ตอนนี้เข้าสู่โหมดวิตกกังวล (อีกแล้ว) ความกังวลก็เรื่องเดิมๆ คือกลุ่มยุโรปกลับมากังวลเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะโดยตัวละครเปลี่ยนจากกรีซมาเป็นสเปนและอิตาลี ทางด้านสหรัฐอเมริกาก็กังวลว่าเมื่อไม่มี QE3 แล้วเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะฟื้นไม่ไหว ข่าวดีมีอยู่เล็กน้อย คือ เกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธล้มเหลว และกรณีพิพาทเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านมีแนวโน้มว่าจะพูดคุยกันได้ จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
ดัชนีโลก Dow Jones Global index (W1DOW) ซึ่งเฉลี่ยจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง -1.6% ดัชนีโลกอีกดัชนีหนึ่งคือ MSCI All Country World Index ก็ลดลงประมาณ -1.5% ดัชนีตลาดหุ้นกลุ่มยุโรป Dow Jone Europe Index (E1DOW) -2.0%
ดัชนีตลาดหุ้นกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเฉลี่ยในรอบสัปดาแล้วปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว คือ +0.2% ส่วนดัชนีตลาดกลุ่มอาเซียน FTSE ASEAN USD Index (ดูแทนด้วย ASEAN.L) ปรับตัวลงนิดหน่อย -0.3% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นซวนเซอีกครั้งจากผลประกอบการขาดทุนของบริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น นั่นคือ โซนี มิตซูบิชิ โดยถูกแบรนด์เกาหลีชิงตลาดไปมาก สะท้อนถึงความเสียเปรียบในการแข่งขันกับเกาหลีที่นับวันจะยิ่งเสียตลาดไปมากขึ้น
ตลาดหุ้นที่ขึ้นแรงในรอบสัปดาห์ ได้แก่ ตลาดหุ้นเวเนซุเอลา และตลาดหุ้นสโลวีเนีย +3.8% ทั้งคู่ ตลาดหุ้นที่ลงแรงเป็นตลาดหุ้นในยุโรปทั้งสิ้น คือ ตลาดหุ้นอิตาลี สเปน ฟินแลนด์ และฮังการี -5.0% ลงแรงรองลงมาคือ ตลาดหุ้นเยอรมนีและฝรั่งเศส -3% ส่วนตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ SETi ปรับตัวลง -1.1% ต่างชาติเริ่มขายสุทธิแล้ว
ทางด้านตลาดพันธบัตร ดูจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี มีทั้งที่อัตราผลตอบแทนลดลง และที่เพิ่มขึ้น กระจายกันไป พันธบัตรที่อัตราผลตอบแทนลดลง ได้แก่ กรีซ สหรัฐอเมริกา สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก เยอรมนี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีน ฯลฯ ส่วนพันธบัตรที่อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ได้แก่ สเปน โปรตุเกส ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในรอบสัปดาห์เพิ่มขึ้นประมาณ 0.02 จุด (basis point)
ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ในรอบสัปดาห์แนวโน้มค่อนไปทางปรับตัวลดลง ที่ปรับตัวเพิ่มมีเพียงไม่กี่สินค้า เช่น โกโก้ (CC) +4.2% ฝ้าย (CT) +3.2% ทองคำ (GC) +1.7% ส่วนที่ปรับตัวลง เช่น น้ำตาล (SB11) -4.9% ข้าวโพด -4.6% กาแฟ (KC) และข้าวสาลี (W) -2.5% ทั้งคู่ ส่วนน้ำมันดิบ wti คงที่ แต่น้ำมันดิบเบรนต์ -1.3% ดัชนีสินค้าเกษตร DJUBSAG ตลอดสัปดาห์ปรับตัวลง -1.8% ส่วนยางพาราลงหนักหน่อย -3.6%
ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ในรอบสัปดาห์ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD index) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย -0.3% เงินตราสกุลยุโรปก็อ่อนค่าลงเล็กน้อยเช่นกัน เงินยูโร -0.15% ฟรังก์สวิส -0.25% ดอลลาร์สิงคโปร์กับเงินเยนแข็งค่ามากที่สุด +0.9% รองลงมาเป็นเงินบาทและดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.7%
ค่าเงินเช้านี้ 17/04/2012 (รายงานวันเทรดที่ 16/04/2012)
สำหรับวันที่ 16/04/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปิดแดงแต่ว่าลงไม่มาก ยกเว้นดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นที่ลงแรงกว่าเพื่อน -1.7% ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ
ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นปิดกระจาย จับทิศทางไม่ออก มีทั้งขึ้นและลง ดัชนี DAX ของเยอรมนี +0.6% ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและบราซิลส่วนใหญ่กระดานแดงตั้งแต่ต้นตลาดจึงถึงปิดตลาด ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐไม่พร้อมใจกัน คือดัชนี S&P 500 ปิดแดง ดัชนี Nasdaq ก็ปิดแดง ส่วนอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ปิดเขียว +0.6%
เช้านี้ (17/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 79.6 จุด เงินยูโร 1.312 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 80.5 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 30.80 บาท/ดอลลาร์ สรอ
น้ำมันดิบ wti 103.1 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 118.5 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1652 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์
วันพรุ่งนี้ลุงแมวน้ำจะนำเอาภาพการนับคลื่นของดัชนี SETi มาให้ดูกันครับ ลองประเมินดูว่าตอนนี้ยังลงทุนได้หรือไม่
กราฟแสดงความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญบางสกุลรวมทั้งทองคำ
ตารางหุ้น ฟิวเจอร์ส และกองทุนรวม และค่าสถิติต่างๆ
No comments:
Post a Comment