Thursday, May 31, 2012

30/05/2012 * คลื่นเศรษฐกิจ C คราวนี้ตลาดหุ้นจะลงไปถึงไหน



ค่าเงินเช้านี้ 31/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 31/05/2012)

วันที่ 30/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกเปิดแดงเล็กน้อยเกือบทุกตลาด ตลาดหุ้นจีนเปิดแดงแล้วก็ขึ้นไปเขียว แต่ว่าได้เพียงไม่นาน จากนั้นตลาดหุ้นเอเชียก็ไหลลง ตลาดที่ปิดเร็วดีขึ้นบ้างตอนท้ายตลาด ส่วนตลาดที่ปิดช้า เมื่อฝั่งยุโรปเปิดแดงแล้วไหลลง ตลาดหุ้นเอเชียที่เหลือก็เลยพลอยลงหนักไปด้วย ฮ่องกงลงไป -2.0% สิงคโปร์ -0.6% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ SET index ลงหนักในช่วงบ่าย โดย SET index ปิดที่ 1138.63 (-1.3%) ต่างชาติซื้อสุทธิ 962 ล้านบาท ซื้อนะไม่ใช่ขาย ลุงแมวน้ำไม่ได้พิมพ์ผิด

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปวันนี้ลงแรง ข่าวฝรั่งพาดหัวว่า sea of red คือแดงเป็นทะเล ดัชนีไอเบกซ์ 35 (IBEX 35) ของสเปนลงไป -2.6% ดัชนีเอเธนคอมโพสิต (Athex composit index) ของกรีซ -3.2% CAC40 ของฝรั่งเศา -2.0% DAX ของเยอรมนีปิด -1.8% ปัญหาก็มาจากเรื่องเดิมๆของกังวลเรื่องหนี้ของกรีซและมีสเปนเพิ่มเข้ามาอีก นี่ขนาดกังวลแต่บางวันก็ดีดขึ้นมาแรงๆได้ หากอธิบายด้วยข่าวจะตอบได้ยากแต่หากอธิบายด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะตอบได้ง่ายกว่า

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาก็ไม่แตกต่างออกไป แดงเหมือนกัน ด้านบราซิลดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -1.5% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา -1.3%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 30 เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าค่อนข้างแรง ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 82.4 จุดถึง 83.1 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่าหนัก เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน โครนา อ่อนค่าพอๆกันคือประมาณ -1.1%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ไปทางเดียวกัน คืออ่อนค่าลงค่อนข้างมากเนื่องจากดอลลาร์ สรอ ขึ้นแรง เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -1.4% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.8% ส่วนเงินบาท -0.5% ยกเว้นเงินเยนที่แข็งค่า +0.5%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 30/05/2012 กลุ่มน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างหนัก ทั้ง wti และเบรนต์ -3.4% น้ำมันดิบ wti หลุด 90 ดอลลาร์ลงมาแล้ว ด้านทองคำไม่ลง วันนี้ขึ้นสวน +1.0% ทองแดง -2.3% สินค้าเกษตรลงแต่ไม่แรง ดัชนีสินค้าเกษตร 73.04 จุด (-0.7%)

เช้านี้ (31/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 83.06 จุด เงินยูโร 1.237 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.04 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.88 บาท/ดอลลาร์ สรอ

น้ำมันดิบ wti 87.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 103.3 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1564 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์



คลื่นเศรษฐกิจ C คราวนี้จะลงไปถึงไหน


ตอนนี้ภาพต่างๆเริ่มชัดขึ้นแล้ว หากวิเคราะห์ทางเทคนิค ในความเห็นของลุงแมวน้ำ ตลาดหุ้นในยุโรปในระดับแนวโน้มใหญ่น่าจะเป็นคลื่นใหญ่ C และอยู่ในคลื่นย่อย 3 คลื่น A ของยุโรปก็คือช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2007-2009 นั่นเอง ส่วนคลื่น B คือช่วงฟื้นตัวจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปั 2009-2011 ส่วนคลื่น C นั้นเริ่มจากประมาณเดือนพฤษภาคม 2011 เป็นต้นมา ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาก็คล้ายคลึงกัน

เนื่องจากเยอรมนีถือเป็นพี่ใหญ่ของสหภาพยุโรป มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งที่สุด ดังนั้นลุงแมวน้ำถือเอากราฟทางเทคนิคของดัชนีแดกซ์ (DAX) ของตลาดหุ้นเยอรมนีเป็นตัวแทนของยุโรป หากเยอรมนีแย่เสียแล้วประเทศอื่นๆคงไม่ต้องพูดถึง อีกประการที่เลือกดัชนี DAX เป็นตัวแทนก็เพราะดัชนีนี้มีรูปทรงทางเทคนิคที่ชัดเจน นับคลื่นง่าย

เอาล่ะ ลองมาดูกันว่าคลื่น C คราวนี้จะลงไปถึงไหน


การนับคลื่นดัชนี DAX ของเยอรมนีและการประเมินจุดสิ้นสุดของคลื่น C


ภาพนี้เป็นกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งใช้มองภาพในมุมกว้าง คลื่น C นี้เป็นระดับคลื่นใหญ่ คงกินเวลาหลายปี น่าจะนานกว่า 2 ปี คือนานกว่าคลื่น A

หลักการนับคลื่นย่อยของคลื่นขาลงที่ถูกก็คือ คลื่น A กับ C นับคลื่นย่อยเป็น 1-2-3-4-5 เพราะเป็น motive wave ส่วนคลื่นย่อยของ B นับเป็น a-b-c เพราะเป็น reactive wave แต่บางทีลุงแมวน้ำก็นับเอาง่ายๆ คือนับเป็นตัวเลขหมด แต่ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ไม่ควรเลียนแบบ

ในคลื่น C คลื่นย่อย 3 มักลงแรงที่สุด เหมือนคลื่น 3 ตอนขาขึ้นนั่นเอง ทั้งแรงและยาว ดังนั้นก็คาดว่าตลาดขาลงคราวนี้คงแรง ลึก และกินเวลานาน ส่วนคลื่น 5 ของ C นั้นจากการสังเกตของลุงแมวน้ำ มักเป็นคลื่นหมดแรง คือเหมือนคนนอนสลบ ตลาดจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานกว่าที่จะฟื้นมาเข้าคลื่นรอบขาขึ้นได้อีก ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมองว่าคลื่น C นี้คงกินเวลานาน อาจจะสัก 2 ถึง 5 ปีกระมัง

ถามว่าคลื่น C จะไปจบลงที่ไหน วิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยฟิโบนัชชีเป้าหมาย (target fibonacci) แล้วลุงแมวน้ำประเมินว่าดัชนี DAX น่าจะลงไปถึง 3400-3700 จุด นี่คืออย่างดี หากเป็นอย่างแย่น่าจะลงไปถึง 1700-2200 จุด

พรุ่งนี้เรามาดูกันว่าในเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้จะเอาเงินไปไว้ที่ไหนดี หุ้นดีเฟนซีฟ (defensive stock) ดีไหม ทองคำดีไหม พันธบัตรดีไหม ฯลฯ แล้วพรุ่งนี้คุยกัน


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 30/05/2012



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 30/05/2012

Wednesday, May 30, 2012

29/05/2012 * USD ดอลลาร์ สรอไปต่อ




วันที่ 29/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ บางตลาดขึ้นแรง เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน ตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน SET index ปิดที่ 1153.66 (+1.2%) ต่างชาติซื้อสุทธิ 645 ล้านบาท หลังจากที่ขายมาหลายวัน

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นปรับตัวขึ้น แต่ก็ผันผวนเอาการ ขึ้นไปสองครั้งและลงมาสองครั้งเช่นกัน ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิด +1.2% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซวันนี้รีบาวด์ได้ +1.9

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลเปิดเขียวแต่แล้วก็ไหลลง ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -0.9% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา +1.0% แ

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 30 เงินดอลลาร์ สรอ ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 82.0 จุดถึง 82.6 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่า เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน โครนา อ่อนค่าพอๆกันคือประมาณ -0.3%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ไปทางเดียวกัน คืออ่อนค่าลงเล็กน้อย เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย เงินเยน เงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าใกล้เคียงกันคือประมาณ -0.1% ส่วนเงินบาทอ่อนตัวมากกว่ากลุ่ม -0.4%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 29/05/2012 ช่วงท้ายตลาดสหรัฐอเมริกา น้ำมันดิบและทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ทั้ง wti -0.1% และเบรนต์ -0.4% ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวิ่งขึ้นไปมากพอควร ทองคำ -1.0%

เช้านี้ (30/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 82.5 จุด เงินยูโร 1.248 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.50 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.75 บาท/ดอลลาร์ สรอ

น้ำมันดิบ wti 90.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 106.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1551 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์

เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าต่อเนื่องเพราะน่าจะอยู่ในคลื่น 3 ย่อย ลุงแมวน้ำคาดว่าขั้นต่อไปคงไปทดสอบที่ 32.3 บาท/ดอลลาร์ สรอ



Monday, May 28, 2012

สรุปตลาดรอบสัปดาห์ 21/05/2012 - 25/05/2012, เพิ่มกองทุนตราสารหนี้ในรายงาน



และแล้ว ในที่สุดลุงแมวน้ำก็ทำได้สำเร็จ นั่นคือซ่อมข้อมูลด้วยสองครีบและปลายจมูก จิ้มตัวเลขบนแป้นอย่างยากลำบาก (นึกภาพตามไปด้วยจะได้น่าสงสาร) เพิ่งเสร็จเมื่อตอนเช้ามืดสักครู่นี้เอง ที่จริงยังเสร็จไม่หมดหรอก แต่ลุงแมวน้ำทำให้ออกรายงานได้ไปก่อน ส่วนที่ไม่ได้ใช้ตอนออกรายงานเอาไว้ซ่อมต่อวันหลัง yahoo อย่าเสียบ่อยนะ ถ้าเสียบ่อยๆลุงแมวน้ำคงแย่แน่

เอาละ เรามาดูที่สรุปตลาดทั้งหลายกัน ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว (21/05/2012 - 25/05/2012) ข่าวร้ายลอยมาจากฝั่งยุโรปไม่ขาดระยะ ผลการประชุมผู้นำกลุ่มจี 8 (G8) ไม่มีอะไรให้น่าดีใจเนื่องจากคุยไปคุยมาก็ยังสรุปอะไรไม่ได้เรื่องการแก้ปัญหายุโรป ตามมาด้วยสถาบันจัดอันดับเครดิตมูดีส์ลดอันดับเครดิตธนาคารในอิตาลี 26 แห่ง และลดอันดับเครดิตธนาคารในสเปน 16 แห่ง พร้อมกันนั้นข่าวลือเรื่องกรีซจะออกจากกลุ่มยูโรโซนและเลิกใช้เงินยูโรแพร่ไปทั่วไอเอ็มเอฟหรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศก็แสดงความเห็นเรื่องกรีซออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปด้วยเช่นกันว่าหากกรีซออกจากกลุ่มและเลิกใช้เงินยูโรจริงธนาคารกลางของยุโรปหรืออีซีบี (ECB, European Central Bank) อาจเสียหายหนักจนช่วยประเทศอื่นใดไม่ได้อีกเพราะปล่อยกู้ให้แก่กรีซไปมาก

แม้ว่าข่าวร้ายจากยุโรปจะมีมาเรื่อยๆ แต่หากดูในข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในกลุ่มยุโรปปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ดัชนีระดับโลก คือ Dow Jones Global Index กับ MSCI All Country World Index ปรับตัวขึ้นประมาณ +0.7% กับ +0.5% ตามลำดับ ใกล้เคียงกัน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของตลาดสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น +0.7% ส่วนดัชนีตลาดยุโรป (E1DOW) เฉลี่ยแล้วก็ร่วงไปเพียง -0.2% แต่ภูมิภาคที่ฉุดตลาดกลับเป็นแถวๆบ้านเราอีกเช่นเคย เหมือนในสัปดาห์ก่อน นั่นคือกลุ่มเอเชียแปซิฟิกนั่นเอง ดัชนีดาวโจนส์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (P1DOW) ปรับตัวลง -0.8% โดยรวมแล้วตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นลงเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรงอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ให้ลองสังเกตดูสัญญาณซื้อขายในรายงาน จะเห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นเกือบทุกประเทศ รวมทั้งฟิวเจอร์ส ค่าเงิน ฯลฯ ต่างๆนาๆที่ปรากฏใมนรายงาน เกิดสัญญาณขายเกือบทั้งหมด มีเพียงเงินดอลลาร์กับเงินเยน และอีกไม่กี่รายการเท่านั้นที่ยังเป็นสัญญาณซื้ออยู่ เห็นได้ค่อนข้างชัดว่าแนวโน้มของโลกกลับทิศเป็นขาลงแล้ว

ทีนี้มาดูในรายละเอียดกัน ตลาดหุ้นที่ลงแรงคือกรีซ ลงไป -12% ตอนนี้ดัชนีตลาดหุ้นของกรีซลงมาต่ำกว่า 500 จุดแล้ว รองลงมาคือตุรกี ลงแรง -4% ส่วนตลาดหุ้นที่ขึ้นแรงคือตลาดหุ้นอาร์เจนตินา +9.6%

ดัชนี SET index ของไทยในรอบสัปดาห์ลดลงไป -1.9% ต่างชาติขายสุทธิแม้กระทั่งในวันที่ตลาดหุ้นบวก นอกจากนี้ลุงแมวน้ำสังเกตว่าในสัปดาห์นี้มีบางวันที่ดัชนี SET50 index ติดลบมากกว่าดัชนี SET index ซึ่งหมายความว่าหุ้นที่ถูกขายออกมามากก็คือหุ้นมาร์เก็ตแคปสูงที่ฝรั่งชอบถือนั่นเอง
โปรแกรมของลุงแมวน้ำถือหุ้นในกลุ่ม SET50 น้อยลงไป คือเกิดสัญญาณขายไปเกือบหมดพอร์ตแล้ว สามสัปดาห์ก่อนหน้าถืออยู่ 41 หุ้น แล้วลดลงเหลืออยู่ 28 หุ้น ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 7 ตัว หุ้นที่ลงแรงมีหลายตัวเป็นพวกหุ้นมาณืเก็ตแคปสูง PTTGC -8%, PTTEP กับ ESSO -9%, BANPU กับ PTT -6% ส่วนหุ้นที่ขึ้นแรงมีเพยีงไม่กี่ตัว BIGC +8%, LH +7%, MINT +6%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเกือบทั้งหมด โดยกลุ่มที่ฉุดตลาดคือกลุ่มสินค้าเกษตร -4% แต่บางตัวก็ลงแรงมาก เช่นข้าวโพด (C) -9% กลุ่มโลหะกับน้ำมันลงไม่มาก

ทางด้านตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกา อายุ 10 ปี (10 yr T-Bill) เพิ่มขึ้น 0.05 จุด (basis point) หรือเพิ่มขึ้น +3.0% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 6 จุด (+1.6%)

ทางด้านค่าเงินหรือตลาดอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่ผ่านมาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแข็งค่าขึ้น โดย USD index เพิ่มขึ้น +1.4% เงินสกุลอื่นอ่อนค่าไปตามกัน ดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.6% เงินยูโร -2.1% ฟรังก์สวิส -2.1%

ทางด้านเงินตราสกุลเอเชีย เงินเยนอ่อนค่า -0.7% ดอลลาร์สิงคโปร์ -0.5% ส่วนบาทอ่อนค่า -1.1%


ค่าเงินเช้านี้ 28/05/2012

เช้านี้ ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 82.1 จุด เงินยูโร 1.256 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.49 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.63 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 91.5 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 107.2 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1574 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์


ลุงแมวน้ำปรับปรุงรายงาน เพิ่มกองทุนตราสารหนี้

ขณะที่ลุงแมวน้ำซ่อมฐานข้อมูลเมื่อวันก่อนก็เลยถือโอกาสปรับปรุงรายงานไปด้วยเลย เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนนักลงทุนมากขึ้น โดยนำมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้บางกองทุนมาใส่ไว้ด้วย เพื่อให้พวกเราสามารถติดตามภาวการณ์ของตลาดตราสารหนี้ได้ ตลาดหุ้นไม่ดีก็ไปตั้งหลักกันที่ตลาดพันธบัตรหรือว่าตลาดตราสารหนี้กันก่อน

กองทุนตราสารหนี้ที่ลุงแมวน้ำนำมาใส่ในรายงานมีอยู่ 4 กองทุน ดังนี้

KCASH เป็นกองทุนตลาดเงิน (money market fund) หรือกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมาก อายุตราสารเพียงไม่ถึงปี ผลตอบแทนที่ได้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำหรือว่าออมทรัพย์นิดหน่อย ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ถือว่าดีกว่าปล่อยให้เงินนอนอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ ที่จริงกองทุนตลาดเงินประเภทนี้มีเยอะมากในบ้านเรา แต่ที่ลุงแมวน้ำเลือกกองนี้มาไม่ใช่เพราะกองนี้ดีเป็นพิเศษ แต่เพราะว่าสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ง่าย ทำให้งานของลุงแมวน้ำสะดวกน่ะ ก็เลยเลือกมา

กองทุนตราสารหนี้ในบ้านเราหากลงทุนในประเทศจะเป็นกองทุนประเภทตลาดเงินทั้งหมด คือไม่มีกองใดลงทุนในตราสารหนี้อายุยาวๆเลยหากจะหากองทุนที่ลงทุนในตราสารอายุยาวต้องไปมองกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจึงจะพอมีอยู่บ้าง

KFTRB เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศอีกทีหนึ่ง กองทุนแม่คือ PIMCO Total return bond fund ลงทุนในพันธบัตรรับาลอเมริกันเป็นหลัก มี duration เฉลี่ยประมาณ 4 ปีกว่าๆ คำว่า duration นี้ยังไม่อธิบายละกันนะคร้าบ เพราะว่าเข้าใจยากนิดหน่อย เอาเป็นว่าหากค่านี้สูงๆก็หมายความว่าถือพันธบัตรที่มีอายุยาวๆอยู่ในพอร์ตน่ะ

TMBGBF เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ กองทุนแม่คือ Templeton Global Bond Fund เน้นการลงทุนในพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ แต่ duration ไม่สูงนัก ประมาณ 2

AEOB เป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ กองทุนนี้ค่า duration ดูเหมือนจะสูงที่สุดในบรรดากองทุนตราสารหนี้ที่มีอยู่ในเมืองไทย คือประมาณ 10

ลุงแมวน้ำเลือกมา 4 กองทุนที่มี duration เฉลี่ยต่างๆกัน ลองตามการเปลี่ยนแปลงของ NAV กองทุนต่างๆเหล่านี้ดูไปเรื่อยๆ น่าจะพอเห็นอะไรได้บ้าง ลุงแมวน้ำอยากให้ดูเพื่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของ nav ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อกองใดกองหนึ่ง หากต้องการพักเงินที่ได้จากการขายหุ้นก็พักในกองทุนประเภทตลาดเงินไว้ก่อน ส่วนจะเป็นกองทุนใดต้องศึกษาดูในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งด้วยตนเอง ส่วนกองทุนตราสารหนี้ที่อายุยาวขึ้น (พวกที่มี duration สูงขึ้น) ก็ไม่ใช่ว่าดูเรชันสูงแล้วจะน่าลงทุนเสมอไป ก็ต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละกองทุนกันอีก แต่ในความห็นของลุงแมวน้ำคือตอนนี้ฝุ่นตลบอยู่ พักเงินไว้ในกองทุนตลาดเงินก่อนแล้วค่อยคิดหรือตัดสินใจอีกทีในขั้นต่อไปดีกว่า


กราฟแสดงความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญบางสกุลรวมทั้งทองคำ




ตารางหุ้น ฟิวเจอร์ส และกองทุนรวม และค่าสถิติต่างๆ

Friday, May 25, 2012

24/05/2012 * ดูหุ้นแรงบางตัวกัน

ค่าเงินเช้านี้ 24/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 23/05/2012)


วันที่ 23/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกเริ่มนิ่งๆหลังจากที่ลงแรงและรีบาวด์ขึ้นมา ส่วนใหญ่ปิดแบบบวกนิด ลบหน่อย แต่ว่าในระหว่างวันผันผวนเอาการ ตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน ต้นตลาดสีแดงแต่มีแรงวิ่งท้ายตลาดจนปิดเขียว SET index ปิดที่ 1125.78 (+1.4%) ต่างชาติขายสุทธิมากยิ่งขึ้นแม้จะเป็นวันตลาดบวก ต่างชาติขายไป 2377 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นปรับตัวขึ้น มีทั้งขึ้นน้อยและขึ้นมาก อังกฤษกับฝรั่งเศสแรงหน่อย ส่วนดัชนี DAX ของเยอรมนีปิด +0.5% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซยังลงต่อไปอีก -4.5% ข่าวร้ายจากยุโรปยังทยอยมาเป็นระยะ

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลกระดานแดงตลอดเวลาเทรด ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -1.0% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา +0.3% แต่ระหว่างเวลาเทรดแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 24 เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าต่อจนสามารถทะลุ 82 จุดมาได้แล้ว ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 81.9 จุดถึง 82.4 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่า เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครนา อ่อนค่าพอๆกันคือ -0.4% ส่วนเงินโครนของนอร์เวย์ -0.7%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกไม่ไปทางเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.13% กับเงินเยนอ่อนค่าลงประมาณ -0.15% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ +0.1% ส่วนเงินบาทวันนี้อ่อนตัวแรงหน่อย -0.3%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 24/05/2012 น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นประมาณ +1.0% ทั้ง wti และเบรนต์ กลุ่มโลหะบวกทั้งกลุ่ม ทองแดง +1.1% โลหะเงิน +2.6% ส่วนทองคำ +0.7% ด้านสินค้าเกษตรวันนี้ดูไม่ดีเช่นเคย ดัชนีสินค้าเกษตร 73.99 จุด (-0.35%)

เช้านี้ (25/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 82.3 จุด เงินยูโร 1.254 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.67 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.62 บาท/ดอลลาร์ สรอ

น้ำมันดิบ wti 91.0 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 107.0 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1560 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ เงินบาท


หุ้นแรง (ดูขำๆ)

ช่วงนี้มีหุ้นไทยแกว่งแรงหลายตัว ระดับความผันผวน (vi) นั้นประมาณ 8% ซึ่งสูงมาก ภาษาสมัยนี้ต้องเรียกว่าผันผวนขั้นเทพ ที่จริงคงไม่ใช่เทพหรอก ใครพลาดท่าเข้าคงคิดว่าเป็นอย่างอื่นมากกว่าเป็นเทพ ลุงแมวน้ำเอามาให้ดูสามตัว ลองมาดูกัน

เรื่องทุนเป็นเรื่องสำคัญมากในการลงทุนและการสร้างอิสระทางการเงิน อุตส่าห์เก็บออมมาแทบแย่ อย่าปล่อยให้ความใจร้อนหรือความอยากมีอยากได้มากๆเข้าครอบงำ (ก็ความโลภนั่นแหละ ไม่อยากบอกตรงๆ ^_^) จนทุนหายไปในพริบตา การลงทุนเป็นกระบวนการต่อเนื่องทั้งชีวิต ไม่ใช่เพียงปีสองปีหรือวันสองวัน ทางลัดก็มีแต่ใช่ว่าใครๆจะทำได้ เหมือนกับคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยตอนอายุ 12 ขวบ มีนั้นมีอยู่แต่ว่ามีสักกี่คนกัน ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า


NMG ขึ้นจาก 0.75 บาท บวกได้ประมาณ 110% ตอนนี้ราคาอยู่ใต้ยอดดอย -23%



WORK วันหนึ่งขึ้นไป +19% วันเดียวนี่แหละ แล้วบางวันก็ลงมา -10% ในวันเดียวเช่นกัน



หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว MALEE ขึ้นจาก 30 บาท ไปได้ประมาณ 150% ตอนนี้อยู่ใต้ยอดดอย -20%



ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 24/05/2012


อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 24/05/2012

Wednesday, May 23, 2012

22/05/2012 * สินค้าเกษตร, ยางพารา ถอยดีกว่า


ค่าเงินเช้านี้ 23/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 22/05/2012)

วันนี้ลุงแมวน้ำมาเช้าอีกแล้ว ปลื้มใจในความขยันของตนเองจริงๆ ไม่มีใครชมลุงแมวน้ำ ชมตัวเองก็ได้ ^_^

ขณะนี้ข้อมูลของสัปดาห์ที่แล้วมีปัญหา ข้อมูลจาก yahoo หายไปดื้อๆ ลุงแมวน้ำต้องซ่อมข้อมูลเองด้วยสองครีบ งานเข้าเลย สัปดาห์นี้คงงดสรุปรอบสัปดาห์ไปก่อน รอให้ลุงแมวน้ำซ่อมข้อมูลในวันหยุดให้เสร็จเสียก่อนแล้วค่อยมาดูกันใหม่

วันที่ 22/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกมีรีบาวด์ต่อจากวันก่อน ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ขึ้นกันเกินกว่า +1% เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ +1.1% ใกล้เคียงกัน อินโดนีเซีย +2.0% ยกเว้นตลาดหุ้นไทยอีกแล้ว ตอนแรกเปิดเขียว แต่แล้วก็ไหลลง แรงขายไม้ใหญ่ๆก็มี SET index ปิดที่ 1131.52 ลดลงไป 3 จุด (-0.32%) ต่างชาติขายสุทธิ 161 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นปรับตัวขึ้น ส่วนใหญ่เกินกว่า +1% ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิด +1.7% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซยังลงต่อไปอีก -1.6%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลและสหรัฐอเมริกาวันนี้ปิดลบ ตลาดหุ้นบราซิลไหลลงตลอดเวลาเทรด ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -2.8% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา -0.01% แทบไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้แกว่งขึ้นลงในกรอบแคบ

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 22 เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 80.9 จุดถึง 81.7 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่า เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน โครนา อ่อนค่าพอๆกันคือ -1.0%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกไม่ไปทางเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลียกับเงินเยนอ่อนค่าลงประมาณ -1.0% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.4% ส่วนเงินบาท -0.2% เงินหยวนแข็งค่า +0.1%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 22/05/2012 น้ำมันดิบปรับตัวลง คือ wti -1.0% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ -0.9% กลุ่มโลหะ ทองแดง -1.2% โลหะเงิน -0.8% ส่วนทองคำ -1.1% ด้านสินค้าเกษตรวันนี้ดูไม่ดี ดัชนีสินค้าเกษตร 75.53 จุด (-2.0%)

เช้านี้ (23/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 81.8 จุด เงินยูโร 1.266 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 80.0 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.48 บาท/ดอลลาร์ สรอ เช้านี้เงินเอเชียอ่อนตัวค่อนข้างเร็ว เป็นทั้งภูมิภาค โปรดระวัง

น้ำมันดิบ wti 91.4 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 108.0 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1566 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ เงินบาท


สินค้าเกษตร, ยางพารา ถอยดีกว่า

ช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบ ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ (commodities) อื่นๆดูไม่ดีเท่าไรนัก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับข่าวคราวล่าๆนี้สถานการณ์ด้านนิวเคลียร์อิหร่านดูจะสงบลงได้ชั่วคราว อย่างน้อยก็ยังไม่มีความรุนแรงอะไร ประกอบกับทางเทคนิคขณะนี้แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลงอยู่ อีกทั้งเกิดสัญญาณขายมานานหลายวันแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวลงต่อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร รววมทั้งยางพาราที่ในระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาลงอยู่แล้ว ก็น่าจะลงต่อได้อีก ดังนั้นในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันดิบ ทองคำ สินค้าเกษตร ยางพารา ถอยออกมาหรืออยู่เฉยๆดีกว่า

เรื่องราคาน้ำมันดิบนั้นทางเทคนิคในระยะกลางและยาวลุงแมวน้ำยังมองเป็นขาขึ้นอยู่ เพราะว่าเราน่าจะอยู่ในคลื่นใหญ่ 5 ก็ว่าไปตามเทคนิค ประกอบกับเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเลิกซื้อขายน้ำมันดิบกับอิหร่านที่จะเริ่มในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ยังไม่เลิกล้มไป ดังนั้นคงต้องคอยตามดูกันต่อไปก่อน

แต่อย่างไรก็ดี โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้ในทางเทคนิค น้ำมันดิบน่าจะอยู่ในคลื่นใหญ่ 5 แต่ก็ต้องไม่ลืมในทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีเรื่องคลื่นล้มเหลว หรือ 5th wave failure pattern (หรือ failed wave 5) อยู่ อันหมายถึงคลื่น 5 ที่ทำยอดคลื่นสูงกว่าคลื่น 3 ไม่ได้ แล้วก็จบแล้ว 5 ไปดื้อๆ เข้าสู่คลื่นขาลงเลย ดังนั้นต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าหากคลื่นเศรษฐกิจ C รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ น้ำมันดิบ สินค้าเกษตรต่างๆ อาจเกิด failed wave ได้ รวมทั้งการนับคลื่นผิดก็อาจเป็นไปได้ ดังนั้นต้องใช้สัญญาณซื้อขายกำกับอยู่ด้วยเสมอ

แถมท้ายอีกนิด ตลาดหุ้นไทย SET index ลงมาจากยอดคลื่นได้ประมาณ -8.5% แล้ว ลองดูต่อไปอีกนิด หากราคาลงต่ออีกเกินกว่า -10% จากยอดคลื่น สมมติฐานที่ว่าเราจบคลื่นย่อย 5 แล้วก็จะมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น (พูดง่ายๆก็คือกลับทิศเป็นขาลง a-b-c นั่นเอง)


กราฟดัชนีราคาสินค้าเกษตร DJUBSAG น่าจะลงต่อได้อีกเพื่อไปทดสอบที่ระดับฟิโบนาชชี 61.8%



กราฟราคายางพารายังอยู่ในกรอบ SEC ขาลง น่าจะลงต่อตามกลุ่มสินค้าเกษตรเช่นกัน



ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 22/05/2012



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 22/05/2012

Tuesday, May 22, 2012

21/05/2012 * ยุโรปอยู่ในแนวโน้มขาลงทั้งคลื่นใหญ่และคลื่นย่อย

ค่าเงินเช้านี้ 22/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 21/05/2012)


วันนี้ลุงแมวน้ำมาเช้ามากกกก เห็นไหมว่าลุงแมวน้ำขยันเพียงใด ไม่ได้ขี้เกียจเลยแม้แต่น้อย ^_^

ขณะนี้ข้อมูลของสัปดาห์ที่แล้วยังมาไม่ครับเลย ดังนั้นจึงยังไม่ได้วิเคราะห์รอบสัปดาห์ ขอดูอีกวันหนึ่ง หากข้อมูลยังไม่มาก็อาจไปอัปเดตกันในสัปดาห์หน้าไปเลย สำหรับตอนนี้เรามาดูอัปเดตประจำวันกันก่อนก็แล้วกัน

ในรอบสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นร่วงเพราะกังวลเรื่องยุโรป ยุโรปสัปดาห์ที่แล้วยมีหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการจัดเลือกตั้งใหม่ของกรีซ การลดอันดับเครดิตของสเปน ประชาชนแห่ถอนเงินจากธนาคารของกรีซและสเปน และการประชุมกลุ่มจี 8 ฯลฯ ตามข่าวกันไม่ไหวเหมือนกัน

วันที่ 21/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกมีรีบาวด์ขึ้นมาบ้างในบางตลาด รวมๆแล้วก็ขึ้นนิดลงหน่อย ไม่มากมายอะไร เช่น จีน +0.16% ฮ่องกง -0.16% ญี่ปุ่น +0.25% เป็นต้น มียกเว้นอยู่คือตลาดหุ้นไทยที่ลงแรงพอควร SET index ลดลงไป 19.28 จุด (-1.7%) ต่างชาติขายสุทธิ 2162 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นก็รีบาวด์เช่นกัน ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิด +0.95% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซยังลงต่อไปอีก -1.0% ตลาดหุ้นรัสเซียขึ้นแรงเช่นกัน +2.2% ช่วงนี้ตลาดหุ้นรัสเซียผันผวนมาก รวมทั้งค่าเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าหนัก

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาก็รีบาวด์ ด้านบราซิลและสหรัฐอเมริกาวันนี้เปิดเขียวแล้วยังไปแรงท้ายตลาดต่ออีก ตลาดหุ้นบราซิล ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) +3.8% ขึ้นแรงจนน่ากลัว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา +1.1% หุ้นพวก mid cap หรือหุ้นขนาดกลางในตลาดหุ้น สรอ รีบาวด์แรงกว่า ประมาณ +2.2%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 21 เงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัว ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 80.9 จุดถึง 81.4 จุด มาปิดแถวๆ 80.9 จุด เงินสกุลยุโรปแข็งค่าเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครนา แข็งค่าพอๆกันคือ +0.3% เงินโครนแรงกว่าหน่อย +0.5%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกไม่ไปทางเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.7% เงินเยน -0.4% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ +0.4% ส่วนเงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย +0.1%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 21/05/2012 กลุ่มน้ำมันดิบรีบาวด์ คือ wti +1.6% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ +2.0% กลุ่มโลหะ ทองแดง +1.4% โลหะเงิน -1.2% ส่วนทองคำทรงตัวด้านสินค้าเกษตร ดัชนีสินค้าเกษตร 77.79 จุด (+0.2%)

เช้านี้ (22/05/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 80.95 จุด เงินยูโร 1.281 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.31 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.33 บาท/ดอลลาร์ สรอ ไม่เปลี่ยนแปลง

น้ำมันดิบ wti 92.6 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 109.3 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1593 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์

วันนี้เอากราฟดัชนี DAX ของเยอรมนีมาดูกันก่อน คงต้องเท้าความกันหน่อยว่าเมื่อปีที่แล้วราวเดือนพฤษภาคม 2011 ลุงแมวน้ำประเมินเอาไว้ว่าตลาดโลกจบคลื่น B แล้ว เนื่องจากนับคลื่นย่อยได้ครบสามคลื่น และโลกเข้าสู่คลื่น C

แต่ว่าต่อมาตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาทำคลื่นย่อยที่ 4 และ 5 ต่อไปอีก ลุงแมวน้ำจึงต้องรอดูไปก่อนเผื่อว่าอาจต้องรับมุมมองเสียใหม่ แต่ก็ยังคิดว่าจบคลื่น B หรือยังเท่านั้น ไม่ได้คิดไปไกลถึงว่านี่ไม่ใช่คลื่น B

จนถึงวันนี้ พิจารณาตลาดหุ้นกลุ่มยุโรปแล้วคิดว่าไม่เกิดคลื่นย่อย 4 และ 5 คงมีเพียงตลาด สรอ เท่านั้นที่พิเศษออกไป ดังนั้น ลุงแมวน้ำจึงยังมองเช่นเดิมว่าขณะนี้ยุโรปอยู่ในคลื่นใหญ่ C และคลื่น C ดำเนินมานานแล้ว (ตั้งแต่ปีที่แล้ว) และปัจจุบันน่าจะอยู่ในคลื่นย่อยขาลงด้วย คือ คลื่น C เป็นขาลงอยู่แล้ว แต่ในระดับคลื่นย่อยตอนนี้ก็เป็นคลื่นขาลงอันเป็น motive wave เมื่อลงก็จะลงแรง 

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาอาจปรับมุมมองนิดหน่อยคือเพิ่งจบคลื่น B นี่คุยให้ฟังคร่าวๆก่อน แล้วจะคุยละเอียดอีกทีหนึ่ง เหตุที่รีบนำมาคุยก่อนเพราะหากเป็นไปตามนี้จริง ต่อไปตลาดหุ้นทั่วโลกอาจลงแรง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นไทย จึงอยากเตือนให้ระวังกันให้มากๆ

นอกจากนี้ ผู้ที่ลงทุนใน LTF ขณะนี้กองทุน LTF ที่ใช้อนุพันธ์ช่วยลดความเสี่ยง ทำให้เมื่อตลาดหุ้นลงแต่มูลค่าหน่วยลงทุนลงไม่มาก คือเอาไว้หลบภัยตอนตลาดขาลงนั่นเอง กองทุน LTF ประเภทหลบภัยพวกนี้ซื้อขายไม่ได้แล้ว ดังนั้นนักลงทุน LTF จึงไม่มีที่หลบภัยแล้ว ต้องเผชิญตลาดไปเต็มๆ





Sunday, May 20, 2012

เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ ถั่วงอกขี้เกียจ ถั่วงอกเพาะง่ายที่สุดในโลก


ช่วงนี้ข้าวของอะไรต่ออะไรก็แพงไปหมด โดยเฉพาะราคาอาหาร ลุงแมวน้ำจเอมากับตัวเอง ราคาแพงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แผงขายอาหารธรรมดาที่ขายในศูนย์ประชุมแห่งหนึ่ง คือเป็นแผงขายอาหารแบบชั่วคราวขายเฉพาะในงานนั้นเท่านั้น ไม่ใช่แผงถาวร ข้าวหมูแดงจานโฟมเล็กๆจานหนึ่ง ราคา 65 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามโฟม คงนึกออกว่าชามก๋วยเตี๋ยวแบบโฟมนั้นเล็กแค่ไหน ชามโฟมนั้นแหละ ราคา 50 บาท น้ำหวาน กาแฟ แก้วละ 25-30 บาท ส้มตำใส่จานโฟมเล็กๆ 40 บาท นี่ส้มตำไทยนะ หากส้มตำปูคิด 45 บาท ลุงแมวน้ำเห็นราคาอาหารที่พุ่งพรวดพราดแล้วก็เหนื่อยใจเหมือนกัน ยิ่งช่วงนี้เปิดเทอม เป็นช่วงใช้จ่ายของครอบครัวที่มีเด็กในวัยเรียนเลยทีเดียว โรงรับจำนำจึงต้องทำงานกันหนักมาก

เดี๋ยวนี้ลุงแมวน้ำไปไหนจะพกกล่องอาหารเที่ยงอย่างที่ฝรั่งเรียกว่า lunch box ติดตัวไป โดยซ่อนเอาไว้ในหูกระต่าย เวลาพักก็เอาออกมากิน อาหารของลุงแมวน้ำก็คือวาฟเฟิล มัฟฟิน หรือขนมปังทำเองของลุงแมวน้ำนั่นแหละ ลุงแมวน้ำคิดสูตรให้มีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถกินเป็นมื้ออาหารได้ ไม่ใช่ของกินเล่น แถมแคลอรี่ก็ไม่สูง ไขมันต่ำ น้ำตาลต่ำอีกด้วย มื้อหนึ่งประหยัดไปได้หลายสิบบาทเลยทีเดียว อีกทั้งมีคุณภาพดีอีกด้วย แต่พูดไปแล้วก็อาจถูกต่อว่าได้ว่าหากทำแบบนี้กันมากๆ พ่อค้าแม่ขายคงแย่เพราะขายของไม่ได้ จีดีพีอาจหดตัวได้ ว่าไปโน่น ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง คนเราก็คิดกันได้หลายแบบ ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบและกำลังซื้อยังดีอยู่ก็คงมีอยู่ไม่น้อย

แต่หากใครที่ต้องการประหยัด เราลองมาทำอะไรกินเองกันดูบ้างดีกว่า วันนี้ลุงแมวน้ำจะชวนทำเกษตรในครัวกัน นั่นคือ การเพาะถั่วงอก

ปัจจุบันถั่วงอกราคากิโลกรัมละ 14-15 บาทได้มั้ง ปีที่แล้ว 10 บาทเอง อันที่จริงการเพาะถั่วงอกกินเองคงไม่ได้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของเราเท่าไรนัก แต่ลุงแมวน้ำเห็นว่าถั่วงอกเพาะได้ง่าย ความสำคัญของการเพาะถั่วงอกไม่ใช่อยู่ที่การประหยัด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในการพึ่งพาตนเองให้มากขึ้นต่างหาก หากเราเพาะถั่วงอกได้ อีกหน่อยเราก็ทำนั่น ทำโน่ ทำนี่ ได้เพิ่มมากขึ้น เราก็จะพัฒนาตนเอง สามารถประหยัดและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ลุงแมวน้ำใช้หัวเรื่องว่าถั่วงอกขี้เกียจนั้นไม่ใช่ถั่วงอกพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ก็ถั่วงอกธรรมดานี่แหละ แต่ลุงแมวน้ำใช้อุปกรณ์และวิธีการง่ายๆ ตามประสาแมวน้ำเกียจคร้าน ก็เลยตั้งชื่อเรื่องแบบนี้

ถั่วงอกที่ขายกันทั่วไปนั้นปกติทำมาจากถั่วเขียว แต่ที่จริงแล้วถั่วชนิดอื่นก็เพาะได้ แต่เรามาเริ่มที่ถั่วเขียวกันก่อนเนื่องจากถั่วเขียวมีอัตราการงอกสูง เพาะง่าย อีกทั้งยังเป็นถั่วงอกที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุดอีกด้วย

ถั่วงอกนี้เป็นแนวคิดเดียวกับพวกข้าวกล้องงอก ข้าวฮาง คือเป็นการเพาะเมล็ดพืชให้งอกแล้วเอาเมล็ดงอกนั้นมาบริโภค สำหรับพืชพวกข้าวนั้นเมล็ดงอกจะมีสารกาบา (Gaba) หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่ากรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (gamma-aminobutyric acid) อันเป็นสารที่มีความสำคัญต่อร่างกายอยู่ในปริมาณค่อนข้างสูง ส่วนเมล็ดถั่วที่กำลังงอกนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับเมล็ดถั่วที่ยังไม่งอก รวมทั้งไม่ได้มีสารกาบาเหมือนกับในข้าวงอก แต่จะได้ในด้านรสชาติหรือความอร่อยกรอบกรุบมากกว่า

เอาละ เรามาเพาะถั่วงอกขี้เกียจกินเล่นกันดีกว่า ดูรูปและทำตามไปด้วยกันเลย

อ้อ คราวนี้ลุงแมวน้ำใส่พากษ์ภาษาฝรั่งลงไปด้วย  ขอโกอินเตอร์เสียหน่อย เรื่องของเรื่องมีคือฝรั่งมาอ่านเรื่องวันหยุดของลุงแมวน้ำน่ะ ไม่ใช่ลุงแมวน้ำดัดจริต ลุงแมวน้ำรักการเรียนรู้ พยายามฝึกฝนภาษาต่างๆเอาไว้คุยกับเด็กๆที่มาชมการแสดงของลุง เผื่อลุงจะได้รางวัลจากเด็กๆมากขึ้นไง ^_^ ก็เลยพอเป็นภาษาอังกฤษกับเขาบ้าง




อุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีก็คือถังสองใบ ลุงแมวน้ำใช้ถังขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้วและเลือกซื้อถังแบบที่มีฝาปิด ใบหนึ่งเจาะรูที่รอบๆถังและที่ก้นถังเพื่อระบายน้ำ ส่วนอีกใบไม่ต้องเจาะรู การเจาะรูก็ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะ ขั้นนี้อาจยุ่งนิดหน่อยตรงที่ต้องใช้สว่านไฟฟ้าด้วย และที่เห็นถังสองใบขนาดไม่เท่ากันเป็นเพราะตอนที่ลุงแมวน้ำซื้อมาตั้งใจซื้อคนละขนาดกัน เพื่อเอาไว้ใช้ทำอย่างอื่นด้วย แต่ในการเพาะถั่วงอกใช้ขนาดเท่ากันก็ได้

ถังใบที่ไม่มีรู (ถังสีเขียวในภาพ) เอาไว้แช่เมล็ดถั่ว ส่วนถังใบที่มีรู (สีชมพูในภาพ) เอาไว้เพาะถั่วงอก

Bean sprouts are tasty. They can go well with other salad vegetables and are used in various kind of asian food including in some western food ie. soup. In growing bean sprout at home, 2 buckets with lids are needed. One bucket is normal (the green one in the picture), one with small holes on it to let the water out (the red one).




ขั้นต่อมาก็ต้องมีวัตถุดิบ ซึ่งก็คือเมล็ดถั่วเขียว ตามปกติถั่วเขียวที่ใช้ทำถั่วงอกนิยมใช้พันธุ์ถั่วเขียวผิวดำ เพราะว่าให้ถั่วงอกที่ขาวสวยกว่า ส่วนที่นิยมรองลงมาเป็นถั่วเขียวผิวมัน นำไปเพาะแล้วถั่วงอกที่ได้มักมีสีเหลืองอ่อนๆ ในที่นี้ลุงแมวน้ำซื้อถั่วเขียวสำเร็จรูปที่ขายเป็นห่อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต ห่อหนึ่งหนักครึ่งกิโลกรัม (500 กรัม) ราคาสามสิบกว่าบาท หากซื้อแบบที่ชั่งขายในตลาดสดจะถูกกว่านี้ ในการเพาะกับถังเพาะใบนี้ให้ใช้ถั่วเขียวครั้งละ 150 กรัมหรือหนึ่งในสามของถุงก็พอ

ตาชั่งจะมีหรือไม่มีก็ได้ หากไม่มีก็กะประมาณอา ไม่ยากอะไร 

Here we are growing mung bean sprouts, so mung beans 150 g are used.




ขั้นต่อมาก็เป็นการแช่ถั่วในน้ำอุ่นเสียก่อน หลักการก็คือแช่เมล็ดถั่วในน้ำที่มีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ข้อนี้จะถือเป็นเคล็ดลับก็ได้ เพราะการแช่ในน้ำอุ่นเป็นการกระตุ้นให้ถั่วตื่นจากสภาพหลับใหล จะได้งอกเร็ว

สำหรับน้ำอุ่น 50 องศาเซลเซียสนั้นไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรให้ยุ่งยากเหมือนในภาพหรอก ก็แค่เอาน้ำเดือดหึ่งถ้วยผสมกับน้ำธรรมดาหนึ่งถ้วย แค่นี้ก็ได้แล้ว แช่ถั่วให้ท่วมสูงๆเลย แล้วทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง ช่วงหกชั่วโมงนี้น้ำจะค่อยๆเย็นตัวลงเรื่อยๆซึ่งก็ปล่อยให้เย็นไป

It's a tip to soak mung beans in 50 degree celcius water and leave them in water for 6 hours. This step is to activate mung beans from dormant stage.




เมื่อแช่เมล็ดถั่วในถังแช่ครบ 6 ชั่วโมงแล้ว จะเห็นว่าเมล็ดถั่วบวม อึ๋มเชียว เพราะถั่วดูดน้ำเข้าไป ถั่วในขั้นนี้พร้อมจะงอกแล้วล่ะ เราก็ย้ายเมล็ดถั่วจากถังแช่มาใส่ไว้ในถังเพาะ รดน้ำเสียหน่อย ปล่อยให้น้ำระบายออกจากรูตามสบาย แล้วปิดฝาเอาไว้ (หมายเหตุ ลุงแมวน้ำซื้อถังที่ไม่มีฝามาใช้ ก็เลยต้องหากพลาสติกมาคลุม แต่ใครที่คิดจะเพาะควรหาถังที่มีฝาปิดมาใช้จะสะดวกกว่า) การเพาะถั่วงอกต้องเพาะในที่มืด ถั่วจึงจะงอกเร็ว นี่เป็นอิทธิพลของระบบฮอร์โมนในเมล็ดถั่ว จึงต้องปิดฝาหรือหาอะไรคลุมเอาไว้ให้ภายในมืด

หลังจากเอาถั่วลงถังเพาะแล้วให้เริ่มจับเวลาการเพาะ และรดน้ำทุก 3 ชั่วโมง น้ำที่ใช้ก็ใช้น้ำประปานี่แหละ แต่ก็มีข้อควรระวังนิดนึง นั่นคือ น้ำประปาของแต่ละบ้านอาจมีปริมาณคลอรีนไม่เท่ากัน หากคลอรีนแรงไปก็เพาะไม่ค่อยดี หากแก้คือให้พักน้ำไว้ในถังหรือในโอ่งสักสามวันหรือนานกว่านั้นเพื่อให้คลอรีนระเหยแล้วจึงค่อยนำมาใช้เพาะถั่วงอก

After soking mung beans for 6 hours, transfer them to the red bucket (the one with holes). Rinse them with water for 10 to 15 secs. and cover the bucket with lid to keep mung beans grow in the darkness. Keep rinsing them every 3 hours.




หลังจากเพาะไปได้ 12 ชั่วโมง จะเห็นรากถั่วค่อยๆยาวออกมาแล้ว ขณะที่ถั่วงอก เมล็ดถั่วจะมีการเผาผลาญสารอาหารหรือเกิดเมตาโบลิซึมขึ้น ดังนั้นในถังเพาะจะมีความร้อนสะสม การรดน้ำนอกจากช่วยให้ความชุ่มชื้นแล้วยังมีวัตถุประสงค์สำคัญคือช่วยลดอุณหภูมิของถั่วงอกด้วย ดังนั้นต้องหมั่นรดน้ำ อย่าลืมๆ

Mung been in the rinsing bucket at hour 12.



นี่เป็นถั่วงอกที่เพาะไว้ 24 ชั่วโมง จะเห็นว่าระดับของถั่วงอกในถังสูงขึ้นกว่าในภาพก่อน เพราะถั่วงอกโตขึ้นนั่นเอง

ลุงแมวน้ำเพาะประมาณ 24 ชั่วโมงก็พอแล้ว ที่จริงระยะเวลาเพาะไม่ใช่เรื่องตายตัว ใครจะเพาะนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับความพอใจ จะเร็วกว่านี้ก็ได้ ถั่วงอกจะมีขนาดเล็กหน่อย หากเพาะนานกว่านี้ต้นถั่วและรากถั่วจะยาวขึ้น รวมทั้่งรสชาติที่ได้จะแตกต่างกันด้วย

ฤดูกาลก็มีผล หากเพาะในช่วงที่อากาศเย็น ถั่วจะงอกช้า ก็ต้องใช้เวลานานกว่านี้

Mung beans in the rinsing bucket at hour 24. Here I grow them for 24 hours. The time needed for growing mung beans varies on how long the sprout you like. Also,  in wintertime they need more time to grow.




ลองเอาถั่วงอกที่เพาะได้มาชั่วน้ำหนักดู เมล็ดถั่ว 150 กรัมเพาะถั่วงอกได้ 550 กรัม คิดง่ายๆว่าได้ครึ่งกิโลกรัมก็แล้วกัน

การหยุดการงอกของถั่วงอกทำได้โดยจับถั่วงอกแช่ตู้เย็น ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำหรอก เอาออกจากถังเพาะก็แช่เย็นได้เลย เก็บไว้กินได้หลายวันอยู่เหมือนกัน

150 grams of mung beans can make 550 grams of mung bean sprouts. Bean sprouts can keep in refrig. for days.




ถั่วงอกใหม่สด เอามาปรุงอาหารได้หลายอย่าง ลุงแมวน้ำเอามาทำซุปต้มยำเจ ใช้ทั้งเปลือกเลย เปลือกถั่วมีเส้นใยอาหารสูง ไม่ต้องทิ้งหรอก เสียดาย

Fresh bean sprouts are tasty. Here in the picture is vegetarian tomyum *yummy yummy* ^_^. Bean shells are a good source of fiber so don't throw them away.




แถมท้าย นอกจากถั่วเขียวแล้วเรายังพาะถั่วได้หลากหลายชนิด ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วลิสง ฯลฯ เพาะได้ทั้งนั้น แต่อย่าเพาะคละชนิดกัน เพราะถั่วพวกนี้การงอกไม่เท่ากัน หากเพาะด้วยกันแล้วจะกำหนดเวลาเก็บไม่ถูก เพราะบางชนิดจะสั้น บางชนิดจะยาว ภาพนี้ลุงแมวน้ำถ่ายรวมกันให้ดูเท่านั้นเอง

Not only mung beans but also other beans peanut can grow sprouts. Here in the picture are red bean sprouts, black bean sprouts and mung bean sprouts.

จากประสบการณ์ของลุงแมวน้ำ ถั่วแดงกับถั่วดำก็เพาะไม่ยาก ส่วนถั่วเหลืองเพาะยาก เปอร์เซ็นต์การงอกต่ำ ถั่วลันเตากับถั่วลิสงนั้นยังไม่เคยเพาะคร้าบ

เอาละ มาดูคุณค่าทางโภชนาการกันบ้าง ถั่วเขียวงอกให้พลังงานต่ำ องค์ประกอบส่วนใหญ่หนักไปทางแป้ง คิดง่ายๆ ถั่วงอกลุงแมวน้ำ 100 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่ หรือเท่ากับพลังงานที่ใช้ในการวิ่ง 100 เมตร ที่ต้องบอกว่าถั่วงอกลุงแมวน้ำเพราะว่าหมายถึงถั่วงอกที่ได้มาตามรูปนั่นเอง เนื่องจากถั่วงอกที่แต่ละคนเพาะ ตอนสุดท้ายที่เอามาชั่งนั้นปริมาณน้ำที่อยู่ในถั่วงอกมักไม่เท่ากัน ทำให้คิดค่าพลังงานได้แตกต่างกัน ของลุงแมวน้ำนั้นตอนที่เอามาชั่วสภาพถั่วงอกค่อนข้างแห้ง เพราะลุงแมวน้ำต้องการแช่ตู้เย็นเก็บไว้ หากอิ่มน้ำมากจะเสียเร็ว เก็บไม่ได้นาน

ถั่วดำงอกกับถั่วแดงงอกให้พลังงานพอๆกับถั่วเขียวงอก เพราะว่าองค์ประกอบหนักไปทางแป้งคล้ายคลึงกัน ส่วนถั่วเหลืองกับถั่วลิสงงอกมีแป้งน้อย ส่วนใหญ่เป็นไขมันกับโปรตีน ดังนั้นคิดง่ายๆว่าให้พลังงานเป็น 3 เท่าของถั่วเขียวงอก ถั่วลิสงงอก ถั่วเหลืองงอก กินลงไป 100 กรัมต้องไปวิ่ง 300 เมตรจึงจะใช้พลังงานหมด

The nutrition facts of bean sprouts are similar to their dry beans. Major part of Mung beans, red beans, black beans and theur sprouts are carbohydrate. Soybean, peanut and their sprouts get more protein and oil and less in carbohydrate. Approximately, 100 grams of mung bean spouts produce 100 Kcal of energy or equal to the energy of a 100 meter run. 100 grams of soybean and peanut sprouts produce approximately 300 kcal of energy.

Friday, May 18, 2012

17/05/2012 * ตลาดหุ้นไทยอาจจบคลื่นย่อย 5 ไปแล้ว



ค่าเงินเช้านี้ 18/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 17/05/2012)


วันที่ 17/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกมีรีบาวด์ขึ้นมา ในช่วงเช้าตลาดหุ้นส่วนใหญ่เป็นบวก พวกที่ปิดเร็วก็ปิดเขียว ส่วนพวกที่ปิดช้าก็ปิดแดงเพราะอ่อนตัวตามตลาดหุ้นยุโรป ส่วนตลาดหุ้นไทยปิดช้า อ่อนตัวในช่วงบ่ายแต่ก็ยังปิดเขียวได้ SET index ปิดที่ 1173.56 (+0.2%) ต่างชาติซื้อสุทธิ 1613 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นเปิดแบบปริ่มๆแล้วค่อยๆไหลลง ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิด -1.2% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซยังลงต่อไปอีก -3.4% ไม่ต้องอ่านข่าวอะไรเห็นดัชนีตลาดหุ้นก็พอเดาได้ว่าการเมืองภายในของกรีซยังไม่เรียบร้อย ตลาดหุ้นรัสเซียลงแรงเช่นกัน -3.8%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลและสหรัฐอเมริกาวันนี้เปิดทรงตัวแล้วไหลลง คล้ายกับกับตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นบราซิล ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -2.8% ลงแรงเอาการ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา -1.1% แต่ลุงแมวน้ำสังเกตว่าวันนี้หุ้นพวก mid cap หรือหุ้นขนาดกลางในตลาดหุ้น สรอ ลงค่อนข้างมาก ประมาณ -2.2%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 17 เงินดอลลาร์ สรอ ทรงตัว ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 81.3 จุดถึง 81.7 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่าเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน อ่อนค่าพอๆกันคือ -0.1% เงินโครนาของสวีเดนอ่อนค่ามากหน่อย -0.3% ช่วงนี้เงินโครนาดูอ่อนแอกว่ากลุ่ม

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกไม่ไปทางเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.2% เงินเยน +1.3% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.3% ส่วนเงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย +0.1%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 17/05/2012 กลุ่มพลังงานดูไม่ดี น้ำมันดิบปรับตัวลง คือ wti -0.4% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ -2.2% กลุ่มโลหะ ทองแดง -0.3% โลหะเงิน +3.0% ส่วนทองคำ +2.4% ทองคำกับเงินรีบาวด์ ด้านสินค้าเกษตร ดัชนีสินค้าเกษตร 77.29 จุด (+1.2%)

เช้านี้ (18/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 81.50 จุด เงินยูโร 1.269 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.35 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.39 บาท/ดอลลาร์ สรอ รูปการณ์ค่อนข้างชัดคือเงินยุโรปหนีภัยไปเป็นเงินเยนและเงินดอลลาร์ สรอ เป็นหลัก

น้ำมันดิบ wti 92.6 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 106.8 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1574 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ เงินบาท 31.39 บาท/ดอลลาร์ สรอ

ลุงแมวน้ำเอากราฟ SET index มาฝาก หากนับคลื่นย่อย จะมองว่าอยู่ในคลื่น 4 ก็เป็นไปได้ หรืออาจมองว่าชุดคลื่นย่อยขาขึ้นครบแล้ว คือ 1-2-3-4-5 และขณะนี้เรากำลังอยู่ในชุดคลื่นขาลง คืออยู่ในคลื่น A แบบนี้ก็มองได้เช่นกัน ดังนั้นนักลงทุนก็ระวังกันเอาไว้บ้าง อย่าย่ามใจว่าย่อแล้วเดี๋ยวก็ไปต่อ


กราฟดัชนีเซ็ต (SET Index) อีกไม่กี่จุดก็จะเกิดสัญญาณขายแล้ว




ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 17/05/2012


อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 17/05/2012

Thursday, May 17, 2012

16/05/2012 แนวโน้มขาลงมีน้ำหนักมากขึ้น โลกอาจเริ่มคลื่น C แล้ว

ค่าเงินเช้านี้ 17/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 16/05/2012)


วันที่ 16/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกลงหนัก ตอนเปิดก็ดูไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ตอนปิดตลาดยิ่งแย่กว่าเดิม ส่วนใหญ่ปิดตลาดติดลบกันมากกว่า -1% ดัชนีหั่งเส็งลงแรงสุด -3.2% ตามด้วยเกาหลีใต้ -3.8% ส่วนตลาดหุ้นไทยผันผวน ลงไปลึกประมาณ 30 จุด แต่ท้ายตลาดดีขึ้น SET index ปิดที่ 1171.23 (-1.1%) ต่างชาติขายสุทธิ 172 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นเปิดแย่ แต่มีรีบาวด์ ดัชนี DAX ของเยอรมนี -0.3% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นของกรีซยังลงต่อไปอีก -1.3%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลและสหรัฐอเมริกาวันนี้มีรูปแบบคล้ายกันคือเปิดเขียวแต่ปิดแดง คล้ายกับกับตลาดหุ้นยุโรปคือตอนต้นตลาดเทรดกันกระดานเขียว แต่แล้วก็เสียหลักและปิดแดง ตลาดหุ้นบราซิล ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -0.5% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา -0.3%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 16 เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าต่อ ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 81.2 จุดถึง 81.6 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่าเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน และโครนาอ่อนค่าพอๆกันคือ -0.2% เงินสกุลยุโรปอ่อนตัวลงทุกวันแม้จะวันละน้อยแต่รวมกันก็มากพอควร

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ก็อ่อนตัวเล็กน้อย เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.3% เงินเยนอ่อนค่า -0.1% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.6% ส่วนเงินบาท -0.1% เงินริงกิตแข็งค่าสวนตลาดได้เพียงวันเดียววันนี้ร่วงหนัก

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 15/05/2012 น้ำมันดิบปรับตัวลง คือ wti -1.2% แต่น้ำมันดิบเบรนต์วันนี้ค่อนข้างแปลก ฟิวเจอร์สเดือนมิถุนายน -0.5% ลงไม่มาก แต่ฟิวเจอร์สเดือนกรกฎาคมที่เป็นเดือน OI สูงสุดลดลงไป -1.7% กลุ่มโลหะปรับตัวลงทั้งหมด ทองแดง -1.3% โลหะเงิน -3.3% ส่วนทองคำ -1.1% ด้านสินค้าเกษตร ดัชนีสินค้าเกษตร 76.40 จุด (+1.6%)

เช้านี้ (17/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 81.35 จุด เงินยูโร 1.273 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 80.36 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.42 บาท/ดอลลาร์ สรอ

น้ำมันดิบ wti 93.2 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 111.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1544 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ ราคาทุกอย่างของเช้านี้ใกล้เคียงกับเช้าเมื่อวานมาก

ตลาดหุ้นไทยผันผวน เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่า ฝรั่งเริ่มขายสุทธิมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าหากดอลลาร์ สรอ แข็งค่าต่อไปอีก ฝรั่งจะขายหนักยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) เกิดสัญญาณขายขึ้นในระดับกราฟรายสัปดาห์ (weekly chart) แล้ว เพิ่มเกิดเมื่อสัปดาห์นี้เอง ประกอบกับดัชนี DAX ของเยอรมนีในระดบักราฟรายสัปดาห์ก็เพิ่งเกิดสัญญาณขายเช่นกัน การเกิดสัญญาณขายในกราฟรายสัปดาห์ลุงแมวน้ำถือว่ามีน้ำหนักในทางกลับแนวโน้ม แม้ว่าการนับคลื่นย่อยชุดขาขึ้นจะยังไม่ครบ แต่สัญญาณทางลบมีหลายประการเพิ่มมากขึ้น เราจะไปบอกว่ายังไม่จบคลื่นย่อยจะยังลงไม่ได้มันก็ไม่ใช่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นต้องประเมินน้ำหนักของปัจจัยต่างๆร่วมกัน ไม่ใช่มองแต่เรื่องใดเรื่องเดียวแล้วก็ติดอยู่แต่เรื่องนั้น สุดสัปดาห์นี้ลุงแมวน้ำของทบทวนมุมมองอีกครั้ง ไม่แน่ว่าอาจต้องปรับเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ การปรับมุมมองในครั้งนี้จะสำคัญมาก เพราะมุมมองขณะนี้สหรัฐอเมริกาหรือเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในปลายคลื่น B หากปรับมุมก็หมายถึงว่าเข้าสู่คลื่น C แล้วนั่นเอง


กราฟรายสัปดาห์ของดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เกิดสัญญาณขายแล้ว (DJI weekly chart gets sell signal)



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 16/05/2012



ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 16/05/2012

Wednesday, May 16, 2012

15/05/2012 * ผลการทำอาร์บิทราจยางพารา, หุ้นอภินิหาร MALEE



ค่าเงินเช้านี้ 16/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 15/05/2012)


วันที่ 15/05/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกปิดคละกัน มีทั้งปิดเขียวและปิดแดง ขึ้นลงไม่เกิน 1% พวกที่ปิดแดงคือพวกที่ปิดตลาดไว คือปิดก่อนตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปจะเปิดทำการซื้อขาย พอตลาดยุโรปเปิดเขียวสวยตลาดหุ้นเอเชียที่ยังเทรดอยู่ก็พลอยเขียวสวยตามไปด้วย ตลาดหุ้นจีนลงไปค่อนข้างลึกตอนต้นตลาด แต่ท้ายตลาดก็ดีขึ้น ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานลงแรง วันนี้ก็รีบาวด์แรง ดัชนีเซ็ต SET index ปิดที่ 1184.55 จุด เพิ่มขึ้น +1.6% ต่างชาติซื้อสุทธิ 177 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยผันผวนและยังไร้ทิศทาง ผู้ที่เทรดฟิวเจอร์สต้องระวังเป็นอย่างมาก ทางที่ดีดูเฉยๆไปก่อนดีกว่า

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นเขียวตอนต้นตลาดเขียวสวย แต่ท้ายตลาดก็เสียหลัก ปิดแดงเป็นส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นออสเตรียกับกรีซลงแรงกว่าเพื่อน -3% กว่าๆ ส่วนดัชนี DAX ของเยอรมนี -0.8%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลและสหรัฐอเมริกาคล้ายกับกับตลาดหุ้นยุโรปคือตอนต้นตลาดเทรดกันกระดานเขียว แต่แล้วก็เสียหลักและปิดแดง ตลาดหุ้นบราซิล ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index) -2.3% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา -0.5%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 15 เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าค่อนข้างเร็ว ดัชนีดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบ 80.5 จุดถึง 81.4 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่าเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส และโครนาอ่อนค่าพอๆกันคือ -0.7% ส่วนโครนอ่อนมากหน่อย -1.3%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ก็อ่อนตัวเล็กน้อย เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.3% เงินเยนอ่อนค่า -0.5% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.3% ส่วนเงินบาททรงตัว น่าสังเกตคือเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นมา +0.2%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 15/05/2012 น้ำมันดิบไปคนละทาง คือ wti -1.8% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ +0.1% กลุ่มโลหะปรับตัวลงทั้งหมด ทองแดง -1.8% โลหะเงิน -2.6% ส่วนทองคำ -1.1% ด้านสินค้าเกษตร ดัชนีสินค้าเกษตร 75.23 จุด (+1.5%)

เช้านี้ (16/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 81.26 จุด เงินยูโร 1.273 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 80.29 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.42 บาท/ดอลลาร์ สรอ ผ่านแนวต้านที่ 31.3 บาทมาแล้ว

น้ำมันดิบ wti 93.2 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 111.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1542 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์

ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มผันผวนมากขึ้น ประเด็นร้อนของทางฝั่งยุโรปคือผลการเลือกตั้งของกรีซและฝรั่งเศส โดยเฉพาะกรีซนั้นสถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายมากขึ้นเมื่อผลการเลือกตั้งไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ดังนั้นจึงยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ที่นักลงทุนติดตามอยู่ก็คือหากจัดรัฐบาลผสมได้ก็จะมีทั้งฝ่ายที่มีแนวนโยบายไม่เอามาตรการรัดเข็มขัด กับที่มีนโยบายรัดเข็มขัด ทั้งสองฝ่ายจะร่วมรัฐบาลและบริหารวิกฤตเศรษฐกิจของชาติได้อย่างไร แต่หากตั้งรัฐบาลไม่ได้และต้องเลือกตั้งใหม่ แนวโน้มที่ฝ่ายที่ไม่เอามาตรการรัดเข็มขัดจะได้รับเลือกจากประชาชนจะมีมากขึ้น ซึ่งไอเอ็มเอฟและกลุ่มยูโรโซนคงไม่อยากเห็นแบบนั้น เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมกรีซอาจทำไม่ได้อีกต่อไป


ผลการทำอาร์บิทราจยางพารา


คงยังจำกันได้ที่ลุงแมวน้ำทดลองทำอาร์บิทราจ (arbitrage) ยางพาราระหว่างสองตลาด นั่นคือ เปิดสัญญาซื้อ (open long position) RSS3 หรือยางพาราไทยเอาไว้ จากนั้นก็เปิดสัญญาขาย (open short position) ยางพาราตลาดโตคอมตั้งแต่วันที่ 15/03/2012 ตอนนั้น RSS3 ราคาประมาณ 122 บาท

มาถึงตอนนี้ ราคายางพารา RSS3 ลงมาอยู่ที่ 107.5 บาท หากถือสัญญาซื้อ RSS3 เอาไว้เฉยๆป่านนี้ขาดทุนอ่วมไปประมาณ 15 บาทแล้ว แต่เนื่องจากลุงแมวน้ำทำอาร์บิทราจ ลุงแมวน้ำขาดทุนจาก RSS3 แต่ไปได้กำไรจากยางโตคอม ดังนั้นสรุปหักกลบกันแล้วลุงแมวน้ำยังมีกำไรอยู่ โดยดูจากค่า diff ล่าสุด +1.63 บาท ซึ่งมากกว่าค่า diff ตอนตั้งต้น แปลว่ายังมีกำไร นี่คือความแตกต่างของการทำอาร์บิทราจเพื่อการหากำไรจากส่วนต่างระหว่างสองตลาด กับการเทรดฟิวเจอร์สเพื่อหากำไรจากส่วนต่างของราคาตัวมันเอง

วันนี้ลุงแมวน้ำเอากราฟหุ้นมาฝากหุ้นหนึ่ง จัดอยู่ในข่ายหุ้นอภินิหาร ราคาวิ่งจากสิบกว่าบาทไป 90 กว่าบาทภายในเวลาเพียง 6 เดือน ดูค่าความผันผวนหรือ vi (volatility index) เสียก่อน ตอนนี้อยู่ที่ 6.6% ประวัติในอดีตค่า vi ของหุ้นนี้ไม่ต่ำกว่า 3% เลย (ลองดูในกราฟ) ปกติ vi ที่เกิน 2% นักลงทุนทั่วไปก็ใจหายแล้ว นี่ระดับ 3, 4, 5, 6% คิดค่าความหวาดเสียวไม่ออกเลยจริงๆ หัวใจต้องแกร่งมาก หุ้นประเภทนี้ใช้เทคนิคยาก ไม่ต้องตีเส้นวัดค่าอะไรหรอก วัดดวงอย่างเดียวเลย ^_^


กราฟราคาหุ้น MALEE




อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 15/05/2012




ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 15/05/2012

Tuesday, May 15, 2012

สรุปตลาดรอบสัปดาห์ 07/05/2012 - 11/05/2012



ปกติวันจันทร์เป็นวันที่ลุงแมวน้ำจะสรุปตลาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ฟังกัน แต่เมื่อวันจันทร์นี้ลุงแมวน้ำทำงานไม่ทัน เพราะข้อมูลเยอะ แล้วลุงแมวน้ำก็มัวแต่ไปเล่นนั่นเล่นนี่จนทำไม่ทัน ^_^ กว่าจะเสร็จก็บ่าย ตลาดแดงไปหมด เกรงว่าอาจจะไม่มีใจที่จะอ่านกัน ลุงแมวน้ำเลยเก็บเอาไว้เพื่อมาอัปเดตในตอนเช้านี้ดีกว่า

เรามาดูที่ตลาดหุ้นกันก่อน ตลาดหุ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว (07/05/2012 - 11/05/2012) ไม่สวยงามสักเท่าไร ดัชนีระดับโลก คือ Dow Jones Global Index กับ MSCI All Country World Index ปรับลดลงไปประมาณ -2.0% ใกล้เคียงกัน ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อย แต่ตลาดหุ้นที่ฉุดดัชนีระดับโลกทั้งสองดัชนีให้ร่วงลงมาในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นกลับไม่ใช่ตลาดยุโรปหรือตลาดสหรัฐอเมริกา เพราะว่าดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของตลาดสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงไปเพียง -1.1% ส่วนดัชนีตลาดยุโรป (E1DOW) ก็ร่วงไปเพียง -1.7% แต่ภูมิภาคที่ฉุดตลาดกลับเป็นแถวๆบ้านเรา หรือว่าเป็นกลุ่มเอเชียแปซิฟิกนั่นเองโดยดัชนีดาวโจนส์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (P1DOW) ปรับตัวลงถึง -4.3% นอกจากนี้ตลาดหุ้นกลุ่มละตินอเมริกา (A3DOW) ก็ปรับตัวลง -3.1%

มาดูในรายละเอียดกัน ตลาดหุ้นกลุ่มยุโรปในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอันที่จริงดูดี ตลาดหุ้นเยอรมนีที่เป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มสหภาพยุโรป และอิตาลีกับสเปนที่กังวลกันว่าอาจเป็นโดมิโนรายต่อไปสามารถปรับตัวขึ้นได้ ไปเสียที่ตลาดหุ้นกรีซที่เรื่องการเมืองยังไม่ลงตัว เนื่องจากไม่มีพรรคใดที่ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง การตั้งรัฐบาลจึงล่าช้า ตลาดหุ้นกรีซร่วงไป -11.3% จึงฉุดดัชนีรวมให้ดูแย่

ส่วนทางด้านตลาดเกิดใหม่นั้นร่วงแบบของจริงเลย เอเชียแดงทั้งทวีป มีเพียงเวียดนามเท่านั้นที่บวกได้ ดัชนีตลาดหุ้นหั่งเส็ง (HSI) ของฮ่องกง -5.3% ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่น (Nikkei 225) -4.6% ผลประกอบการของบริษัทยักษ์ในญี่ปุ่นขาดทุนหนักหลายแห่ง จีนลดลง -2.9% ที่ลงเพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนดูไม่ค่อยดี แม้ว่าจะมีข่าวดีจากจีนบ้าง เช่น การคลายเกณฑ์การตั้งสำรองของธนาคารให้น้อยลงเพื่อเสริมสภาพคล่องแต่ก็ดูไม่ค่อยช่วยเท่าไร และนอกจากจีนแล้วแม้แต่ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนี All Ordinaries (AORD) ก็ลง -2.6% ส่วนอินเดีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ลงไปกว่า -3% ส่วนตลาดเกิดใหม่กลุ่มละตินอเมริกานั้นส่วนใหญ่ลดลงในระดับ -2% กว่าๆ มีเพียงอาร์เจนตินาที่บวกได้ +4%

ดัชนี SET index ของไทยในรอบสัปดาห์ลดลงไป -3.0% ต่างชาติมีทั้งซื้อและขายสลับกัน โปรแกรมของลุงแมวน้ำถือหุ้นในกลุ่ม SET50 น้อยลงไป คือเกิดสัญญาณขายไปบ้าง สัปดาห์ก่อนหน้าถืออยู่ 41 หุ้น ตอนนี้เหลืออยู่ 28 หุ้น หุ้นที่ลงแรงมีหลายตัวทีเดียว เช่น IVL -10%, PS -8.6%, BLA -8.0% ส่วน STA กับ TCAP -7% พอๆกัน หุ้นกลุ่ม SET50 ที่ขึ้นแรงมีเพียงหุ้นเดียว ทายซิหุ้นอะไรเอ่ย อ๋อ BIGC นั่นเอง +10%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ในรอบสัปดาห์ก็เสียหลักไปเหมือนกัน เฉลี่ยแล้วทั้งกลุ่มตลาดคอมมอดิตีส์ลดลง -2% กว่าๆ โดยกลุ่มที่ฉุดตลาดคือกลุ่มสินค้าเกษตร -4% และโลหะมีค่าก็ประมาณ -4% กลุ่มพลังงานพวกน้ำมันลงนิดหน่อย -2.0% ส่วนก๊าซธรรมชาติ (NG) ขึ้นแรง +10% ยางพาราโตคอมลงหนัก -10% ส่วนยาง AFET หรือยางไทย -7%

ทางด้านตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกา อายุ 10 ปี (10 yr T-Bill) ลดลง 0.04 จุด (basis point) หรือลดลง -2.1% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 5 จุด (+1.3%) มูลค่าหน่วยลงทุน (nav) ของกองทุนรวม KFTRB ที่ลงทุนใน PIMCO Total return bond fund ลดลง -0.4% ส่วน TMBGBF ที่ลงทุนใน Templeton Globle bond fund ลดลง -1.4%

ทางด้านค่าเงินหรือตลาดอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่ผ่านมาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแข็งค่าขึ้น โดย USD index เพิ่มขึ้น +1.0% เงินสกุลอื่นอ่อนค่าไปตามกัน ดอลลาร์ออสเตรเลีย -1.5% เงินยูโร -1.3% ฟรังก์สวิส -1.3% เงินสกุลยุโรปแม้แต่สกุลแข็งเช่นฟรังก์สวิส โครน โครนา ล้วนแต่อ่อนค่า

ทางด้านเงินตราสกุลเอเชีย เงินเยนอ่อนค่าเล็กน้อย -0.1% ดอลลาร์สิงคโปร์และบาทอ่อนค่าพอกัน -0.7%


ค่าเงินเช้านี้ 15/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 14/05/2012)

เมื่อวาน (14/05/2012) ตลาดหุ้นลงกันเกือบทุกตลาด จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ทองคำกับน้ำมันดิบก็ลง คงใจหายใจคว่ำไปตามกัน ตอนนี้ข่าวร้ายไม่ได้มาจากยุโรปเท่านั้น ยังลอยมาจากจีนเป็นระยะอีกด้วย

เช้านี้ (15/05/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 80.6 จุด เงินยูโร 1.283 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.87 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.35 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 94.3 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 111 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1559 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์

เท่าที่ลุงแมวน้ำนับคลื่นย่อยดู สหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน เหล่านี้ ตลาดหุ้นยังไม่จบคลื่นย่อยในชุดคลื่นขาขึ้น หากนับไม่ผิดลุงแมวน้ำคาดว่าตลาดหุ้นยังขึ้นต่อไปได้อีกช่วงหนึ่ง แต่ก็เหมือนไม้สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครจะได้รับไม้สุดท้ายไปครอง ส่วนค่าเงินในระยะสั้น (ขอย้ำว่าระยะสั้น อาจจะแค่ช่วงไม่กี่สัปดาห์) หากว่าตลาดหุ้น สรอ และยุโรป ขึ้นต่อได้จริง เงินยูโรน่าจะรีบาวด์ เงินดอลลาร์ สรอ น่าจะทรงตัวแบบไร้ทิศทางคืออาจขึ้นลงได้นิดหน่อย จนกว่าตลาดหุ้น สรอ และยุโรปจะจบชุดคลื่นย่อยขาขึ้นนี้ รวมทั้งเงินบาทก็น่าจะเกิน 31 บาท/ดอลลาร์ สรอ แต่ยังไม่ไปไหนไกล เอาไว้ลุงแมวน้ำจะเอากราฟมาให้ดูกันอีกครั้งหนึ่ง


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 14/05/2012




อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 15/05/2012





กราฟแสดงความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญบางสกุลรวมทั้งทองคำ
 



ตารางหุ้น ฟิวเจอร์ส และกองทุนรวม และค่าสถิติต่างๆ
 

Sunday, May 13, 2012

เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ หอมจำปีร้อยมาลัย

ช่วงนี้ลุงแมวน้ำค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากกำลังปรับปรุงสวนเล็กๆที่อยู่หลังโรงละครสัตว์ หลังจากที่น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วคณะละครสัตว์ต่างก็วุ่นวายจนไม่มีใครมีเวลาดูแลสวน จึงทำให้ต้นไม้ในสวนซึ่งมีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ สมุนไพร กล้วยไม้ เห็ด และพืชสวนครัว (อ้อ มีปลวก งู หนู กบ เขียด อึ่ง จิ้งหรีด จักจั่น และตัวเงินตัวทองด้วย) ทรุดโทรมไปเป็นอันมาก รวมทั้งยังรกอีกต่างหาก หลายเดือนก่อนเจองูเหลือมตัวเบ้อเร่ออยู่ตัวหนึ่ง นอนขี้เกียจตัวอ้วนเชียว ขดอยู่ในแอ่งน้ำเล็กๆ ลุงแมวน้ำสงสัยอยู่แล้วเชียว เพราะว่าช่วงนั้นในสวนมีอะไรแปลกๆ กลางคืนเงียบมาก ไม่มีเสียงแมลงหรือกบ เขียด อึ่งเลย ที่แท้คงเข้าไปอยู่ในทองเจ้างูเหลือมตัวนี้หมดแล้ว สวนจึงเงียบ แต่ไปสำรวจสมาชิกคณะละครสัตว์ดูแล้ว ไม่มีใครหายไป ดังนั้นจึงคาดว่างูเหลือมคงไม่ได้กลืนสมาชิกตัวใดลงไปในท้อง

ลุงแมวน้ำชวนงูเหลือมให้มาแสดงละครสัตว์ด้วยกัน ชวนไปยังงั้นแหละ กลัวมาอยู่จริงแล้วจะลงท้องเธอไปหมดทั้งคณะ แต่เธอไม่อยากแสดง อยากนอนมากกว่า ลุงแมวน้ำเลยต้องเชิญเธอไปอยู่ที่อื่นแทน หลังจากนั้นสวนจึงได้กลับมามีเสียงระงมในยามค่ำคืนเหมือนเช่นเดิม

ลุงแมวน้ำเลยคิดว่าจะปรับปรุงสวนเสียหน่อย เพื่อจะได้ไม่รกหรือมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอีก รวมทั้งจะได้กลับมาดูแลและบำรุงต้นไม้ให้ดูดีด้วย เพิ่งมาได้โอกาสในช่วงนี้แหละ แต่ทำไปก็วุ่นไป เลยทำได้อย่างช้าๆ ที่ลุงแมวน้ำอัปเดตเว็บบล็อกแบบมาบ้าง หายไปบ้าง ก็เพราะต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งปรับปรุงสวนนั่นเอง

เอาละ ไหนๆพูดเรื่องสวนกันแล้ว วันนี้เรามาปลูกต้นไม้กันดีกว่า ต้นไม้ที่ลุงแมวน้ำจะชวนปลูกกันในวันนี้ก็คือ ต้นจำปี

จำปีกับจำปานั้นคล้ายกันเพราะเป็นเครือญาติกัน ชื่อก็คล้าย หน้าตาก็คล้าย ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เรียกสับสน เรียกผิดเรียกถูกกันมาก โดยเฉพาะชื่อในภาษาอังกฤษอ่านแล้วยิ่งสับสน

จำปา (จำปา ไม่ใช่จำปี) ภาษาอังกฤษเขียนได้หลายอย่าง ได้แก่ Champaca หรือ Champaka (อ่านว่าแชมพาคา) กับเขียนว่า Campac หรือ Champak (อ่านว่าแชมแพก) ส่วนจำปีที่เห็นทั่วๆไปหรือจำปีขาวนั้น ฝรั่งเรียก white champac หรือ white champaca แค่เติม white เข้าไปข้างหน้า จากจำปาก็กลายเป็นจำปีแล้ว

จำปี จำปา นั้นเป็นพืชพืนเมืองของย่านเอเชียใต้ คือมีถิ่นกำเนิดแถวๆจีนตอนใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีประมาณ 50 พันธุ์หรือ 50 สปีชีส์ นอกจากนี้ยังมีการผสมพันธุ์ใหม่ๆอีก สำหรับในประเทศไทยนั้นนิยมปลูกเฉพาะจำปีกันในบ้าน ส่วนจำปานั้นไม่นิยมปลูกในบ้านเนื่องจากความเชื่อ เพราะถือว่าไม่ค่อยเป็นมงคลนัก เนื่องจากไม้จำปาเป็นไม้ที่ใช้ทำโลงศพ หรือที่เรียกกันว่าโลงจำปานั่นเอง

วันนี้ลุงแมวน้ำขอคุยเฉพาะเรื่องจำปี จำปีขาว (White champaca) ที่นิยมปลูกกันทั่วไปนั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Michelia alba DC หรือ Magnolia alba DC อยู่ในสกุลแมกโนเลีย นอกนั้นยังมีจำปีอื่นๆอีกซึ่งมีทั้งพันธุ์พื้นเมือง พันธุ์ลูกผสม และพวกกลายพันธุ์ ที่เห็นขายกันก็มีอีกหลายอย่าง เช่น จำปีสีนวล (Magnolia x alba “Sinaun”) จำปีอินเดีย จำปีม่วง นอกจากนี้ไทยเรายังมีจำปีพันธุ์ที่มีอยู่เพียงที่เดียวในโลกด้วย นั่นคือ จำปีสิรินธร (Magnolia sirindhorniae Noot & Chalermglin) พบในป่าพลุแถวลพบุรี

จำปีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10 เมตรถึง 20 เมตร ดอกมีกลิ่นหอม จำปีขาวที่ลุงแมวน้ำพูดถึงนั้นหาได้ง่าย เพราะเป็นจำปีที่นิยมปลูกกัน และใช้ร้อยพวงมาลัย เนื่องจากมีกลิ่นหอมและให้ดอกดก เพียงแค่จำปีขาวสองสามดอกวางอยู่ในห้องกลิ่นก็หอมอบอวลไปทั่วห้อง ยิ่งถ้าวางจำปีกับมะลิด้วยกันในห้องแล้วละก็ เพียงแค่หลับตาก็นึกว่าอยู่ในอุทยานแล้ว อุทยานมีอยู่ในห้องนอนหรือมีอยู่ในคอนโดมิเนียมได้จริงๆ แต่ต้องจินตนาการเอาหน่อยนะ ^_^

ลุงแมวน้ำชอบกลิ่นจำปีมาก อยากปลูก แต่มาคิดถึงขนาดต้นที่สูงใหญ่ราว 10 เมตรถึง 20 เมตรแล้ว สูงพอๆกับโรงละครสัตว์เลยมั้ง ใครๆก็ท้วงว่าคงปลูกไม่ได้เพราะไม่มีที่ว่างมากพอ ลุงแมวน้ำเลยทดลองดู ลุงแมวน้ำชอบทดลองอยู่แล้ว จึงจับต้นจำปีขาวมาปลูกในกระถางเสียเลย

ลุงแมวน้ำก็เอาจำปีขาวมาลูกในกระถางขนาด 15 นิ้ว เป็นกระถางขนาดใหญ่หน่อย จำต้นมะลิได้ไหม ลุงปลูกในกระถาง 6 นิ้วเอง แต่จำปีนี้ต้องปลูกในกระถางใหญ่หน่อย เพราะขนาดของกระถางจะเป็นตัวบังคับขนาดของต้น หากต้นไม้พันธุ์ใหญ่ปลูกในกระถางเล็กมากอาจไม่อกดอก ลุงแมวน้ำจึงเลือกกระถางขนาด 15 นิ้ว ใช้วัสดุไร้ดิน ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ คือใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หินภูเขาไฟ แล้วก็ให้น้ำหมักชีวภาพเพื่อปรับสภาพดิน เร่งดอก รวมทั้งเติมจุลินทรีย์ประจำถิ่นลงไปในวัสดุเพาะในกระถางด้วย เมื่อสภาพแวดล้อมและสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆมีอยู่อุดมสมบูรณ์ ต้นจำปีก็เติบโตและให้ดอกได้ ต้นก็จะสูงได้แค่ประมาณ 1 เมตรหรือเกินกว่านั้นเล็กน้อย ดังที่เห็นในรูปนี้แหละ ตัดแต่งหน่อย คุมไม่ให้โตไปกว่านี้ จะได้ไม่เกะกะ แต่ก็สามารถให้ดอกได้อย่างสม่ำเสมอ การให้ดอกนี่ขึ้นอยู่กับการดูแล หากดูแลไม่ดีก็ไม่ให้ดอก มีแต่ใบให้ชื่นชมเท่านั้น

จำปีขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดค่อนข้างยาก ดังนั้นถ้าต้องการปลูกก็ไปซื้อที่เขาขายเป็นกระถางมาปลูก พวกนั้นมีทั้งแบบตอนกิ่งและแบบทาบกิ่ง ราคาไม่แพง ประมาณ 80 บาทถึง 100 บาท เลือกต้นที่ออกดอกแล้ว ดมแล้วหอมน่าพอใจ ก็เอาต้นนั้นแหละมาปลูก จำปีชอบดินร่วนซุย น้ำพอควร และแดดดี

เห็นไหม เพียงใช้เทคนิคนิดหน่อยเท่านั้น เราก็สามารถเอาจำปีต้นใหญ่มาปลูกในกระถาง วางไว้ริมระเบียงคอนโดได้ เห็นลุงแมวน้ำเขียนว่าต้องใส่นั่นบำรุงนี่ เอาเข้าจริงไม่ยากหรอก ใครๆก็ปลูกได้ ที่ระเบียงคอนโด ข้างหนึ่งวางกระถางมะลิ อีกข้างหนึ่งวางกระถางจำปี ยามกลางคืนกลับจากทำงานเหนื่อยๆ หรือยามเช้าตรู่บนเตียงอันแสนสุข ได้กลิ่นมะลิและจำปีแสนชื่นใจ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม


ต้นจำปีของลุงแมวน้ำ ปลูกในกระถาง 15 นิ้ว แบบเกษตรอินทรีย์ ต้นไม่โตมาก สามารถออกดอกได้เรื่อยๆ



ดอกจำปีที่อยู่บนต้น

Friday, May 11, 2012

10/05/2012

ค่าเงินเช้านี้ 11/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 10/05/2012)


วันที่ 10/05/2012 ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มมีอาการรีบาวด์บ้างแล้ว ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกมีทั้งปิดบวกและปิดลบคละกัน แต่ขึ้นลงไม่มาก ตลาดหุ้น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ปิดเขียวเล็กน้อย ตลาดหุ้นอินดียช่วงนี้ดูไม่ค่อยดี ลงมากกว่าขึ้น แนวโน้มไม่ค่อยชัดนัก ผู้ที่ลงทุนกองทุนอินเดียหรือกองทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในอินเดียสูงควรติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดหน่อย ส่วนดัชนีเซ็ต SET index ปิดที่ 1190.65 จุด ลดลง -1.4% พร้อมด้วยปริมาณซื้อขาย 45,000 ล้านบาท มากเอาการทีเดียว วันนี้ต่างชาติขายสุทธิ 4888 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นวันนี้รีบาวด์ ส่วนใหญ่ปิดเขียวโดยในระหว่างวันผันผวน ดัชนี DAX ของเยอรมนี +0.7% กรีซ +4.0%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาเปิดแรงดีแต่ปิดอ่อน ด้านบราซิลปิดแดง -0.2% ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกาปิด +0.2%

ทางด้านค่าเงิน เงินดอลลาร์ สรอ ขยับตัวในกรอบแคบมาก โดยเทรดอยู่ในกรอบ 80.0 ถึง 80.2 จุด เงินสกุลยุโรปอ่อนค่า เงินยูโร ฟรังก์สวิส -0.1% ส่วนโครน -0.4% โครนาวันนี้อ้อนตัวมากหน่อย -0.8%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกมีทั้งอ่อนค่าและแข็งค่าแต่ปรับตัวในกรอบแคบเช่นกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.4% เงินเยนอ่อน -0.4% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ +0.2% เงินบาททรงตัว

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 10/05/2012 ผันผวนน้อย น้ำมันดิบ wti ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.2% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ปรับตัวลง -0.4% กลุ่มโลหะ ทองแดง +0.6% โลหะเงิน -0.6% ส่วนทองคำทรงตัว ส่วนดัชนีสินค้าเกษตร 75.96 จุด (-0.1%)

เช้านี้ (11/05/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 80.2 จุด เงินยูโร 1.293 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.87 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.14 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 96.4 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 112.2 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1594 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์

ช่วงนี้ดอลลาร์ สรอ แข็ง เงินสกุลเอเซีย รวมทั้งหุ้นและพันธบัตร ย่านเอเชีย น่าจะได้รับผลกระทบ ผู้ที่ลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวกับเอเชียหรือพันธบัตรย่านเอเชียควรระมัดระวัง โดยเฉพาะอินเดีย ส่วนจีนที่ห่วงกันว่าจะชะลอตัวอย่างแรงกลับมีรูปแบบทางเทคนิคเป็นคลื่น 1,2 ซึ่งน่าสนใจทีเดียว เอาไว้สัปดาห์หน้าลุงแมวน้ำคงมีรายละเอียดมาคุยเพิ่มเติม



ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 10/05/2012



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 10/05/2012

Thursday, May 10, 2012

09/05/2012 * กราฟเงินบาท (USD_Bht), กราฟน้ำมันดิบเบรนต์ (BZ)



ค่าเงินเช้านี้ 10/05/2012 (รายงานวันเทรดที่ 09/05/2012)


วันที่ 09/05/2012 ตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนอยู่ แต่ลดลดระดับความรุนแรงลงมาบ้าง โลกค่อยๆหายตกใจกับผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสและกรีซ

ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลง ตลาดหุ้นญี่ปุ่น จีน และอินโดนีเซียลงไปประมาณ -1.5% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ -1.0% ส่วนตลาดหุ้นไทยลงแรงกว่ากลุ่ม ดัชนีเซ็ต SET index ปิดที่ 1207.25 จุด ลดลง -2.0% วันนี้ต่างชาติขายสุทธิ 2357 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นวันนี้พยายามจะฟื้นตัว เปิดตลาดดูเขียวแต่แล้วก็อ่อนลงไปแต่ไม่รุนแรงนัก สุดท้ายปิดตลาดพอดูได้ ดัชนี DAX ของเยอรมนี +0.5% ฝรั่งเศสลง -0.2% กรีซ -0.9% จะเห็นว่ายุโรปค่อยๆหายตกใจแล้ว

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาเทรดกันในแดนลบตลอดวัน ด้านบราซิลปิดแดง -1.0% ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกาปิด -0.8%

ทางด้านค่าเงิน เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้นอีก ดัชนีดอลลาร์ สรอ ผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 80.0 จุดมาได้ โดยเทรดอยู่ในกรอบ 79.9 ถึง 80.3 จุด จะสังเกตว่ากรอบการแกว่งขยับระดับสูงขึ้นทุกวัน เงินสกุลยุโรปอ่อนค่า เงินยูโร ฟรังก์สวิส -0.5% ส่วนโครน -0.1% โครนา -0.3%

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ก็อ่อนตัว เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.7% เงินเยนแข็งค่า +0.3% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ -0.4% เงินบาท -0.4%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 09/05/2012 น้ำมันดิบลงหนักช่วงกลางวัน (เวลาบ้านเรา) แต่ดีขึ้นในช่วงกลางคืน น้ำมันดิบ wti -0.4% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ปรับตัวสูงขึ้น +0.1% กลุ่มโลหะราคาลง ทองแดง -0.3% โลหะเงิน -0.5% ส่วนทองคำ -0.8% ราคาทองคำหลุดจาก 1600 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ลงมาแล้ว ส่วนดัชนีสินค้าเกษตร 76.05 จุด (-1.2%)

เช้านี้ (10/05/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 80.1 จุด เงินยูโร 1.294 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 79.64 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 31.13 บาท/ดอลลาร์ สรอ เงินบาทผ่าน 31.0 บาทต่อดอลลาร์ มาได้แล้ว น้ำมันดิบ wti 96.4 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 112.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1591 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์


แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า ทองคำขาลง น้ำมันดิบกับสินค้าเกษตรระยะกลางยังเป็นขาขึ้น


เมื่อวานลุงแมวน้ำนำกราฟราคาทองคำมาให้ดูกันแล้ว แนวโน้มทั้งในระยะสั้นและระยะกลางตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นขาลง สองวันนี้ที่ราคาดิ่งลงมาแรงเพราะสาเหตุหลายประการรวมๆกัน ได้แก่ ดอลลาร์ สรอ แข็งค่า ตลาดหุ้นตก และวาทะของคุณวอร์เรน บัฟเฟต์ (Warren Buffett) ที่ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นในทางลบกับการลงทุนทองคำ โดยคุยในรายการข่าวของ CNBC ว่ากองทุนของตนเองไม่ลงทุนในทองคำ (หมายถึงไม่ซื้อทองคำ แต่น่าจะชอร์ตฟิวเจอร์สทองเอาไว้ อันนี้ลุงแมวน้ำพูดเอง ^_^) หากจะลงทุนในทองคำให้ไปลงทุนซื้อถ้ำเอาไว้ดีกว่าเพราะเมื่อเกิดวิกฤต คนจะหอบทองคำไปอาศัยอยู่ตามถ้ำ ถึงตอนนั้นถ้ำหายากกว่าทองเพราะว่าถ้ำมีน้อย ดังนั้นลงทุนซื้อถ้ำเอาไว้ดีกว่า หูย พูดเจ็บเชียว สงสัยไม่ชอบทองคำอย่างแรง ลุงแมวน้ำเองก็คิดว่าทองคำไม่มีปัจจัยพื้นฐานอะไร วิเคราะห์ยาก ดังนั้นจึงไม่ค่อยสนใจนัก แต่หากใครให้ทองลุงแมวน้ำก็ยินดีรับเสมอ

ดังที่ลุงแมวน้ำเคยวิเคราะห์แนวโน้มเอาไว้ ว่าทองคำขาลง ดอลลาร์สรอ ขาขึ้น เงินบาทขาลง (หมายถึงอ่อนค่าลง) ผู้ที่ลงทุนในกองทุนทองคำที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนพึงระวัง กองทุนทองคำที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงเมื่อราคาทองคำลง มูลค่าหน่วยลงทุน (nav) ที่เป็นเงินบาทจะลงน้อยกว่าปกติเนื่องจากผลจากเงินบาทอ่อนค่า พูดง่ายๆคือขาดทุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอยู่บ้าง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายามที่ราคาทองคำขึ้น กองทุนที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนก็ได้กำไรน้อยกว่าที่ควรเช่นกัน ดังที่ลุงแมวน้ำเคยพูดไว้บ้างแล้ว

ราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรนั้นแนวโน้มระยะกลางเป็นขาขึ้น ส่วนในระยะสั้นเป็นขาลง ซึ่งตอนนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ส่วนสินค้าเกษตรก็ปรับตัวลงมาไม่น้อย โดยเฉพาะน้ำมันดิบนี่นักวิเคราะห์ด้านพลังงานมองว่าราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัวต่อไปได้อีกมาก แต่ลุงแมวน้ำยังไม่เปลี่ยนความเห็น หากมองในทางเทคนิค ราคาน้ำมันน่าจะไม่ลงลึกกว่านี้มาก คืออาจลงได้อีกนิดหน่อยแต่ไม่มาก ราคาสินค้าเกษตรก็เช่นกัน โดยเฉพาะยางพารานั้นปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนมีผลต่อราคาค่อนข้างมาก เพราะตลาดกลางยางพาราอิงกับกับราคาตลาดญี่ปุ่น (คิดเป็นเงินเยน) กับตลาดจีน (คิดเป็นเงินหยวน) โดยเฉพาะตลาดโตคอมของญี่ปุ่นนั้นตอนนี้เงินเยนแข็งค่ามาก ส่วนเงินบาทอ่อน หากเยนแข็ง บาทอ่อน เมื่อราคายางโตคอมร่วง ราคายางไทยจะร่วงน้อยกว่า เพราะผลจากอัตราแลกเปลี่ยน คล้ายกรณีราคาทองคำกับเงินดอลลาร์ สรอแข็งค่านั่นเอง

วันนี้ลุงแมวน้ำเอากราฟมาฝากอีก เป็นกราฟค่าเงินบาทกับกราฟราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent crude oil, BZ)

กราฟค่าเงินบาท (USD_Bht)



จะเห็นว่าค่าเงินบาทเข้าสู่คลื่นย่อย 3 แล้ว หมายความว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อไปอีก ดูที่เป้าหมาย 31.3 บาท/ดอลลาร์ สรอ ไว้ก่อน หากถึงแล้วค่อยประเมินกันต่อไป

ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ หากขณะนี้เป็นคลื่น 4 ย่อยจริง ราคาก็น่าจะไม่ลงอีกมากนัก จากนั้นเข้าสู่คลื่น 5 ย่อย แต่หากราคาลงไปลึก แสดงว่าลุงแมวน้ำนับคลื่นผิด ที่นำเอาภาพมาให้ดูนี้เป็นระดับแนวโน้มระยะสั้นเท่านั้น เวลานักลงทุนพิจารณาแนวโน้มต้องพิจารณากรอบเวลาไปด้วยเสมอ อย่านำคำว่าแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง หรือคำว่าไม่มีทิศทางไปใช้โดยไม่พิจารณากรอบเวลา เพราะจะทำให้เราวางแผนการลงทุนผิดพลาดได้

กราฟราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (BZ)




อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 09/05/2012




ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 09/05/2012