Wednesday, May 21, 2014

21/05/2014 มองไปข้างหน้า พรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิม



ประชาชนถ่ายรูปกับทหารในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 หลังจากที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร



เมื่อวาน (20/05/2014) เวลาประมาณ 03.00 น. ผู้บัญชาการทหารบกประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการประกาศใช้กฎอัยการศึกที่อเมซิ่งไทยแลนด์อยู่พอสมควร เพราะหลังจากที่ประกาศกฎอัยการศึก ประชาชนจำนววนมากก็ออกไปแสดงความชื่นชมยินดี ให้กำลังใจทหาร ส่งน้ำส่งขนมให้ทหาร รวมทั้งถ่ายรูปกับทหารที่ยืนปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆในท้องถนน

เรามาย้อนดูอดีตกันสักหน่อย เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 23 น. ทหารทำการรัฐประหาร หลังจากนั้น วันที่ 21 กันยายน เมื่อตลาดหุ้นเปิด ลองมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง


การรัฐประหาร 19 กันยายน 2006 ประชาชนออกมาแสดงความยินดี เด็กๆมาถ่ายรูปคู่กับทหาร บรรยากาศในภาพนี้ราวกับเป็นงานวันเด็ก

หลังจากที่มีการรัฐประหาร วันที่ 21 กันยายน เมื่อตลาดหุ้นเปิด ดัชนีเซ็ตปรับตัวลงไปลึกที่สุดคือ -30 จุด แต่หลังจากนั้นก็รีบาวด์ และวันนั้นปิดที่ -10 จุด (-1.4%) ลองสังเกตดัชนีในเดือนตุลาคมด้วย

ดัชนีเซ็ต (SET index) ของตลาดหุ้นไทย หลังจากที่มีการรัฐประหาร วันที่ 21 กันยายน เมื่อตลาดหุ้นเปิด ดัชนีเซ็ตปรับตัวลงไปลึกที่สุดคือ -30 จุด แต่หลังจากนั้นก็รีบาวด์ และวันนั้นปิดที่ -10 จุด (-1.4%) ลุงแมวน้ำไม่มีข้อมูลการซื้อขายของต่างชาติในวันนั้น แต่ว่าตลอดทั้งเดือนกันยายน 2549 ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นราว 11,000 ล้านบาท


ครั้งนั้นก็มีข้อกังวลกันว่าต่างชาติจะไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร แต่ว่าในเดือนต่อมาคือเดือนตุลาคม ตลาดหุ้นไทยก็วิ่งทะลุ 730 จุด สูงกว่าก่อนมีรัฐประหารเสียอีก พร้อมกับต่างชาติซื้อสุทธิอีก 18,000 ล้านบาทในเดือนตุลาคมนั้นเอง

คราวนี้ลองมาดูตลาดหุ้นไทยในตอนนี้กันบ้าง ดูภาพต่อไปนี้


ประชาชนถ่ายรูปกับทหารในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 หลังจากที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร

วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ผู้บัญชาการทหารบกประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรในเวลาประมาณ 3:00 น. ต่อมาในวันเดียนวกันนั้น ตลาดหุ้นปรับตัวลง -15 จุด (-1.13%) ต่างชาติขายสุทธิราว 8,000 ล้านบาท


หลังจากที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ตลาดหุ้นเมื่อวานปรับตัวลง -15 จุด (-1.13%) รูปแบบทางเทคนิค เกิดเป็นช่องขาลง (falling window gap) เล็กๆ แต่รูปแบบแท่งเทียนเป็นดาวโดจิ (doji star) อันแสดงถึงความลังเลที่จะลงต่อ ดังนั้นรูปแบบทางเทคนิคไม่เสียหายมากนัก 

ต่างชาติจะหนีจากตลาดหุ้นเพราะไม่ยอมรับเรื่องการประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่ คำตอบคือคงมีแรงขายจากต่างชาติบ้างในระยะสั้น แต่หลังจากนั้นความมั่นใจของต่างชาติจะกลับมาอีกเมื่อเรามีรัฐบาลที่มีภาพลักษณ์ดีและมือสะอาด

หากยังกังวลเรื่องต่างชาติหนี เราลองมาดูภาพต่อไปนี้กัน 


ยอดซื้อขายสะสมของต่างชาติตั้งแต่มกราคม 2013 เป็นต้นมา ทั้งในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น จากกราฟ จะเห็นว่าแรงขายในตลาดหุ้นมีตลอดมาตั้งแต่ต้นปี 2013 แต่ก็มีแรงซื้อในตลาดพันธบัตรมาตลอดเช่นกัน สรุปแล้วต่างชาติไม่ได้ทิ้งตลาดทุนไทยไปไหน เพียงแต่ย้ายเงินจากตลาดหุ้นมาอยู่ในตลาดพันธบัตรเท่านั้น


ภาพนี้เป็นยอดซื้อขายสะสมของต่างชาติ คิดสะสมมาตั้งแต่ต้นปี 2013 เป็นต้นมาถึงเมื่อวาน 20/05/2013 เส้นสีแดงแสดงยอดซื้ขายสะสมของตลาดหุ้น ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นปี 2013 เป็นต้นมา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไปแล้ว 210,000 ล้านบาท (สองแสนหนึ่งหมื่นล้านบาท)

แต่ลองดูเส้นสีน้ำเงิน เป็นยอดซื้อขายสะสมในตลาดพันธบัตร ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นปี 2013 จนถึงเมื่อวาน ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 440,000 ล้านบาท (สี่แสนสี่หมื่นล้านบาท) 

ดังนั้นหากจะบอกว่าต่างชาติทิ้งตลาดทุนไทยไปก็คงไม่ใช่ เพียงแค่หนีจากตลาดหุ้นเท่านั้นเอง และตั้งแต่ต้นปี 2014 เป็นต้นมา แรงขายเริ่มหยุดแล้ว สังเกตได้จากเส้นกราฟสีแดงทีเริ่มนิ่ง เป็นสัญญาณว่าหลังจากนั้นตลาดจะเริ่มกลับตัวและแรงซื้อจากต่างชาติจะเริ่มกลับเข้ามา


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 และ 30 ปี เส้นอัตราผลตอบแทนเป็นแนวโน้มขาลง คือมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดพันธบัตร

จากประสบการณ์ในอดีต ต่างชาติไม่เคยทิ้งตลาดหุ้นไทย เพียงแค่ไปๆมาๆเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของเราเป็นกิจการภายในประเทศ และยังไม่ถึงขั้นเกิดมิคสัญญี ดังนั้นต่างชาติไม่ควรเข้ามาแทรกแซง เราเองไม่ควรกังวลว่าต่างชาติจะทิ้งตลาดทุนไทยไปด้วย ต่างชาติคำนึงแต่ผลประโยชน์ หากรัฐบาลใหม่มีการบริหารงานที่เข้มแข็ง การลงทุนของประเทศจะเพิ่มมากขึ้น ในภาคเศรษฐกิจจริง ต่างชาติก็มีโอกาสเข้ามาทำธุรกิจ เข้ามาประมูลงานอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ต้องเสียเบี้ยบ้ายรายทาง แล้วทำไมต่างชาติจะไม่เข้ามา

ไม่ต้องกลัวนะคร้าบ เพราะว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิม 

แต่อย่าลืม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาซื้อ ^_^

No comments: