วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 753.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.71 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดโตคอมและนิกเกอิหยุดทำการ ดังนั้นข้อมูลเปนข้อมูลของวันก่อน
ทางด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ทิศทางตลาดโดยรวมแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ อยู่ในภาวะไร้ทิศทางกับขาลง
Friday, April 30, 2010
Thursday, April 29, 2010
28/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 749.49 จุด ลดลง 12.51 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายยางพาราทั้งของไทย (RSS) และของตลาดโตคอม (IR) จึงปิดสัญญาซื้อไป ไม่ได้เปิดสัญญาขายหรือว่า open short position เนื่องจากลุงแมวน้ำนับคลื่นและมองว่าราคายางพารายังไม่จบคลื่นขาขึ้น
ทางด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ ดัชนีหั่งเส็ง (HSI) ของฮ่องกง ดัชนีออลออร์ดิแนรีส์ (All Ordinaties) ของออสเตรเลีย และดัชนี DAX ของเยอรมนี เกิดสัญญาณขาย ดัชนีหุ้นทางด้านตลาดยุโรปร่วงหนักอันเนื่องมาจาก สถาบันจัดอันดับเครดิตเอสแอนด์พีลดอันดับเครดิตของประเทศกรีก สเปน และโปรตุเกส
วันนี้ยอดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 18,000 ล้านบาท ทั้งต่างชาติ สถาบันในประเทศ และพอร์ตลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ต่างขายสุทธิกันหมด มีแต่รายย่อยที่ซื้อสุทธิ รายย่อยมักมีความเชื่อที่ถูกแนะนำหรือบอกต่อกันมาว่า "ให้ซื้อตอนแดง แล้วเอาไปขายตอนเขียว" หรือว่า "ย่อแล้วให้ซื้อ เด้งแล้วก็ขาย" แต่หลักที่ลุงแมวน้ำใช้ในการสร้างระบบเทรดก็คือ "แดงให้ขาย (เพราะยังลงต่อได้อีก ต้องหยุดความเสี่ยงเอาไว้ก่อน) และเขียวให้ซื้อ (ถ้าขึ้นแล้วก็น่าจะต้องขึ้นต่อไปได้อีก" ได้กำไรหรือไม่ก็ดูได้ที่พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำที่แสดงให้เห็นทุกวัน ตลาดขาลงต้องระวัง เพราะว่าเพิ่งเริ่มลงไม่นานมานี้เอง ใครจะรู้ได้ว่าตลาดจะลงยาวนานเพียงใด ดังนั้นนักลงทุนรายย่อยจึงควรระมัดระวัง
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายยางพาราทั้งของไทย (RSS) และของตลาดโตคอม (IR) จึงปิดสัญญาซื้อไป ไม่ได้เปิดสัญญาขายหรือว่า open short position เนื่องจากลุงแมวน้ำนับคลื่นและมองว่าราคายางพารายังไม่จบคลื่นขาขึ้น
ทางด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ ดัชนีหั่งเส็ง (HSI) ของฮ่องกง ดัชนีออลออร์ดิแนรีส์ (All Ordinaties) ของออสเตรเลีย และดัชนี DAX ของเยอรมนี เกิดสัญญาณขาย ดัชนีหุ้นทางด้านตลาดยุโรปร่วงหนักอันเนื่องมาจาก สถาบันจัดอันดับเครดิตเอสแอนด์พีลดอันดับเครดิตของประเทศกรีก สเปน และโปรตุเกส
วันนี้ยอดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 18,000 ล้านบาท ทั้งต่างชาติ สถาบันในประเทศ และพอร์ตลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ต่างขายสุทธิกันหมด มีแต่รายย่อยที่ซื้อสุทธิ รายย่อยมักมีความเชื่อที่ถูกแนะนำหรือบอกต่อกันมาว่า "ให้ซื้อตอนแดง แล้วเอาไปขายตอนเขียว" หรือว่า "ย่อแล้วให้ซื้อ เด้งแล้วก็ขาย" แต่หลักที่ลุงแมวน้ำใช้ในการสร้างระบบเทรดก็คือ "แดงให้ขาย (เพราะยังลงต่อได้อีก ต้องหยุดความเสี่ยงเอาไว้ก่อน) และเขียวให้ซื้อ (ถ้าขึ้นแล้วก็น่าจะต้องขึ้นต่อไปได้อีก" ได้กำไรหรือไม่ก็ดูได้ที่พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำที่แสดงให้เห็นทุกวัน ตลาดขาลงต้องระวัง เพราะว่าเพิ่งเริ่มลงไม่นานมานี้เอง ใครจะรู้ได้ว่าตลาดจะลงยาวนานเพียงใด ดังนั้นนักลงทุนรายย่อยจึงควรระมัดระวัง
Wednesday, April 28, 2010
27/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 762.00 จุด ลดลง 2.34 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำ หรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อขาย ฟิวเจอร์สของดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones futures, DJ) จึงปิดสัญญาซื้อไป (ไม่ได้เปิดสัญญาขายหรือว่า open short position เนื่องจากลุงแมวน้ำมองว่าดัชนีดาวโจนส์ยังไม่จบคลื่นขาขึ้น) และมีสัญญาณซื้อดัชนีดอลลาร์ สรอ (dollar index futures, DX) จึงเปิดสัญญาซื้อไป
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนี DAX ของเยอรมนีเกิดสัญญาณขาย
DJ เกิดสัญญาณขายแล้ว ไม่แน่ว่าภายในวันสองวันนี้ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) อาจเกิดสัญญาณขายตามมา
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำ หรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อขาย ฟิวเจอร์สของดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones futures, DJ) จึงปิดสัญญาซื้อไป (ไม่ได้เปิดสัญญาขายหรือว่า open short position เนื่องจากลุงแมวน้ำมองว่าดัชนีดาวโจนส์ยังไม่จบคลื่นขาขึ้น) และมีสัญญาณซื้อดัชนีดอลลาร์ สรอ (dollar index futures, DX) จึงเปิดสัญญาซื้อไป
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนี DAX ของเยอรมนีเกิดสัญญาณขาย
DJ เกิดสัญญาณขายแล้ว ไม่แน่ว่าภายในวันสองวันนี้ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) อาจเกิดสัญญาณขายตามมา
Tuesday, April 27, 2010
26/04/2010 * กลยุทธ์ LTF, RMF
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 764.34 จุด เพิ่มขึ้น 9.76 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาด ต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ดังที่เราเคยคุยกันไปแล้วว่าลุงแมวน้ำคาดว่าดัชนี SET น่าจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) และหมายถึงการจบคลื่น B (สีน้ำเงิน) ไปแล้ว ตอนนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น C ถ้าลุงแมวน้ำประเมินถูก ดัชนีคงลงไปอีกลึก แต่ถ้าลุงแมวน้ำประเมินผิด ขณะนี้เราก็น่าจะอยู่ในคลื่น 4 (สีน้ำตาล) และต่อไปก็จะเข้าสู่คลื่น 5 (สีน้ำตาล) อันเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของคลื่นขาขึ้น
ถ้าจะพูดแบบกำปั้นทุบดินก็คือตลาดถึงอย่างไรก็มีวันลง ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น แต่พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ได้เตรียมการอะไรเอาไว้บ้าง
ที่ลุงแมวน้ำจะคุยในวันนี้ก็คือ คนในวัยทำงานที่มีการวางแผนการออมมักซื้อกองทุน LTF และ RMF ติดไว้บ้างเพื่อผลประโยชน์ด้านภาษี กองทุน LTF ก็คือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (long term equity fund) ส่วนกองทุน RMF ก็คือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (retirement mutual fund) ผู้ที่ซื้อกองทุนทั้งสองแบบสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ทำให้เสียภาษีน้อยลง อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนจากกองทุนด้วย เรียกว่าได้ผลประโยชน์สองเด้ง
แต่เหรียญไม่ได้มีเพียงด้านเดียว เช่นเดียวกับกองทุนทั้งสองแบบนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดี เราจะมาดูข้อด้อยกัน
ข้อด้อยของกองทุน LTF ก็คือเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหุ้น คือกองทุนต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้มีมีการลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% อีกทั้งต้องถือให้ครบ 5 ปีจึงจะขายคืนได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่เราได้รับมาแล้วไป ลองคิดดูว่าหุ้นมีขึ้นมีลง หากต้องถือไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี จังหวะที่เราจะขายคืนเป็นช่วงตลาดขาลง เงินต้นอาจหดหายไปเท่าไรก็ไม่รู้ได้ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอาจไม่คุ้มกับเงินต้นที่หดไป นี่คือความเสี่ยง
ข้อด้อยของ RMF ก็คล้ายกัน คือต้องถือกองทุนจนอายุ 55 ปีและต้องถือมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีจึงจะขายคืนได้ นี่คือความเสี่ยงในเรื่องเงื่อนเวลาอันจำกัด แต่ว่ากองทุน RMF มีอิสระในการจัดพอร์ตการลงทุนมากกว่า ไม่จำเป็นลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 65% เช่น LTF จะลงทุนในตราหนี้หรือตราสารการเงินอื่นๆก็ได้
ปัญหาก็คือผู้ที่ถือ LTF และ RMF ซึ่งลงทุนในหุ้นค่อนข้างมาก หากถึงตลาดขาลงจะทำอย่างไร เพราะในคลื่นขาลงใหญ่ๆบางทีก็กินเวลาหลายปี ไม่ใช่หลายเดือน บางครั้งเราก็ทนดูทุนที่หดหายลงไปทุกวันเป็นเวลานานๆไม่ไหว หรือรอให้ทุนที่หดหายไปกลับฟื้นคืนมาไม่ได้เพราะว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินแล้ว ฯลฯ ถ้าเช่นนั้นผู้ที่ซื้อ LTF, RMF จะมีทางออกอย่างไรบ้าง
กองทุน LTF, RMF นั้นมีหลายกองทุนมาก ดำเนินการโดยหลายบริษัทจัดการกองทุน ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขต่างๆกัน คำแนะนำก็คือ
1. เลือกลงทุนกับบริษัทจัดการกองทุนที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาได้มาก เช่น สามารถสลับสับเปลี่ยนกองทุนได้ทุกวัน (ไม่ใช่ขายคืน แต่ว่าสับเปลี่ยนกองทุน)
2. ผู้ที่ถือกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นมากๆ ในตลาดขาขึ้นก็ถือกองทุนเอาไว้ แต่ในตลาดขาลงให้เปลี่ยนเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร ฯลฯ ผลตอบแทนจะน้อยแต่ว่าความเสี่ยงต่ำกว่า
3. ผู้ที่ถือ LTF ในตลาดขาลง อาจเปลี่ยนไปถือกองทุน LTF ที่มีการป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ กองทุน LTF ที่ป้องกันความเสี่ยงได้นี้คือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นผสมกับฟิวเจอร์ส สมมติเช่น ซื้อหุ้นเอาไว้และชอร์ตฟิวเจอร์สเอาไว้ด้วย เมื่อหุ้นขึ้นกองทุนก็กำไรหุ้นแต่ขาดทุนฟิวเจอร์ส เมื่อขาลงก็ขาดทุนหุ้นแต่ไ้กำไรฟิวเจอร์ส รวมแล้วเท่าทุน แต่ผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยจะไปได้มาจากเงินปันผลของหุ้นทั้งหลายที่กองทุนถือเอาไว้ กับผลตอบแทนคงที่อื่นๆ รวมๆแล้วผลตอบแทนของกองทุนฉลาดแบบนี้ก็ประมาณ 1-2% ต่อปี ตอนตลาดขาลงก็พักเงินไว้ในกองทุน LTF ฉลาดแบบนี้ กำไรน้อยแต่ทุนไม่หาย แล้วตอนตลาดขาขึ้นก็กลับไปถือกองทุน LTF ที่เน้นหุ้นอย่างเดิม แต่วิธีนี้ ต้องใช้ร่วมกับวิธีที่ 1 ด้วย คือต้องถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการที่มีความยืดหยุ่น ยอมให้สับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะใช้กลยุทธ์นี้ไม่ได้
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาด ต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ดังที่เราเคยคุยกันไปแล้วว่าลุงแมวน้ำคาดว่าดัชนี SET น่าจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) และหมายถึงการจบคลื่น B (สีน้ำเงิน) ไปแล้ว ตอนนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น C ถ้าลุงแมวน้ำประเมินถูก ดัชนีคงลงไปอีกลึก แต่ถ้าลุงแมวน้ำประเมินผิด ขณะนี้เราก็น่าจะอยู่ในคลื่น 4 (สีน้ำตาล) และต่อไปก็จะเข้าสู่คลื่น 5 (สีน้ำตาล) อันเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของคลื่นขาขึ้น
ถ้าจะพูดแบบกำปั้นทุบดินก็คือตลาดถึงอย่างไรก็มีวันลง ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น แต่พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ได้เตรียมการอะไรเอาไว้บ้าง
ที่ลุงแมวน้ำจะคุยในวันนี้ก็คือ คนในวัยทำงานที่มีการวางแผนการออมมักซื้อกองทุน LTF และ RMF ติดไว้บ้างเพื่อผลประโยชน์ด้านภาษี กองทุน LTF ก็คือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (long term equity fund) ส่วนกองทุน RMF ก็คือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (retirement mutual fund) ผู้ที่ซื้อกองทุนทั้งสองแบบสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ทำให้เสียภาษีน้อยลง อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนจากกองทุนด้วย เรียกว่าได้ผลประโยชน์สองเด้ง
แต่เหรียญไม่ได้มีเพียงด้านเดียว เช่นเดียวกับกองทุนทั้งสองแบบนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดี เราจะมาดูข้อด้อยกัน
ข้อด้อยของกองทุน LTF ก็คือเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหุ้น คือกองทุนต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้มีมีการลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% อีกทั้งต้องถือให้ครบ 5 ปีจึงจะขายคืนได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่เราได้รับมาแล้วไป ลองคิดดูว่าหุ้นมีขึ้นมีลง หากต้องถือไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี จังหวะที่เราจะขายคืนเป็นช่วงตลาดขาลง เงินต้นอาจหดหายไปเท่าไรก็ไม่รู้ได้ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอาจไม่คุ้มกับเงินต้นที่หดไป นี่คือความเสี่ยง
ข้อด้อยของ RMF ก็คล้ายกัน คือต้องถือกองทุนจนอายุ 55 ปีและต้องถือมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีจึงจะขายคืนได้ นี่คือความเสี่ยงในเรื่องเงื่อนเวลาอันจำกัด แต่ว่ากองทุน RMF มีอิสระในการจัดพอร์ตการลงทุนมากกว่า ไม่จำเป็นลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 65% เช่น LTF จะลงทุนในตราหนี้หรือตราสารการเงินอื่นๆก็ได้
ปัญหาก็คือผู้ที่ถือ LTF และ RMF ซึ่งลงทุนในหุ้นค่อนข้างมาก หากถึงตลาดขาลงจะทำอย่างไร เพราะในคลื่นขาลงใหญ่ๆบางทีก็กินเวลาหลายปี ไม่ใช่หลายเดือน บางครั้งเราก็ทนดูทุนที่หดหายลงไปทุกวันเป็นเวลานานๆไม่ไหว หรือรอให้ทุนที่หดหายไปกลับฟื้นคืนมาไม่ได้เพราะว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินแล้ว ฯลฯ ถ้าเช่นนั้นผู้ที่ซื้อ LTF, RMF จะมีทางออกอย่างไรบ้าง
กองทุน LTF, RMF นั้นมีหลายกองทุนมาก ดำเนินการโดยหลายบริษัทจัดการกองทุน ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขต่างๆกัน คำแนะนำก็คือ
1. เลือกลงทุนกับบริษัทจัดการกองทุนที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาได้มาก เช่น สามารถสลับสับเปลี่ยนกองทุนได้ทุกวัน (ไม่ใช่ขายคืน แต่ว่าสับเปลี่ยนกองทุน)
2. ผู้ที่ถือกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นมากๆ ในตลาดขาขึ้นก็ถือกองทุนเอาไว้ แต่ในตลาดขาลงให้เปลี่ยนเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร ฯลฯ ผลตอบแทนจะน้อยแต่ว่าความเสี่ยงต่ำกว่า
3. ผู้ที่ถือ LTF ในตลาดขาลง อาจเปลี่ยนไปถือกองทุน LTF ที่มีการป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ กองทุน LTF ที่ป้องกันความเสี่ยงได้นี้คือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นผสมกับฟิวเจอร์ส สมมติเช่น ซื้อหุ้นเอาไว้และชอร์ตฟิวเจอร์สเอาไว้ด้วย เมื่อหุ้นขึ้นกองทุนก็กำไรหุ้นแต่ขาดทุนฟิวเจอร์ส เมื่อขาลงก็ขาดทุนหุ้นแต่ไ้กำไรฟิวเจอร์ส รวมแล้วเท่าทุน แต่ผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยจะไปได้มาจากเงินปันผลของหุ้นทั้งหลายที่กองทุนถือเอาไว้ กับผลตอบแทนคงที่อื่นๆ รวมๆแล้วผลตอบแทนของกองทุนฉลาดแบบนี้ก็ประมาณ 1-2% ต่อปี ตอนตลาดขาลงก็พักเงินไว้ในกองทุน LTF ฉลาดแบบนี้ กำไรน้อยแต่ทุนไม่หาย แล้วตอนตลาดขาขึ้นก็กลับไปถือกองทุน LTF ที่เน้นหุ้นอย่างเดิม แต่วิธีนี้ ต้องใช้ร่วมกับวิธีที่ 1 ด้วย คือต้องถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการที่มีความยืดหยุ่น ยอมให้สับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะใช้กลยุทธ์นี้ไม่ได้
Monday, April 26, 2010
23/04/2010 * futures basis
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 754.58 จุด ลดลง 6.60 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
เบสิส (basis) ของฟิวเจอร์สของ SET50 (S50) ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาดูแปลกๆ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับคำว่าเบสิสกันก่อน เบสิสนั้นหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคาสินค้าอ้างอิง (ราคาสินค้าอ้างอิงนี้บางทีก็เรียกว่าราคาสปอต spot price) กับราคาฟิวเจอร์ส ถ้าพิจารณาเฉพาะกรณี SET50 futures เบสิสจะเขียนเป็นสมการได้ดังนี้
เบสิส = SET50 - S50
สมมติเช่นดัชนี SET50 อยู่ที่ 500 แต่ว่าในขณะเดียวกันนั้นเองราคาของ S50 อยู่ที่ 495 อย่างนี้ก็เรียกว่ามีเบสิสเป็น 5
หรือสมมติว่าดัชนี SET50 อยู่ที่ 500 (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาสปอตอยู่ที่ 500) แต่ว่าในขณะเดียวกันนั้นเองราคาของ S50 อยู่ที่ 507 อย่างนี้ก็เรียกว่ามีเบสิสเป็น -7
ทีนี้มาดูภาพทางจิตวิทยากันว่าทำไมราคาฟิวเจอร์สจึงต่างจากราคาสปอตได้
อธิบายอย่างง่ายๆก็คือปกติเบสิสที่เป็นบวก หมายถึงราคาสปอตสูงกว่าราคาฟิวเจอร์ส (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาฟิวเจอร์สต่ำกว่าราคาสปอต) มักเกิดในกรณีที่นักลงทุนในฟิวเจอร์สคาดการณ์ล่วงหน้าไปว่าตลาดน่าจะเป็นขาลง ราคาเท่าสปอตก็ยังไม่อยากซื้อกัน ต้องต่ำกว่าราคาสปอตจึงจะกล้าซื้อ ยิ่งเบสิสเป้นบวกมากๆแสดงว่านักลงทุนยิ่งมองตลาดในแง่ร้าย
ส่วนเบสิสที่เป็นลบ หมายถึงราคาสปอตต่ำกว่าราคาฟิวเจอร์ส (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาฟิวเจอร์สสูงกว่าราคาสปอต) มักเกิดในกรณีตลาดขาขึ้น นักลงทุนมองว่าตลาดดี แจ่มใส ขึ้นต่อแน่ ดังนั้นฟิวเจอร์สแพงกว่าราคาสปอตก็ยังกล้าซื้อ
ส่วนราคาฟิวเจอร์สที่ใกล้เคียงกับราคาสปอตนั้นหมายถึงช่วงเปลี่ยนผ่านในการกลับแนวโน้ม สมมติว่าเดิมนักลงทุนมองตลาดว่าเป็นขาลง ดังนั้นจึงเทรดฟิวเจอร์สในราคาที่ต่ำกว่าราคาสปอต (เบสิสเป็นบวก) ต่อมาเมื่อเปลี่ยนมุมมองเห็นว่าตลาดน่าจะเป็นขาขึ้น ก็จะมีการไล่ราคาฟิวเจอร์สกันจนเบสิสเป็นบวกน้อยลงๆ และในที่สุดเบสิสก็กลายเป็นลบ กับอีกกรณีหนึ่งที่ราคาฟิวเจอร์สมาใกล้เคียงกับราคาสปอตก็คือเมื่อตอนที่ฟิวเจอร์สใกล้หมดอายุ
สำหรับ S50 ในช่วงที่ผ่านมาเบสิสเป็นบวก สะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนว่ามองตลาดว่าเป็นขาลง ส่วนเหตุผลและมุมมองนั้นจะมีปัจจัยมาจากสาเหตุการเมืองหรืออะไรก็ตามแต่ และที่น่าแปลกก็คือในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะวุ่นวายและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ว่า S50 basis กลับบวกน้อยลงจนใกล้จะเป็น 0 แล้ว (วันนี้เบสิสเหลือเพียง 1.2 จุด) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเป็นเพราะอะไร หรือว่าอารมณ์ของนักลงทุนกำลังมองว่าตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีก จึงเอามาตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ ซึ่งลุงแมวน้ำคงไม่สามารถสรุปอะไรได้เนื่องจากตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วเราน่าจะอยู่ในคลื่น A ลุงแมวน้ำจึงยังมองว่าเป็นตลาดขาลงอยู่
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
เบสิส (basis) ของฟิวเจอร์สของ SET50 (S50) ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาดูแปลกๆ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับคำว่าเบสิสกันก่อน เบสิสนั้นหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคาสินค้าอ้างอิง (ราคาสินค้าอ้างอิงนี้บางทีก็เรียกว่าราคาสปอต spot price) กับราคาฟิวเจอร์ส ถ้าพิจารณาเฉพาะกรณี SET50 futures เบสิสจะเขียนเป็นสมการได้ดังนี้
เบสิส = SET50 - S50
สมมติเช่นดัชนี SET50 อยู่ที่ 500 แต่ว่าในขณะเดียวกันนั้นเองราคาของ S50 อยู่ที่ 495 อย่างนี้ก็เรียกว่ามีเบสิสเป็น 5
หรือสมมติว่าดัชนี SET50 อยู่ที่ 500 (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาสปอตอยู่ที่ 500) แต่ว่าในขณะเดียวกันนั้นเองราคาของ S50 อยู่ที่ 507 อย่างนี้ก็เรียกว่ามีเบสิสเป็น -7
ทีนี้มาดูภาพทางจิตวิทยากันว่าทำไมราคาฟิวเจอร์สจึงต่างจากราคาสปอตได้
อธิบายอย่างง่ายๆก็คือปกติเบสิสที่เป็นบวก หมายถึงราคาสปอตสูงกว่าราคาฟิวเจอร์ส (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาฟิวเจอร์สต่ำกว่าราคาสปอต) มักเกิดในกรณีที่นักลงทุนในฟิวเจอร์สคาดการณ์ล่วงหน้าไปว่าตลาดน่าจะเป็นขาลง ราคาเท่าสปอตก็ยังไม่อยากซื้อกัน ต้องต่ำกว่าราคาสปอตจึงจะกล้าซื้อ ยิ่งเบสิสเป้นบวกมากๆแสดงว่านักลงทุนยิ่งมองตลาดในแง่ร้าย
ส่วนเบสิสที่เป็นลบ หมายถึงราคาสปอตต่ำกว่าราคาฟิวเจอร์ส (พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาฟิวเจอร์สสูงกว่าราคาสปอต) มักเกิดในกรณีตลาดขาขึ้น นักลงทุนมองว่าตลาดดี แจ่มใส ขึ้นต่อแน่ ดังนั้นฟิวเจอร์สแพงกว่าราคาสปอตก็ยังกล้าซื้อ
ส่วนราคาฟิวเจอร์สที่ใกล้เคียงกับราคาสปอตนั้นหมายถึงช่วงเปลี่ยนผ่านในการกลับแนวโน้ม สมมติว่าเดิมนักลงทุนมองตลาดว่าเป็นขาลง ดังนั้นจึงเทรดฟิวเจอร์สในราคาที่ต่ำกว่าราคาสปอต (เบสิสเป็นบวก) ต่อมาเมื่อเปลี่ยนมุมมองเห็นว่าตลาดน่าจะเป็นขาขึ้น ก็จะมีการไล่ราคาฟิวเจอร์สกันจนเบสิสเป็นบวกน้อยลงๆ และในที่สุดเบสิสก็กลายเป็นลบ กับอีกกรณีหนึ่งที่ราคาฟิวเจอร์สมาใกล้เคียงกับราคาสปอตก็คือเมื่อตอนที่ฟิวเจอร์สใกล้หมดอายุ
สำหรับ S50 ในช่วงที่ผ่านมาเบสิสเป็นบวก สะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนว่ามองตลาดว่าเป็นขาลง ส่วนเหตุผลและมุมมองนั้นจะมีปัจจัยมาจากสาเหตุการเมืองหรืออะไรก็ตามแต่ และที่น่าแปลกก็คือในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะวุ่นวายและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ว่า S50 basis กลับบวกน้อยลงจนใกล้จะเป็น 0 แล้ว (วันนี้เบสิสเหลือเพียง 1.2 จุด) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเป็นเพราะอะไร หรือว่าอารมณ์ของนักลงทุนกำลังมองว่าตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีก จึงเอามาตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ ซึ่งลุงแมวน้ำคงไม่สามารถสรุปอะไรได้เนื่องจากตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วเราน่าจะอยู่ในคลื่น A ลุงแมวน้ำจึงยังมองว่าเป็นตลาดขาลงอยู่
Friday, April 23, 2010
22/04/2010 * RSS
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 761.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ RATCH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีฟุตซี (FTSE100, FTSE) ของอังกฤษเกิดสัญญาณขาย
ราคายางแม้จะปรับตัวลงมาแรง แต่เมื่อนับคลื่นย่อยน่าจะยังอยู่ในคลื่น 4 (สีม่วง) ของคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ยังไม่น่าถึงกับจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) แถวๆนี้
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ RATCH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 16 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีฟุตซี (FTSE100, FTSE) ของอังกฤษเกิดสัญญาณขาย
ราคายางแม้จะปรับตัวลงมาแรง แต่เมื่อนับคลื่นย่อยน่าจะยังอยู่ในคลื่น 4 (สีม่วง) ของคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ยังไม่น่าถึงกับจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) แถวๆนี้
Wednesday, April 21, 2010
21/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 757.85 จุด ลดลง 7.91 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 15 ตัวเท่าเดิม
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ราคายางพาราร่วงแรงทั้งของไทยและของโตคอม น่าจะมีสาเหตุมาจากข่าวลือที่ว่าจะมีการสอบสวนเอาผิดการปั่นราคายาง
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
พูดถึงดัชนี SET และอาการของตลาดบ้านเราหมู่นี้ดูแปลกๆ ปกติหุ้นขึ้นแรงมักเกิดจากนักลงทุนต่างชาติไล่เก็บหุ้น และถ้าตลาดแดงมักเกิดจากต่างชาติขาย แต่ระยะนี้นักลงทุนสถาบันในประเทศไล่เก็บหุ้นจนดัชนีขึ้น 40 จุดก็ได้ อีกทั้งในวันที่ตลาดหุ้นแดงกลายเป็นว่าต่างชาติซื้อมากกว่าขายก็ได้
ปกติลุงแมวน้ำไม่ได้นำข้อมูลใครซื้อสุทธิใครขายสุทธิมาใช้พิจารณาเนื่องจากข้อมูลเหล่านี้สามารถซ่อนเงื่อนซ่อนปมไว้ได้หรือที่เรียกกันว่าลับ ลวง พรางนั่นเอง ยกตัวอย่างต่างชาติมียอดสุทธิซื้อนั้นเกิดจากต่างชาติหัวดำก็ได้ หรือการแสดงให้ยอดสุทธิซื้อมากกว่าขายนั้นเกิดจากการไล่หุ้นแล้วค่อยๆรินออกมาใส่มือรายย่อยก็เป็นได้อีก แล้วแต่ใครจะมองและตีความ ดังนั้นปกติลุงแมวน้ำจึงให้ความสำคัญกับราคาปิดเพียงอย่างเดียว
ช่วงนี้ต่างชาติยังมียอดสุทธิซื้อมากกว่าขายทั้งๆที่สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ทำให้นักลงทุนรายย่อยบางรายเริ่มหวั่นไหวแล้วเนื่องจากคิดว่าตลาดยังไปต่อได้อีกและเกรงว่าจะตกรถ และจ้องหาจังหวะเข้าซื้ออยู่ รวมทั้งผู้ที่ชอร์ตฟิวเจอร์สอยู่ก็อาจกำลังเตรียมปิดและเปิดด้านลองแทน บางคนอาจคิดลึกต่อไปอีกว่าฝรั่งอาจรู้ข้อมูลอะไรดีๆที่รายย่อยไม่รู้ ดังนั้นฝรั่งจึงดักซื้อเอาไว้ก่อน บางคนก็คิดว่าฝรั่งหลอกขึ้นมาชมดอย ฯลฯ
แต่จากการพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคแล้วลุงแมวน้ำเห็นว่าโอกาสที่ตอนนี้เราอยู่ในคลื่นขาลง A-B-C แล้วมีอยู่สูง ดังเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วเมื่อวันก่อน ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงเปิดสัญญาขายฟิวเจอร์ส S50 ไป และเมื่อวานหุ้นขึ้นไป 40 จุดลุงแมวน้ำก็คืนกำไรไปโข แต่การเทรดตามแนวโน้มอย่างเป็นระบบด้วยปัจจัยทางเทคนิคนั้นข้อสำคัญก็คือการรักษาวินัยในการเทรด รวมทั้งไม่ใช้อารมณ์โลภและอารมณ์กลัวมาชี้นำในการเทรด และซื่อสัตย์ต่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตนเอง ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงยังถือด้านชอร์ตอยู่ ถ้าพลาดก็ยินดีคืนกำไรไป ที่เล่ามานี้เพื่อฝากให้เพื่อนนักลงทุนที่สนใจในแนวทางการเทรดอย่างเป็นระบบตามแนวโน้มได้นำเหตุการณ์ในช่วงนี้ไปพิจารณา ถือเป็นปริศนาธรรมข้อสำคัญก็ว่าได้ เพราะบางคนอาจถอดใจเลิกเทรดอย่างเป็นระบบก็ภายในสถานการณ์ตลาดแกว่งตัวรุนแรงแบบนี้นี่เอง
ลุงแมวน้ำเพิ่งจะนึกได้ว่าเว็บบล็อกนี้ได้ผ่านวันคล้ายวันเกิดขวบปีแรกมาแล้ว ลุงแมวน้ำโพสต์ครั้งแรกในวันที่ 16 เมษายน 2552 คือเมื่อปีที่แล้ว ช่วงนั้นเป็นวันหยุดสงกรานต์ ลุงแมวน้ำได้หยุดพักผ่อนหลายวัน ไม่มีการแสดงโชว์ที่ใด จึงเอาเวลามาทำเว็บบล็อกเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง ตอนนั้นมีผู้เข้าชมอยู่เพียงคนเดียวก็คือตัวลุงแมวน้ำเอง ทำเองดูเองอยู่นานเหมือนกัน จากนั้นก็ค่อยๆมีผู้เข้าชมวันละสองคนบ้าง สามคนบ้างและมีปลาทองตัวเล็กๆสมัครเป็น follower รายแรก จนมาถึงวันนี้มีผู้เข้าชมวันละ 40-60 คน มี folower 3 ราย ก็ยังไม่ถือว่ามาก แต่ลุงแมวน้ำทำไปไม่ได้หวังประโยชน์แก่ตนเอง แต่ทำเพื่อแบ่งปัน ดังนั้นมีเท่าไรลุงแมวน้ำก็ยังดีใจ
20/04/2010 * RSS, DJI
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 765.76 จุด เพิ่มขึ้น 39.47 จุด หรืิอคิดเป็น 5.43% กลุ่มที่ดันดัชนีน่าจะเป็นนักลงทุนกลุ่มสถาบันในประเทศเพราะมียอดซื้อสุทธิสูงถึง 3,281 ล้านบาท ซึ่งนักลงทุนทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ลุงแมวน้ำเองก็มองว่าแปลกๆ ทำไมซื้อมากมายขนาดนี้ เหตุผลคงจะมีแต่เป็นเหตุผลที่คนทั่วไปไม่รู้ กรณีนี้นับเป็นตัวอย่างอันดีที่แสดงถึงความไม่่เท่าเทียมกันด้านข้อมูลข่าวสารซึ่งทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานพลาดและตกเป็นเหยื่อหรือแมงเม่าได้ แต่การลงทุนด้วยการใช้ปัจจัยทางเทคนิคนั้นใช้เพียงราคาปิดซึ่งเปิดเผยและรับรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อหรือกลายเป็นแมงเม่าจึงน่าจะน้อยกว่า
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 แม้วันนี้หุ้นจะดีดกลับแรงแต่ว่าโปรแกรมของลุงแมวน้ำยังไม่ซื้อตาม ดังนั้นจึงยังไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 15 ตัวเท่าเดิม
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อฝ้าย (CT)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
อย่าประมาทยางพารา ระดับราคานี้อยู่ในแนว fibonacci ที่อาจเป็นจุดกลับทิศทางแนวโน้มได้ เมื่อปี 2008 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 80 กว่าดอลลาร์ซึ่งพอๆกับราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ ราคายางพาราในตอนนั้นอยู่ที่ 70 กว่าบาทเท่านั้น
ดัชนีดาวโจนส์เองก็ถึงระดับ fibonacci เช่นกัน ก็มีโอกาสกลับทิศทางแนวโน้มที่แถวๆนี้อยู่บ้าง แต่สัญญาณประกอบอื่นๆยังไม่มี ดังนั้นน้ำหนักจึงน้อย แค่ระวังและตามดูเอาไว้ แต่ไม่ควรย่ามใจเพิ่มพอร์ตลงทุน
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 แม้วันนี้หุ้นจะดีดกลับแรงแต่ว่าโปรแกรมของลุงแมวน้ำยังไม่ซื้อตาม ดังนั้นจึงยังไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 15 ตัวเท่าเดิม
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อฝ้าย (CT)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
อย่าประมาทยางพารา ระดับราคานี้อยู่ในแนว fibonacci ที่อาจเป็นจุดกลับทิศทางแนวโน้มได้ เมื่อปี 2008 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 80 กว่าดอลลาร์ซึ่งพอๆกับราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ ราคายางพาราในตอนนั้นอยู่ที่ 70 กว่าบาทเท่านั้น
ดัชนีดาวโจนส์เองก็ถึงระดับ fibonacci เช่นกัน ก็มีโอกาสกลับทิศทางแนวโน้มที่แถวๆนี้อยู่บ้าง แต่สัญญาณประกอบอื่นๆยังไม่มี ดังนั้นน้ำหนักจึงน้อย แค่ระวังและตามดูเอาไว้ แต่ไม่ควรย่ามใจเพิ่มพอร์ตลงทุน
Tuesday, April 20, 2010
19/04/2010
วันนี้เกิดเหตุการณ์ถล่มทลายหลายประการ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของประเทศจีน (Shanghai composite index, SSECI) ปรับตัวลดลงแรง โดยปรับตัวลดลงประมาณ 4% และพาให้ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง (HSKI) และดัชนีไทเอกซ์ (Taiex, TWII) ของไต้หวันร่วงด้วย น้ำมันดิบร่วงต่อเนื่องกันมาหลายวัน ยางพาราตลาดญี่ปุ่นร่วงกว่า 21 เยนหรือคิดเป็นประมาณ 6% ส่วนยางพาราไทยลดลง 3 บาทซึ่งเป็นราคาฟลอร์ตลอดทั้งวัน
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 726.29 จุด ลดลง 9.87 จุด วันนี้บอกได้ยากว่าลงจากปัจจัยภายนอกหรือภายในเนื่องจากตลาดเอเซียแดงกันถ้วนหน้า ดัชนี SET และ SET50 เกิดสัญญาณขายหลังจากที่เมื่อวาน S50 เกิดสัญญาณขายล่วงหน้าไปแล้ว
กองทุนอีทีเอฟ TFTSE เกิดสัญญาณขาย
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้เกิดสัญญาณขาย EGCO, IRPC, PTTAR, TPC, TRUE ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 15 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายน้ำมันดิบ (CL) หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างเนื่องมาหลายวัน นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเถ้าภูเขาไฟจากภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ฟุ้งอยู่ในบรรยากาศของยุโรป ทำให้สายการบินต่างๆต้องงดบินเข้าออกยุโรปชั่วคราวเนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี จึงทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งลุงแมวน้ำก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงจริงหรือไม่ และจากการที่ราคาน้ำมันลดลงทำให้ราคายางพาราร่วงลงอย่างแรง แต่ลุงแมวน้ำมองว่าแนวโน้มน้ำมันดิบยังไม่กลับทิศ ดังนั้นจึงเพียงปิดสัญญาซื้อไป
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเกิดสัญญาณขายอันเนื่องมาจากการปรับตัวลงรุนแรงจากมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาฯอย่างเข้มงวดของทางการจีน
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 726.29 จุด ลดลง 9.87 จุด วันนี้บอกได้ยากว่าลงจากปัจจัยภายนอกหรือภายในเนื่องจากตลาดเอเซียแดงกันถ้วนหน้า ดัชนี SET และ SET50 เกิดสัญญาณขายหลังจากที่เมื่อวาน S50 เกิดสัญญาณขายล่วงหน้าไปแล้ว
กองทุนอีทีเอฟ TFTSE เกิดสัญญาณขาย
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้เกิดสัญญาณขาย EGCO, IRPC, PTTAR, TPC, TRUE ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 15 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายน้ำมันดิบ (CL) หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างเนื่องมาหลายวัน นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเถ้าภูเขาไฟจากภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ฟุ้งอยู่ในบรรยากาศของยุโรป ทำให้สายการบินต่างๆต้องงดบินเข้าออกยุโรปชั่วคราวเนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี จึงทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งลุงแมวน้ำก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงจริงหรือไม่ และจากการที่ราคาน้ำมันลดลงทำให้ราคายางพาราร่วงลงอย่างแรง แต่ลุงแมวน้ำมองว่าแนวโน้มน้ำมันดิบยังไม่กลับทิศ ดังนั้นจึงเพียงปิดสัญญาซื้อไป
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเกิดสัญญาณขายอันเนื่องมาจากการปรับตัวลงรุนแรงจากมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาฯอย่างเข้มงวดของทางการจีน
Monday, April 19, 2010
16/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 736.16 จุด ลดลง 24.74 จุด ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 4
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BEC, BECL, BH, CPN, DTAC, ESSO, GLOW, KBANK, SCB, THAI, TSTH รวมทั้งหมด 11 ตัว ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 20 ตัว
กองทุน ETF กลุ่มพลังงาน ENGY เกิดสัญญาณขาย
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย S50 และกาแฟ (KC) กรณี S50 ดังที่ลุงแมวน้ำคุยกลยุทธ์เอาไว้แล้วว่าเนื่องจากมองว่าดัชนี SET กลับเทรนด์แล้ว ดังนั้นจึงปิดสัญญาซื้อ (cover long position) และเปิดสัญญขาย (open short position) ด้วย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีโบเวสปา (Bovespa หรือ Ibovespa) ของบราซิลเกิดสัญญาณขาย
ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองของเรายังไม่ค่อยดีนัก ปัจจัยภายในประเทศดูจะมีความสำคัญมากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ ต้องถือเอารูปแบบทางเทคนิคของตลาดบ้านเราเองเป็นหลัก การใช้ระบบเทรดตามแนวโน้มทำให้เราเทรดตามน้ำไปเรื่อยๆ จะมีช่วงที่น่าหนักใจก็คือในช่วงตลาดไร้ทิศทาง (sideway market) เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีหากตลาดเป็นขาลงในคลื่น A หรือ C การเทรดหุ้นมักไม่ประสบความสำเร็จแม้จะเทรดตามสัญญาณซื้อขายก็ตาม เนื่องจากในคลื่น A และ C สัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นมักเป็นสัญญาณหลอก (false signal) นักลงทุนที่ใช้ระบบสัญญาณซื้อขายโดยไม่ได้นับคลื่นช่วยก็ควรเทรดไปตามสัญญาณ อย่าแหกระบบและอย่าเพิ่มพอร์ตหุ้นในช่วงนี้ ส่วนนักลงทุนที่ใช้ระบบสัญญาณซื้อขายและนับคลื่นช่วยก็ควรพิจารณาหยุดเทรดหุ้นหรือพิจารณาการเทรดฟิวเจอร์สด้านชอร์ต
ส่วนนักลงทุนที่ไม่ได้ลงทุนอย่างเป็นระบบตามแนวโน้มตลาด ลุงแมวน้ำอยากขอเตือนให้ระวังการช้อนซื้อเนื่องจากคิดว่าราคาถูกแล้ว ดักช้อนเอาไว้ลุ้นเผื่อมีเด้ง หากตลาดอยู่ในคลื่น A หรือ C การช้อนลุ้นเด้งมักไม่ได้ผล โอกาสพลาดมีสูงมาก หากทนไม่ไหวจริงๆก็น่าจะทดลองแต่น้อยและเผื่อใจเอาไว้มากๆ
สถานการณ์บ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นดูได้ยาก แต่ลุงแมวน้ำประเมินว่าภายในเดือนเมษายนนี้ฝ่ายรัฐบาลทำอะไรก็จะเพลี่ยงพล้ำ หากอยู่เฉยๆก็เสมอตัวหรือถูกด่า หากลงมือก็จะเกิดความวุ่นวาย ต้องรอให้เข้าเดือนพฤษภาคมไปก่อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปฝ่ายรัฐบาลจึงจะกุมสถานการณ์และความได้เปรียบเอาไว้ได้ แต่ปัจจัยด้านการเมืองอาจไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นเสมอไป ดูอย่างช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ก็ไม่ดี หุ้นก็ขึ้นเอาๆ ดังนั้นเรื่องการเมืองว่าคาดการณ์ได้ยากแล้ว การคาดการณ์ว่าการเมืองจะกระทบตลาดหุ้นหรือไม่ อย่างไร ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเทรดตามแนวโน้มดีกว่า ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BEC, BECL, BH, CPN, DTAC, ESSO, GLOW, KBANK, SCB, THAI, TSTH รวมทั้งหมด 11 ตัว ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 20 ตัว
กองทุน ETF กลุ่มพลังงาน ENGY เกิดสัญญาณขาย
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย S50 และกาแฟ (KC) กรณี S50 ดังที่ลุงแมวน้ำคุยกลยุทธ์เอาไว้แล้วว่าเนื่องจากมองว่าดัชนี SET กลับเทรนด์แล้ว ดังนั้นจึงปิดสัญญาซื้อ (cover long position) และเปิดสัญญขาย (open short position) ด้วย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีโบเวสปา (Bovespa หรือ Ibovespa) ของบราซิลเกิดสัญญาณขาย
ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองของเรายังไม่ค่อยดีนัก ปัจจัยภายในประเทศดูจะมีความสำคัญมากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ ต้องถือเอารูปแบบทางเทคนิคของตลาดบ้านเราเองเป็นหลัก การใช้ระบบเทรดตามแนวโน้มทำให้เราเทรดตามน้ำไปเรื่อยๆ จะมีช่วงที่น่าหนักใจก็คือในช่วงตลาดไร้ทิศทาง (sideway market) เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีหากตลาดเป็นขาลงในคลื่น A หรือ C การเทรดหุ้นมักไม่ประสบความสำเร็จแม้จะเทรดตามสัญญาณซื้อขายก็ตาม เนื่องจากในคลื่น A และ C สัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นมักเป็นสัญญาณหลอก (false signal) นักลงทุนที่ใช้ระบบสัญญาณซื้อขายโดยไม่ได้นับคลื่นช่วยก็ควรเทรดไปตามสัญญาณ อย่าแหกระบบและอย่าเพิ่มพอร์ตหุ้นในช่วงนี้ ส่วนนักลงทุนที่ใช้ระบบสัญญาณซื้อขายและนับคลื่นช่วยก็ควรพิจารณาหยุดเทรดหุ้นหรือพิจารณาการเทรดฟิวเจอร์สด้านชอร์ต
ส่วนนักลงทุนที่ไม่ได้ลงทุนอย่างเป็นระบบตามแนวโน้มตลาด ลุงแมวน้ำอยากขอเตือนให้ระวังการช้อนซื้อเนื่องจากคิดว่าราคาถูกแล้ว ดักช้อนเอาไว้ลุ้นเผื่อมีเด้ง หากตลาดอยู่ในคลื่น A หรือ C การช้อนลุ้นเด้งมักไม่ได้ผล โอกาสพลาดมีสูงมาก หากทนไม่ไหวจริงๆก็น่าจะทดลองแต่น้อยและเผื่อใจเอาไว้มากๆ
สถานการณ์บ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นดูได้ยาก แต่ลุงแมวน้ำประเมินว่าภายในเดือนเมษายนนี้ฝ่ายรัฐบาลทำอะไรก็จะเพลี่ยงพล้ำ หากอยู่เฉยๆก็เสมอตัวหรือถูกด่า หากลงมือก็จะเกิดความวุ่นวาย ต้องรอให้เข้าเดือนพฤษภาคมไปก่อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปฝ่ายรัฐบาลจึงจะกุมสถานการณ์และความได้เปรียบเอาไว้ได้ แต่ปัจจัยด้านการเมืองอาจไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นเสมอไป ดูอย่างช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ก็ไม่ดี หุ้นก็ขึ้นเอาๆ ดังนั้นเรื่องการเมืองว่าคาดการณ์ได้ยากแล้ว การคาดการณ์ว่าการเมืองจะกระทบตลาดหุ้นหรือไม่ อย่างไร ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเทรดตามแนวโน้มดีกว่า ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว
Wednesday, April 14, 2010
12/04/2010 - 15/04/2010 * SET, DX
เนื่องจากตลาดหุ้น TFEX, AFET และธนาคารของไทยหยุดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งในวันดังกล่าวตลาดของทางต่างประเทศยังทำการอยู่ ดังนั้นลุงแมวน้ำจะทยอยอัปเดตตลาดต่างประเทศในวันที่ 13-15 เอาไว้ในหน้านี้ด้วย
12/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 760.90 จุด ลดลง 28.76 จุด อันเนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและกลุ่มผู้ชุมนุมและมีผู้เสียชีวิต อันเป็นปัจจัยทางด้านการเมืองภายในประเทศไทย ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 แม้ตลาดจะลงแรงแต่ระบบของลุงแมวน้ำยังไม่เกิดสัญญาณขาย (ในระบบ PnT 1.10 วันนี้ดัชนี SET เกิดสัญญาณขายไปแล้ว)
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย ADVANC, BBL, PSL, RATCH, SCCC, TPC, TTW ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 31 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย ITD, DX ช่วงนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ (US Dollar Index, DX) แกว่งตัวในช่วงแคบ จึงมักเกิดสัญญาณซื้อขายติดกันในกรอบราคาแคบๆ ลุงแมวน้ำยังมองว่าเป็นขาขึ้นอยู่ ดังนั้นจึงเพียงปิดสัญญาซื้อไป แต่ขณะนี้มีสัญญาณบางประการที่บ่งบอกถึงว่าดัชนีดอลลาร์ สรอ อาจกลับทิศได้ แต่ยังไม่ชัดเจนนัก ดังนั้นจึงเพียงติดตามดูไปก่อน
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดสำคัญในโลกยังเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดอยู่
ดัชนี SET อาการไม่ดี มีสัญญาณหลายประการที่บ่งบอกถึงการกลับทิศทางของแนวโน้ม ลองดูภาพต่อไปนี้
จากภาพ ลองมาดูกันว่ารูปแบบที่บ่งชี้ถึงการกลับทิศที่เกิดขึ้นแล้วมีอะไรบ้าง
จากตัวบ่งชี้หลายๆประการดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้สูงที่ขณะนี้เราจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว ซึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาต่อไปก็คือในระดับชุดคลื่นสีน้ำเงิน
หากเป็นไปตามสมมติฐานกรณีที่สอง คลื่น C นี้น่าจะทำให้ดัชนี SET ลงไปได้ลึกถึง 360 จุด
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเป็นในกรณีใดก็ตาม ดัชนี SET มีโอกาสลงไปได้ลึกมาก ดังนั้นนักลงทุนจึงไม่ควรประมาทในดัชนี SET ช่วงนี้ SET ของเราอาจเป็นขาลงในขณะที่ดัชนีของประเทศอื่นๆเป็นขาขึ้นก็ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากจากปัจจัยภายในของเราเอง ดังนั้นการดูตลาดโลกควรดูเพียงเพื่อประกอบ แต่การตัดสินใจใดๆต้องพิจารณาจากกราฟทางเทคนิคของดัชนี SET เอง
และจากความเป็นไปได้ดังกล่าว ลุงแมวน้ำจึงต้องปรับกลยุทธ์ โดยหากเกิดสัญญาณขายในครั้งต่อไปลุงแมวน้ำจะเทรดทางด้านขาลง คือจะเปิดสัญญาขาย (open short position) ด้วย
13/04/2010
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อถั่วเหลือง (S)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ทางด้านดัชนีดอลลาร์ สรอ (DX) จากภาพ จะเห็นว่าเกิดสัญญาณขายหลอกๆ (false signal) ไป 2 ครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ในครั้งนี้ลุงแมวน้ำก็ยังประเมินว่าเป็นสัญญาณหลอกอยู่เนื่องจากสิ่งบ่งชี้ถึงการกลับทิศของแนวโน้มยังไม่ชัดเจนนัก เช่น bearish convergence ก็ยังไม่ชัด, ระดับ fibonacci ก็มาถึงเพียงแค่ 50%, ทางด้านการนับคลื่นก็ยังไม่ชัดว่าจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว, หากจะพิจารณาเรื่อง gap ก็ยังไม่แน่ว่า gap ที่เกิดขึ้นนั้นเป็น runaway gap หรือไม่ ดังนั้นสัญญาณที่เห็นชัดเจนก็มีเพียงการหลุดกรอบล่างของ standard error channel เท่านั้น ซึ่งจากการประเมินของลุงแมวน้ำยังเห็นว่าสิ่งบ่งชี้ในการกลับทิศของแนวโน้มยังไม่เพียงพอ ซึ่งคงต้องติดตามดูกันต่อไป
14/04/2010
ตลาดหลักทรัพย์, TFEX, AFET ยังหยุดทำการ
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
15/04/2010
ตลาดหลักทรัพย์, TFEX, AFET ยังหยุดทำการ
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อข้าวโพด (C) ขณะนี้สินค้ากลุ่มสินค้าเกษตรในตลาดโลกทยอยเกิดสัญญาณซื้อเพิ่มมากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่าภาวะ bullish ในตลาดสินค้าเกษตรกำลังเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนน้ำตาล (SB) และฝ้าย (CT) แม้ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อแต่ว่าราคาก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำขณะนี้ทำกำไรจากน้ำตาลได้มากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 1,257% อันเป็นผลมาจากการเทรดด้วยระบบสัญญาณซื้อขายและใช้การนับคลื่นเข้าช่วย รองลงมาคือยางพารา 804% ทองคำอัตรากำไรยังคงตัวอยู่ในระดับประมาณนี้มาเกือบ 2 เดือนแล้วอันแสดงว่าราคาทองคำในช่วงนี้ไม่ไปไหน ส่วนน้ำมันนั้นยังขาดทุนอยู่ -49%
12/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 760.90 จุด ลดลง 28.76 จุด อันเนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและกลุ่มผู้ชุมนุมและมีผู้เสียชีวิต อันเป็นปัจจัยทางด้านการเมืองภายในประเทศไทย ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 แม้ตลาดจะลงแรงแต่ระบบของลุงแมวน้ำยังไม่เกิดสัญญาณขาย (ในระบบ PnT 1.10 วันนี้ดัชนี SET เกิดสัญญาณขายไปแล้ว)
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย ADVANC, BBL, PSL, RATCH, SCCC, TPC, TTW ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 31 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย ITD, DX ช่วงนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ (US Dollar Index, DX) แกว่งตัวในช่วงแคบ จึงมักเกิดสัญญาณซื้อขายติดกันในกรอบราคาแคบๆ ลุงแมวน้ำยังมองว่าเป็นขาขึ้นอยู่ ดังนั้นจึงเพียงปิดสัญญาซื้อไป แต่ขณะนี้มีสัญญาณบางประการที่บ่งบอกถึงว่าดัชนีดอลลาร์ สรอ อาจกลับทิศได้ แต่ยังไม่ชัดเจนนัก ดังนั้นจึงเพียงติดตามดูไปก่อน
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดสำคัญในโลกยังเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดอยู่
ดัชนี SET อาการไม่ดี มีสัญญาณหลายประการที่บ่งบอกถึงการกลับทิศทางของแนวโน้ม ลองดูภาพต่อไปนี้
จากภาพ ลองมาดูกันว่ารูปแบบที่บ่งชี้ถึงการกลับทิศที่เกิดขึ้นแล้วมีอะไรบ้าง
- ระดับ fibonacci ถึง 78.6%
- ดัชนีกับ RSI เกิด bearish convergence
- คลื่นย่อย ทั้งระดับชุดคลื่นสีส้มและชุดคลื่นสีม่วง นับได้ครบ 5 ลูกแล้ว
- ดัชนีหลุดกรอบล่างของ standard error channel มาแล้ว
- เกิด island of reversal (ศรชี้สีน้ำเงิน)
- เกิด big black candle (ศรชี้สีแดง)
- เกิดช่องว่าง (gap) ขึ้น ซึ่งในที่นี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น runaway gap ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของขาลง (ศรชี้สีดำ)
จากตัวบ่งชี้หลายๆประการดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้สูงที่ขณะนี้เราจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว ซึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาต่อไปก็คือในระดับชุดคลื่นสีน้ำเงิน
- ในระดับชุดคลื่นสีน้ำเงิน หากขณะนี้เราจบคลื่น C (สีน้ำเงินไปแล้ว) แปลว่าขณะนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 4 และดัชนียังจะมีคลื่น 5 ต่อไปอีก
- ในระดับชุดคลื่นสีน้ำเงินหากว่าขณะนี้เราจบเพิ่งจบแค่คลื่น A (สีน้ำเงิน) แปลว่าคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ที่เพิ่งจบไปเป็นการจบคลื่น B (สีน้ำเงิน) และขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น C (สีน้ำเงิน)
หากเป็นไปตามสมมติฐานกรณีที่สอง คลื่น C นี้น่าจะทำให้ดัชนี SET ลงไปได้ลึกถึง 360 จุด
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเป็นในกรณีใดก็ตาม ดัชนี SET มีโอกาสลงไปได้ลึกมาก ดังนั้นนักลงทุนจึงไม่ควรประมาทในดัชนี SET ช่วงนี้ SET ของเราอาจเป็นขาลงในขณะที่ดัชนีของประเทศอื่นๆเป็นขาขึ้นก็ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากจากปัจจัยภายในของเราเอง ดังนั้นการดูตลาดโลกควรดูเพียงเพื่อประกอบ แต่การตัดสินใจใดๆต้องพิจารณาจากกราฟทางเทคนิคของดัชนี SET เอง
และจากความเป็นไปได้ดังกล่าว ลุงแมวน้ำจึงต้องปรับกลยุทธ์ โดยหากเกิดสัญญาณขายในครั้งต่อไปลุงแมวน้ำจะเทรดทางด้านขาลง คือจะเปิดสัญญาขาย (open short position) ด้วย
13/04/2010
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อถั่วเหลือง (S)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ทางด้านดัชนีดอลลาร์ สรอ (DX) จากภาพ จะเห็นว่าเกิดสัญญาณขายหลอกๆ (false signal) ไป 2 ครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ในครั้งนี้ลุงแมวน้ำก็ยังประเมินว่าเป็นสัญญาณหลอกอยู่เนื่องจากสิ่งบ่งชี้ถึงการกลับทิศของแนวโน้มยังไม่ชัดเจนนัก เช่น bearish convergence ก็ยังไม่ชัด, ระดับ fibonacci ก็มาถึงเพียงแค่ 50%, ทางด้านการนับคลื่นก็ยังไม่ชัดว่าจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว, หากจะพิจารณาเรื่อง gap ก็ยังไม่แน่ว่า gap ที่เกิดขึ้นนั้นเป็น runaway gap หรือไม่ ดังนั้นสัญญาณที่เห็นชัดเจนก็มีเพียงการหลุดกรอบล่างของ standard error channel เท่านั้น ซึ่งจากการประเมินของลุงแมวน้ำยังเห็นว่าสิ่งบ่งชี้ในการกลับทิศของแนวโน้มยังไม่เพียงพอ ซึ่งคงต้องติดตามดูกันต่อไป
14/04/2010
ตลาดหลักทรัพย์, TFEX, AFET ยังหยุดทำการ
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
15/04/2010
ตลาดหลักทรัพย์, TFEX, AFET ยังหยุดทำการ
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อข้าวโพด (C) ขณะนี้สินค้ากลุ่มสินค้าเกษตรในตลาดโลกทยอยเกิดสัญญาณซื้อเพิ่มมากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่าภาวะ bullish ในตลาดสินค้าเกษตรกำลังเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนน้ำตาล (SB) และฝ้าย (CT) แม้ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อแต่ว่าราคาก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำขณะนี้ทำกำไรจากน้ำตาลได้มากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 1,257% อันเป็นผลมาจากการเทรดด้วยระบบสัญญาณซื้อขายและใช้การนับคลื่นเข้าช่วย รองลงมาคือยางพารา 804% ทองคำอัตรากำไรยังคงตัวอยู่ในระดับประมาณนี้มาเกือบ 2 เดือนแล้วอันแสดงว่าราคาทองคำในช่วงนี้ไม่ไปไหน ส่วนน้ำมันนั้นยังขาดทุนอยู่ -49%
Monday, April 12, 2010
09/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 789.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.73 จุด ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่สองแม้ว่าดัชนี SET จะขึ้นก็ตาม
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BIGC ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 38 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ในวันที่ 12/04/2010 ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ สถานการณ์บ้านเมืองดูท่าไม่ดี สัญญาณขายคือจุดยับยั้งความเสียหาย หากถึงจุดขายอย่ามัวแต่เสียดาย สัญญาณขายของ S50 ตามระบบ PnT 1.10 สำหรับวันที่ 12/04/2010 คือ 539.9 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BIGC ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 38 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ในวันที่ 12/04/2010 ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ สถานการณ์บ้านเมืองดูท่าไม่ดี สัญญาณขายคือจุดยับยั้งความเสียหาย หากถึงจุดขายอย่ามัวแต่เสียดาย สัญญาณขายของ S50 ตามระบบ PnT 1.10 สำหรับวันที่ 12/04/2010 คือ 539.9 จุด
Friday, April 9, 2010
08/04/2010 * DJI, SET, GC, GF
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 783.93 จุด ลดลง 28.70 จุด ต่างชาติขายสุทธิหลังจากที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องกันถึง 32 วัน ตลาดหุ้นไทยดิ่งน่าจะมาจากปัจจัยด้านการเมืองเนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BAY, BCP, TMB, TTA ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 39 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายฝ้าย (CT)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
วันนนี้ตลาดหุ้นของไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ผู้ที่ถือฟิวเจอร์สด้าน long รวมทั้งผู้ที่ถือหุ้นอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเข้าซื้อ คงใจไม่ดีไปตามๆกัน หลายท่านคงร้อนใจและคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรต่อดี
นี่คือข้อแตกต่างของผู้ที่เทรดโดยใช้ระบบและไม่ใช้ระบบ สำหรับผู้ที่เทรดโดยใช้ระบบการเทรดหรือว่าระบบสัญญาณซื้อขายนั้นแม้ว่าอาจจะอดรู้สึกใจไม่ดีไปด้วยกับสถานการณ์แต่อย่างน้อยผู้ที่เทรดก็จะรู้ว่าเมื่อไรควรขายหรือว่าปิดสัญญา โดยพิจารณาจากสัญญาณซื้อขาย คือถึงแม้ใจไม่ดีแต่ก็ทำตัวได้ถูก ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้ระบบจะเสียเปรียบตรงที่ไม่มีเกณฑ์อะไรที่จะยึด รวมทั้งในสถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้การตัดสินใจต่างๆอาจมีโอกาสผิดพลาดได้มากกว่ายามอยู่ในสถานการณ์ปกติเนื่องมาจากปัจจัยด้านอารมณ์
ลองมาดูกราฟของดััชนี SET กันดังภาพต่อไปนี้
จากภาพ มีรูปแบบที่บ่งบอกว่าอาจเกิดการกลับทิศของแนวโน้ม (trend reversal pattern) หรือการจบคลื่นจากคลื่น 5 เข้าสู่ a อยู่หลายประการ เช่น ความสอดคล้องของค่า fibonaci, bearish convergence และรูปแบบ island of reversal (ที่ศรชี้) ประกอบกับการนับคลื่นย่อยก็น่าจะเป็นการจบคลื่นย่อย 5 แล้ว เพียงแต่ยังขาดสัญญาณสำคัญ นั่นคือ สัญญาณขาย
คราวนี้ลองมาดูดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Index, DJI) กันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้
DJI ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดว่าจะกลับแนวโน้ม ระดับ fibonacci ก็ครึ่งๆกลางๆ, คลื่นก็ยังไม่น่าจะครบ, ดัชนีและ RSI ยังไม่มี bearish convergence (ที่เกิด bearish convergence เล็กๆลุงแมวน้ำไม่ได้นับเพราะเกิดในกรอบเวลาที่สั้นเกินไป)
สัญญาณกลับทิศของ SET ก็ยังมาไม่ครบโดยเฉพาะสัญญาณขายยังไม่มา สัญญาณกลับทิศของ DJI ก็ยังไม่มี ดังนั้นโอกาสที่ SET จะขึ้นต่อก็ยังพอมีอยู่
ทางด้านทองคำ จากกราฟทองคำโคเมกซ์ GC และทองคำไทย GF ดังภาพต่อไปนี้
ราคาผ่านทะลุกรอบบนของ standard error channel มาแล้ว โอกาสที่จบคลื่น 4 (สีน้ำตาล) ไปแล้วและเรากำลังอยู่ในคลื่น 5 มีอยู่สูง แต่ว่ายอดคลื่น 5 จะไปได้ไกลเพียงใดเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไป
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BAY, BCP, TMB, TTA ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 39 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายฝ้าย (CT)
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
วันนนี้ตลาดหุ้นของไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ผู้ที่ถือฟิวเจอร์สด้าน long รวมทั้งผู้ที่ถือหุ้นอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเข้าซื้อ คงใจไม่ดีไปตามๆกัน หลายท่านคงร้อนใจและคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรต่อดี
นี่คือข้อแตกต่างของผู้ที่เทรดโดยใช้ระบบและไม่ใช้ระบบ สำหรับผู้ที่เทรดโดยใช้ระบบการเทรดหรือว่าระบบสัญญาณซื้อขายนั้นแม้ว่าอาจจะอดรู้สึกใจไม่ดีไปด้วยกับสถานการณ์แต่อย่างน้อยผู้ที่เทรดก็จะรู้ว่าเมื่อไรควรขายหรือว่าปิดสัญญา โดยพิจารณาจากสัญญาณซื้อขาย คือถึงแม้ใจไม่ดีแต่ก็ทำตัวได้ถูก ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้ระบบจะเสียเปรียบตรงที่ไม่มีเกณฑ์อะไรที่จะยึด รวมทั้งในสถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้การตัดสินใจต่างๆอาจมีโอกาสผิดพลาดได้มากกว่ายามอยู่ในสถานการณ์ปกติเนื่องมาจากปัจจัยด้านอารมณ์
ลองมาดูกราฟของดััชนี SET กันดังภาพต่อไปนี้
จากภาพ มีรูปแบบที่บ่งบอกว่าอาจเกิดการกลับทิศของแนวโน้ม (trend reversal pattern) หรือการจบคลื่นจากคลื่น 5 เข้าสู่ a อยู่หลายประการ เช่น ความสอดคล้องของค่า fibonaci, bearish convergence และรูปแบบ island of reversal (ที่ศรชี้) ประกอบกับการนับคลื่นย่อยก็น่าจะเป็นการจบคลื่นย่อย 5 แล้ว เพียงแต่ยังขาดสัญญาณสำคัญ นั่นคือ สัญญาณขาย
คราวนี้ลองมาดูดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Index, DJI) กันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้
DJI ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดว่าจะกลับแนวโน้ม ระดับ fibonacci ก็ครึ่งๆกลางๆ, คลื่นก็ยังไม่น่าจะครบ, ดัชนีและ RSI ยังไม่มี bearish convergence (ที่เกิด bearish convergence เล็กๆลุงแมวน้ำไม่ได้นับเพราะเกิดในกรอบเวลาที่สั้นเกินไป)
สัญญาณกลับทิศของ SET ก็ยังมาไม่ครบโดยเฉพาะสัญญาณขายยังไม่มา สัญญาณกลับทิศของ DJI ก็ยังไม่มี ดังนั้นโอกาสที่ SET จะขึ้นต่อก็ยังพอมีอยู่
ทางด้านทองคำ จากกราฟทองคำโคเมกซ์ GC และทองคำไทย GF ดังภาพต่อไปนี้
ราคาผ่านทะลุกรอบบนของ standard error channel มาแล้ว โอกาสที่จบคลื่น 4 (สีน้ำตาล) ไปแล้วและเรากำลังอยู่ในคลื่น 5 มีอยู่สูง แต่ว่ายอดคลื่น 5 จะไปได้ไกลเพียงใดเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไป
Thursday, April 8, 2010
07/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 812.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.48 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 32 ทิศทางของดัชนีเป็นไปตามตลาดโลกมากกว่าปัจจัยภายใน ไม่มีใครคาดคิดว่านักลงทุนต่างชาติจะหนักแน่นได้ขนาดนี้โดยไม่หวั่นไหวไปกับการเมืองของไทย
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย MINT ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 43 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำ GF ตามทองคำ GC จึงเปิดสัญญา GF ไป ข้าวสาลี (W) ก็เกิดสัญญาณซื้อ
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย MINT ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 43 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำ GF ตามทองคำ GC จึงเปิดสัญญา GF ไป ข้าวสาลี (W) ก็เกิดสัญญาณซื้อ
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
Wednesday, April 7, 2010
05/04/2010 - 06/04/2010 * currencies
วันนี้ตลาดทางฝั่งยุโรปยังเป็นวันหยุดอยู่
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 808.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 31
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย QH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 44 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำ GC จึงเปิดสัญญาไป ทองคำนี้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดสัญญาณหลอกมาหลายครั้งแล้ว แกว่งขึ้นลงอยู่แถวนี้
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราช่วงนี้ จากภาพจะเห็นว่าเงินยูโรของยุโรปกับเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนเงินดอลลาร์แคนาดากับดอลลาร์ออสเตรเลีย รวมทั้งดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้น ส่วนทองคำถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆ
06/04/2010
วันที่ 6 นี้แม้ตลาดไทยหยุดทำการแต่ตลาดในต่างประเทศเปิดกัน ดังนั้นจึงขอปรับปรุงส่วนที่เป็นฟิวเจอร์สและดัชนีของประเทศเอาไว้
วันนี้ฟิวเจอร์สต่างประเทศและดัชนีตลาดต่างประเทศไม่มีสัญญาณซื้อขาย
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 808.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 31
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย QH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 44 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำ GC จึงเปิดสัญญาไป ทองคำนี้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดสัญญาณหลอกมาหลายครั้งแล้ว แกว่งขึ้นลงอยู่แถวนี้
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราช่วงนี้ จากภาพจะเห็นว่าเงินยูโรของยุโรปกับเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนเงินดอลลาร์แคนาดากับดอลลาร์ออสเตรเลีย รวมทั้งดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้น ส่วนทองคำถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆ
06/04/2010
วันที่ 6 นี้แม้ตลาดไทยหยุดทำการแต่ตลาดในต่างประเทศเปิดกัน ดังนั้นจึงขอปรับปรุงส่วนที่เป็นฟิวเจอร์สและดัชนีของประเทศเอาไว้
วันนี้ฟิวเจอร์สต่างประเทศและดัชนีตลาดต่างประเทศไม่มีสัญญาณซื้อขาย
Monday, April 5, 2010
02/04/2010
วันนี้เป็นวันศุกร์ Good Friday อันเป็นวันศุกร์ก่อนวันอีสเตอร์ เหตุการณ์สำคัญของวันนี้คือเป็นวันที่พระเยซูถูกจับตรึงบนไม้กางเขน ตลาดในยุโรป อเมริกา รวมทั้งเอเซียหลายประเทศ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย หยุดทำการ ราคาและดัชนีในวันนี้จึงมีทั้งของวันนี้และของวันก่อนปนกัน
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 801.15 จุด ลดลง 0.17 ถือว่าดัชนียืนเหนือ 800 จุดได้แล้ว ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 30
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย น้ำมันขึ้นต่อแต่ทองแกว่งไปมา แต่เมื่อดูเครื่องมือ directional movement (dx) แล้วถือว่ายังอยู่ในภาวะไร้ทิศทางทั้งคู่
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
S50 ทำกำไร 364% ขณะที่ยางพาราทำกำไรได้ 704% เห็นแล้วยังไม่ต้องดีใจไป เพราะเมื่อสัญญาณขายมาถึงกำไรอาจลดน้อยลงกว่านี้ก็ได้ อีกทั้งเมื่อตอนช่วงคืนกำไรมาถึง กำไรก็จะหดลงไปอีก ตัวเลขเหล่านี้และระยะเวลาที่เทรดไปอย่างต่อเนื่องคือการฝึกใจอย่างหนึ่ง เป็นการฝึกอุเบกขาธรรม ได้มากก็อย่าโลภจนอัดเงินเข้าพอร์ตไปอีก ถึงคราวคืนกำไรไปก็อย่าใจเสียจนไม่กล้าเทรดต่อ เพราะจะทำให้ระบบรวน การตัดสินใจขยายหรือลดพอร์ตการลงทุนควรทำอย่างมีแผนการ ทำแล้วก็ใช้ในระยะเวลาที่นานพอควร อย่างน้อย 1 ปี จึงค่อยปรับพอร์ตการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง อย่าปรับไปปรับมาเพราะจะมีผลต่อระดับกำไร ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเพิ่มหรือลดพอร์ตเนื่องจากยังไม่จบคลื่นใหญ่
พอร์ตการลงทุนของ โครงการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ บำนาญสร้างเองของลุงแมวน้ำ ปรับปรุงยอด ณ 31/03/2010 แล้ว สามารถคลิกดูได้ที่เมนูด้านขวาใต้สารบัญ
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 801.15 จุด ลดลง 0.17 ถือว่าดัชนียืนเหนือ 800 จุดได้แล้ว ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 30
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย น้ำมันขึ้นต่อแต่ทองแกว่งไปมา แต่เมื่อดูเครื่องมือ directional movement (dx) แล้วถือว่ายังอยู่ในภาวะไร้ทิศทางทั้งคู่
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
S50 ทำกำไร 364% ขณะที่ยางพาราทำกำไรได้ 704% เห็นแล้วยังไม่ต้องดีใจไป เพราะเมื่อสัญญาณขายมาถึงกำไรอาจลดน้อยลงกว่านี้ก็ได้ อีกทั้งเมื่อตอนช่วงคืนกำไรมาถึง กำไรก็จะหดลงไปอีก ตัวเลขเหล่านี้และระยะเวลาที่เทรดไปอย่างต่อเนื่องคือการฝึกใจอย่างหนึ่ง เป็นการฝึกอุเบกขาธรรม ได้มากก็อย่าโลภจนอัดเงินเข้าพอร์ตไปอีก ถึงคราวคืนกำไรไปก็อย่าใจเสียจนไม่กล้าเทรดต่อ เพราะจะทำให้ระบบรวน การตัดสินใจขยายหรือลดพอร์ตการลงทุนควรทำอย่างมีแผนการ ทำแล้วก็ใช้ในระยะเวลาที่นานพอควร อย่างน้อย 1 ปี จึงค่อยปรับพอร์ตการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง อย่าปรับไปปรับมาเพราะจะมีผลต่อระดับกำไร ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเพิ่มหรือลดพอร์ตเนื่องจากยังไม่จบคลื่นใหญ่
พอร์ตการลงทุนของ โครงการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ บำนาญสร้างเองของลุงแมวน้ำ ปรับปรุงยอด ณ 31/03/2010 แล้ว สามารถคลิกดูได้ที่เมนูด้านขวาใต้สารบัญ
01/04/2010
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 801.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.34 ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 29
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ PSL ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อ ITD
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีหั่งเส็ง (Hang Seng Index, HSK) ของฮ่องกงเกิดสัญญาณซื้อ ดัชนีตลาดต่างประเทศทั้ง 12 ตลาดในรายงานเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดแล้ว
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ PSL ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อ ITD
สำหรับกลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีหั่งเส็ง (Hang Seng Index, HSK) ของฮ่องกงเกิดสัญญาณซื้อ ดัชนีตลาดต่างประเทศทั้ง 12 ตลาดในรายงานเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดแล้ว
Subscribe to:
Posts (Atom)