ในครั้งก่อนลุงแมวน้ำเล่าเรื่องเกี่ยวกับบางกะเจ้า ปอดสีเขียวใกล้กรุงเทพฯพอเป็นสังเขปแล้ว วันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวบางกะเจ้ากัน
ก่อนอื่น ลุงขอเท้าความก่อนว่า บางกะเจ้านั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยา ดังนั้น ผู้ที่จะไปเที่ยวบางกะเจ้าจึงสามารถเลือกทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ตั้งแต่ เดินเล่นชมสวนสาธารณะ ชมเรือกสวนแบบดั้งเดิม ดูนก ผีเสื้อ และพรรณไม้ต่างๆ ชมชีวิตความเป็นอยู่แบบอนุรักษ์ ชมตลาดน้ำ เลือกซื้อสินค้า ขี่จักรยานออกกำลังกาย ตลอดไปจนถึงพักแรมแบบโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและเพื่อการพักผ่อน ฯลฯ
เห็นไหมว่าการไปเที่ยวบางกะเจ้านั้นสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง การเดินทางก็สามารถไปได้หลายทาง แต่ที่ลุงแมวน้ำจะพาพวกเราไปเที่ยวกันในวันนี้เป็นการไปขี่จักรยานเล่นเพื่อออกกำลังกายและเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ไปแบบครึ่งวัน ใช้ขนส่งมวลชน ไม่ต้องนำพาหนะไปเอง
สู่บางกะเจ้า ตั้งต้นกันที่คลองเตย
ลุงแมวน้ำจะตั้งต้นที่คลองเตย แล้วพาพวกเรานั่งเรือข้ามฟากไป ลุงจะเล่าด้วยภาพก็แล้วกัน ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลัง
ออกเดินทางกันได้เลยคร้าบ
การผจญภัยของลุงแมวน้ำในวันนี้ใช้เส้นทางคลองเตยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปบางกะเจ้า
ข้างบนเป็นแผนที่ ย่านคลองเตย มายังไงก็ได้ ให้มาถึงคลองเตยก็แล้วกัน จากนั้นไปตั้งหลักที่หน้าวัดคลองเตยนอก สำหรับลุง แนะนำว่ารถเมล์สาย 4, ปอ 4 รถผ่านหน้าวัด หรือจะนั่งรถเมล์สาย 47 ก็ได้ อู่รถเมล์สาย 47 อยู่ข้างๆวัดนั่นเอง
นี่เป็นบรรยากาศหน้าวัดคลองเตยนอก อยู่ใกล้กรมศุลกากร ขอย้ำว่าท่าเรือที่ข้ามไปบางกะเจ้านั้นอยู่ที่วัดลองเตยนอก นะคร้าบ เนื่องจากมีวัดคลองเตยในด้วย ชื่อคล้ายๆกัน อยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย อย่าหลงไปที่วัดคลองเตยใน
ที่หน้าวัดคลองเตยนอกเป็นด่านของทางด่วนด้วย ใช้เป็นจุดสังเกตได้
จากริมถนนใหญ่ เดินเข้ามาในซอยวัดคลองเตยนอก เลียบกำแพงวัดมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าไปในวัด สักครู่เดียวก็จะเดินมาจนสุดทางซึ่งเป็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเรืออยู่ตรงนี้แหละ ซื้อตั๋วก่อนนะคร้าบ คนละ 10 บาท
เรือที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งตรงข้าม (ฝั่งตรงข้ามคือบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง) มีสองชนิด หากเป็นเรือใหญ่จะมาเป็นรอบๆ วันหนึ่งมีไม่กี่รอบ หากเป็นเรือเล็กก็คือเรือหางยาวดังที่เห็นในรูป นั่งได้เต็มลำ 5 คน แต่ว่าไม่ต้องรอครบห้าคนหรอก คนเดียวหรือสองคนก็ออกแล้ว ไม่ต้องคอยนาน แทบจะออกเรือทันทีเลยก็ว่าได้
เอาละ ขึ้นเรือได้ ระวังนิดหนึ่งนะคร้าบ ไม่ตกน้ำหรอก ลุงยังไม่เคยเห็นนักท่องเที่ยวตกน้ำเลย ^_^
เมื่อไปถึงฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยา นั่นแหละ ถึงบางกะเจ้าแล้ว ตรงท่าเรือนั้นมีร้านจักรยานให้เช่าอยู่ เช่าที่นั่นแล้วขี่ปร๋อไปเลย คิดค่าเช่าเหมาวันละ 100 บาท กี่ชั่วโมงก็ได้ ร้านจักรยานให้เช่านี้ปกติเปิดเช้า ประมาณ 8-9 โมง ไม่ได้มีเวลาทำการเป๊ะๆหรอก
วันนั้นลุงแมวน้ำไปถึงประมาณ 6 โมงครึ่ง ยังเช้าตรู่อยู่เลย ร้านจักรยานให้เช่ายังไม่เปิด >.<
ไม่เป็นไร ทุ่มทุนอีกนิดหน่อย ยังมีจุดให้เช่าจักรยานอีกจุดหนึ่ง อยู่ที่หน้าสวนศรีฯ ลุงก็นั่งมอเตอร์ไซค์ วินอยู่ที่ท่าเรือนั่นเอง นั่งไปที่หน้าสวนศรีฯ 15 บาท หรือจะเดินก็ได้ ก็สักสิบหน้านาที ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่อย่าเดินเลย เช้าๆแบบนี้น่าขี่จักรยาน สายๆแล้วแดดร้อน ทำเวลาหน่อยดีกว่า
อ้อ ขอแถมอีกหน่อย วินมอเตอร์ไซค์นี้ไปได้ทั่วบางกะเจ้า หากอยากไปช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวก็นั่งมอเตอร์ไซค์ตรงไปที่ตลาดน้ำเลยก็ได้ ราคามาตรฐาน มีป้ายบอกราคาติดอยู่ที่วิน
เส้นทางจักรยาน เริ่มต้นที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
ลุงก็ควบมอเตอร์ไซค์มาลงที่หน้าสวนสาธารณะ ชื่อ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ แต่ชาวบ้านเรียกสั้นๆว่าสวนศรีฯ ยังมีร้านจักรยานให้เช่าอีกเจ้าหนึ่ง (ที่จริงเจ้าของเดียวกัน) ร้านนี้ลุงเจ้าของร้านพักอยู่ที่ร้านนี้เลย ลุงแมวน้ำก็ไปเรียกที่หน้าบ้านเอาหน่อย แกก็ออกมาต้อนรับและจัดจักรยานให้ ^_^
สังเกตดูในรูป จะเห็นว่าที่ถนนทางเข้าสวนศรีฯนั้นมีรถยนต์มาจอดเรียงรายอยู่หลายคัน รถเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักปั่นจักรยานที่นำเอาจักรยานของตนเองใส่รถมา และมาขี่ท่องเที่ยวในบางกะเจ้า ใครสะดวกจะนำจักรยานมาเองก็ขับรถมาจอดที่หน้าสวนแล้วปั่นจักรยานท่องเที่ยวก็ได้
ร้านจักรยานที่หน้าสวนนี้คิดค่าเช่าวันละ 100 บาทเช่นกัน หรือจะเช่าเป็นรายชั่วโมงก็ได้ มีอัตราชั่วโมงละ 30 บาทให้เลือกด้วย เพราะจุดนี้ผู้เช่าจักรยานมักขี่เที่ยวในสวนศรีฯมากกว่าที่จะออกไปข้างนอก สวนก็ไม่ใหญ่มาก ขี่เดี๋ยวเดียวก็ทั่วแล้ว ดังนั้นจึงมีอัตรารายชั่วโมงให้เลือกด้วย
เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบใหญ่ (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้) |
เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบกลาง (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้) |
เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบเล็ก (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้) |
ชนบทในฝัน
ลุงแมวน้ำเลือกขี่ในเส้นทางวงรอบเล็ก เป็นระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร โดยลุงวางแผนว่าจะขี่วนเป็นวงกลมจากสวนศรีฯไปจนถึงตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จากนั้นก็ขี่วนกลับมา ไม่ได้ไปจนถึงสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์หรอก ก็ประยุกต์เส้นทางเอาหน่อย ลุงวางแผนเอาไว้ว่าขี่ชมบางกะเจ้าก่อน จากนั้นจึงค่อยมาขี่เที่ยวภายในสวนศรีฯเป็นลำดับสุดท้าย
เอาละคร้าบ ลุงแมวน้ำพร้อมแล้ว แมวน้ำขี่จักรยาน ออกเดินทางกันเลย ^_^
เส้นทางจักรยานจากสวนศรีฯมุ่งหน้าไปตลาดบางน้ำผึ้งนี้ ในช่วงนี้ยังเป็นซอยย่อยต่างๆ คือเป็นซอยเพชรหึงษ์ต่างๆ ยังไม่ได้ออกสู่ถนนใหญ่หรือถนนเพชรหึงษ์ รถยนต์น้อยมาก ขี่จักรยานได้อย่างปลอดภัย
คำว่าเพชรหึงษ์นี้มีทั้งเพชรและมีทั้งหึง ไม่ใช่เรื่องหึงหวงอะไรหรอก คำนี้ปรากฏอยู่ในวรรณคดี หมายถึงลมพายุชนิดหนึ่ง มีความรุนแรง เรียกว่าลมเพชรหึงษ์ ส่วนชื่อถนนเพชรหึงษ์นี้ไม่ได้มาจากลมเพชรหึงษ์ แต่ว่ามาจากชื่อป้อมเพชรหึงษ์อันเป็นป้อมโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ในบางกะเจ้านั่นเอง
บรรยากาศในบางกะเจ้าบางส่วนยังเป็นสวนชนบทอยู่ ดูสงบ ร่มเย็น สวนแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว แต่ที่ปล่อยเป็นสวนร้างไม่ได้ทำอะไรก็มีเยอะทีเดียว ต้นไม้แถวนี้ต้นเป็นไม้น้ำกร่อย คือทนน้ำเค็มได้ เช่น มะพร้าว ต้นจาก ฯลฯ ผลไม้อื่นๆที่ปลูกได้ เช่น มะกอก ตะลิงปลิง กล้วย ชมพู่มะเหมี่ยว และมะม่วง
ภาพพระออกบิณฑบาตรยามเช้าราวกับในชนบทต่างจังหวัดที่ห่างไกลออกไปจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ยิ่งชวนให้รู้สึกสงบ ร่มเย็น นิมนต์คร้าบ นิมนต์
ลึกๆเข้าไปมีแต่สวน ก็เปลี่ยวเหมือนกัน ยามกลางคืนเล่าเรื่องผีคงน่ากลัวอยูไม่น้อย สมัยก่อน ชนบทอยู่กันหลวมๆแบบนี้แหละ ยามกลางคืน ต้นจาก ต้นตาล ทอดเงาตะคุ่มสูงปรี๊ด ชาวชนบทก็นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ เล่าเรื่องผีสู่กันฟังน่ากลัวพิลึก ขนลุกขนพอง สาวๆร้องกรี๊ด เอามือปิดตา (แต่ถ่างนิ้วนิดหน่อย) แต่สมัยนี้อยู่กันอย่างแออัด เล่าเรื่องผีไม่ได้บรรยากาศเลย เฉยมาก >.<
อาชีพในท้องถิ่นบางกะเจ้า ทำการค้าเล็กๆน้อยๆอยู่ในชุมชน บ้านนี้รับปักเสื้อนักเรียน
เมื่อมีร้านรับปักเสื้อนักเรียน แสดงว่าแถวนี้ต้องมีโรงเรียน นี่ โรงเรียนอยู่นี่ เป็นโรงเรียนที่อยู่คู่กับชุมชน
อาชีพท้องถิ่นอื่นๆก็ยังมี อาชีพมาตรฐานโลกนั่นก็คือ ร้าวโชว์ห่วยหรือว่าร้านขายของชำ หลายๆคนก็เริ่มคิดกันว่าเมื่อเปิดเออีซีแล้วร้านเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ที่จริงไม่ค่อยเกี่ยวกับเออีซีหรอก เพราะแม้ไม่มีเออีซี ร้านเหล่านี้ก็เผชิญภัยคุกคามจากร้านสะดวกซื้ออยู่แล้ว
นี่ๆ ชนบทสุดๆ เหมือนในต่างจังหวัดเลย (ที่จริงบางกะเจ้าก็ต่างจังหวัดนั่นแหละ แต่ว่าบังเอิญอยู่ติดกรุงเทพฯ) ปั๊มน้ำมันนี้เป็นปั๊มที่พัฒนามาจากปั๊มน้ำมันหลอดแบบเก่า ที่เห็นหลอดสายยางติดตั้งบนถังน้ำมันแดงๆนั่นแหละ ปั๊มน้ำมันหลอดยังพอเห็นได้บ้าง แต่เหลือน้อยแล้ว เนื่องจากพัฒนามาเป็นตู้ที่เห็นในรูปนี้แทน
ที่เห็นในภาพนี้เรียกว่า ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ หยอดเหรียญแล้วเติมน้ำมันเอาเอง น้ำมันจะไหลออกมาตามจำนวนเงินที่หยอด เป็นที่นิยมในต่างจังหวัดยุคนี้ และสินค้าตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้เป็นสินค้าในกลุ่มหยอดเหรียญที่สร้างกำไรให้แก่หุ้น SINGER อย่างงดงาม
นี่ก็เป็นร้านกาแฟท้องถิ่น แต่ว่าแต่งให้โมเดิร์นหน่อย ก็ดูน่ารัก กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศดีเหมือนกัน
นี่เป็นร้านอาหารระดับหรูในบางกะเจ้า
นี่แหละ ชนบทบางกะเจ้า ปอดของกรุงเทพฯ สงบร่มเย็น น่าเที่ยว แต่นี่เป็นส่วนที่อยู่ในซอยเพชรหึงษ์ หากขี่จักรยานเลยออกไปอีกจะเข้าสู่ถนนใหญ่ และไปถึงตลาดบางน้ำผึ้ง ภาพชนบทแบบนี้ก็จะเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้เห็นแบบนี้อีก เอาไว้สัปดาห์หน้าไปเที่ยวกันต่อนะคร้าบ ^_^