Sunday, April 1, 2012

เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ ปลูกมะลิกันดีกว่า



วันหยุดนี้อันที่จริงแล้วลุงแมวน้ำทำขนมปังใหม่ๆร้อนๆอีกปอนด์หนึ่ง ให้พลังงานต่ำกว่าสูตรที่แล้วอีก แต่ยังไม่เอามาคุยดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าลุงแมวน้ำเห็นแก่กิน พูดแต่เรื่องกิน ^_^ วันนี้ลุงแมวน้ำคุยเรื่องต้นไม้ ต้นไม้ที่ลุงแมวน้ำอยากชวนให้ปลูกกันในวันหยุดนี้ก็คือมะลิ

มะลินั้นในชื่อทั่วไปในภาษาอังกฤษเรียกว่า jasmine เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย คือหากตัดแต่งทรงพุ่มให้อยู่เป็นพุ่มก็ได้ แต่หากปล่อยให้เลื้อยก็เลื้อยได้ ทรงพุ่มขนาดกลาง

มะลินั้นมีหลายพันธุ์ เช่น มะลิลา มะลิซ้อน มะลิฉัตร มะลิวัลย์ มะลิเลื้อย มะลิเขี้ยวงู ฯลฯ ที่จริงมะลินั้นมีพันธุ์เยอะมาก เอกสารหลายฉบับสันนิษฐานว่ามะลิมีถิ่นกำเนิดแถบโลกอาหรับในเอเชีย คือแถวๆเปอร์เซียนั่นเอง ทั้งนี้ สันนิษฐานจากชื่อ เพราะว่า Jamine นั้นมาจากภาษาอาหรับว่า yasmine หมายถึงของขวัญจากพระเจ้า รวมทั้งมะลิบางพันธุ์ก็มีชื่อออกไปทางอาหรับ อย่างเช่น มะลิลา นั้นภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Arabian jasmine ดังนั้นบางคนจึงสันนิษฐานเอาว่ามะลิมาจากเอเชียตะวันออก แต่จากหลักฐานทางวิชาการบ่งชี้ว่าถิ่นกำเนิดของมะลินั้นน่าจะอยู่ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่เอง พูดง่ายๆก็คือแถวๆอินเดีย ไทย มาเลเซีย ฯลฯในย่านนี้นั่นเอง นอกจากนี้มะลิยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย ที่จริงดอกไม้ดังของโลกไม่ว่าจะเป็นกุหลาบ มะลิ ทิวลิป ล้วนแต่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียนี่เอง อย่างทิวลิปนี่ชาวเนเธอแลนด์ก็ได้พันธุ์ไปจากตุรกี

คนไทยคุ้นเคยกับมะลิมาช้านาน อาหารขนมไทยมากมายที่ใช้น้ำลอยดอกมะลิเป็นองค์ประกอบ อย่างเช่นข้าวแช่ที่เป็นของกินเล่นแต่โบราณนั่นไง อากาศร้อนๆกินข้าวแช่หอมมะลิกรุ่น ชื่นใจอย่าบอกใคร ใบชาที่ผสมดอกมะลิหรือที่เรียกว่าชามะลิ (jasmine tea) นั้นก็มีรสชาติชื่นใจกว่าใบชาธรรมดา ราคาแพงกว่าใบชาธรรมดาด้วย อ้าว วกมาเรื่องกินอีกแล้ว ^^

มะลินั้นยังเป็นยาสมุนไพรด้วย ใช้ได้ทั้งราก ใบ และดอก สรรพคุณทางยาไทยของดอกมะลินั้นใช้บำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น พิกัดยาไทยที่เรียกว่าเกสรทั้งห้าหรือเบญจเกสรนั้น (เกสรทั้งห้าประกอบด้วยดอกมะลิ พิกุล บุนนาค สารพี และบัวหลวง) นำมาใช้ทำเป็นยาหอม อีกทั้งในทางสุคนธบำบัด (aromatherapy) ของฝรั่งนั้นก็ถือว่าน้ำมันหอมระเหยของดอกมะลิเป็นธาตุน้ำ มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายอารมณ์ บรรเทาความตึงเครียด ลดอาการซึมเศร้า ฯลฯ น้ำมันหอมระเหยของดอกมะลินั้นแพงมาก แพงพอๆกับน้ำมันหอมระเหยกุหลาบ กิโลกรัมหนึ่งราคาสองแสนกว่าบาทถึงสี่แสนกว่าบาท แล้วแต่เกรดของน้ำมันหอมระเหย ดังนั้นพวกสบู่ แชมพู น้ำหอมต่างๆ น้ำมันนวด น้ำมันหอมระเหยใส่ตะเกียง ฯลฯ รวมทั้งกลิ่นผสมอาหารหรือน้ำหวานที่ระบุว่าแต่งกลิ่นมะลินั้นเป็นกลิ่นมะลิสังเคราะห์ทั้งนั้น ไม่ได้ใส่น้ำมันหอมระเหยของมะลิลงไปจริงๆเนื่องจากแพงมากนั่นเอง ที่จริงไม่ใช่แพงแต่น้ำมันหอมระเหยมะลิ ดอกมะลิสดยามหน้าแล้งก็แพงเอาเรื่องเหมือนกัน ซื้อขายกันเป็นกระป๋องลิตร ราคาลิตรละหลายร้อยบาททีเดียว

น้ำมันหอมระเหยมะลินั้นส่วนใหญ่นิยมสกัดจากมะลิพันธุ์มะลิก้านแดง (Jasminum grandiflorum Linn.) รองลงมาก็สกัดมาจากมะลิฝรั่งเศส (Jasminum officinale ชื่อไทยว่ามะลิฝรั่งเศสแต่ชื่อทั่วไปในภาษาอังกฤษเรียกว่า Spanish jasmine หรือมะลิสเปน ไหงเป็นยังงั้นไปได้)

เนื่องจากมะลินั้นถือเป็นสุดยอดของน้ำมันหอมระเหยซึ่งแพงและหายาก อย่ากระนั้นเลย เรามาปลูกเองดีกว่า ประหยัดเงินได้หลายแสนบาททีเดียว ^_^

มะลิที่ลุงแมวน้ำชอบปลูกและอยากแนะนำให้ปลูกกันนั้นคือมะลิลา (ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Jasminum sambac (L.) Aiton ชื่อทั่วไปคือ Arabian jasmine) เพราะว่ามีกลิ่นหอม เลี้ยงง่าย อีกทั้งออกดอกบ่อยและดก มะลินั้นขยายพันธุ์ได้ง่าย เพียงแค่เอากิ่งที่มีอายุโตพอควรมาปักชำก็ขึ้นแล้ว ส่วนมะลิซ้อนนั้นออกดอกน้อยกว่า กลิ่นก็ไม่หอมแรงเท่ามะลิลา ลุงแมวน้ำจึงไม่ค่อยได้ปลูก มีมะลิอีกพันธุ์หนึ่งที่ลุงแมวน้ำปลูกเอาไว้คือมะลิจันทบูร กลิ่นหอม ดอกดก แต่วันนี้พูดกันเฉพาะมะลิลาก่อน

มะมิลานั้นเลี้ยงไม่ยาก ชอบดินร่วน น้ำพอควร อย่าให้ถึงกับแฉะ แดดพอควร ปลูกในกระถางก็ได้ อย่างเช่นในภาพ ลุงแมวน้ำปลูกมะลิในกระถางขนาด 6 นิ้วซึ่งเป็นกระถางขนาดเล็ก ใช้วัสดุปลูกไร้ดิน คือไม่มีดินอยู่ในกระถางเลย ส่วนใหญ่เป็นพวกอินทรียวัตถุ ทำให้น้ำหนักเบา ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีเลยแต่ดอกก็ยังดก เห็นดอกที่ติดอยู่ตามต้นในภาพไหม ภาพนี้ถ่ายตอนเก็บดอกมาแล้วหลายวัน คือช่วงนี้บานทุกวันเลย ได้วันละ 5-10 ดอก แต่ยังบานไม่หมด คงเก็บได้อีกหลายวัน ต้นนี้กิ่งก้านแผ่ไปเยอะ เลื้อยไปตามต้นไม้อื่นแล้ว ต้นจริงทรงพุ่มใหญ่กว่าที่เห็นในรูปอีก ที่จริงไม่ควรปล่อยให้โตจนเลื้อยขนาดนี้ ควรตัดแต่งทรงพุ่มบ้างจะได้ออกดอกดี แต่ลุงแมวน้ำไม่ค่อยได้ดูแลเลยในช่วงนี้ ตั้งแต่น้ำท่วมนั่นแหละ นี่ขนาดไม่ดูแลยังให้ดอกได้ขนาดนี้ ถ้าดูแลดีก็ออกดอกได้เรื่อยๆ


เมื่อออกดอกก็เด็ดเอามาไว้ในห้อง เพียงแค่ไม่กี่ดอกวางในห้องแอร์ก็ทำให้หอมกรุ่นไปทั้งห้อง ลุงแมวน้ำชอบเอามาตั้งไว้ที่โต๊ะทำงาน กลิ่นหอมอ่อนๆชื่นใจดี หรือจะลอยน้ำแล้วดื่มเป็นน้ำลอยดอกมะลิก็ได้ ปลูกเองดื่มได้สบายใจไม่ต้องกลัวยาฆ่าแมลง อีกทั้งประหยัดเงินได้เป็นแสนบาทเพราะไม่ต้องซื้อน้ำมันหอมระเหย อันนี้มองโลกในแง่ดี :-)

ใครที่อยู่คอนโด ปลูกมะลิลาไว้สักสองต้น หางจระเข้สักต้น รางจืดสักต้น ใช้เนื้อที่ไม่มากแต่ได้ประโยชน์สูง ที่ลุงแมวน้ำมักเน้นถึงการปลูกในคอนโดมิเนียมเพราะคิดว่ายุคสมัยนี้คนหนุ่มสาววัยทำงาน หากทำงานอยู่ในเมืองก็คงพักอาศัยในคอนโดกันมาก บางคนก็คิดว่าพื้นที่ระเบียงมีนิดเดียวคงทำอะไรไม่ได้ ที่จริงทำได้ ปลูกสมุนไพรไม้หอมไว้บ้างก็ไม่เลว ใช้กระถางใบเล็กๆก็ปลูกได้แล้ว หากปลูกด้วยวัสดุปลูกไร้ดินก็น้ำหนักเบา ยกไปมาสะดวก อีกทั้งไม่เลอะเทอะเวลารดน้ำด้วย วันหลังจะคุยเรื่องวัสดุปลูกไร้ดินให้ฟัง เผื่อใครสนใจจะได้เอาไปทำได้

ลุงแมวน้ำเด็ดดอกมะลิมาจากสวนตั้งแต่เช่ามืด เอาไปวางไว้ข้างๆโขดหิน อากาศเช้านี้เย็นสบาย นอนดมกลิ่นดอกมะลิสบายใจเชียว รอให้สว่างอีกสักนิดลุงแมวน้ำจะไปออกกำลังกายสักหน่อย ไปว่ายน้ำในบึงที่สวนลุมดีกว่า ^_^

อ้อ ปล. รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไรเอ่ย ที่ลุงแมวน้ำเล่ามานี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะคร้าบ ไม่ได้หลอก อย่าเข้าใจผิดว่าลุงแมวน้ำมาอำ

1 comment:

Unknown said...

ชอบปลูกมะลิลาเหมือนกันค่ะ ปลูกไว้ตรงระเบียงหอมชื่นใจจริง ^^
อยากรู้เรื่องวัสดุปลูกไร้ดินจังเลยค่ะ
เผื่อเอาไปใช้บ้าง