้นในเวลาอีกไม่นานนี้ ต้องติดตามดูกันไปอีกสักระยะ




Thursday, July 23, 2009

22/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 598.22 จุด ลดลง 11.61 จุดอย่างไม่มีเค้ามาก่อน เช่นเดียวกับตลาดหั่งเส็ง ในขณะที่เพื่อนบ้านอื่นๆส่วนใหญ่ติดลบเพียงเล็กน้อย

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ TCAP และขาย GLOW ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 40 ตัว

หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อ ได้แก่ KSL, MBK, RATCH ส่วนหุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ BEC, CPALL, KTB, TTW

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขายใดๆ ขณะนี้ถือสัญญา long ใน S50, GC, RSS ยังเหลือแต่น้ำมันดิบที่ยังไม่ได้ทำอะไร กำไรสะสมของ S50 ในพอร์ตจำลองแย่ลง

Wednesday, July 22, 2009

21/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 609.83 จุด ลดลง 3.84 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ 2 ตัว คือ BH, TCAP ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 40 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขายใดๆ ขณะนี้ถือสัญญา long ใน S50, GC, RSS ยังเหลือแต่น้ำมันดิบที่ยังไม่ได้ทำอะไร

ช่วงนี้ตลาดผันผวน ดูทิศทางยาก ดังนั้นควรปฏิบัติตามสัญญาณซื้อขายที่ตนเองใช้อยู่ อย่าแหกกฎจะได้ไม่เกิดความเสียหาย เสียหายตามระบบไม่เป็นไร อีกหน่อยก็ได้คืน แต่เสียหายเพราะแหกระบบยากที่จะแก้ไขเพราะมักเสียหายหนัก

Tuesday, July 21, 2009

20/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 613.67 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อไป 11 ตัว คือ BANPU, BBL, CCET, ESSO, HANA, ITD, PSL, PTT, PTTEP, SCB, TTW ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 38 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ตลาดญี่ปุ่นหยุดทำการ ราคายางโตคอมจึงเป็นราคาของเมื่อวาน วันนี้ S50, GC เกิดสัญญาณซื้อ ดังนั้นจึงปิดสัญญาขาย (cover short position) และเปิดสัญญาซื้อ (open long position) แืทน ตอนนี้พอร์ตจำลองดูแย่ลงเพราะคืนกำไรไปกับ S50 อีกทั้งขาดทุนจากทองคำ GC ส่วนที่ยังทำกำไรได้ดีคือยางกับน้ำมันดิบ

เมื่อพิจารณา S50 กับ GC ถ้าจะถามวา่าสัญญาณขายที่ผ่านมาถือว่าเป็น false signal หรือสัญญาณหลอกหรือไม่ ตอนนี้คงยังบอกได้ยาก คือสัญญาณขายครั้งที่แล้ว กับสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นในวันนี้ ต้องมีอันใดอันหนึ่งเป็นสัญญาณหลอก แต่จะเป็นอันใดนั้นคงตอบตอนนี้ได้ยาก ต้องดูต่อไปอีกสักระยะ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือทนโดนหลอกไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน เมื่อเห็นแนวโน้มชัดเจนแล้วก็จะเทรดได้ถูกทิศทาง

Monday, July 20, 2009

17/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 596.11 จุด ขึ้นไป 13.37 จุด จวนเจียนจะเกิดสัญญาณซื้อเต็มทีแล้ว

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ IRPC, KBANK, LH, PTTAR, SCCC, TPC, TTA ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 30 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขายใดๆเกิดขึ้น แต่กำไรในพอร์ตจำลองลดลงมากเนื่องจาก SET ดีดกลับขึ้นไปแรง แต่ยังไม่ถึงกับส่งผลใ้ห้ S50 เกิดสััญญาณซื้อ S50 ที่ชอร์ตเอาไว้จึงคืนกำไรไปโข

ตอนนี้อะไรๆก็อยู่ในภาวะไร้ทิศทางไปเสียหมด ทองคำ GC ใกล้ถึงจุดแตกหักแล้ว อีกไม่กี่วันคงได้รู้กันว่าจะขึ้นหรือลงต่อ

Friday, July 17, 2009

16/07/2009 * Futures

วันนี้ SET ปิดที่ 582.74 จุด ลดลงมา 5.12 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ MAKRO ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 20 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ยางญี่ปุ่น JP@IR เกิดสัญญาณซื้อ หลังจากที่วันก่อนยางไทยก็เกิดสัญญาณซื้อไป ขณะนี้พอร์ตจำลองเปิด long ยางไทย และเปิด short S50 และ GC เอาไว้

มาคุยเรื่องฟิวเจอร์สต่อจากเมื่อวาน

จะเห็นว่าการลงทุนในฟิวเจอร์สมีข้อดี นั่นก็คือสามารถทำให้เราเทรดได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง และข้อดีอีกประการที่ถือเป็นดาบสองคมก็คือเป็นการลงทุนที่ใช้เงินน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น

ที่กล่าวว่าการลงทุนในฟิวเจอร์สใช้เงินน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นนั้นเป็นเพราะธรรมชาติของฟิวเจอร์สนั้นไม่ได้ใช้เงินเต็มจำนวน แต่ใช้การวางเงินเพียงส่วนเดียว ปกติประมาณ 10% ของมูลค่าจริง ยกตัวอย่างเช่น การเทรด SET50 futures นั้นใช้เงินในการเทรดสัญญาละ 50,000 บาท แต่มูลค่าของสินค้าจริงเทียบเท่ากับหุ้นราคา 500,000 บาท

การคิดกำไรขาดทุนจะคิดการการขึ้นลงของดัชนี SET50 มูลค่า 1,000 บาท ต่อดัชนี 1 จุด

สมมติว่าปลาทอง (เจ้าเก่า) เทรดฟิวเจอร์ส SET50 futures (เรียกสั้นๆว่า S50) โดยเปิดสัญญาซื้อ (open long position) 1 สัญญา โดยใช้เงิน 50,000 บาท ตอนนั้นดัชนี SET50 อยู่ที่ 400 จุด

ถ้าหุ้นขึ้น และดัชนี SET50 ขึ้นมา 10 จุด เป็น 410 จุด ปลาทองจะได้กำไร 10,000 บาท

แต่ถ้าหุ้นตกและดัชนี SET50 ร่วงลงไป 10 จุด เหลือเพียง 390 จุด ปลาทองจะขาดทุน 10,000 บาท

และนี่เองที่เรียกว่าเป็นดาบสองคม เพราะว่าได้กำไร/ขาดทุนเมื่อเทียบกับเงินต้นที่ลงทุนไปแล้วถือว่าสูง ดังนั้นความเสี่ยงก็จะสูงตามไปด้วย ผู้ที่จะลงทุนในฟิวเจอร์สจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี มีระบบในการเทรด จะเทรดด้วยอารมณ์ความรู้สึก หรือเทรดแบบตามใจฉันไม่ได้ เพราะว่าจะมีแต่ทางเจ๊งกับเจ๊ง และที่สำคัญที่สุดก็คือต้องมีสติและรู้จักควบคุมความโลภและความกลัว ความโลภทำให้เทรดเกินตัว และความกลัวทำให้ไม่รักษาวินัยการเทรด ทั้งสองประการนี้ล้วนแต่ทำให้หายนะทั้งสิ้น

ประการต่อมาก็ต้องเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของระบบที่ตนเองใช้ในการเทรด ระบบของลุงแมวน้ำและระบบ PnT 1.10 เป็นระบบเทรดตามแนวโน้มของตลาด ถ้าตลาดแกว่งรุนแรงหรืออยู่ในภาวะไร้ทิศทางเป็นเวลานานๆ หรือบ่อยๆ จะทำให้เกิดสัญญาณหลอก false signal บ่อยๆ ผลก็คือขาดทุนได้ เมื่อเข้าใจระบบแล้วก็ต้องรู้จักเลือกตัวสินค้าที่จะเทรดให้เหมาะกับระบบ

ยกตัวอย่างเช่น จากตารางของเมื่อวาน จะเห็นว่าหุ้นแต่ละตัวที่นำมาทำเป็น single stock futures ให้ผลตอบแทนแตกต่างกัน ใครที่เทรด ADVANC ต้องขาดทุนหนัก ส่วนใครที่เทรด PTT เมื่อเป็นหุ้นดูเหมือนจะทำกำไรได้ดี แต่เมื่อเป็นฟิวเจอร์สแล้วกลับทำกำไรได้ไม่มาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะขึ้นอยู่กับธรรมชาติการแกว่งตัวของหุ้นและการเกิดสัญญาณหลอกนั่นเอง

สำหรับระบบตามแนวโน้มของลุงแมวน้ำเหมาะกับการเทรดดัชนีมากกว่าการเทรดหุ้นเดี่ยว ทั้งนี้ เพราะว่าดัชนีเป็นผลมาจากการเฉลี่ยของหุ้นหลายๆตัว ทำให้ลดความหวือหวาหรือการแกว่งตัวที่รุนแรงลงไปได้ การแกว่งตัวที่นิ่มนวลจะทำให้ทำกำไรได้ดีกว่า และหากใช้การนับลูกคลื่นเข้าช่วยในการเทรดก็จะปรับปรุงการทำกำไรให้ดีขึ้นได้อีกส่วนหนึ่ง

ลองมาดูตัวอย่างข้างล่าง ภาพต่อไปนี้เป็นการซื้อขาย ADVANC จากกราฟ เมื่อแท่งราคาเป็นสีเขียวก็ให้ซื้อหุ้น (ถ้าเป็นฟิวเจอร์สก็ให้ open long position) และเมื่อแท่งราคาเปลี่ยนเป็นสีแดงก็ให้ขายหุ้น (ถ้าเป็นฟิวเจอร์สก็ให้ cover long position และ open short position ไปพร้อมกัน) จะเห็นว่าสัญญาณหลอกเกิดเยอะมาก ทำให้ขาดทุน
(คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยาย)


แต่ถ้าเป็น S50 รูปแบบของกราฟจะแกว่งตัวนุ่มนวลกว่า เกิดภาวะไร้ทิศทางน้อยกว่า สังเกตว่าคลื่น 3 และคลื่น 5 นั้นแท่งสีเขียวเกิดต่อเนื่องไปยาว สองคลื่นนี้เองที่ทำกำไรให้อย่างงามในตลาดขาขึ้น ส่วนตลาดขาลงก็ไปได้กำไรยาวในคลื่น C (ตัวอักษร C ในกรอบสีน้ำเงิน)
(คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยาย)



Thursday, July 16, 2009

15/07/2009 * Futures

วันนี้ SET ปิดที่ 587.86 จุด ขึ้นต่อไปอีก 10.11 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำไม่มีซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 19 ตัวเท่ากับเมื่อวาน

หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อได้แก่ BH, IRPC, KBANK, MAKRO, MBK, RATCH, SCCC, TPC, TTA

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ยางไทย RSS เกิดสัญญาณซื้อ แม้เป็นสัญญาณซื้อที่เกิดในภาวะไร้ทิศทางแต่ก็ต้อง open long ไป ส่วนยาง TOCOM และทอง GC ก็ใกล้เกิดสัญญาณซื้อเต็มทีแล้ว

พอร์ตจำลองคืนกำไรจาก S50 และขาดทุนในทองคำมากขึ้นเพราะเมื่อวาน SET50 และราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

ทีนี้ก็มาคุยกันเรื่องการลงทุนต่อจากเมื่อวาน

ดังที่ได้คุยกันไปแล้วว่า หนทางลดการคืนกำไรจากการเทรดตามระบบนั้น วิธีหนึ่งที่ทำได้ก็คือการนับลูกคลื่นช่วย สำหรับในวันนี้ เราจะมาลองพิจารณากันอีกวิธีหนึ่ง

เมื่อวานเราพิจารณากันไปแล้วว่าการลงทุนในหุ้นในต้องลงทุนในตลาดที่เป็นขาหน้าของลูกคลื่น เพราะเป็นการซื้อถูกขายแพง ถ้าเป็นตลาดขาหลังของลูกคลื่นหรืออยู่ในคลื่น A-B-C การซื้อหุ้นจะขาดทุนเพราะซื้อมาแพงแต่ไปขายถูกเนื่องจากทนถือต่อไปไม่ไหว

แนวคิดที่ทำให้เพิ่มกำไรได้ก็คือทำอย่างไรเราจึงจะลงทุนในตลาดขาลงได้ ซึ่งการเทรดในตลาดขาลงนั้นต้องใช้หลัก ขายแพงซื้อถูก คือขายแพงไปก่อน (ยังไม่ต้องมีของในมือ ขายลมไป) แล้วซื้อในราคาถูกกลับมาทีหลัง หากทำแบบนี้ได้ก็มีกำไร

หลักในการขายแพงแล้วซื้อถูกนั้นก็คือแนวคิดของการเทรดฟิวเจอร์ส (futures) นั่นเอง

ฟิวเจอร์สนั้นทำให้ลงทุนได้ทั้งสองขา คือ ทั้งขาหน้าและขาหลังของลูกคลื่น ต่างจากการลงทุนในหุ้นที่ลงทุนได้เพียงด้านเดียว ลองมาดูกันว่าในบรรดาหุ้นที่เราดูในตัวอย่างกันเมื่อวาน หากนำมาเทรดในรูปแบบของฟิวเจอร์ส คือ เทรดทั้งด้านซื้อถูกขายแพง (หรือที่เรียกว่า ลอง long) กับด้านขายแพงซื้อถูก (หรือที่เรียกว่า ชอร์ต short) เมื่อลงทุนทั้งสองด้านแล้วผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร โปรดดูตารางต่อไปนี้ อนึ่ง การคำนวณในตารางข้างล่งานี้ใช้การคำนวณอิงจากข้อมูลจริง เงินมาร์จินตั้งต้น (initial margin) และค่าคอมมิชชันคำนวณจากอัตราที่ใช้อยู่ในปัจจุบันของ single stock futures

กำไรสุทธิในตารางที่คิดเป็นร้อยละนั้นเทียบจาก initial margin

หมายเลข 14-15 นั้นไม่ได้คำนวณกำไรสุทธิเอาไว้เพราะว่าไม่มีฟิวเจอร์สจริงในตลาดให้เทรด ส่วนหมายเลข 1-13 นั้นมีฟิวเจอร์สให้เทรดในตลาด โดย 1-12 นั้นเป็น single stock futures (เป็นฟิวเจอร์สของหุ้น) ส่วน 13 นั้นคือ SET50 futures ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สของดัชนี SET50

Wednesday, July 15, 2009

14/07/2009 * RSS, Stocks

วันนี้ SET ปิดที่ 577.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.20 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำไม่มีซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 19 ตัวเท่ากับเมื่อวาน

หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ BEC, CPALL, EGCO ส่วนหุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อได้แก่ MAKRO, MBK, TPC

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีการซื้อขาย พอร์ตจำลองขาดทุนจากทองคำมากขึ้นเพราะเมื่อวานราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

ยางไทย RSS แม้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคจะบ่งบอกว่าอยู่ในสภาวะไร้ทิศทาง (sideway) แต่เมื่อดูจากกราฟราคายางจะเห็นว่าก้นของกราฟ (trough)ยกสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่าเป็น rising trough ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นอย่างหนึ่ง เป็นไปได้ว่าแนวโน้มของราคายางอาจเข้าสู่คลื่น 3 แล้ว ต้องติดตามกันต่อไปอีกสักระยะเพื่อความแน่ใจ



วันนี้เรามาคุยกันต่อจากเมื่อวาน คุยกันวันละนิดละหน่อย จะได้ไม่เบื่อมาก

จากตารางแสดงการลงทุนและผลตอบแทนในหุ้นที่ดูกันไปเมื่อวาน (โปรดย้อนไปดูวันที่ 13/07/2009 ประกอบ) จากการลงทุนสิบสองปีกว่า ได้กำไรเมื่อคิดเป็นร้อยละแล้วบางตัวก็ได้ไม่มาก บางตัวก็ขาดทุน เหตุที่ลุงแมวน้ำเอาข้อมูลถึงสิบกว่าปีมาทดสอบให้ดูกันก็เพื่อให้เห็นว่าระบบที่ดีนั้นต้องทำงานได้ดีในระยะยาวด้วย เพราะการที่เข้าลงทุนเพียงหนึ่งหรือสองปีแล้วได้กำไรหรือขาดทุนอาจไม่สามารถสรุปอะไรเกี่ยวกับความสามารถของระบบได้ เพราะอาจเป็นเพียงแค่เข้าไม่ถูกจังหวะ แต่หากดูกันในระยะยาวสิบกว่าปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก หากยังได้กำไรอยู่จึงจะถือได้ว่าระบบนั้นมีความสามารถเพียงพอที่เราจะใช้งาน

จากข้อมูลในตารางของเมื่อวาน จะเห็นว่าระบบที่ลุงแมวน้ำเอามาทดสอบให้ดูทั้งสองระบบนั้นใช้งานได้ดี เพราะแม้จะมีขาดทุนบ้างในหุ้นบางตัว แต่ส่วนใหญ่ก็ได้กำไร

ทีนี้เราลองมาดูกันว่าเราจะปรับปรุงการลงทุนโดยใช้ระบบตามแนวโน้มที่ว่า แต่ว่าให้มีผลกำไรมากขึ้นได้อย่างไรบ้าง วีธีการหนึ่งที่เกริ่นไว้แล้วก็คือการใช้การนับลูกคลื่นเข้าช่วย

การจะนับลูกคลื่นได้นั้น นักลงทุนจำเป็นต้องรู้เกียวกับทฤษฎีคลื่นของอีเลียต (Elliott wave theory) เสียก่อน ซึ่งคงไม่นำมาพูดละเีอียดในที่นี้ แต่จะพูดเพียงในหลักการคร่าวๆเท่านั้น

ในทฤษฎีคลื่นของอีเลียตนั้นระบุว่าคลื่นของราคาจะประกอบด้วยขาหน้าและขาหลังของคลื่น ขาหน้าประกอบด้วย 5 คลื่นย่อย เรียกว่าคลื่น 1-2-3-4-5 ส่วนขาหลังของลูกคลื่นนั้นประกอบด้วย 3 คลื่นย่อย นั่นคือ A-B-C ดังภาพนี้



เนื่องจากการลงทุนในหุ้นนั้นกำไรมาจากการที่เราซื้อมาถูกและขายออกไปแพง เรียกว่าซื้อถูกขายแพง ดังนั้นการลงทุนต้องเลือกลงทุนในจังหวะที่เป็นขาหน้าของคลื่นเท่านั้น ถ้าไปลงทุนในขาหลังของลูกคลื่นจะขาดทุน จากภาพข้างบนเราคงพอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดบางปีลงทุนแล้วจึงขาดทุนทั้งปีแม้จะมีระบบการลงทุนก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะว่าเข้าไปลงทุนในจังหวะที่เป็นขาหลังของคลื่นหรือเป็นคลื่น A-B-C นั่นเอง การซื้อขายหุ้นในขาลงแม้ระบบจะดีอย่างไรก็ต้องขาดทุนเพราะเหมือนกับไปฝืนธรรมชาติของตลาด

แต่อย่างไรก็ดี ในขาหน้าของคลื่นนั้นก็ไม่ใช่จะลงทุนได้ทุกคลื่นย่อย คลื่น 1 มักเข้าไม่ทันเพราะยังไม่ทันรู้ตัว ส่วนคลื่น 2 และ 4 ก็เป็นคลื่นขาลงในขาหน้า ซึ่งเป็นช่วงคืนกำไร ปกติก็ควรเลี่ยง ดังนั้นจึงมักเข้าซื้อกันในคลื่น 3 และ 5 เท่านั้น

หากนักลงทุนนับคลื่นได้และรู้จักเลือกลงทุนเฉพาะสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นในคลื่น 3 และ 5 เท่านั้นก็จะลดการคืนกำไรไปได้มาก การลดการคืนกำไรก็เท่ากับทำให้เราได้กำไรเพิ่มนั่นเอง หลักการนี้สามารถนำไปใช้กับการลงทุนในหุ้นหรือแม้แต่กับกองทุนที่อิงดัชนีต่างๆอีกด้วย แต่หากจะลงทุนกับกองทุนอาจต้องปรับกลยุทธ์ให้เป็นการถือยาวตลอดคลื่น 3-4-5 แล้วไปขายเอาเมื่อจบคลื่น 5 ทั้งนี้เพราะธรรมชาติของกองทุนไม่เหมาะกับการซื้อขายที่รวดเร็ว เหมาะกับการถือนานๆมากกว่า

(ยังมีต่อ พรุ่งนี้จะคุยกันและเปรียบเทียบการลงทุนในฟิวเจอร์ส)

Tuesday, July 14, 2009

13/07/2009 * Stocks

วันนี้ SET ปิดที่ 562.55 จุด ลดลง 3.48 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำขาย BBL, KBANK, TCAP ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 19 ตัว

ยางญี่ปุ่น JP@IR วันนี้เกิดสัญญาณขายหลังจากที่เพิ่งเกิดสัญญาณซื้อได้เพียงไม่กี่วัน ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง เช่นเดียวกับยางของไทย RSS3

ทองคำกับน้ำมันเริ่มกลับมามีเทรนด์อีกครั้ง โดยขณะนี้ทิศทางของราคาอยู่ในขาลงทั้งคู่

มาคุยเรื่องการลงทุนในหุ้นกันต่อจากเมื่อวาน ลองดูภาพต่อไปนี้

จากภาพข้างบน เป็นการลงทุนในหุ้นตั้งแต่ปลายปี 1996 จนถึงกลางปี 2009 รวมเวลา 12 ปี ลงทุนให้หุ้นต่างๆ 12 ตัว ตั้งแต่ลำดับที่ 1-12 (ลำดับที่ 13-15 ยังไม่ต้องพิจารณา)

ราคาตั้งต้นที่ใช้นั้นเป้นราคาที่ปรับค่าแล้ว เพราะว่าบางหุ้นบางตัวมีการแตกพาร์ ส่วนกำไร/ขาดทุนสุทธิ ที่คิดเป็นร้อยละนั้น คิดจากกำไรสุทธิเมื่อเทียบกับราคาตั้งต้น เทียบเป็นร้อยละออกมา

ผลการเทรดทางด้านซ้ายมือเป็นการเทรดตามระบบสัญญาณซื้อขายของลุงแมวน้ำ ส่วนด้านขวามือนั้นเป็นของระบบ PNT 1.10 ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี

เงื่อนไขในการเทรดก็คือทุกครั้งที่มีสัญญาณซื้อให้ซื้อ 1 หุ้น ทุกครั้งที่มีสัญญาณขายให้ขาย ผลจากการเทรดสิบกว่าปี ลองมาดูกันว่าได้กำไรในหุ้นกันไปเท่าไร

ใครที่เล่น ADVANC ขาดทุนหนัก ถ้าเล่น KBANK ก็ขาดทุนนิดหน่อย ถ้าเล่น BBL ก็ได้กำไรหน่อยหนึ่ง รวมแล้วในกลุ่มธนาคารได้กำไรไม่มากเมื่อเทียบกับระยะเวลาลงทุนถึงสิบกว่าปี กลุ่มที่ได้กำไรดีกว่าเป็นกลุ่มพลังงาน เรือ และอสังหาริมทรัพย์กับวัสดุก่อสร้าง

ส่วลำดับที่ 13-15 เป็นการซื้อขายดัชนี โดยคิดเสียว่าดัชนี SET50 ดัชนีกลุ่มพลังงาน และดัชนีกลุ่มธนาคารเป็นเสมือนหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่จะพัฒนาไปเทรดฟิวเจอร์สต่อไปนั่นเอง

แนวทางการปรับปรุงการใช้ระบบที่มีอยู่เพื่อให้มีผลกำไรที่ดีพอสมควร คือ

1. เลือกหุ้นที่เหมาะกับระบบ ระบบการเทรดตามแนวโน้มไม่ชอบหุ้นที่แว่งขึ้นลงแรง รวมทั้งไม่ชอบหุ้นที่มีภาวะไร้ทิศทางนานๆ เพราะจะทำให้คืนกำไรไปมาก
2. เลือกระบบให้เหมาะสม ระบบที่เทรดน้อยครั้งมักจะทำกำไรได้ดีกว่าระบบที่เทรดมากครั้ง เพราะการเทรดมากครั้งทำให้เสียค่าคอมมิชชันไปมาก อีกทั้งมีโอกาสคืนกำไรไปกับสัญญาณหลอกมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เสียจังหวะในการเทรดอีกด้วย เปรียบการเต้นรำที่มักสะดุดเท้าตนเองบ่อยๆ
3. ใช้การนับลูกคลื่นเข้าช่วย และซื้อขายเฉพาะคลื่นขาขึ้น คือ คลื่น 3 และ 5 เท่านั้น คลื่นอื่นให้หยุดเทรด
4. เปลี่ยนจากการลงทุนในหุ้นไปเป็นการลงทุนในฟิวเจอร์ส เพราะการเทรดฟิวเจอร์สนั้นทำได้ทั้งสองขา คือขาขึ้นกับขาลง กล่าวคือ ซื้อถูกแล้วไปขายแพง (คือด้านลอง ใช้กับแนวโน้มขาขึ้นขาขึ้น) และขายแพงไปก่อนแล้วมาซื้อถูกกลับคืนที่หลัง (คือด้านชอร์ต ใช้กับแนวโน้มขาลง)

(ยังมีต่อ)


Monday, July 13, 2009

10/07/2009 * RSS, Stocks

SET วันนี้ปิดที่ 566.03 จุด ลดลง 15.96 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 แม้ SET จะขึ้น แต่วันนี้โปรมแกรมขอลงุลแมวน้ำขาย BANPU, KSL, MAKRO, PTT, PTTEP, THAI, TMB จะเห็นว่ากลุ่มพลังงานถูกขายแล้ว ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 22 ตัว หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ BEC, KBANK, TUF

สำหรับพอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้ถือ short อยู่ 2 ตัว คือ S50 และทองคำ กำไรจาก S50 futures เริ่มกลับมาดีขึ้นจากการชอร์ต ส่วนทองคำยังทรงๆ จะขึ้นต่อหรือจะลงต่ออีกไม่นานคงได้เห็นกัน

โปรดสังเกตว่า S50 futures เกิดสัญญาณขายมาสามวันแล้ว ในขณะที่ SET, SET50 เพิ่งเกิดสัญญาณขายในวันนี้

ยางไทย RSS JP@IR อยู่ในกรอบของ standard error channel (SEC) ขาลง แต่ไม่หลุดกรอบ และราคากับ RSI เกิด bullish convergence เล็กๆ ไม่แน่ว่าอาจจะจบคลื่น 2 ไปแล้วที่ราคา 54 บาทที่ผ่านมา รอดูต่อไปถ้าผ่าน 57 บาทจะเกิดสัญญาณซื้อ


ยางญี่ปุ่น TOCOM เกิดสัญญาณซื้อไปแล้ว และไม่หลุดจากกรอบล่างของ SEC อีกทั้งกรอบ SEC เป็นกรอบขาขึ้น แต่ไม่เห็น bullish convergence อีกทั้งราคาน้ำมันยังอาจลงต่อไปอีกนิดหน่อย ตามภาพข้างล่าง


ประเมินดูแล้วราคายางน่าจบคลื่น 2 แล้ว แต่อาจต้องรอเวลาอีกเล็กน้อยเืพื่อให้เกิดความชัดเจน ถ้ามีสัญญาณซื้อก็ open long ไปตามระบบ


วันนี้ลุงแมวน้ำจะขอคุยเรื่องการลงทุนให้หุ้นโดยการใช้ระบบตามแนวโน้ม (trend following system) คือมีระบบที่ติดตามแนวโน้มและคำนวณสัญญาณซื้อขายออกมา นักลงทุนก็ซื้อขายไปตามสัญญาณ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ลุงแมวน้ำและนักลงทุนอีกหลายๆคนใช้อยู่ ไม่ใช่ซื้อขายแบบตามใจฉัน อยากซื้อเมื่อไรหรือว่าอยากขายเมื่อไรก็ทำตามใจ ตัวอย่างของระบบการซื้อขายตามเทรนด์หรือว่าซื้อขายตามแนวโน้มก็ได้แก่ระบบ PNT 1.10 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักลงทุนตามระบบ

เราลองมาดูตัวกันอย่างสักหน่อย สมมติว่าคุณปลาทองลงทุนในหุ้น LH เริ่มลงทุนเมื่อเดือนธันวาคม 2551 (2008) ตอนนั้นราคา LH ประมาณหุ้นละ 3.40 บาท สมมติว่าปลาทองลงทุนเพียง 1 หุ้น กล่าวคือ เมื่อมีสัญญา๊ณซื้อก็ซื้อ เมื่อมีสัญญาณขายก็ขาย เล่นเพียง 1 หุ้นเท่านั้น (เพื่อความสะดวกในการคำนวณ) แล้วลองมาดูว่าเมื่อลงทุนจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2552 ผลกำไรเป็นอย่างไร ดังภาพต่อไปนี้

จากภาพ สรุปได้ว่า ในการลงทุนดังกล่าว ซื้อขายตามระบบ PnT 1.10 จะเกิดการซื้อขาย 6 ครั้งด้วยกัน (ซื้อแล้วขายนับเป็น 1 ครั้ง) เมื่อคิดค่าคอมมิชชั่นแล้ว 1 หุ้นที่ปลาทองลงทุนไป ได้กำไร 1.23 บาท

แต่ถ้าซื้อขายตามระบบของลุงแมวน้ำ จะเกิดการซื้อขายเพียง 2 ครั้งและปลาทองได้กำไร 1.96 บาท

คราวนี้มาลองดูกันใหม่ สมมติว่าปลาทองเริ่มเข้ามาลงทุนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 ลองดูว่าเมื่อลงทุนในหุ้น LH ตัวเดียวกัน แต่ว่าในจังหวะวเลาที่แตกต่างกัน แล้วเกิดอะไรขึ้น

ปรากฏว่าเมื่อใช้ระบบ PNT 1.10 เกิดการซื้อขายขึ้น 10 ครั้ง และเมื่อคิดค่าคอมมิชชั่นแล้ว ปลาทองขาดทุนไป 1.47 บาท แต่ถ้าลงทุนด้วยระบบของลุงแมวน้ำ ปลากทองเกิดการซื้อขาย 7 ครั้ง และขาดทุน 2.10 บาท

จากตัวอย่างสองตัวอย่างข้างบน อาจเป็นคำตอบสำหรับนักลงทุนหลายๆที่ ที่พยามฝึกฝนการซื้อขายตามระบบ แต่ปรากฏว่าขาดทุนตลอดทั้งปีจนท้อ และก็เลยทำให้สรุปเอาว่าว่าแนวทางการลงทุนตามแนวโน้มอย่างเป็นระบบนั้นไม่ดี เพราะทำให้ขาดทุน

แต่ขอให้ลองสังเกตดูว่า หากลงทุนเมื่อเดือนธันวาคม 2551 ตามตัวอย่างกรณีแรก ก็มีกำไรทั้งปี ดังนั้นการได้กำไรหรือขาดทุนที่จริงไม่ใช่เพราะว่าระบบไม่ดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เข้าลงทุนด้วย เพราะช่วงปลายปี 2550 ถึงปลายปี 2551 เ็ป็นช่วงที่หุ้นลงตลอดทั้งปี หากลงทุนในหุ้นไม่มีทางได้กำไร เพราะหุ้นนั้น short ไม่ได้ การลงทุนในหุ้นต้องเอากำไรจากขาขึ้น เอากำไรจากขาลงไม่ได้ ถ้าเล่นหุ้นในตลาดขาลงก็ขาดทุนแน่ ตลาดเพิ่งมาเริ่มกลับเป็นขาขึ้นเมื่อปลายปี 2551 นี่เอง ดังนั้นการลงทุนตั้งแต่ปลายปี 2551 จึงมีกำไร

ดังนั้นการลงทุนในหลักทรัพย์หรือฟิวเจอร์สใดๆต้องมองกันยาวๆ จึงจะรู้ว่าการลงทุนตามระบบนั้นได้ผลจริง อย่ามองกันเฉพาะในช่วงเวลาสั้นๆ

คราวนี้ลองมาดูกันใหม่ ลองมาดูสถิติการเทรดตามระบบย้อนไปตั้งต้นเทรดกันตั้งแต่ปลายปี 2539 (1996) มาจนถึง 9 กรกฎาคม 2552 รวมเวลากว่า 12 ปี คิดเป็นวันเทรด (วันที่ตลาดทำการและมีการซื้อขาย) ก็ประมาณ 3,000 วัน ลองดูว่าถ้าปลาทองลงทุนมาตั้งแต่ปลายปี 1996 แล้วผลเป็นอย่างไรบ้าง

(ยังมีต่อ)

Friday, July 10, 2009

09/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 581.99 จุด ขึ้นไป 6.12 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 แม้ SET จะขึ้น แต่วันนี้โปรมแกรมสั่งขาย CPN, HANA, SCCC ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 29 ตัว หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ BANPU, BBL, DTAC, EGCO, KBANK, KSL, PTT, PTTEP, TCAP, THAI, TUF

สำหรับพอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้ถือ short อยู่ 2 ตัว คือ S50 และทองคำ

Thursday, July 9, 2009

08/07/2009 * GC


วันนี้ SET ปิดที่ 575.87 จุด ลดลง 7.61 จุด วันนี้เป็นวันที่ตลาดเปิดทำการหลังจากหยุดยาวมาหลายวัน

สำหรับ หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ขาย LH, MINT, TTW ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 32 ตัว

สำหรับ พอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้ถือ long อยู่ 2 ตัว คือ S50 และทองคำ และมีสัญญาณขายเกิดขึ้นทั้งสองตัว ดังนั้นจึงดำเนินตามกลยุทธ์การเทรดที่วางเอาไว้ นั่นคือ close long และ open short ฟิวเจอร์ส S50 และ GC สรุปได้ว่าจากการ long ครั้งที่ผ่านมา S50 futures ได้กำไร 113,474 บาท ส่วน GC 2,124 ขาดทุน ดอลลาร์

มาดูเรื่องทำคำกันต่อ เนื่องจากราคาทองคำในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวน การนับลูกคลื่นสามารถมองได้หลายแบบ ดังนั้นเราควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เรามาดูการนับลูกคลื่นกันดังนี้

กรณีแรก เดิมที่เราเคยพิจารณาว่าขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น 5 ทั้งในลูกคลื่นระยะสั้น กลาง และยาว ดังภาพข้างล่างนี้ เลข 5 ในวงกลมสีน้ำเงิน ดำ และน้ำตาล แทนคลื่นระยะสั้น กลาง และยาว ตามลำดับ


เมื่อดูในกรอบเวลาที่แคบลงจะเห็นเป็นดังนี้


กรณีที่สอง แต่ถ้าจะมองว่าคลื่น 5 ได้ถึงยอดและจบคลื่นไปเมื่อวันที่ 02/06/2009 ก็พอจะเป็นไปได้ คือมองว่าคลื่น 5 ลูกนี้เป็น failed wave 5 และขณะนี้เราก็น่าจะอยู่ในคลื่น A ดังภาพต่อไปนี้


กรณีที่สาม แต่ถ้าจะมองว่าคลื่น 5 ได้ถึงยอดและจบคลื่นไปเมื่อวันที่ 20/02/2009 ก็พอจะเป็นไปได้อีก ถ้าเป็นไปตามกรณีนี้คลื่น 5 ลูกนี้ก็เป็น failure wave และขณะนี้เราก็น่าจะอยู่ในคลื่น A ซึ่งดำเนินไปนานแล้ว ดังภาพต่อไปนี้


จะเป็นกรณีไหนไม่มีใครรู้ได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ก็อยู่ที่กำลังอยู่ในคลื่น 5 หรือจบคลื่น 5 ไปแล้ว เมื่อไม่แน่ใจเช่นนี้ก็ควรต้อง open short เมื่อมีสัญญาณขายไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ตกรถในลูกคลื่นขาลง

สำหรับผู้ที่ลงทุนในทองแท่งหรือกองทุนทองคำ อาจพิจารณาลดการถือครองลงบางส่วนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เพราะหากไม่ลงจริง ซื้อกลับมาใหม่ก็ขาดทุนกำไรไปบ้าง แต่็ก็เป็นการลดความเสี่ยง หากราคาลงไปลึกมากก็จะขาดทุนมาก

Wednesday, July 8, 2009

03/07/2009 * DJIA, HSKI, SET, DX, GC, CL, RSS3, JP@IR


วันนี้ SET ปิดที่ 583.48 จุด ปิดลดลงจากเมื่อวาน 2.94 จุด

สำหรับ หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีการซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 35 ตัว หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ HANA, LH, MAKRO, MINT, PTT, SCCC, TCAP, TMB, TTW, TUF

อนึ่ง เนื่องจากตลาดของไทยปิดทำการหลายวัน ในขณะที่ตลาดต่างประเทศเปิดทำการอยู่ ดังนั้นข้อมูลที่นำเสนอในวันนี้ หากเป็นตลาดไทยจะเป็นข้อมูลของวันที่ 3 กค. หากเป็น futures ของต่างประเทศ เช่น ยาง น้ำมัน ทองคำ จะใช้ราคาของวันที่ 7 กค.

เนื่องจากขณะนี้ตลาดหุ้นใหญ่ๆทั่วโลก รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนใหญ่แกว่งตัวในภาวะไร้ทิศทาง ยากจะคาดเดาว่าแนวโน้มจะไปทางใด ผู้ที่ติดตามอ่านข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนในหน้าหนังสือพิมพ์ก็จะพบว่ามีการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจกันไปต่างๆนานา บางสำนักก็คาดการณ์ว่าโลกพ้นก้นหุบเหวแล้ว บางสำนักก็ระบุว่ายังไม่ถึงก้นหุบเหว ขนาดในข่าวเศรษฐกิจหน้าเดียวกันยังมีทั้งข่าวพ้นเหวและยังไม่ถึงก้นเหววางไว้ติดๆกัน ดังนั้น การจะพึ่งปัจจัยพื้นฐานเพื่อลงทุนในหุ้นและฟิวเจอร์สนั้นเห็นจะยาก เพราะไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี

ทางที่ดีนักลงทุนควรเล่นตามเทรนด์ไปเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในขาขึ้นเราก็ขึ้นด้วยคือซื้อหรือ open long เมื่ออยู่ในขาลงเราก็ลงด้วย โดยการขายหรือปิดสัญญา จากนั้น open short หรือเปิดสัญญาด้านขาย หากอยู่ในภาวะไร้ทิศทางก็ยอมคืนกำไรไปกับสัญญาณหลอก (false signal) บ้าง การเล่นในระบบตามแนวโน้มหรือ trend following system นี้จะทำให้สบายใจ ไม่ต้องคอยกังวล อย่าไปคาดหวังกำไรสูงสุด เพราะระบบนี้ทำกำไรสูงสุดไม่ได้ ให้คาดหวังเพียงกำไรตามสมควรในระยะยาวก็พอแล้ว

สำหรับ พอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้ถือ long อยู่ 2 ตัว คือ S50 และทองคำ ทั้งสองตัวนี้ช่วงนี้ผันผวน ราคาตกลงมาใกล้เกิดสัญญาณขายแล้วเช่นกัน

แนวโน้มตลาดต่างประเทศมีทิศทางปรับฐานกัน ยกตัวอย่างเช่น ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones ของสหรัฐอเมริกา ขณะนี้เกิดสัญญาณขายอยู่ สัญญาณทางเทคนิคบางตัวบ่งบอกว่าขณะนี้ดาวโจนส์อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง แต่ว่าแนวโน้มน่าจะใกล้กลับทิศกลายเป็นขาลงแล้ว และจากการนับลูกคลื่นน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 2 การปรับตัวของดัชนีในคลื่นลูกนี้อาจลงไปได้ถึง 7,400 จุด


ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องเกงก็เกิดสัญญาณขายมาแล้วหลายวันเช่นกัน หลังจากที่มีสัญญาณ bearish convergence ในที่สุดก็เกิดสัญญาณขาย สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง จากการนับลูกคลื่น ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจบคลื่น 3 แล้วหรือยัง เพราะอาจจบคลื่น 3 ย่อย แต่ยังไม่จบคลื่น 3 ใหญ่ก็เป็นได้


ดัชนี SET ของตลาดไทยนั้นยังน่าสงสัยอยู่ว่าสิ้นสุดคลื่น B แล้วหรือยัง มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่ขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น C แล้ว

ในเมื่อไม่แน่ใจว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่น C อันเป็นคลื่นลูกสูดท้ายของคลื่นขาลงแล้วหรือยัง ดังนั้นกลยุทธ์ก็คือ ในครั้งต่อไป ผู้ที่เทรดฟิวเจอร์สควร open short เมื่อเกิดสัญญาณขาย ถ้าเป็นคลื่น C จริงจะได้ไม่ตกรถ แต่ถ้ายังไม่ใช่คลื่น C ก็เพียงคืนกำไรไปกับ false signal ไปบ้างเท่านั้นเอง

ราคาน้ำมันดิบ CL ขณะนี้หลุดกรอบของ standard error channel ไปแล้ว สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง ยังไม่รู้ว่าต่อไปจะขึ้นหรือจะลง แต่หากลงต่อก็คาดว่าคงลงได้อีกลึกถึง 54.7 ดอลลาร์


ดัชนีดอลลาร์หรือ Dollar Index แม้ในระยะสั้นๆไม่กี่เดือนมานี้ทิศทางของดัชนีดอลลาร์จะเป็นขาขึ้นไปตามกรอบของ standard error channel แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ราคาลงไปติดกรอบล่างของ standard error channel ถ้าหลุดกรอบลงไปแสดงว่าแนวโน้มอาจกลับทิศเป็นขาลง ซึ่งจะทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น แต่ถ้าไม่หลุดจาก standard error channel ก็จะมีการดีดกลับและเป็นขาขึ้นต่อไป ซึ่งน่าจะลงผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อไปอีก


ทองคำ สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง เดิมทีเข้าใจว่าน่าจะจบคลื่น 4 ได้แล้ว ขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น 5 แต่ขณะนี้อาจต้องปรับมุมมองใหม่ คือ เป็นไปได้สองประการ นั่นคือ หนึ่ง ยังไม่จบคลื่น 4 เพราะเป็น complex wave หรือ สอง จบคลื่น 4 แล้ว และจบคลื่น 5 ไปแล้วด้วย ขณะนี้อยู่ในคลื่น A

ต้องดูว่าราคาทองคำจะลงต่ำกว่า 914.1 ดอลลาร์หรือไม่ ถ้าลงได้ต่ำกว่านี้ แสดงว่าอาจนับลูกคลื่นผิด

สมมติว่าถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามข้อสอง แสดงว่าราคา ณ วันที่ 02/06/2009 อาจเป็นยอดของลูกคลื่น 5 แต่คลื่นลูกนี้เป็น failed wave 5 นั่นเอง ยอดคลื่น 5 จึงไม่สูงกว่ายอดคลื่น 3 และถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เราน่าจะอยู่ในแนวโน้มขาลงซึ่งก็คือคลื่น A

ในเมื่อเรายังสรุปไม่ได้ว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่นลูกใด ขาขึ้นหรือขาลงกันแน่ ดังนั้นควรปรับกลยุทธ์ คือ หากครั้งต่อไปเกิดสัญญาณขายควรพิจารณา open short ฟิวเจอร์สทองคำ

สำหรับราคายางของญี่ปุ่น JP@IR ขณะนี้ติดกรอบล่างของกรอบ standard error channel ยังไม่แน่ว่าจะหลุดกรอบลงไปข้างล่างหรือไม่ สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง ดังนั้นสัญญาณซื้อครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณหลอก โปรดเผื่อใจเอาไว้ด้วย


ขณะที่ยางแผ่นรมควันของไทย RSS3 ขณะนี้อยู่ในคลื่น 2 แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคลื่นลูกนี้จะจบลงเมื่อไร ดังนั้นยังไม่้ต้องทำอะไร ควรรอสัญญาณซื้อแล้วจึง open long แต่มีข้อสังเกตอยู่ว่าในช่วงสั้นๆที่ผ่านมานี้ แม้ราคาน้ำมันจะดิ่งลงแรง แต่ราคายางกลับลงไม่มากนัก ต่างกับบางช่วงที่เมื่อน้ำมันดิ่งลงแรง ยางก็ดิ่งลงแรงด้วยเช่นกัน อนึ่ง สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในขาขึ้น แต่เป็นขาขึ้นที่อ่อนแรงมากแล้ว ใกล้จะกลายเป็นภาวะไร้ทิศทาง



Thursday, July 2, 2009

02/07/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 586.42 จุด ปิดลดลงจากเมื่อวาน 11.06 จุด SET ดีดกลับขึ้นมาเป็นวันที่สี่แล้วก็เกิด correction

สำหรับ หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ SET50 มีการเปลี่ยนตัวหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี โดยถอด QH, TRUE ออกไปและเพิ่ม BECL, MBK เข้ามาแทน

โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ขาย BH, PTTCH, SCB ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 35 ตัว

สำหรับ พอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้น้ำมันดิบ CL เกิดสัญญาณขาย ดังนั้นจึงปิดสัญญาไป ขณะนี้ถือ long อยู่ 2 ตัว คือ S50 และทองคำ ทั้งสองตัวนี้ช่วงนี้ผันผวน ราคาตกลงมาใกล้เกิดสัญญาณขายแล้วเช่นกัน

Wednesday, July 1, 2009

30/06/2009

วันนี้ SET ปิดที่ 597.48 จุด ปิดลดลงจากเมื่อวาน 4.12 จุด SET ดีดกลับขึ้นมาเป็นวันที่สี่แล้วก็เกิด correction

สำหรับ หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรแกรมของลุงแมวน้ำไม่มีซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่ 38 ตัว

สำหรับ พอร์ตจำลองในกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้ถือ long อยู่ 3 ตัว ทองคำกลับมาขาดทุนสะสม เพราะราคาร่วงลงมา ขณะนี้ทองคำใกล้เกิดสัญญาณขายอีกแล้ว ถ้าคราวนี้เกิดสัญญาณขาย อาจต้องพิจารณานับลูกคลื่นใหม่และอาจต้องปรับกลยุทธ์การเทรดในครั้งหน้าโดย open short เพราะไม่แน่ใจแล้วว่าขณะนี้เราอาจอยู่ในขาลงของลูกคลื่่นรายปีแล้วก็ได้