Thursday, June 12, 2014

12/06/2014 กรณีศึกษา TRUE, ADVANC, DTAC วิเคราะห์เทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน



หุ้น TRUE


“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด ลุงแมวน้ำช่วยด้วยยยยย” เสียงกรีดร้องดังลั่น จนลุงแมวน้ำที่แอบงีบหลับอยู่ที่ข้างๆโขดหินตกใจตื่นและรีบออกมาดู

“อ้าว แม่ยีราฟนั่นเอง เกิดอะไรขึ้น ไฟไหม้เหรอ” ลุงแมวน้ำเห็นเป็นยีราฟสาวจอมมัธยัสถ์ ยืนหน้าซีดน้ำลายย้อยอยู่

“เปล่า ไฟไม่ได้ไหม้” ยีราฟตอบ “แต่พอร์ตของฉันไหม้ แดงแจ๋เลย กรี๊ดดดดดด”

เสียงกรีดร้องของยีราฟดังประมาณ 120 เดซิเบล จนลุงแมวน้ำหูอื้อ

“เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ พอร์ตแดงคืออะไร นี่แม่ยีราฟซื้อหุ้นเหรอ” ลุงแมวน้ำงง

“ใช่จ้ะลุง ฉันเพิ่งซื้อหุ้น ADVANC เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง พอซื้อก็ลงเลย สองวันนี้ลงไป 5% แล้ว” ยีราฟสาวโวย “ต้องโทษลิงจ๋อ แนะนำให้ฉันซื้อ”

“อ้าว จะไปโทษนายจ๋อได้ยังไง เงินของแม่ยีราฟ แม่ยีราฟตัดสินใจเอง กฎสำคัญของการลงทุนคืออย่าโทษใคร” ลุงแมวน้ำบอก

“จ้ะ จ้ะ ไม่โทษก็ได้ ว่าแต่ฉันจะทำยังไงดี” ยีราฟพูดพลางสะอื้น “นายจ๋อบอกว่าพื้ฐานเปลี่ยนไปแล้ว ให้ขาย ADVANC แล้วรีบไปซื้อ TRUE”

ช่วงสองสามวันมานี้หุ้นสื่อสารใหญ่ นั่นคือ TRUE, DTAC, ADVANC ขึ้นลงแรง ข่าวที่ปรากฏตามสื่อก็คือ หุ้น TRUE มีการเพิ่มทุนและมีพันธมิตรใหม่มาร่วมทุนด้วย นั่นคือ บริษัทสื่อสารใหญ่ของจีน ไชนาโมบาย (China Mobile) หลังจากที่เพิ่มทุนเรียบร้อยแล้วไชนาโมบายจะถือหุ้น TRUE ประมาณ 18% เงินที่เพิ่มทุนจะนำไปใช้คืนเงินกู้และใช้ในการดำเนินธุรกิจ บทวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่าพื้นฐานของหุ้น TRUE เปลี่ยนไปเมื่อได้พันธมิตรที่เข้มแข็งมาร่วมถือหุ้นด้วย รวมทั้งน่าจะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากอีกสองค่ายมาได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีข่าวอื่นประกอบอีก เช่น  DTAC เพิกถอนหุ้นจากตลาดหุ้นสิงคโปร์ รวมทั้งข่าวที่ว่า DTAC ถูกเพ่งเล็งเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ หากพบว่ามากเกินกำหนดก็จะไม่สามารถเข้าประมูลคลื่นความถี่ได้

ขณะเดียวกัน หุ้น ADVANC, DTAC อันเป็นหุ้นสื่อสารอีกสองค่ายที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันก็ร่วงแรงพอสมควร

“แล้วแม่ยีราฟซื้อหุ้นนี่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนยังไงบ้างล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ฉันอยากถือไปนานๆเพื่อกินเงินปันผลจ้ะ นายจ๋อบอกว่าหุ้นนี้จ่ายปันผลสม่ำเสมอและดีกว่าฝากธนาคาร” ยีราฟตอบ “เขาบอกว่าฉันควรเป็นแนววีไอ”

“นั่นแน่” ลุงแมวน้ำขำ “นายจ๋อเนี่ยนะแนะนำให้ลงทุนแนววีไอ”

“ใช่จ้ะ” ยีราฟตอบ

“ก่อนอื่น ลุงอยากบอกแม่ยีราฟว่าการลงทุนนั้นอย่าเชื่ออะไรเขาบอก ต้องใช้กาลามสูตร นั่นคือ อย่าฟังเขาเล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นสายวิเคราะห์ด้วยเทคนิคหรือสายปัจจัยพื้นฐานก็ต้องเลือกหุ้นด้วยตนเองได้” ลุงแมวน้ำพูด “เพราะหากฟังแต่คนอื่น เมื่อใดที่พลาดพลั้ง เงินน่ะเงินแม่ยีราฟเองนะ”

“จ้ะๆ” ยีราฟรีบรับปาก “ลุงอย่าเพิ่งเทศนาฉันเลย แนะนำฉันหน่อยว่าควรทำยังไง”

“ลุงจะอธิบายง่ายๆละกัน หากเป็นสายวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สัญญาณซื้อขาย รวมทั้งแม่ยีราฟต้องการลงทุนระยะสั้น ก็ว่าไปตามสัญญาณซื้อขาย แต่หากแม่ยีราฟคิดถือยาวๆ แม่ยีราฟก็ควรวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก เราลองมาดูกัน เอ้า ดูนี่”

ว่าแล้วลุงแมวน้ำก็หยิบเอากราฟของ TRUE ออกมาจากหูกระต่าย กางให้ยีราฟดู


หุ้น TRUE



“เราเริ่มกันที่หุ้น TRUE ก่อนละกัน แม่ว่าแม่ยีราฟไม่ได้ถืออยู่ แต่ว่าเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องกัน

“ในทางเทคนิค TRUE หลุดจากสามเหลี่ยมชายธงกรอบใหญ่ลงมาข้างล่าง ตามหลักการทางเทคนิคแล้ว ราคาน่าจะลงต่อ แต่เมื่อมีปัจจัยใหม่เข้ามา รูปแบบทางเทคนิคก็เปลี่ยนไป ล่าสุด หลังจากที่มีข่าวเรื่องไชนาเทเลคอม ก็เกิดแท่งเทียนขาวใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนเมื่อวานนี้เป็นรูปแบบดาวตก (shooting star) รวมทั้งเกิดช่อง (gap) ด้วย อย่าเพิ่งย่ามใจว่าแท่งเทียนขาวกับแก๊ปแปลว่าขาขึ้นแน่ๆ ควรรอดูอีกสักสองสามวัน เนื่องจากรูปแบบนี้ต่อไปอาจราคาอาจถอยลงมาปิดช่อง หรืออาจเป็นเกาะลอย (island of reversal) อันเป็นสัญญาณบ่งชี้การกลับทิศเป็นขาลงก็มีโอกาสได้เช่นกัน ดังนั้นต้องรอดูไปก่อน

“หากมองทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจุบัน TRUE มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 26.23 เท่า ขาดทุนสะสมประมาณ 6 หมื่นล้าน ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 24.5%

“ตอนนี้เท่าที่ลุงรู้ ดีลนี้ยังไม่จบ เนื่องจากยังไม่ได้ลงเงินกัน โอกาสเปลี่ยนยังมี นอกจากนี้ หุ้นนี้ขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน มียอดขาดทุนสะสมอยู่มาก และไม่ได้จ่ายเงินปันผลมานานหลายปีแล้ว ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งในอนาคตไชนาเทเลคอมมีบทบาทถือหุ้น 18% ถือว่าสัดส่วนไม่มากนัก จะเข้ามามีบทบาทในการบริหารอย่างไร และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้หรือไม่ หรือในทางใด เรื่องนั้นเรายังไม่กระจ่าง ดังนั้นจึงยังบอกไม่ชัดเจนว่าความสามารถในการทำธุรกิจในอนาคตว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ดังนั้นหากจะบอกว่าพื้นฐานเปลี่ยนไป ลุงว่าพูดตอนนี้ยังเร็วเกินไปสักหน่อย”

จากนั้นลุงแมวน้ำก็หยิบกราฟหุ้น DTAC ออกมา


หุ้น DTAC


“ในทางเทคนิค ราคา DTAC ร่วงและเกิดช่องขาลงหรือ falling window แต่ว่าแท่งเทียนที่ตามมาเป็นแท่งเทียนขาวใหญ่ แสดงว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามา ดังนั้นก็ต้องดูต่อไปอีกสองสามวัน หากราคาขึ้นมาปิดช่องได้ สภาพขาลงก็ถูกหักล้างไป

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน DTAC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.95 เท่า กำไรสะสมประมาณ 5,500 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 31.3%

“หุ้นนี้มีกำไรและจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ชัดว่าหุ้น DTAC เสียความสามารถในการแข่งขันไป ศักยภาพในการทำธุรกิจนี่สำคัญนะแม่ยีราฟ หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่

จากนั้น ลุงแมวน้ำก็ดึงเอากราฟหุ้น ADVANC ออกมาจากหูกระต่าย


หุ้น ADVANC


“เอาล่ะ ทีนี้ก็มาถึงตัวสำคัญที่ทำให้แม่ยีราฟร้องกรี๊ดมา หุ้น ADVANC ในทางเทคนิค ราคาหุ้นเป็นแนวโน้มขาลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ไม่กี่วันนี้ราคาเกิดแก๊ปขาลง แท่งเทียนถัดมายังไม่มีอะไร แต่ถัดมาอีกแท่งราคาไหลลงแต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา หน้าตาเป็นแบบค้อน (hammer)  ที่ลำตัวยาวหน่อย ในทางเทคนิคดูไม่ค่อยดีจริงๆด้วย แต่ก็ควรดูต่อไปอีกสักสองสามวัน ว่าราคาจะกลับขึ้นมาปิดแก๊ปได้หรือไม่

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน ADVANC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 2.03 เท่า กำไรสะสมประมาณ 12,600 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 35.2%

“หุ้นมีกำไรและจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง ปันผลก็งามพอควร นี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตเช่นกัน หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่ หลายเดือนมานี้มีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ จากนั้นยังมาเจอเรื่องไชนาโมบายอีก แต่ก็ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าความสามารถเสียไป

“สรุปว่าฉันควรทำอย่างไรจ๊ะลุง” ยีราฟถาม

“สรุปว่าแม่ยีราฟควรตัดสินใจเองจ้ะ” ลุงแมวน้ำตอบ

“ก็ฉันตัดสินใจไม่ถูกน่ะลุง” ยีราฟทำหน้าเบ้เหมือนกับจะร้องไห้ พร้อมกับอ้าปากกว้าง

“อย่าเพิ่งร้องกรี๊ดนะ” ลุงแมวน้ำรีบอุดหู “นี่แหละ ชีวิตและการลงทุน แม่ยีราฟต้องเรียนรู้และตัดสินใจเอง ถือเป็นบทเรียนละกัน ในทางเทคนิคแบบใช้สัญญาณซื้อขาย ตอนนี้ก็เกิดสัญญาณขายแล้ว เห็นแท่งสีแดงในกราฟไหม ก็ต้องว่าไปตามระบบ แต่ก็นั่นแหละ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง สัญญาณซื้อขายก็อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ การกลับเข้าไปซื้อใหม่ย่อมมีต้นทุนจากการซื้อขายและการเสียจังหวะ

“ส่วนในทางปัจจัยพื้นฐานสถานการณ์ตอนนี้ถือว่ายังฝุ่นตลบอยู่ หุ้นทั้งสามตัวแม่ยีราฟก็เปรียบเทียบความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตได้ ส่วนในอนาคตนั้น ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน พื้นฐานทางธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนภายในชั่วข้ามคืนหรอก ลุงว่าอย่าเพิ่งร้อนใจ รอดูอีกสักนิดให้ฝุ่นหายตลบก่อนก็ได้ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ เพราะเมื่อถึงวันที่แม่ยีราฟตัดสินใจได้ก็อาจเสียหายมากกว่าตัดสินใจในวันนี้ แต่การลงทุนในระยะยาวก็เป็นแบบนี้แหละ แม่ยีราฟต้องมีหัวใจของเถ้าแก่อยู่ด้วยหน่อยๆ 

“ทุกแนวทางมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ไม่มีอะไรดีพร้อมหรอก นี่แหละ ที่ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ที่สำคัญคือแม่ยีราฟต้องยึดหลักให้มั่น จะยึดแนวทางใด ก็หมั่นศึกษาหาความรู้ไว้ด้วย”

No comments: