Tuesday, July 24, 2012

สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ 16/07/2012 - 20/07/2012 * คลื่นย่อย 3 ของคลื่นคลื่น C ใหญ่



วันนี้เป็นวันแรกที่ลุงแมวน้ำเริ่มใช้เว็บบล็อกรูปโฉมใหม่ หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นตา ลุงแมวน้ำเองก็ไม่คุ้นหมือนกัน คลำหาเมนูแบบใหม่อยู่ตั้งนานกว่าจะพอใช้ได้

ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก ขอสารภาพว่าลุงแมวน้ำเล่นซนน่ะ คลิกโน่นคลิกนี่ไปเรื่อย จนไปเปลี่ยนเทมเพลตของบล็อกเข้า ก็เลยกลายเป็นแบบนี้ แถมเปลี่ยนถาวรเสียด้วย กู้คืนไม่ได้ ลุงลองพยายามกู้คืนแล้วใช้เวลาไปโข แต่กู้ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย คิดเสียว่าโลกก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ที่จริงลุงแมวน้ำน่าจะพูดสร้างภาพเสียหน่อยนะ บอกว่าทำให้บล็อกดูทันสมัย มีการเปลี่ยนแปลง มากกว่าที่จะบอกว่าคลิกผิดแล้วแก้กลับคืนไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะ บอกไปแล้วนี่ ^_^

วันนี้ลุงแมวน้ำเขียนอะไรมากไม่ทันครับ เพราะเสียเวลาไปการการคลำเมนูการใช้งานแบบใหม่ ได้แต่เอาภาพมาให้ดู ลุงแมวน้ำขอสรุปในสัปดาห์ที่ผ่านมา (16/07/2012 ถึง 20/07/2012) พร้อมกับเมื่อวาน 23/07/2012 ไปพร้อมกันเลยละกัน

ตลาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันขึ้นแรง สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องความวุ่นวายในซีเรียกับเรื่องเดิมคืออิหร่าน บวกกับการปั่นตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อเก็งกำไร ทั้งน้ำมันดิบและสินค้าเกษตรขึ้นแรง ส่วนตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกัน 10 ปี ลดลงอีก ค่าเงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าเล็กน้อย เงินยูโรอ่อนตัวลงเล็กน้อย

จนมาถึง 23/07/2012 ตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกปรับตัวลงแรงพอควร เนื่องจากมีข่าวว่ารัฐบาลท้องถิ่นของแคว้นวาเลยเซียของสเปนต้องขอรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเพราะขาดสภาพคล่อง พูดง่ายๆคือถังแตกแล้ว ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมา อัตรผลตอบแทนพันธบัตรสเปนจึงพุ่งเกิน 7% ซึ่งถือว่าอันตรายแล้ว หุ้น และน้ำมัน สินค้าเกษตรจึงถูกเทขาย ยกเว้นทองคำที่ยังทรงตัวอยู่

หากมองในแง่การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตอนนี้โลกน่าจะเข้าสู่คลื่น 3 ในคลื่น B ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีเกิดช่องที่เรียกว่า falling window และยังเกิดแท่งเทียนดำใหญ่ (big black candle) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ดังในภาพ ตลาดหุ้นและน้ำมันดิบไหลลงแล้ว ยางพาราก็ไหล ทองคำเข้าถึงปลายสามเหลี่ยมชายธงพอดี ปกติเมื่อถึงปลายชายธง หากไม่ขึ้นแรงก็ลงแรง แต่ลุงแมวน้ำคิดว่าคงลงแรงมากกว่า เพราะดอลลาร์ สรอ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีก

วันนนี้คุยกันสั้นๆก่อน แต่อยากให้ลองพิจารณาตารางสรุปข้าล่างของบทความดู น่าจะพอเห็นสัญญาณอะไรหลายๆอย่างทีเดียว







No comments: