Thursday, May 12, 2011

11/05/2011 * ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนกว่าราคาหุ้นจริงหรือไม่ (2)

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,100.48 จุด เพิ่มขึ้น 14.92 จุด ดัชนีปรับตัวขึ้นหลายวันติดต่อกันแล้ว

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 31 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายกาแฟ (KC) และมีสัญญาณซื้อ KBank

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดหุ้นแถบอเมริกาปิดแดงเป็นส่วนใหญ่ ด้านยุโรปและเอเชียปิดเขียวและแดงคละกันแต่ดูเหมือนตลาดที่ปิดเขียวจะมีมากกว่าที่ปิดแดงเล็กน้อย


ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวนกว่าราคาหุ้นจริงหรือไม่ (2)


หลังจากที่ลิงชิมแปนซีได้ดูตารางแสดงการกระจายความถี่ของความเปลี่ยนแปลงในราคาทองคำแล้วตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา ความถี่ของราคาปิดที่เปลี่ยนแปลงในช่วง -1% ถึง 1% (ดูที่บรรทัด sum -1% to 1%) มีน้อยลง อันแสดงถึงว่าราคาปิดที่ขึ้นแรงหรือลงแรงกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์มีมากขึ้น ยิ่งในช่วงปี 2006 ถึง 2010 ค่าความถี่ในช่วงดังกล่าวได้ลดลงจนเหลือ 58.06% แสดงว่าผันผวนของราคาทองคำรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยผ่านมา

ลิงชิมแปนซีดูตารางของลุงแมวน้ำ ทำเสียงจึ๊กจั๊กแล้วพูดว่า

“โอ้โฮ ยังงี้นี่เอง ที่แท้ราคาทองคำผันผวนมาก มิน่าล่ะ เห็นขึ้นลงทีละหลายสิบดอลลาร์”

ลุงแมวน้ำจึงล้วงเอากระดาษอีกใบหนึ่งออกมาจากหูกระต่าย

“นายจ๋อคงแปลกใจที่ลุงจะบอกว่าราคาทองคำไม่ได้ผันผวนอะไรมากมายนัก แค่ผันผวนพอๆกับหุ้นไทยเท่านั้นเอง ไม่เชื่อก็ลองไปดูตารางแสดงความผันผวนของดัชนีเซ็ตสิ แล้วจะเห็นว่ารูปแบบของการแจกแจงความถี่ไม่ได้ต่างกัน”

“ลุงๆ หูกระต่ายของลุงนี่ไปเอามาจากไหนน่ะ ดูแหล่มมากเลย” ลิงหันมาสนใจหูกระต่ายของลุงแมวน้ำแทน “ไหน มีข้าวผัดกระเพราสักจานไหม ล้วงออกมาให้กินหน่อยสิ”

“พูดเป็นเล่น จะมีได้ยังไง มีแต่กล้วยหอม เอ้า เอาไปกินก่อน” ว่าแล้วลุงแมวน้ำก็ล้วงกล้วยหอมออกมาจากหูกระต่ายให้ลิงชิมแปนซีกิน

“แล้วลุงมีอะไรให้ดูอีกบ้าง เอาออกมาให้หมดเลยดีกว่า ดึงมาทีละแผ่นไม่ทันใจวัยรุ่นเลย” ลิงบ่น

“เรื่องมากจริงนายจ๋อนี่” ลุงแมวน้ำบ่นบ้าง แต่ก็ล้วงเอากระดาษอีกหลายแผ่นออกมา พลางอธิบายทีละแผ่น

“แผ่นนี้คือตารางแสดงการกระจายความถี่ของราคาปิดโลหะเงินหรือซิลเวอร์ (silver, SI) แม้ว่าทองคำกับเงินจะเป็นโลหะมีค่าเหมือนกัน แต่นักลงทุนในบ้านเราอาจไม่ค่อยคุ้นเคยเท่ากับทองคำเนื่องจากในบ้านเราผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการลงทุนในทองคำมีมากกว่า ทั้งทองรูปพรรณ ทองแท่ง กองทุนทองคำ ตั๋วทอง ฟิวเจอร์สทองคำ ฯลฯ แต่อีกไม่นานเราก็จะมีฟิวเจอร์สเงินให้เทรดกันแล้ว ต่อไปเรานักลงทุนไทยคงคุ้นเคยกับโลหะเงินนี้มากขึ้น แต่ลองมาดูตารางนี้กันก่อน”



“เห็นไหมว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรมาราคาเงินก็ผันผวนกว่าทองคำ ดูได้จากค่า sum -1% to 1% และ sum -2% to 2% ไล่ตั้งแต่ปี 1991 มาก็เห็นว่าราคาเงินผันผวนกว่าแล้ว ยิ่งมาในช่วงปี 2006-2010 ราคาเงินยิ่งผันผวนหนัก ค่า sum -1% to 1% ลดลงเหลือประมาณ 40.10% เท่านั้น และดูการกระจายของความถี่ในช่วงร้อยละต่างๆจะเห็นว่าราคาเงินแกว่งแรงกว่าราคาทองคำมาก ซึ่งการแกว่งแรงแบบนี้หากใช้สัญญาณซื้อขายตามระบบมักเกิดสัญญาณหลอก รวมทั้งหากขาดทุนจะเข้าเนื้อลึกมาก ผลิตภัณฑ์อะไรที่ราคาแกว่งแรงเกินไปมักไม่เหมาะกับการเทรดตามระบบสัญญาณราคาปิด”

จากนั้นลุงแมวน้ำก็นำกระดาษอีก 3 แผ่นมาอธิบายต่อไป

“เอาละ เมื่อดูตารางการกระจายความถี่นี้จนคุ้นแล้ว คราวนี้ลองมาดูความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ (CL) ยางพารา (Tocom rubber) กับข้าวสาลี (W) ดูบ้าง”









จากนั้นลุงแมวน้ำก็ล้วงเอากระดาษใบสุดท้ายออกมาจากหูกระต่าย

“สำหรับตารางสุดท้ายนี้คือตารางสรุป โดยลุงนำราคาผลิตภัณฑ์ต่างๆในช่วงปี 2006-2010 มาแจกแจงความถี่เทียบกัน จะได้เห็นได้ถนัดว่าใครแรงกว่าใคร มีผลิตภัณฑ์ที่นำมาเทียบกันก็คือ SETI, น้ำมันดิบ (CL), ยางพาราตลาดโตคอม, ทองคำ (GC), เงิน (SI), ข้าวสาลี (W), ข้าวโพด (C), และน้ำตาลทราย (SB) นายจ๋อลองบอกลุงหน่อยสิว่าใครแรงกว่าใคร”




ลิงดูกระดาษ พลิกกลับไปกลับมาชั่วครู่ แล้วทำหน้างง “ยังดูไม่รู้เรื่องเลยลุง ลุงสรุปให้หน่อยสิ”

“เฮ้อ กลุ้มใจ” ลุงแมวน้ำถอนหายใจ “ในความเห็นของลุง ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่นำมาเทียบกันนี้ ราคาทองคำกับดัชนี SETI ผันผวนพอๆกัน แล้วผันผวนน้อยกว่าเพื่อนในกลุ่ม ที่ผันผวนมากที่สุดในกลุ่มน่าจะเป็นข้าวสาลี ที่แรงรองลงมาได้แก่ น้ำมันดิบ เงิน และน้ำตาล ส่วนยางพารากับข้าวโพดแรงน้อยลงมาอีกนิด”

“โห นี่ขนาดยางพาราผมว่าแรงแล้วนะ ที่แท้ข้าวสาลีกับน้ำมันดิบผันผวนแรงกว่า สินค้าโภคภัณฑ์นี่น่ากลัวแฮะ” ลิงพูด

“ดังนั้นลุงจึงเห็นว่าน้ำมันดิบนั้นเทรดด้วยระบบสัญญาณซื้อขายได้ยาก ลองไปดูข้อมูลในพอร์ตจำลองที่เว็บบล็อกของลุงก็ได้ เทรดมาตั้งปีสองปี ป่านนี้ยังขาดทุนจมหูเลย” ลุงแมวน้ำพูด “หากจะเทรดสินค้าพวกแรงๆ เช่น น้ำมันดิบ ไม่ว่าจะถือฟิวเจอร์สหรือถือกองทุนก็ตาม ต้องมีเทคนิคเพิ่มเติมขึ้นมาอีก คนที่ลงทุนในกองทุนน้ำมันคงเข้าใจดีว่าน้ำมันนั้นเทรดยาก นักลงทุนที่ทนราคาผันผวนของกองทุนน้ำมันไม่ไหวยอมขายขาดทุนไปก็มาก”

“ไหนขาดทุนจมหู ลุงแมวน้ำมีหูกับเขาที่ไหน คริ คริ” ลิงชะโงกมองที่ศีรษะของลุงแมวน้ำแล้วหัวเราะ “ว่าแต่ใช้เทคนิคอะไรเทรดกองทุนน้ำมันล่ะลุง”

“ไม่บอกล่ะ” ลุงแมวน้ำพูด “วันนี้เมื่อยแล้ว เอาไว้วันหลังค่อยว่ากัน”





1 comment:

เด็กน้อยออกเดินทาง said...

รอฟังเทคนิคเทรดสินค้าที่แกว่งมากอย่างน้ำมันดิบนะครับ เผื่อยางพาราแกว่งมากขึ้น จะได้ทราบเทคนิคว่าต้องปรับระบบอย่างไร ขอบคุณล่วงหน้าครับคุณลุงแมวน้ำ