Sunday, June 29, 2014

29/06/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เติมฝันวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า (2)





ในครั้งก่อนลุงแมวน้ำเล่าเรื่องเกี่ยวกับบางกะเจ้า ปอดสีเขียวใกล้กรุงเทพฯพอเป็นสังเขปแล้ว วันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวบางกะเจ้ากัน

ก่อนอื่น ลุงขอเท้าความก่อนว่า บางกะเจ้านั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยา ดังนั้น ผู้ที่จะไปเที่ยวบางกะเจ้าจึงสามารถเลือกทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ตั้งแต่ เดินเล่นชมสวนสาธารณะ ชมเรือกสวนแบบดั้งเดิม ดูนก ผีเสื้อ และพรรณไม้ต่างๆ ชมชีวิตความเป็นอยู่แบบอนุรักษ์ ชมตลาดน้ำ เลือกซื้อสินค้า ขี่จักรยานออกกำลังกาย ตลอดไปจนถึงพักแรมแบบโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและเพื่อการพักผ่อน ฯลฯ

เห็นไหมว่าการไปเที่ยวบางกะเจ้านั้นสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง การเดินทางก็สามารถไปได้หลายทาง แต่ที่ลุงแมวน้ำจะพาพวกเราไปเที่ยวกันในวันนี้เป็นการไปขี่จักรยานเล่นเพื่อออกกำลังกายและเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ไปแบบครึ่งวัน ใช้ขนส่งมวลชน ไม่ต้องนำพาหนะไปเอง



สู่บางกะเจ้า ตั้งต้นกันที่คลองเตย


ลุงแมวน้ำจะตั้งต้นที่คลองเตย แล้วพาพวกเรานั่งเรือข้ามฟากไป ลุงจะเล่าด้วยภาพก็แล้วกัน ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลัง

ออกเดินทางกันได้เลยคร้าบ






การผจญภัยของลุงแมวน้ำในวันนี้ใช้เส้นทางคลองเตยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปบางกะเจ้า

ข้างบนเป็นแผนที่ ย่านคลองเตย มายังไงก็ได้ ให้มาถึงคลองเตยก็แล้วกัน จากนั้นไปตั้งหลักที่หน้าวัดคลองเตยนอก สำหรับลุง แนะนำว่ารถเมล์สาย 4, ปอ 4 รถผ่านหน้าวัด หรือจะนั่งรถเมล์สาย 47 ก็ได้ อู่รถเมล์สาย 47 อยู่ข้างๆวัดนั่นเอง





นี่เป็นบรรยากาศหน้าวัดคลองเตยนอก อยู่ใกล้กรมศุลกากร ขอย้ำว่าท่าเรือที่ข้ามไปบางกะเจ้านั้นอยู่ที่วัดลองเตยนอก นะคร้าบ เนื่องจากมีวัดคลองเตยในด้วย ชื่อคล้ายๆกัน อยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย อย่าหลงไปที่วัดคลองเตยใน

ที่หน้าวัดคลองเตยนอกเป็นด่านของทางด่วนด้วย  ใช้เป็นจุดสังเกตได้





จากริมถนนใหญ่ เดินเข้ามาในซอยวัดคลองเตยนอก เลียบกำแพงวัดมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าไปในวัด สักครู่เดียวก็จะเดินมาจนสุดทางซึ่งเป็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเรืออยู่ตรงนี้แหละ ซื้อตั๋วก่อนนะคร้าบ คนละ 10 บาท





เรือที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งตรงข้าม (ฝั่งตรงข้ามคือบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง) มีสองชนิด หากเป็นเรือใหญ่จะมาเป็นรอบๆ วันหนึ่งมีไม่กี่รอบ หากเป็นเรือเล็กก็คือเรือหางยาวดังที่เห็นในรูป นั่งได้เต็มลำ 5 คน แต่ว่าไม่ต้องรอครบห้าคนหรอก คนเดียวหรือสองคนก็ออกแล้ว ไม่ต้องคอยนาน แทบจะออกเรือทันทีเลยก็ว่าได้

เอาละ ขึ้นเรือได้ ระวังนิดหนึ่งนะคร้าบ ไม่ตกน้ำหรอก ลุงยังไม่เคยเห็นนักท่องเที่ยวตกน้ำเลย ^_^





เมื่อไปถึงฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยา นั่นแหละ ถึงบางกะเจ้าแล้ว ตรงท่าเรือนั้นมีร้านจักรยานให้เช่าอยู่ เช่าที่นั่นแล้วขี่ปร๋อไปเลย คิดค่าเช่าเหมาวันละ 100 บาท กี่ชั่วโมงก็ได้ ร้านจักรยานให้เช่านี้ปกติเปิดเช้า ประมาณ 8-9 โมง ไม่ได้มีเวลาทำการเป๊ะๆหรอก

วันนั้นลุงแมวน้ำไปถึงประมาณ 6 โมงครึ่ง ยังเช้าตรู่อยู่เลย ร้านจักรยานให้เช่ายังไม่เปิด >.<





ไม่เป็นไร ทุ่มทุนอีกนิดหน่อย ยังมีจุดให้เช่าจักรยานอีกจุดหนึ่ง อยู่ที่หน้าสวนศรีฯ ลุงก็นั่งมอเตอร์ไซค์ วินอยู่ที่ท่าเรือนั่นเอง นั่งไปที่หน้าสวนศรีฯ 15 บาท หรือจะเดินก็ได้ ก็สักสิบหน้านาที ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่อย่าเดินเลย เช้าๆแบบนี้น่าขี่จักรยาน สายๆแล้วแดดร้อน ทำเวลาหน่อยดีกว่า

อ้อ ขอแถมอีกหน่อย วินมอเตอร์ไซค์นี้ไปได้ทั่วบางกะเจ้า หากอยากไปช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวก็นั่งมอเตอร์ไซค์ตรงไปที่ตลาดน้ำเลยก็ได้ ราคามาตรฐาน มีป้ายบอกราคาติดอยู่ที่วิน



เส้นทางจักรยาน เริ่มต้นที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์


ลุงก็ควบมอเตอร์ไซค์มาลงที่หน้าสวนสาธารณะ ชื่อ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ แต่ชาวบ้านเรียกสั้นๆว่าสวนศรีฯ ยังมีร้านจักรยานให้เช่าอีกเจ้าหนึ่ง (ที่จริงเจ้าของเดียวกัน) ร้านนี้ลุงเจ้าของร้านพักอยู่ที่ร้านนี้เลย ลุงแมวน้ำก็ไปเรียกที่หน้าบ้านเอาหน่อย แกก็ออกมาต้อนรับและจัดจักรยานให้ ^_^

สังเกตดูในรูป จะเห็นว่าที่ถนนทางเข้าสวนศรีฯนั้นมีรถยนต์มาจอดเรียงรายอยู่หลายคัน รถเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักปั่นจักรยานที่นำเอาจักรยานของตนเองใส่รถมา และมาขี่ท่องเที่ยวในบางกะเจ้า ใครสะดวกจะนำจักรยานมาเองก็ขับรถมาจอดที่หน้าสวนแล้วปั่นจักรยานท่องเที่ยวก็ได้

ร้านจักรยานที่หน้าสวนนี้คิดค่าเช่าวันละ 100 บาทเช่นกัน หรือจะเช่าเป็นรายชั่วโมงก็ได้ มีอัตราชั่วโมงละ 30 บาทให้เลือกด้วย เพราะจุดนี้ผู้เช่าจักรยานมักขี่เที่ยวในสวนศรีฯมากกว่าที่จะออกไปข้างนอก สวนก็ไม่ใหญ่มาก ขี่เดี๋ยวเดียวก็ทั่วแล้ว ดังนั้นจึงมีอัตรารายชั่วโมงให้เลือกด้วย



เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบใหญ่ (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)


เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบกลาง (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)


เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบเล็ก (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)

เอาละ เมื่อเช่าจักรยานได้แล้วก็ออกเดินทางกัน ลุงนำเอาภาพแผนที่เส้นทางจักรยานรอบบางกะเจ้ามาให้ดูด้วย มี 3 เส้นทาง เป็นวงรอบใหญ่ กลาง และเล็ก วงรอบใหญ่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งวัด สวนกล้วยไม้ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ จุดตั้งต้นเส้นทางในแผนที่อยู่ที่สวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ ซึ่งเป็นส่วนขั้วปอดหรือขั้วกระเพาะหมูนั่นเอง (ด้านซ้ายมือของภาพ)



ชนบทในฝัน


ลุงแมวน้ำเลือกขี่ในเส้นทางวงรอบเล็ก เป็นระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร โดยลุงวางแผนว่าจะขี่วนเป็นวงกลมจากสวนศรีฯไปจนถึงตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จากนั้นก็ขี่วนกลับมา ไม่ได้ไปจนถึงสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์หรอก ก็ประยุกต์เส้นทางเอาหน่อย ลุงวางแผนเอาไว้ว่าขี่ชมบางกะเจ้าก่อน จากนั้นจึงค่อยมาขี่เที่ยวภายในสวนศรีฯเป็นลำดับสุดท้าย





เอาละคร้าบ ลุงแมวน้ำพร้อมแล้ว แมวน้ำขี่จักรยาน ออกเดินทางกันเลย ^_^





เส้นทางจักรยานจากสวนศรีฯมุ่งหน้าไปตลาดบางน้ำผึ้งนี้ ในช่วงนี้ยังเป็นซอยย่อยต่างๆ คือเป็นซอยเพชรหึงษ์ต่างๆ ยังไม่ได้ออกสู่ถนนใหญ่หรือถนนเพชรหึงษ์ รถยนต์น้อยมาก ขี่จักรยานได้อย่างปลอดภัย

คำว่าเพชรหึงษ์นี้มีทั้งเพชรและมีทั้งหึง ไม่ใช่เรื่องหึงหวงอะไรหรอก คำนี้ปรากฏอยู่ในวรรณคดี หมายถึงลมพายุชนิดหนึ่ง มีความรุนแรง เรียกว่าลมเพชรหึงษ์ ส่วนชื่อถนนเพชรหึงษ์นี้ไม่ได้มาจากลมเพชรหึงษ์ แต่ว่ามาจากชื่อป้อมเพชรหึงษ์อันเป็นป้อมโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ในบางกะเจ้านั่นเอง





บรรยากาศในบางกะเจ้าบางส่วนยังเป็นสวนชนบทอยู่ ดูสงบ ร่มเย็น สวนแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว แต่ที่ปล่อยเป็นสวนร้างไม่ได้ทำอะไรก็มีเยอะทีเดียว ต้นไม้แถวนี้ต้นเป็นไม้น้ำกร่อย คือทนน้ำเค็มได้ เช่น มะพร้าว ต้นจาก ฯลฯ ผลไม้อื่นๆที่ปลูกได้ เช่น มะกอก ตะลิงปลิง กล้วย ชมพู่มะเหมี่ยว และมะม่วง





ภาพพระออกบิณฑบาตรยามเช้าราวกับในชนบทต่างจังหวัดที่ห่างไกลออกไปจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ยิ่งชวนให้รู้สึกสงบ ร่มเย็น นิมนต์คร้าบ นิมนต์





ลึกๆเข้าไปมีแต่สวน ก็เปลี่ยวเหมือนกัน ยามกลางคืนเล่าเรื่องผีคงน่ากลัวอยูไม่น้อย สมัยก่อน ชนบทอยู่กันหลวมๆแบบนี้แหละ ยามกลางคืน ต้นจาก ต้นตาล ทอดเงาตะคุ่มสูงปรี๊ด ชาวชนบทก็นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ เล่าเรื่องผีสู่กันฟังน่ากลัวพิลึก ขนลุกขนพอง สาวๆร้องกรี๊ด เอามือปิดตา (แต่ถ่างนิ้วนิดหน่อย) แต่สมัยนี้อยู่กันอย่างแออัด เล่าเรื่องผีไม่ได้บรรยากาศเลย เฉยมาก >.<





อาชีพในท้องถิ่นบางกะเจ้า ทำการค้าเล็กๆน้อยๆอยู่ในชุมชน บ้านนี้รับปักเสื้อนักเรียน





เมื่อมีร้านรับปักเสื้อนักเรียน แสดงว่าแถวนี้ต้องมีโรงเรียน นี่ โรงเรียนอยู่นี่ เป็นโรงเรียนที่อยู่คู่กับชุมชน





อาชีพท้องถิ่นอื่นๆก็ยังมี อาชีพมาตรฐานโลกนั่นก็คือ ร้าวโชว์ห่วยหรือว่าร้านขายของชำ หลายๆคนก็เริ่มคิดกันว่าเมื่อเปิดเออีซีแล้วร้านเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ที่จริงไม่ค่อยเกี่ยวกับเออีซีหรอก เพราะแม้ไม่มีเออีซี ร้านเหล่านี้ก็เผชิญภัยคุกคามจากร้านสะดวกซื้ออยู่แล้ว





นี่ๆ ชนบทสุดๆ เหมือนในต่างจังหวัดเลย (ที่จริงบางกะเจ้าก็ต่างจังหวัดนั่นแหละ แต่ว่าบังเอิญอยู่ติดกรุงเทพฯ) ปั๊มน้ำมันนี้เป็นปั๊มที่พัฒนามาจากปั๊มน้ำมันหลอดแบบเก่า ที่เห็นหลอดสายยางติดตั้งบนถังน้ำมันแดงๆนั่นแหละ ปั๊มน้ำมันหลอดยังพอเห็นได้บ้าง แต่เหลือน้อยแล้ว เนื่องจากพัฒนามาเป็นตู้ที่เห็นในรูปนี้แทน

ที่เห็นในภาพนี้เรียกว่า ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ หยอดเหรียญแล้วเติมน้ำมันเอาเอง น้ำมันจะไหลออกมาตามจำนวนเงินที่หยอด เป็นที่นิยมในต่างจังหวัดยุคนี้ และสินค้าตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้เป็นสินค้าในกลุ่มหยอดเหรียญที่สร้างกำไรให้แก่หุ้น SINGER อย่างงดงาม




นี่ก็เป็นร้านกาแฟท้องถิ่น แต่ว่าแต่งให้โมเดิร์นหน่อย ก็ดูน่ารัก กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศดีเหมือนกัน





นี่เป็นร้านอาหารระดับหรูในบางกะเจ้า 


นี่แหละ ชนบทบางกะเจ้า ปอดของกรุงเทพฯ สงบร่มเย็น น่าเที่ยว แต่นี่เป็นส่วนที่อยู่ในซอยเพชรหึงษ์ หากขี่จักรยานเลยออกไปอีกจะเข้าสู่ถนนใหญ่ และไปถึงตลาดบางน้ำผึ้ง ภาพชนบทแบบนี้ก็จะเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้เห็นแบบนี้อีก เอาไว้สัปดาห์หน้าไปเที่ยวกันต่อนะคร้าบ ^_^

Wednesday, June 25, 2014

25/06/2014 การลงทุนหุ้นและกองทุนรวมในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ (healthcare industry) (4)



กำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของหุ้นในซับเซ็กเตอร์โรงพยาบาล ยา และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดีกว่าซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคเสียอีก อีกทั้งความผันผวนน้อยกว่า



หลังจากที่ลุงแมวน้ำดูดน้ำปั่นจนชื่นใจแล้วจึงคุยต่อ

“เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนแล้วล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ลุงดูดน้ำปั่นทีไรเป็นลืมเรื่องที่เราคุยกันทุกที” ลิงบ่น “ลุงบอกว่าในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพยังมีซับเซ็กเตอร์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีและเสียวไส้น้อยกว่าซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคโนโลยีไง”

“อ้อ ใช่ ลุงเล่าค้างไว้ตรงนั้นเอง” ลุงแมวน้ำพูดพลางดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากหูกระต่าย จากนั้นคลี่ออกแล้วพูดต่อ “เอ้า นายจ๋อ มาดูนี่



หุ้นโรงพยาบาล หุ้นยา และหุ้นวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์


“ตารางนี้เป็นข้อมูลทางปัจจัยพื้นฐานของซับเซ็กเตอร์ต่างๆในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ ข้อมูลนี้ลุงเอามาจาก Yahoo Industry Center ซึ่งทางยาฮูก็มีการจัดแบ่งซับเซ็กเตอร์ในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพแตกต่างไปจากที่ลุงแมวน้ำเคยยกตัวอย่างมาให้ดู แต่ก็ไม่เป็นไร แม้จะแบ่งซับเซ็กเตอร์ไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่ สามารถใช้ดูเป็นแนวทางได้

“ตารางนี้แสดงซับเซ็กเตอร์พร้อมกับขนาดมาร์เก็ตแคป ค่าพีอีเฉลี่ยของซับเซ็กเตอร์ รวมทั้งยังแสดงค่า ROE, dividend yield, และค่า net profit margin เฉลี่ยของซับเซ็กเตอร์อีกด้วย”

“แล้วดูยังไงล่ะลุง” ลิงถาม “มีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด ผมดูไม่ค่อยเข้าใจ”

“เมื่อนายจ๋อซื้อหุ้น เรื่องที่นายจ๋อให้ความสำคัญที่สุดในการเลือกหุ้นคืออะไรล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ก็ผลกำไรน่ะสิลุง ถามได้” ลิงตอบ

“ใช่แล้ว สิ่งที่นักลงทุนสนใจมากที่สุดก็คือเงินที่ลงทุนไปนั้นให้ผลตอบแทนได้มากน้อยเพียงใด” ลุงแมวน้ำตอบ “ในเชิงการเทรด ก็หมายถึงการที่เราซื้อหุ้นในราคาถูกแล้วขายได้ในราคาแพงๆ แต่ในเชิงการทำธุรกิจ ก็หมายถึงว่าธุรกิจนั้นเอาเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปดำเนินธุรกิจแล้วธุรกิจนั้นมีกำไรเมื่อเทียบกับเงินลงทุนแล้วเป็นอย่างไร”

“ก็ยังงงอยู่เลยลุง” ลิงทำหน้างงๆ

“ไม่เป็นไร ในชั้นนี้ลุงสรุปง่ายๆก็แล้วกันว่า เมื่อนักลงทุนพิจารณาหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ตัวเลขทางการเงินค่าหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจก็คือค่า ROE (return on equity) ซึ่งค่านี้แสดงกำไรสุทธิของกิจการหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น ค่านี้ถือกันว่ายิ่งสูงก็ยิ่งดี โดยทั่วไปนักลงทุนมักหาหุ้นที่มีค่า ROE เกินกว่า 15%  เพราะนั่นแปลว่าเงินลงทุนของเราให้ผลตอบแทนที่ดี” ลุงแมวน้ำพูด

“ลุงพูดสั้นๆ ง่ายๆ แบบนี้แต่แรกก็หมดเรื่อง” ลิงจ๋อยิ้มออกมาได้ พลางก้มหน้าดูในตาราง “ไหน ลุง แล้วกลุ่มไหนมีค่า ROE สูงๆบ้างล่ะ”

“นายจ๋อดูที่ซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคโนโลยีก่อน เห็นไหมว่า ROE ของซับเซ็กเตอร์นี้เฉลี่ยแล้วมีค่า 4.7% ในทางปัจจัยพื้นฐานถือว่าผลตอบแทนต่อเงินลงทุนยังไม่สูงนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าหุ้นในกลุ่มนี้แตกต่างกันมากนั่นเอง บางบริษัทก็ขาดทุนหนัก บางบริษัทก็กำไรมาก เฉลี่ยแล้วจึงได้ตัวเลขที่ดูไม่น่าประทับใจนัก” ลุงแมวน้ำอธิบาย “ทีนี้ลองดู 3 บรรทัดบนสุดของตารางนี้ เห็นไหมว่าค่า ROE เป็นอย่างไร”

“ว้าว” ลิงอุทาน “ซับเซ็กเตอร์โรงพยาบาล ค่า ROE สูงดีจัง ตั้ง 78.9%”

“สามบรรทัดแรกของตารางคือ 3 ซับเซ็กเตอร์ที่มีค่า ROE สูง คือให้ผลตอบแทนต่อเงินลงทุนสูง จะเห็นว่าโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนดีมาก คือ 78.9% รองลงมาคือซับเซ็กเตอร์ผู้ผลิตยารายใหญ่ มีค่า ROE 24.9% และตามด้วยซับเซ็กเตอร์ผู้ผลิตวัสดุทางการแพทย์ พวกที่ใช้แล้วทิ้งไป เช่น ชุดตรวจเบาหวาน ชุดตรวจการตั้งครรภ์ สายยาง เข็ม หลอดฉีดยา ฯลฯ ให้ค่า ROE 14.5% สามกลุ่มนี้ก็น่าลงทุนเช่นกัน” ลุงแมวน้ำพูด “หากดูจากตัวเลข สามกลุ่มที่ลุงว่านี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเงินลงทุนดีกว่ากลุ่มไบโอเทคอีก และราคาก็ผันผวนน้อยกว่า ผู้ที่ไม่ชอบความหวือหวาก็คงชอบ เพราะไม่ค่อยเสียวไส้ แต่หากชอบความตื่นเต้นผจญภัยก็ต้องไปกลุ่มไบโอเทค”

“เดี๋ยวก่อน ลุง นี่เป็นข้อมูลของตลาดหุ้นอเมริกานี่” ลิงจ๋อทักท้วง “แล้วผมจะเอามาใช้ประโยชน์อะไรได้ล่ะ”

“ได้สิ อย่าลืมว่านี่คือเมกะเทรนด์หรือเป็นกระแสโลก ตลาดหุ้นอื่นๆก็ยังสามารถยึดแนวทางนี้ได้ นั่นคือ หุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล ยา วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดี” ลุงแมวน้ำตอบ “และนอกจากนี้ เรายังสามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกหุ้นและกองทุนรวมได้อีกด้วย”

“งั้นเหรอครับ ถ้ายังงั้นขยายความต่อเลยลุง” ลิงจ๋อพูด “พูดถึงกำไรแล้วผมหายง่วงเลย”

“เดี๋ยวก่อน ลุงคอแห้ง...” ลุงแมวน้ำพูด แต่ยังไม่ทันจบประโยค

“โอ๊ย ไม่ต้องหยุดดูดน้ำปั่นแล้ว ลุงเล่าต่อก่อน กำลังอยากรู้” ลิงจ๋อดุ “ทำไมคอแห้งบ่อยจริง”

“อ้อ อ้อ อ้อ ยังไม่ดูดน้ำปั่นก็ได้ เฮ้อ...” ลุงแมวน้ำจ๋อย “ก็นี่แหละ ในตลาดหุ้นบ้านเราไม่มีหุ้นไบโอเทค มีแต่หุ้นโรงพยาบาล แต่จากข้อมูลนี้ลุงก็กำลังจะบอกว่าหุ้นโรงพยาบาลนี้ก็เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีไง ก็เลือกลงทุนได้ และนอกจากนี้ ตอนนี้เรายังมีหุ้นผู้ผลิตยา วิตามิน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้วด้วย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน  นอกจากนี้ เรายังมีกองทุนรวมในธีมสุขภาพที่ไปลงทุนในต่างประเทศด้วย 3 กองทุน เราก็ใช้หลักนี้ในการพิจารณาเลือกลงทุนได้”

“อ้อ ถ้ายังงั้นในบ้านเราก็มีหุ้นและกองทุนในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพให้เลือกพอสมควรเลยสินะ ถ้ายังงั้นมีหุ้นและกองทุนอะไรที่น่าลงทุนบ้างละลุง” ลิงจ๋อถาม

“ถามกันตรงๆแบบนี้เลยรึ” ลุงแมวน้ำหัวเราะ “ตอบตรงๆไม่ได้หรอก แต่เอาเป็นว่าลุงจะเล่าภาพกว้างของอุตสาหกรรมนี้ในเมืองไทยให้ฟังก็แล้วกัน”

“คร้าบ เชิญเลยลุง” ลิงจ๋อตอบ

“พูดถึงกลุ่มยา วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก่อนก็แล้วกัน เพราะมีหุ้นเพียงไม่กี่ตัว กลุ่มนี้เท่าที่ลุงนึกออกก็มีเพียง 2 หุ้น

หุ้น MEGA ผลิตยา ไวตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หุ้นนี้ทาง MSCI เลือกเข้าไปคำนวณดัชนี MSCI Small Cap Index ด้วย ตลาดหลักทรัพย์จัดให้ MEGA อยู่ในกลุ่มพาณิชย์ ดังนั้นบางคนจึงอาจนึกไม่ถึงว่าในอีกมุมหนึ่งก็เป็นหุ้นในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์

“กับอีกหุ้นหนึ่งคือ หุ้น APCO นี่ผลิตพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จัดอยู่ในกลุ่ม MAI ก็อยู่ในข่ายเฮลท์แคร์เช่นกัน”

“แล้วหุ้นโรงพยาบาลล่ะลุง บ้านเรามีหุ้นโรงพยาบาลอยู่ไม่น้อย แล้วจะเลือกยังไง” ลิงถาม

“ใช่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์บ้านเรามีหุ้นโรงพยาบาลอยู่ไม่น้อย โดยจัดอยู่ในกลุ่มการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลที่อยู่ในกลุ่ม MAI ด้วย ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในตลาดหลักทรัพย์ 16 แห่ง และที่ชวนให้งุนงงก็คือ หุ้นโรงพยาบาลเหล่านี้ถือหุ้นไขว้กันไปไขว้กันมาอีกด้วย กลายเป็นหุ้นในลักษณะเครือข่ายหรือพันธมิตรกัน” ลุงแมวน้ำพูด

“มีเครือข่ายไหนบ้างละครับ” ลิงจ๋อถาม

“ตอนนี้คนในวงการโรงพยาบาลก็พูดกันเล่นๆว่า โรงพยาบาลเอกชนมีอยู่แค่ 2 เครือข่าย คือ กลุ่มดุสิต กับกลุ่มนันดุสิต (non-dusit) คือหากจะมองกว้างๆก็มีแค่สองเครือข่ายแค่นี้แหละ คือ BGH และโรงพยาบาลที่ BGH ไปเทคโอเวอร์มาหรือไปถือหุ้นบางส่วน พวกนี้คือเครือดุสิต กับโรงพยาบาลอื่นๆที่กลุ่มดุสิตไม่ได้ถือหุ้น หรือถืออยู่น้อย ไม่ได้มีส่วนควบคุมการบริหาร ก็เรียกว่าเป็น non-dusit

“แต่ถ้าหากจะมองเป็นก๊กใหญ่ๆ ตอนนี้ก็น่าจะเป็น 3 ก๊ก คือ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BGH) อันประกอบด้วยโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) บำรุงราษฎร์ (BH) และโรงพยาบาลอื่นๆทั้งที่อยู่ในและนอกตลาดหลักทรัพย์อีกนับสิบโรงพยาบาล

“กับอีกกลุ่มคือ เครือโรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) ประกอบด้วย โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม (CMR) ศิขรินทร์ (SKR) วิภาราม แพทย์ปัญญา สินแพทย์ คือมีทั้งโรงพยาบาลทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน

“อีกกลุ่มคือ เครือบางกอกเชน (BCH) คือกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ การุญเวช และ WMC (World medical center)

“ข้อมูลเหล่านี้ไม่นิ่งนะนายจ๋อ กลุ่ม ก๊ก สัดส่วน เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะตอนนี้กลุ่มโรงพยาบาลไทยเทคโอเวอร์กันสนั่น หุ้นโรงพยาบาลเดิมทีเป็นหุ้นกลุ่มที่ทนต่อสภาพเศรษฐกิจ (defensive stock) โตไม่เร็วแต่ก็ไม่ลงแรง แต่ตอนนี้หุ้นโรงพยาบาลต้องนิยามกันใหม่แล้วว่าเป็นหุ้นเติบโตเร็ว (growth stock)  โรงพยาบาลใหญ่ มีโรงพยาบาลในเครือมาก พวกนี้บริหารแพทย์ บริหารต้นทุนได้ดี กำไรมาจากการลดต้นทุนด้วย พวกนี้ก็ราคาหุ้นขึ้นดีเพราะว่ากำไรเติบโตดี


เปรียบเทียบราคาหุ้นในรอบ 5 ปีของหุ้นโรงพยาบาลกรุงเทพฯ (BGH) เกษมราษฎร์ (BCH) และวิภาวดี (VIBHA) เทียบกันดัชนีเซ็ต (SET index) จะเห็นว่าหุ้นโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว ดีกว่าดัชนี ดังนั้น ในปัจจุบัน หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไม่ใช่หุ้นตั้งรับหรือ defensive stock แล้ว แต่ว่าเป็นหุ้นเติบโตสูง (growth stock)


“ส่วนพวกโรงพยาบาลเล็ก หรือโรงพยาบาลเดี่ยว ไม่มีเครือข่าย แม้ว่าผลประกอบการไม่ค่อยดี เนื่องจากต้นทุนสูง บริหารบุคลากรและบริหารต้นทุนให้ต่ำได้ยาก แต่ราคาหุ้นก็วิ่งดีเหมือนกัน เนื่องจากคาดหมายกันว่าสักวันหนึ่งอาจถูกเทคโอเวอร์ วันนี้ลุงพูดเฉพาะในภาพใหญ่ก่อน ลงรายละเอียดในตอนนี้ไม่ไหวเพราะว่าเยอะเหลือเกิน”

“ไม่เป็นไรครับลุง ผมฟังแล้วยังงงอยู่เหมือนกัน ลุงแมวน้ำพูดถึงกองทุนรวมด้วยดีกว่า” ลิงจ๋อซักต่อ



กองทุนรวมสุขภาพ (กองทุนรวมเฮลท์แคร์)


“กองทุนรวมโดยทั่วไปที่ลงทุนในหุ้นไทยมักมีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลอยู่ด้วย แต่ กองทุนรวมที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์โดยตรง ตอนนี้มีเพียง 2 กองทุน และเป็นกองทุนประเภท FIF (foreign investment fund) คือไปลงทุนในต่างประเทศทั้งสองกองทุนเลย นั่นคือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) ของค่ายบัวหลวง กับ กองทุนเปิดภัทร โกลบอล เฮลธ์แคร์ (PHATRA GHC) และ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้ปันผล (KF-HEALTHD)

“รายละเอียดเป็นยังไงบ้างละลุง สามกองทุนนี้ต่างกันยังไง” ลิงจ๋อถาม

“โอย ลุงคอแห้ง ไม่ไหวแล้ว ขอดูดน้ำปั่นก่อนค่อยเล่าต่อ” ลุงแมวน้ำพูด

Tuesday, June 24, 2014

24/06/2014 ตลาดอ่อนแรง พลังงานทดแทนอันตราย ส่งออกอ่อนไหว ปิโตรเคมี ถ่านหิน โภคภัณฑ์ ต้องรอจีน



วันนี้เรามาอัปเดตตลาดกันคร้าบ

ก่อนอื่นคงต้องมาดูกันที่ปัจจัยมหภาคกันก่อน ดูภายนอกแล้วค่อยมาดูภายใน

สำหรับสถานการณ์โลก ขณะนี้เกิดความไม่สงบที่อิรัก กลุ่ม ISIL อันเป็นกองกำลังติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายสุหนี่พยายามล้มล้างการปกครองของรัฐบาลชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยบุกยึดเมืองต่างๆในอิรักและพยายามรุกเข้าเมืองหลวง ขณะที่รัฐบาลก็ต่อต้านอย่างเต็มกำลัง ความไม่สงบนี้เป็นเรื่องระดับภูมิภาค ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องในประเทศ เพราะทั้งสองกลุ่มต่างก็มีเพื่อนบ้านที่เป็นนิกายเดียวกันอยู่ อย่างเช่น ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี ฯลฯ ก็เป็นมุสลิมสุหนี่ ส่วนอิหร่านก็เป็นมุสลิมชีอะห์ นอกจากนี้ อเมริกายังมีผลประโยชน์ในบ่อน้ำมันในอิรักอีกด้วย ดังนั้นเรื่องอิรักจึงโยงกับอีกหลายชาติ

ขณะเดียวกัน ที่ยูเครน เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังไม่จบ รัสเซียถูกอเมริกาและยุโรปบอยคอตเนื่องจากเข้าแทรกแซงยูเครน

ปัจจัยมหภาคในสองภูมิภาคนี้ส่งผลต่อราคาทองคำและน้ำมันดิบ เมื่อราคาทองคำผันผวน อัตราแลกเปลี่ยนก็ผันผวนไปด้วย

ราคาทองคำ แนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่อยู่ในคลื่น 4 ใหญ่ ดังนั้นจึงผันผวนมาก

ราคาน้ำมันดิบ เล่นข่าวสถานการณ์ในอิรัก แนวต้านใหญ่คือ 110 ดอลลาร์ หากเรื่ออิรักซาลง ราคาน้ำมันดิบก็คงลดลง 


นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิต (PMI) ของยุโรปล่าสุดออกมาไม่ค่อยดี ส่วนของจีนดีขึ้น ส่วนของอเมริกานั้นตัวเลขสับสน มีทั้งดีขึ้นและไม่ดี นอกจากนี้ เริ่มมีกระแสความกังวลเรื่องอเมริกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดขึ้นมา

สำหรับประเทศไทย ตอนนี้ คสช เริ่มเข้ามาสะสางเรื่องระบบพลังงานของชาติอย่างจริงจัง ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะกระทบถึงผลประโยชน์ของบริษัทพลังงานต่างชาติที่เข้ามาในเมืองไทย แต่ละบริษัทล้วนแต่มีกำลังเงินและอิทธิพลทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน อเมริกาก็ลดระดับไทยให้อยู่ในบัญชี Tier 3 เพราะเรื่องการค้ามนุษย์ จากนั้นตามด้วยอียูประณามไทยอย่างเป็นทางการ และเริ่มใช้มาตรการบอยคอต

ช่วงนี้สถานการณ์ทั้งสนและนอกประเทศเริ่มรุมเร้าเข้ามา เรื่องอเมริกาลดระดับไทยนั้น ทางอเมริกาบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการรัฐประหารของไทย แต่ก็พ้องกับเหตุการณ์ที่ไทยกำลังเดินหน้าสะสางเรื่องพลังงานอย่างบังเอิญเหลือเชื่อเลยทีเดียว ส่วนทางอียูนั้นก็บังเอิญเหลือเชื่อเช่นกัน ที่จริงก็ไม่แปลกหรอก เพราะอียู ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เหล่านี้เป็นเสียงประสานของอเมริกาทั้งนั้น ต้นเสียงร้องอะไรลูกคู่ก็ต้องประสานเสียงตาม

ตลาดหุ้นไทย ดัชนีเซ็ตไปต่อไม่ไหวมาหลายวันแล้ว พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง 1485 จุดยังผ่านไม่ได้ มาได้แต็มที่เพียง 1477 จุด ประกอบกับปัจจัยภายนอกและภายในเริ่มโถมเข้ามา หลายวันมานี้เป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายน ลุงแมวน้ำคิดว่าดัชนีพยายามประคองตัวเพื่อให้ปิดบัญชีไตรมาส 2 ได้แบบดูดี แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ตอนนี้แรงเสียดทานที่มีต่อการบริหารประเทศของ คสช เริ่มมีมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยน่าจะถึงเวลาต้องปรับตัวสักช่วง


ดัชนี SET ช่วงนี้น่าจะเป็น window dressing เพื่อให้พอร์ตตอนสิ้นไตรมาส 2 ดูดี แต่ไม่น่าไปต่อเลยเนื่องจากมีสัญญาณกลับทิศหลายประการแล้ว 


แต่ลุงแมวน้ำยังมองโลกในแง่ดีอยู่ ลุงคิดว่าตอนนี้ประเทศไทยเหมือนกับกำลังรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือที่เรียกว่าทำคีโม ไม่มีใครอยากทำคีโมหรอก เพราะผลข้างเคียงมีมาก แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องทำ ระยะสั้นๆจะมีผมร่วงบ้าง ผอมบ้าง ท้องเสียบ้าง มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆนานา ก็ต้องสู้ต่อไป ลุงแมวน้ำยังเชื่อว่าผลสุดท้าย ประเทศไทยจะผ่านไปได้ด้วยดี บ้านเมืองเราจะดีขึ้นเพราะเราสามารถรักษามะเร็งร้ายได้ ดังนั้นช่วงนี้ก็ต้องทนๆ สู้ๆ กันไปก่อน >.<

นอกจากนี้ ยังต้องระวังกระแสขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด หากกระแสนี้จุดติดขึ้นมา คงได้เป็นขาลงกันทั้งโลกนานหลายเดือน เหมือนคราวที่กังวลเรื่องการลดวงเงินคิวอี 

ถัดจากเรื่องภาพรวมตลาด ลุงแมวน้ำขอแวะมาที่กลุ่มพลังงานทดแทน ตอนนี้หุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังขึ้นแรง นักลงทุนพยายามไล่ล่าหุ้นพลังงานทดแทนกันเป็นการใหญ่ ลุงแมวน้ำเห็นว่าตอนนี้ราคาวิ่งไปมากแล้ว หุ้นที่เป็นโซลาร์ฟาร์มนั้นคำนวณรายรับในอนาคตได้ง่ายและคลาดเคลื่อนไม่มาก คือรู้ว่าเป็นโรงไฟฟ้าขนาดกี่เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟฟ้าได้ปีไหน เราก็คำนวณรายได้จากการขายไฟฟ้าในปีนั้นได้แล้ว แต่สิ่งที่นักลงทุนยังไม่รู้ก็คือ ต้นทุนของโรงไฟฟ้า เนื่องจากโรงไฟฟ้ามีต้นทุนแตกต่างกัน ตามแต่การออกแบบและก่อสร้าง ยิ่งไปซื้อกิจการเขามายิ่งมีต้นทุนสูง ราคาหุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนในขณะนี้เท่ากับซื้ออนาคตล่วงหน้าไปหลายปีแล้ว นักลงทุนที่คิดจะเข้าตอนนี้ต้องระวังให้ดี


ราคาหุ้น EA

ราคาหุ้น SOLAR

ราคาหุ้น SPCG

ราคาหุ้น EPCO


ถัดจากนั้นก็มาเรื่องหุ้นส่งออก นักลงทุนควรระวัง เนื่องจากกลุ่มนี้ค่อนข้างอ่อนไหวในระยะนี้ เนื่องจากเราไม่รู้ว่าอเมริกาและชาติที่เป็นลูกคู่จะงัดมาตรการอะไรมาใช้กับไทยอีก นอกจากนี้ ตลาดส่งออกตั้งแต่ต้นปี 2014 เป็นต้นมาก็ไม่ได้ฟื้นตัวมากมายนักอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช่ระวังแค่หุ้นส่งออกกุ้ง แต่ควรระวังหุ้นส่งออกทั้งกลุ่มเลย


ราคาหุ้น TUF

ราคาหุ้น KCE
เรื่องหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนี้ลุงขอขยายความหน่อย คือ การค้าระหว่างเอกชน การส่งออกนำเข้าระหว่างประเทศนั้น เอกชนที่เป็นคู่ค้าคงไม่บอยคอตสินค้าไทยเพราะเหตุว่าไทยมีการรัฐประหาร เพราะนักธุรกิจก็ทำการค้าไป ส่วนภาครัฐของอเมริกาหรืออียูจะบอยคอตสินค้าไทยเพราะเหตุรัฐประหารก็ไม่ได้ เพราะการกีดกันเช่นนี้ผิดกฎขององค์การค้าโลก (WTO) สิ่งที่ภาครัฐของอเมริกา อียู หรือที่อื่นๆจะทำได้ก็คือการลดความร่วมมือ การลดการให้สิทธิพิเศษ หรือลดการสนับสนุน จะออกไปในแนวทางนี้มากกว่า กับอีกทางหนึ่งคือการหาข้ออ้างในการกีดกัน  หรือที่เรียกว่า non tariff barrier (NTB) ซึ่งกรณีนี้หากต้องการทำก็ทำได้โดยหาข้ออ้างสวยๆที่ไม่ผิดกฎของ WTO อย่างเช่นการบอยคอตสินค้าเพราะเหตุใช้แรงงานทาสนั่นไง ก็อ้างหลักมนุษยธรรม แต่ก็ได้เฉพาะสินค้าบางรายการที่เกี่ยวข้อง จะมาบอยคอตเหมารวมไม่ได้

ดังนั้น ที่ลุงแมวน้ำบอกว่าให้ระวังหุ้นส่งออกไว้บ้าง ไม่ได้เพราะเกรงการบอยคอต เพราะทำได้ยากดังที่ลุงว่า แต่เนื่องจากการส่งออกของไทยในปีนี้ไม่ค่อยกระเตื้องอยู่แล้ว ประกอบกับข่าวร้ายๆหลายด้านมากระทบ รวมๆแล้วก็เป็นบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเทรดมากกว่า


และท้ายที่สุด กลุ่มปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งกลุ่มเรือ เหล่านี้ต้องรอเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก ถ้าเศรษฐกิจจีนยังไม่ไปไหน ราคาพวกนี้ก็ยังไม่ไป ภาพสะท้อนของเศรษฐกิจจีนก็ดูจากดัชนีตลาดหุ้นจีนได้คร้าบ

ดัชนี CSI 300 ของตลาดหุ้นจีน ใช้สะท้อนภาพเศรษฐกิจจีนได้

ราคาหุ้น PTTGC สินค้ากลุ่มปิโตรเคมีอิงเศรษฐกิจจีนอยู่พอสมควร

ราคาหุ้น BANPU ผู้บริโภคถ่านหินรายสำคัญคือจีน ดังนั้นราคาหุ้นจึงอิงกับเศรษฐกิจจีนค่อนข้างสูง

Saturday, June 21, 2014

21/06/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เติมฝันวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า (1)




พักผ่อน เติมฝัน ในวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า



ปกติลุงแมวน้ำชอบไปออกกำลังกายในวันหยุดที่สวนสาธารณะ ส่วนใหญ่มักไปที่สวนลุมพินี เนื่องจากเดินทางสะดวก และยังมีของกินให้เลือกเยอะอีกด้วย ^_^

แต่ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา สวนลุมถูกใช้เป็นสถานที่ชุมนุมของมวลมหาประชาชน การไปออกกำลังกายที่นั่นจึงไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากผู้คนเยอะมาก ลุงแมวน้ำจึงต้องระเหเร่ร่อนไปตามสวนสาธารณะอื่นๆ บางทีก็ไปว่ายน้ำตามสระต่างๆ

มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ลุงแมวน้ำไปแล้วประทับใจและอยากมาชวนให้พวกเราไปพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายกัน นั่นคือ ที่ บางกะเจ้า

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับบางกะเจ้ากันก่อน แม้ว่าลุงแมวน้ำจะชวนพวกเราไปเที่ยวที่บางกะเจ้าเพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจกัน แต่จะไปเที่ยวที่ไหนทั้งทีก็อยากให้รู้ที่มาที่ไปของสถานที่นั้นไว้สักหน่อย รู้ไว้ใช่ว่า เอาไว้เป็นความรู้รอบพุง ก็เหมือนกับการลงทุนในหุ้นนั่นแหละ จะลงทุนในหุ้นสักตัวก็คือการลงทุนในธุรกิจอย่างหนึ่ง จะซื้อทั้งทีก็ควรจะรู้จักหัวนอนปลายเท้าของหุ้นนั้นบ้าง ^_^


บางกะเจ้าคืออะไร

บางกะเจ้านั้น มีความหมายสองนัย นัยแรกก็คือเป็นชื่อของตำบลหนึ่งในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และความหมายอีกนัยหนึ่งหมายถึงพื้นที่สีเขียวซึ่งกินเนื้อที่ถึง 6 ตำบลของอำเภอพระประแดง มีพื้นที่รวมกันประมาณ 12,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักพูดถึงบางกะเจ้าในความหมายหลัง คือหมายถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ

มีข้อสังเกตอยู่นิดหนึ่ง นั่นคือ คำว่า บางกะเจ้า ในอำเภอพระประแดงนี้เขียนว่า บางกะเจ้า แต่ก็มักมีผู้เขียนว่า บางกระเจ้า ซึ่งหากเขียนว่าบางกระเจ้าก็อาจทำให้สับสนได้เนื่องจาก บางกระเจ้า เป็นชื่อตำบลหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร


บางกะเจ้าสำคัญอย่างไร - ที่มาของปอดสีเขียวของกรุงเทพฯ

ปอดสีเขียวที่ลุงแมวน้ำพูดถึงนี้หมายถึงปอดที่เป็นพื้นที่เกษตร ไม่ใช่ปอดขึ้นรานะ ^_^

ลุงแมวน้ำคงต้องขอเท้าความถึงความเป็นมาของพื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้สักหน่อย คือย้อนไปเมื่อเกือบสี่สิบปีมาแล้ว คือราวๆปี พ.ศ. 2520 ในยุคของรัฐบาลป๋าเปรม รัฐบาลในยุคนั้นมีมติให้อนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ของกรุงเทพฯ คือ ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่สีเขียว

ก็คงต้องเข้าใจบริบททางสังคมในยุคนั้นกันสักหน่อย เนื่องจาก ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์เป็นต้นมา ลัทธิทุนนิยมเริ่มเฟื่องฟู ทุนจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในไทย ทำให้กรุงเทพฯเป็นชุมชนเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แถบสมุทรปราการก็มีโรงงานอุตสาหกรรมผุดขึ้นมามากมาย รัฐบาลในยุคป๋าเปรมจึงกันพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียว สำหรับทำเกษตรกรรม ไม่ให้ทำโรงงานหรือทำหมู่บ้านจัดสรร

ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ปีนั้นก็มีรัฐประหารพอดีเลย โดยคณะ รสช ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลน้าชาติ (พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัน) และตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลโดยมี  พล.อ.สุจินดา คราประยูรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาล พลเอกสุจินดา ได้อนุมัติโครงการ สวนกลางมหานคร เพื่ออนุรักษ์พื้นที่สีเขียวประมาณ 9,000 ไร่ ซึ่งครอบคลุมท้องที่ 6 ตำบลในอำเภอพระประแดง นั่นคือ ต.บางน้ำผึ้ง ต.บางยอ ต.บางกอบัว ต.บางกะสอบ ต.บางกะเจ้า และ ต.ทรงคะนอง พร้อมทั้งออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินบางส่วน

ในสมัยก่อน เมื่อทางราชการต้องการใช้พื้นที่ทำโครงการอะไร (เช่น ตัดถนน สร้างสวนสาธารณะ ฯลฯ) ก็จะใช้วิธีการเวนคืนจากเอกชน โดยให้ค่าตอบแทนต่ำๆ เพราะถือว่าประชาชนต้องเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม บางครอบครัวถูกเวนคืนจนหมดตัว คือทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต บ้านและที่ดินโดนเวนคืนไปหมดทั้งแปลงแต่ได้เงินมานิดเดียว จะไปซื้อที่ใหม่ก็เงินไม่พอ ชีวิตที่มั่นคงจึงกลายเป็นชีวิตลำเค็ญ ประชาชนกลัวและต่อต้านการเวนคืนที่ดินกันมาก การเวนคืนในครั้งนี้ก็เช่นกัน ประชาชนคัดค้านกันมาก ในที่สุดรัฐบาลจึงต้องใช้วิธีซื้อที่ดินจากเอกชนตามความสมัครใจในราคาท้องตลาดเพื่อมาทำโครงการ

โครงการสวนกลางมหานครจึงทยอยซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการเรื่อยมา ที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่สวน จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2542 ก็สามารถรวบรวมที่ดินได้ถึง 1,276 ไร่

พื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เกษตรกรรม โดยอนุรักษ์สวนแบบดั้งเดิมเอาไว้ และใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยมีการสร้างสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ชื่อ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ใช้เป็นแหล่งศึกษาและอนุรักษ์ระบบนิเวศและพืชพรรณท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล โดยคลองลัดโพธิ์ก็ตัดผ่านพื้นที่นี้ สามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯได้


สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกและผีเสื้อ

วิถีชีวิตของชุมชนบางกะเจ้าหลังมีโครงการสวนกลางมหานคร เป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับการพัฒนา



และยิ่งไปกว่านั้น โครงการสวนกลางมหานครนี้ นอกจากการอนุรักษ์แล้ว ยังมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ธำรงอาชีพและวัฒนธรรมของท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ด้วย เรียกว่าทั้งอนุรักษ์และพัฒนา และนอกจากนี้ การใช้รูปแบบการซื้อที่ดินจากเอกชนตามความสมัครใจในราคายุติธรรม ถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะแม้แต่ต้นทางก็เริ่มต้นมาอย่างยุติธรรม ไม่มีการบังคับแข็งขืนใจชาวบ้านในชุมชน

ดังนั้น พื้นที่บางกะเจ้านี้ไม่เป็นเพียงพื้นที่สีเขียวหรือเป็นสวนสาธารณะ ปอดของกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ของการอนุรักษ์ระบบนิเวศและพืชพรรณท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิถีชีวิตชุมชนอีกด้วย จึงเป็นพื้นที่ที่มีความหมายในหลายมิติ 

ต่อมาในราวปี 2004 ฟาน เคสเซล (Van Kessel) นักปั่นจักรยานชาวเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้บุกเบิกทัวร์ปั่นจักรยานในพื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้ จนบางกะเจ้าเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปั่นจักรยานทั้งไทยและต่างประเทศ มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานมากมายหลายเส้น ตั้งแต่วงรอบเล็กเป็นระยะทางไม่กี่กิโลเมตรไปจนถึงวงรอบใหญ่ที่เป็นระยะทางกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร ปั่นจักรยานชมเรือกสวน สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งยังได้ชมต้นไม้นานาพันธุ์ นก และผีเสื้ออีกด้วย

นิตยสาร  TIME ฉบับหนึ่งในปี 2006 คัดเลือกของดีที่สุดในเอเชียเอาไว้ และยกย่องบางกะเจ้าว่าเป็นโอเอซิสของเขตเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย

ส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ยกบางกะเจ้าให้เป็น The Best Urban Oasis of Asia

นิตยสารไทม์ (TIME Magazine) ปี 2006 มีฉบับหนึ่งได้รวบรวมของดีที่สุดในเอเชียเอาไว้ และบางกะเจ้านี้เป็นสถานที่ที่นิตยสารไทม์ยกย่องว่าเป็น The Best Urban Oasis of Asia (โอเอซิสของเขตเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย - โอเอซิสคือแหล่งน้ำกลางทะเลทราย มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตในทะเลทราย)


ปอดของกรุงเทพฯอยู่ที่ไหน - เดินทางไปอย่างไร

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อบางกะเจ้า แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ และไม่รู้ว่าจะไปยังไง คงไปยากแน่ๆเลย เรามาดูตำแหน่งแห่งที่ของบางกะเจ้ากัน การเดินทางไปไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องมีจักรยานส่วนตัว นั่งรถเมล์ไปนี่แหละ แล้วก็ไปเช่าจักรยานเอาที่นั่น สะดวกและง่ายอย่างที่นึกไม่ถึงเลย

พื้นที่บางกะเจ้านี้ เรียกว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ บางคนก็บอกว่าเป็นพื้นที่ทรงกระเพาะหมู ตกลงว่าจะเป็นปอดหรือกระเพาะหมูกันแน่ เราลองมาดูกัน

เมื่อลุงแมวน้ำคุยถึงเรื่องกราฟราคาหุ้น ลุงมักเอาภาพในหลายๆกรอบเวลามาให้ดูกัน เพื่อให้เห็นทั้งภาพในลักษณะมหภาค และระดับกลาง ไปจนถึงระดับย่อย เปรียบเหมือนกัน เพื่อให้เกิดมุมมองทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ในทำนองเดียวกัน ก็เหมือนกับเมื่อเราพูดถึงบางกะเจ้า ทำเป็นเป็นปอด หรือกระเพาะหมู ต้องดูจากในระดับมหภาคจึงจะเห็น ส่วนความสวนสดงดงามนั้น ต้องเข้าไปดูใกล้ๆในระดับรายละเอียดจึงจะเห็น

เราลองมาดูภาพในมุมสูง จากภาพถ่ายดาวเทียมกัน

พื้นที่บางกะเจ้าดูๆไปก็เหมือนปอด (กลีบบนคือบางกะเจ้า กลีบล่างไม่ใช่)

ภาพนี้เป็นภาพถ่ายดาวเทียมที่ดูจากระยะไกล ด้านล่างของภาพคือปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ออกอ่าวไทย จะเห็นว่าส่วนที่เป็นสีเข้มคือพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนที่เห็นเป็นสีอ่อนหรือออกไปทางสีขาว คือพื้นที่เขตชุมชนที่มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ส่วนที่วงด้วยเส้นสีเขียวดูไปก็คล้ายๆปอด (ต้องจินตนาการเอาหน่อย) มีสองกลีบ ปอดกลีบบนคือบางกะเจ้านั่นเอง ดังนั้นจะเรียกว่าปอดของกรุงเทพฯก็คลับคล้ายอยู่ ^_^

เส้นทางของแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเอาไว้ แล้วค่อยไหลมาออกอ่าวไทย พื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้จึงมีความสำคัญในแง่การบริหารจัดการน้ำในยามน้ำหลากกรุงเทพฯอีกด้วย 

ใกล้เข้าไปอีกนิด แม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเอาไว้ ดูไปก็คล้ายกระเพาะหมูอยู่เหมือนกัน แม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร เมื่อน้ำหลากกรุงเทพฯ การระบายน้ำจึงทำได้ช้าเพราะเแม่น้ำจ้าพระยาอ้อม โครงการในพระราชดำริคลองลัดโพธิ์เป็นจุดที่อยู่ตรงตำแหน่งคอคอดของกระเพาะหมูนั่นเอง คลองนี้ทำให้น้ำในเขตกรุงเทพฯชั้นในไหลออกทะเลเร็วขึ้นเพราะร่นระยะทางได้ 18 ก.ม.


ภาพล่างสุดแสดงรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาอีก ในภาพนี้ดูไปแล้วบางกะเจ้าก็คล้ายกระเพาะหมู นี่แหละ ปอดก็ได้ กระเพาะก็ได้ ^_^

มุมล่างซ้ายของภาพ ตำแหน่งคอคอดของพระเพาะ (หรือขั้วปอดนั่นเอง) คือคลองลัดโพธิ์ ตำแหน่งลูกศรเขียวคือสวนสาธารณะและสวนพฤกษ์ศาสตร์ กับตลาดน้ำ จุดท่องเที่ยวสำคัญในบางกะเจ้า

การเดินทางก็ง่ายมาก วันนี้ลุงเล่าคร่าวๆก่อน คราวหน้าจะเล่าละเอียดอีกทีหนึ่ง

นั่งรถเมล์สาย 4 หรือ 47 มาที่วัดคลองเตยนอก (วงกลมสีแดงด้านบนของภาพ) จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากมา (คนละ 10 บาท ออกตลอดเวลา) ก็เป็นบางกะเจ้าแล้ว มีจุดให้เช่าจักรยานที่ท่าเรือนั่นเอง ขี่ไปเที่ยวสวนหรือไปชมตลาดน้ำก็ได้ และสังเกตวงกลมสีเหลือง ที่ดินผืนนั้นเป็นสวนเก่าริมแม่น้ำ ขนาดประมาณเกือบ 300 ไร่ เป็นที่ดินของ N-Park ทำเลสวยทีเดียว ^_^

ตอนหน้าเรามาคุยรายละเอียดเรื่องการเดินทางและจุดท่องเที่ยวกันต่อคร้าบ





Monday, June 16, 2014

16/06/2014 อัปเดต TRUE, DTAC, ADVANC


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลุงแมวน้ำคุยกับแม่ยีราฟเรื่องกรณีศึกษา หุ้น TURE, ADVANC, DTAC ลุงแมวน้ำทิ้งท้ายไว้ว่ารอดูอีกสักหลายวันว่ารูปแบบทางเทคนิคจะก่อรูปร่างเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาอัปเดตกัน

ในครั้งนี้ ลุงแมวน้ำใช้ปริมาณการซื้อขาย (volume) ประกอบด้วย การวิเคราะห์ด้วยรูปแบบทางเทคนิคต้องทำตัวเหมือนเป็นพ่อครัว ในการประกอบอาหาร หากมีเครื่องครัวและวัตถุดิบให้เลือกใช้มากมายก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับงาน ไม่ต้องเอาทุกอย่างมาใช้ เพราะไม่ใช่ว่ายิ่งเยอะยิ่งดี

ในทางตรงข้าม หากมีเครื่องครัวและวัตถุดิบให้เลือกอย่างจำกัด มีอะไรก็ต้องใช้อย่างนั้น ใช้เท่าที่มีแต่ใช้เป็นก็เกิดประโยชน์ได้ เหมือนของกินเหลือในตู้เย็นไง หากมีฝีมือก็ยังเอามาทำอาหารอร่อยๆได้อีก ^_^


เริ่มด้วยหุ้น TRUE กันก่อน ดูภาพต่อไปนี้


หุ้น TRUE ปริมาณซื้อขายหดหาย แท่งเทียนล่าสุดยังไม่ผ่านแนวต้าน ควรระวัง


สัปดาที่แล้วหุ้น TRUE มีข่าวเพิ่มทุนโดยมีไชนาโมบาย (China Mobile) บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ของจีนมาถือหุ้นร่วมด้วย 18% ส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นแรง มีบทวิเคราะห์บางฉบับบอกว่าทำให้่พื้นฐานทางธุรกิจเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

ในทางเทคนิค ราคาเกิดรูปแบบแท่งเทียนเป็นแท่งเทียนขาวใหญ่ (big white candle) ตามด้วยช่องหรือแก็ป (gap)

หากมองในแง่ดี เราก็คาดหวังว่าปัจจัยพื้นฐานจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี แก็ปนี้ก็อาจเป็น (break away gap) อันเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นยาวก็เป็นได้

แต่ช้าก่อนคร้าบ หากเป็น break away gap แท่งเทียนแท่งต่อมาจะต้องขึ้นต่อเนื่อง พร้อมกับมีปริมาณการซื้อขายมาสนับสนุน แต่เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่สอดคล้อง เนื่องจากแท่งเทียนต่อมาไม่ได้สูงขึ้น และปริมาณการซื้อขายก็ลดฮวบ แนวต้าน 8.9 บาทในวันที่เกิดแก็ปยังไม่ผ่าน สัญญาณทางเทคนิคนี้ต้องระวังเอาไว้คร้าบ เพราะแปลว่าหุ้นอาจไปต่อไม่ไหว

ในทางปัจจัยพื้นฐาน ดีลนี้ยังไม่จบ ไชนาโมบายยังไม่ได้จ่ายเงิน โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน  และเมื่อเข้ามาก็ยังไม่รู้ว่าจะมีบทบาทอย่างไร นึกถึงเรื่องผู้เฒ่าเสียม้าเอาไว้ ^_^



ทีนี้มาดู หุ้น DTAC กันบ้าง ดูภาพต่อไปนี้


หุ้น DTAC แนวโน้มเป็นขาลงแล้ว คาดว่าแนวโน้มยังไม่จบและลงต่อได้อีก


หุ้น DTAC เกิดแก็ปในวันเดียวกับหุ้น TRUE แต่ว่าแก็ปนี้เป็นช่องขาลง สัปดาห์ที่แล้วราคาร่วงมา -17% ราคาน้อยกลับไปปิดช่องไม่ได้ มิหนำซ้ำวันศุกร์เกิดแท่งเทียนดำใหญ่ พร้อมกับปริมาณซื้อขายพุ่ง แปลว่าแรงขายยังมีอยู่มาก

หลายคนอาจมองว่า เครื่องมือ RSI บอกว่าเข้าเขตขายมากเกิน (oversold) แล้ว ราคาน่าจะเด้งได้แล้ว แต่ลุงแมวน้ำมองต่างออกไป เนื่องจากเครื่องมือ RSI เป็นเครื่องมือในกลุ่มออสซิลเลเตอร์ (oscillator) ซึ่งใช้ในยามตลาดไม่มีแนวโน้ม แต่ว่าตอนนี้หุ้น DTAC มีโมเมนตัมขาลงรุนแรง บ่งบอกว่าเป็นตลาดขาลงแล้ว ดังนั้นการใช้เครื่องมือ RSI กับยามตลาดมีแนวโน้มอาจทำให้ตีความคลาดเคลื่อนได้

ลุงแมวน้ำมองว่า DTAC เป็นขาลงแล้ว ตอนนี้จ่อรออยู่ที่แนวรับ 106 แนวรับถัดไปคือ 100 บาท สำหรับแนวรับ 106 คาดว่ารับไม่ไหว สองสามวันนี้อาจมีเด้งบ้าง แต่สุดท้ายคาดว่าลงต่อ


และก็มาถึงหุ้นสุดท้ายในวันนี้ คือ หุ้น ADVANC ดูกราฟต่อไปนี้


ADVANC แนวโน้มเดิมเป็นขาลงอยู่แล้ว


หุ้น ADVANC สัปดาห์ที่แล้วลงไป -7.1% เดิมก็เป็นแนวโน้มขาลงอยู่แล้ว การเกิดแก็ปในสัปดาห์ที่แล้วมาพร้อมกับปริมาณซื้อขายพุ่งขึ้น แต่หลังจากนั้นปริมาณซื้อขายลดลง เมื่อวันศุกร์ ปริมาณซื้อขายกลับไปใกล้เคียงกับในยามปกติ พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียนเป็นดาว โดจิ แปลว่าลังเลที่จะลงต่อ

ในทางเทคนิค แนวโน้มเดิมเป็นขาลงอยู่แล้ว แก็ปมาช่วยเสริมแรงนิดหน่อยเท่านั้น ในสัปดาห์นี้อาจมีเด้งขึ้นได้บ้าง แต่ยังให้น้ำหนักกับแนวโน้มเดิมอยู่ ดังนั้นคาดว่าราคายังลงต่อได้

นอกจากนี้ ในภาพใหญ่ยังต้องพิจารณาดัชนีเซ็ตประกอบด้วย หากตลาดไหลลง ก็ย่อมเป็นปัจจัยลบที่มาช่วยซ้ำเติมด้วยคร้าบ

Thursday, June 12, 2014

12/06/2014 กรณีศึกษา TRUE, ADVANC, DTAC วิเคราะห์เทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน



หุ้น TRUE


“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด ลุงแมวน้ำช่วยด้วยยยยย” เสียงกรีดร้องดังลั่น จนลุงแมวน้ำที่แอบงีบหลับอยู่ที่ข้างๆโขดหินตกใจตื่นและรีบออกมาดู

“อ้าว แม่ยีราฟนั่นเอง เกิดอะไรขึ้น ไฟไหม้เหรอ” ลุงแมวน้ำเห็นเป็นยีราฟสาวจอมมัธยัสถ์ ยืนหน้าซีดน้ำลายย้อยอยู่

“เปล่า ไฟไม่ได้ไหม้” ยีราฟตอบ “แต่พอร์ตของฉันไหม้ แดงแจ๋เลย กรี๊ดดดดดด”

เสียงกรีดร้องของยีราฟดังประมาณ 120 เดซิเบล จนลุงแมวน้ำหูอื้อ

“เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ พอร์ตแดงคืออะไร นี่แม่ยีราฟซื้อหุ้นเหรอ” ลุงแมวน้ำงง

“ใช่จ้ะลุง ฉันเพิ่งซื้อหุ้น ADVANC เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง พอซื้อก็ลงเลย สองวันนี้ลงไป 5% แล้ว” ยีราฟสาวโวย “ต้องโทษลิงจ๋อ แนะนำให้ฉันซื้อ”

“อ้าว จะไปโทษนายจ๋อได้ยังไง เงินของแม่ยีราฟ แม่ยีราฟตัดสินใจเอง กฎสำคัญของการลงทุนคืออย่าโทษใคร” ลุงแมวน้ำบอก

“จ้ะ จ้ะ ไม่โทษก็ได้ ว่าแต่ฉันจะทำยังไงดี” ยีราฟพูดพลางสะอื้น “นายจ๋อบอกว่าพื้ฐานเปลี่ยนไปแล้ว ให้ขาย ADVANC แล้วรีบไปซื้อ TRUE”

ช่วงสองสามวันมานี้หุ้นสื่อสารใหญ่ นั่นคือ TRUE, DTAC, ADVANC ขึ้นลงแรง ข่าวที่ปรากฏตามสื่อก็คือ หุ้น TRUE มีการเพิ่มทุนและมีพันธมิตรใหม่มาร่วมทุนด้วย นั่นคือ บริษัทสื่อสารใหญ่ของจีน ไชนาโมบาย (China Mobile) หลังจากที่เพิ่มทุนเรียบร้อยแล้วไชนาโมบายจะถือหุ้น TRUE ประมาณ 18% เงินที่เพิ่มทุนจะนำไปใช้คืนเงินกู้และใช้ในการดำเนินธุรกิจ บทวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่าพื้นฐานของหุ้น TRUE เปลี่ยนไปเมื่อได้พันธมิตรที่เข้มแข็งมาร่วมถือหุ้นด้วย รวมทั้งน่าจะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากอีกสองค่ายมาได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีข่าวอื่นประกอบอีก เช่น  DTAC เพิกถอนหุ้นจากตลาดหุ้นสิงคโปร์ รวมทั้งข่าวที่ว่า DTAC ถูกเพ่งเล็งเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ หากพบว่ามากเกินกำหนดก็จะไม่สามารถเข้าประมูลคลื่นความถี่ได้

ขณะเดียวกัน หุ้น ADVANC, DTAC อันเป็นหุ้นสื่อสารอีกสองค่ายที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันก็ร่วงแรงพอสมควร

“แล้วแม่ยีราฟซื้อหุ้นนี่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนยังไงบ้างล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ฉันอยากถือไปนานๆเพื่อกินเงินปันผลจ้ะ นายจ๋อบอกว่าหุ้นนี้จ่ายปันผลสม่ำเสมอและดีกว่าฝากธนาคาร” ยีราฟตอบ “เขาบอกว่าฉันควรเป็นแนววีไอ”

“นั่นแน่” ลุงแมวน้ำขำ “นายจ๋อเนี่ยนะแนะนำให้ลงทุนแนววีไอ”

“ใช่จ้ะ” ยีราฟตอบ

“ก่อนอื่น ลุงอยากบอกแม่ยีราฟว่าการลงทุนนั้นอย่าเชื่ออะไรเขาบอก ต้องใช้กาลามสูตร นั่นคือ อย่าฟังเขาเล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นสายวิเคราะห์ด้วยเทคนิคหรือสายปัจจัยพื้นฐานก็ต้องเลือกหุ้นด้วยตนเองได้” ลุงแมวน้ำพูด “เพราะหากฟังแต่คนอื่น เมื่อใดที่พลาดพลั้ง เงินน่ะเงินแม่ยีราฟเองนะ”

“จ้ะๆ” ยีราฟรีบรับปาก “ลุงอย่าเพิ่งเทศนาฉันเลย แนะนำฉันหน่อยว่าควรทำยังไง”

“ลุงจะอธิบายง่ายๆละกัน หากเป็นสายวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สัญญาณซื้อขาย รวมทั้งแม่ยีราฟต้องการลงทุนระยะสั้น ก็ว่าไปตามสัญญาณซื้อขาย แต่หากแม่ยีราฟคิดถือยาวๆ แม่ยีราฟก็ควรวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก เราลองมาดูกัน เอ้า ดูนี่”

ว่าแล้วลุงแมวน้ำก็หยิบเอากราฟของ TRUE ออกมาจากหูกระต่าย กางให้ยีราฟดู


หุ้น TRUE



“เราเริ่มกันที่หุ้น TRUE ก่อนละกัน แม่ว่าแม่ยีราฟไม่ได้ถืออยู่ แต่ว่าเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องกัน

“ในทางเทคนิค TRUE หลุดจากสามเหลี่ยมชายธงกรอบใหญ่ลงมาข้างล่าง ตามหลักการทางเทคนิคแล้ว ราคาน่าจะลงต่อ แต่เมื่อมีปัจจัยใหม่เข้ามา รูปแบบทางเทคนิคก็เปลี่ยนไป ล่าสุด หลังจากที่มีข่าวเรื่องไชนาเทเลคอม ก็เกิดแท่งเทียนขาวใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนเมื่อวานนี้เป็นรูปแบบดาวตก (shooting star) รวมทั้งเกิดช่อง (gap) ด้วย อย่าเพิ่งย่ามใจว่าแท่งเทียนขาวกับแก๊ปแปลว่าขาขึ้นแน่ๆ ควรรอดูอีกสักสองสามวัน เนื่องจากรูปแบบนี้ต่อไปอาจราคาอาจถอยลงมาปิดช่อง หรืออาจเป็นเกาะลอย (island of reversal) อันเป็นสัญญาณบ่งชี้การกลับทิศเป็นขาลงก็มีโอกาสได้เช่นกัน ดังนั้นต้องรอดูไปก่อน

“หากมองทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจุบัน TRUE มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 26.23 เท่า ขาดทุนสะสมประมาณ 6 หมื่นล้าน ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 24.5%

“ตอนนี้เท่าที่ลุงรู้ ดีลนี้ยังไม่จบ เนื่องจากยังไม่ได้ลงเงินกัน โอกาสเปลี่ยนยังมี นอกจากนี้ หุ้นนี้ขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน มียอดขาดทุนสะสมอยู่มาก และไม่ได้จ่ายเงินปันผลมานานหลายปีแล้ว ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งในอนาคตไชนาเทเลคอมมีบทบาทถือหุ้น 18% ถือว่าสัดส่วนไม่มากนัก จะเข้ามามีบทบาทในการบริหารอย่างไร และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้หรือไม่ หรือในทางใด เรื่องนั้นเรายังไม่กระจ่าง ดังนั้นจึงยังบอกไม่ชัดเจนว่าความสามารถในการทำธุรกิจในอนาคตว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ดังนั้นหากจะบอกว่าพื้นฐานเปลี่ยนไป ลุงว่าพูดตอนนี้ยังเร็วเกินไปสักหน่อย”

จากนั้นลุงแมวน้ำก็หยิบกราฟหุ้น DTAC ออกมา


หุ้น DTAC


“ในทางเทคนิค ราคา DTAC ร่วงและเกิดช่องขาลงหรือ falling window แต่ว่าแท่งเทียนที่ตามมาเป็นแท่งเทียนขาวใหญ่ แสดงว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามา ดังนั้นก็ต้องดูต่อไปอีกสองสามวัน หากราคาขึ้นมาปิดช่องได้ สภาพขาลงก็ถูกหักล้างไป

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน DTAC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.95 เท่า กำไรสะสมประมาณ 5,500 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 31.3%

“หุ้นนี้มีกำไรและจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ชัดว่าหุ้น DTAC เสียความสามารถในการแข่งขันไป ศักยภาพในการทำธุรกิจนี่สำคัญนะแม่ยีราฟ หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่

จากนั้น ลุงแมวน้ำก็ดึงเอากราฟหุ้น ADVANC ออกมาจากหูกระต่าย


หุ้น ADVANC


“เอาล่ะ ทีนี้ก็มาถึงตัวสำคัญที่ทำให้แม่ยีราฟร้องกรี๊ดมา หุ้น ADVANC ในทางเทคนิค ราคาหุ้นเป็นแนวโน้มขาลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ไม่กี่วันนี้ราคาเกิดแก๊ปขาลง แท่งเทียนถัดมายังไม่มีอะไร แต่ถัดมาอีกแท่งราคาไหลลงแต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา หน้าตาเป็นแบบค้อน (hammer)  ที่ลำตัวยาวหน่อย ในทางเทคนิคดูไม่ค่อยดีจริงๆด้วย แต่ก็ควรดูต่อไปอีกสักสองสามวัน ว่าราคาจะกลับขึ้นมาปิดแก๊ปได้หรือไม่

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน ADVANC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 2.03 เท่า กำไรสะสมประมาณ 12,600 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 35.2%

“หุ้นมีกำไรและจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง ปันผลก็งามพอควร นี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตเช่นกัน หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่ หลายเดือนมานี้มีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ จากนั้นยังมาเจอเรื่องไชนาโมบายอีก แต่ก็ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าความสามารถเสียไป

“สรุปว่าฉันควรทำอย่างไรจ๊ะลุง” ยีราฟถาม

“สรุปว่าแม่ยีราฟควรตัดสินใจเองจ้ะ” ลุงแมวน้ำตอบ

“ก็ฉันตัดสินใจไม่ถูกน่ะลุง” ยีราฟทำหน้าเบ้เหมือนกับจะร้องไห้ พร้อมกับอ้าปากกว้าง

“อย่าเพิ่งร้องกรี๊ดนะ” ลุงแมวน้ำรีบอุดหู “นี่แหละ ชีวิตและการลงทุน แม่ยีราฟต้องเรียนรู้และตัดสินใจเอง ถือเป็นบทเรียนละกัน ในทางเทคนิคแบบใช้สัญญาณซื้อขาย ตอนนี้ก็เกิดสัญญาณขายแล้ว เห็นแท่งสีแดงในกราฟไหม ก็ต้องว่าไปตามระบบ แต่ก็นั่นแหละ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง สัญญาณซื้อขายก็อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ การกลับเข้าไปซื้อใหม่ย่อมมีต้นทุนจากการซื้อขายและการเสียจังหวะ

“ส่วนในทางปัจจัยพื้นฐานสถานการณ์ตอนนี้ถือว่ายังฝุ่นตลบอยู่ หุ้นทั้งสามตัวแม่ยีราฟก็เปรียบเทียบความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตได้ ส่วนในอนาคตนั้น ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน พื้นฐานทางธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนภายในชั่วข้ามคืนหรอก ลุงว่าอย่าเพิ่งร้อนใจ รอดูอีกสักนิดให้ฝุ่นหายตลบก่อนก็ได้ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ เพราะเมื่อถึงวันที่แม่ยีราฟตัดสินใจได้ก็อาจเสียหายมากกว่าตัดสินใจในวันนี้ แต่การลงทุนในระยะยาวก็เป็นแบบนี้แหละ แม่ยีราฟต้องมีหัวใจของเถ้าแก่อยู่ด้วยหน่อยๆ 

“ทุกแนวทางมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ไม่มีอะไรดีพร้อมหรอก นี่แหละ ที่ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ที่สำคัญคือแม่ยีราฟต้องยึดหลักให้มั่น จะยึดแนวทางใด ก็หมั่นศึกษาหาความรู้ไว้ด้วย”