Wednesday, March 16, 2011

14/03/2011

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1022.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ BANPU, PTTAR, PTTCH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 40 ตัว

กองทุนอีทีเอฟ CHINA เกิดสัญญาณขาย

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้น้ำตาล (SB) เกิดสัญญาณขาย ลุงแมวน้ำจึงปิดสัญญาซื้อไปแต่ไม่ได้เปิดสัญญาขายเนื่องจากยังมองตลาดน้ำตาลทรายเป็นขาขึ้นอยู่ พันธบัตรอายุ 5 ปีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (FV) ก็เกิดสัญญาณซื้อ ส่วนฟิวเจอร์ส BANPU ในตลาด TFEX ก็เกิดสัญญาณซื้อ

ทางด้านทองคำแกว่งตัวแรงวันหนึ่งขึ้น อีกวันหนึ่งลง มองแนวโน้มในระยะสั้นได้ยาก

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดด้านหุ้นทั่วโลกปรับตัวแบบตัวใครตัวมัน ญี่ปุ่นปรับตัวลงแรงประมาณ 6% เนื่องจากอุบัติภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ทำให้อารมณ์ของนักลงทุนหวั่นกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ถูกสึนามิกวาดเข้าใส่จนระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรนิวเคลียร์เสียหายทำให้นักลงทุนกังวลว่าหากควบคุมสถานการณ์ไม่ได้และสารกัมมันตรังสีเกิดรั่วไหลออกมาสู่ภายนอกจะทำให้เกิดความเสียหายหนักยิ่งขึ้นไปอีก

แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนก็มีหลายกลุ่ม พวกที่หวาดกลัวก็มี พวกที่หาช่องทางทำกำไรจากหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงศ์จากวิกฤตก็มี ยกตัวอย่างเช่นในตลาดญี่ปุ่นเองแม้ตลาดโดยรวมจะตกไปในราว 6% แต่ว่าหุ้นในกลุ่มก่อสร้างบางตัวปรับตัวขึ้นถึง 20% เลยทีเดียวเนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าหลังความเสียหายต้องมีการก่อสร้างและซ่อมแซมครั้งใหญ่

ตลาดหุ้นไทยเองก็เช่นกัน กลุ่มพลังงาน ก่อสร้าง และอาหาร บางตัวก็ปรับตัวขึ้นเพราะการเก็งกำไรกันว่าจะได้รับอานิสงส์หลังจากอุุบัติภัยในครั้งนี้

ช่วงนี้ตลาดคาดเดาได้ยาก หลายๆเรื่องไม่เป็นไปอย่างที่คิดว่าควรจะเป็น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดอุบัติภัยในญี่ปุ่น โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเกิดความเสียหาย นักวิเคราะห์ประเมินกันว่าญี่ปุ่นคงต้องนำเข้าพลังงานเพื่อชดเชยกับกำลังผลิตที่ขาดหายไป ดังนั้นราคาน้ำมันดิบน่าจะปรับตัวสูงขึ้น สินค้าพวกอาหารก็น่าจะมีราคาสูงขึ้น รวมทั้งทองคำน่าจะปรับตัวลดลง รวมและเงินเยนน่าจะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีการระดมเงินกลับเข้าประเทศญี่ปุ่น

แต่ในขณะนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้นจริง ส่วนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ราคาสินค้าเกษตรก็ปรับตัวลดลง และทองคำราคาพุ่งขึ้นมา สิ่งที่ลุงแมวน้ำอยากบอกก็คือ หลายปีมานี้ตลาดทั่วไปไม่ว่าที่ใดในโลกมีความผันผวนสูง อีกทั้งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในด้านปัจจัยพื้นฐานอย่างซับซ้อนจนสุดที่เราจะประเมินได้ครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้นการกะเก็งอะไรก็ตามจึงมีโอกาสคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดได้ง่าย การพยากรณ์ล่วงหน้ามีโอกาสผิดพลาดมาก การตามแนวโน้มจะปลอดภัยกว่า





No comments: