เมื่อคืนน้ำมันดิบถล่มลงมาอีกราว -5% ราคาน้ำมันดิบ WTI ของตลาดอเมริกาหลุด 50 ดอลลงมาหน่อยนึง ก็ถือว่า 50 ดอลตัวเลขกลมๆ ดูกราฟ CL
ขณะเดียวกันยุโรปออกอาการไม่ดี เข้าสู่โหมดกังวลเรื่องกรีซอีก ดัชนีแดกซ์ DAX ของเยอรมนี -3% แต่ดัชนี STOXX50 ซึ่งถือเป็นดัชนีตัวแทนของทั้งกลุ่มยูโรโซน -3.7% ในกลุ่มยูโรโซนเยอรมนีจะดีกว่าเพื่อน เศรษฐกิจยังแกร่งกว่าชาติอื่นๆในกลุ่ม
ผลจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรงทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานลงกันแรงด้วย ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลง -1.8% แต่หากมองเฉพาะในกลุ่มพลังงานก็ลงไป -4%
ราคาน้ำมันดิบตอนนี้ WTI ลงมาถึงแนวรับสำคัญแล้ว 50 ดอล ดูกันว่าจะหลุดหรือไม่ หากหลุดก็ไปพบกันอีกทีที่ 35-37 ดอล ซึ่งลุงแมวน้ำก็ยังคิดว่าไม่น่าลงถึงขนาดนั้น ตอนนี้ยังมองแค่ 50 ดอลอยู่ แต่ถึงแม้จะลงไปลึกกว่านั้นก็ตาม นี่เป็นภาวการณ์ชั่วคราว เกิดจากสงครามราคาซึ่งเป้าหมายของทุกคนคือเอาตัวให้รอด ไม่มีใครลดราคาพลีชีพหรอก ดังนั้นตลาดน้ำมันดิบก็มีกลไกราคาของมันอยู่ ซึ่งในที่สุดจะเข้าสู่ภาวะสมดุลที่รายใหญ่แต่ละรายพออยู่กันได้
สำหรับตลาดหุ้นไทย ราคาหุ้นพลังงานคงลงอีก แต่การลงนี้เป็นปัจจัยทางจิตวิทยา หุ้นหลายกลุ่มไม่ได้รับผลกระทบเลยแต่ก็ยังลงได้ลึก ซึ่งนี่คือโอกาส ในวิกฤตของกลุ่มพลังงานยังเป็นโอกาสของกลุ่มอื่น แม้แต่ในกลุ่มพลังงานเองก็ตาม หากลงลึกเกินไปก็ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนเช่นกัน แต่เนื่องจากตอนนี้ฝุ่นตลบในกลุ่มพลังงาน ประเมินอะไรได้ยาก ดังนั้นสำหรับกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โอกาสยังไม่ชัด ดูๆไปก่อน
ปี 2014 ที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไป -36,600 ล้านบาท ดูกราฟ SET cumulative foreign trade ซึ่งแสดงยอดสะสมของการซื้อขายในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ปีที่แล้วในช่วงครึ่งปีหลังมีแรงซื้อเข้ามา ดูเหมือนฝรั่งจะเริ่มเข้า แต่สุดท้ายปลายปีเทขายออกมาอีก เท่าที่ประเมินสถานการณ์ตอนนี้ต่างชาติยังไม่เข้า ใกล้เลือกตั้งของเราแล้วก็คงเข้านั่นแหละ แต่หากเลือกตั้งยังไม่ชัดอาจยังไม่เข้า ท่องเที่ยวก็อาจยังฟื้นไม่ได้มากนักเนื่องจากกฎอัยการศึก ดังนั้นลุงแมวน้ำยังคงเห็นว่าควรเลี่ยงหุ้นกลุ่มที่ฝรั่งชอบลงทุนเอาไว้ก่อน ได้แก่ พลังงาน ธนาคาร ปูนใหญ่ หุ้นอะไรใหญ่ๆที่ต่างชาติลงทุนเยอะๆนั่นควรเลี่ยงไปก่อน พลังงานทางเลือก โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ต่างๆ แพงแล้วทั้งนั้น ของอะไรแพงคือซื้ออนาคตไปมาก ระวังหน่อยดีกว่า ยกเว้นตัวเดียวในกลุ่มที่เห็นว่ายังถูก คือ SPCG แต่กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกนั้นลุงแมวน้ำมองเป็นหุ้นมั่นคง ไม่ใช่หุ้นเก็งกำไร คือดอกผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน ภาวะเก็งกำไรนี้จะเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นการเข้าลงทุนต้องพิจารณาดอกผลสำคัญกว่ากำไรจากส่วนต่างราคา
อีกกลุ่มที่ควรเลี่ยงไปก่อน คือกลุ่มบริโภค ทั้งพีอีแพงและพีอีถูก เพราะยังไม่ใช่จังหวะ แต่จังหวะจะมาภายในปีนี้ ตอนนี้เล็งตัวดีๆเอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งเข้า
กลุ่มการลงทุนที่น่าสนใจยังมองเช่นเดิม รับเหมาก่อสร้าง หุ้นที่ผลงานดี พี่อียังต่ำ ยังมีให้ลงทุน แต่ต้องดูงบการเงินหน่อยนะ รับเหมาเป็นกลุ่มที่ขั้นตอนรั่วไหลหรือพลาดพลั้งมีมาก โอกาสพลิกเป็นขาดทุนมีสูง ดังนั้นต้องพิจารณาความสามารถในการประกอบธุรกิจให้ดีๆ ที่ความสามารถในการดำเนินงานต่ำควรเลี่ยงเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเจอเพิ่มทุนอ่วม หุ้นต้นน้ำของกระบวนการก่อสร้างน่าสนใจกว่าเพื่อน
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยก็เช่นกัน ควรเน้นที่รายใหญ่ เพราะการแข่งขันในธรกิจนี้สูง รายใหญ่ได้เปรียบกว่า ดู ROE ก็พอจะเห็นได้
และอีกกลุ่มที่ลุงแมวน้ำยังมองบวก คือสื่อสาร ดาวเทียม ไม่เห็นจะเกี่ยวกับราคาน้ำมันเลย แต่ลงเอาๆ ปีนี้ประมูล 4G กลุ่มนี้มีเฮ วันก่อนดาวเทียมหล่นไปหลุด 30 บาทวูบหนึ่งไม่รู้ใครตกใจขาย ผู้ที่เก็บได้ทันก็ถือว่าได้ลาภ
ใครที่กังวลกับตลาดหุ้นไทย ก็โน่น กองทุนจีน และอินเดีย ปีนี้ลุงมองสองประเทศนี้เด่นสุดคร้าบ ความผันผวนน่าจะต่ำด้วย ราคาน้ำมันลงเป็นอานิสงส์ต่อสองประเทศนี้ด้วย ลงทุนแล้วไม่ใจหาย กองญี่ปุ่น ยุโรป เกาหลี ลุงคิดว่าควรเลี่ยง อเมริกาก็ยังพอได้แต่อาจมีใจหายใจคว่ำบ้าง ปีนี้เน้นกองทุนรายประเทศอีกว่า อย่าเหมาเป็นภูมิภาค เช่น กลุ่มตลาดเกิดใหม่ เพราะไส้ในต่างกันมาก พวกตลาดเกิดใหม่ที่ไส้ในมีตะวันออกกลางกับละตินอเมมริกาเยอะๆก็อ่วม
ปี 2015 นี้คงเป็นปีที่ผันผวนและพลิกล็อกชนิดหักปากกากันทีเดียว ลุงแมวน้ำมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ การบริโภคจะฟื้นตัวและหนี้ครัวเรือนจะลดได้ในระดับที่น่าพอใจทีเดียว โอกาสเกิดเหตุการณ์ดังว่ามีประมาณ 60% เหลืออีก 40% คือเผื่อใจว่าแป้ก นี่คือมุมมองตอนนี้ แต่น้ำหนักความมั่นใจนี้จะเปลี่ยนไปได้ตามข้อมูลที่จะออกมา โปรดคอยติดตามกัน ลุงว่าไตรมาสแรกคงเห็นชัดคร้าบ
No comments:
Post a Comment