Sunday, March 25, 2012

เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ ขนมปังผลไม้เจริญสติ

วันหยุดอีกแล้ว ลุงแมวน้ำชอบวันหยุดจัง

วันหยุดในสัปดาห์ที่แล้วลุงแมวน้ำชวนปลูกว่านหางจระเข้ วันนี้เปลี่ยนเป็นทำขนมกินกันดีกว่า

ของโปรดอย่างหนึ่งของลุงแมวน้ำก็คือสโตนเลนเค้ก (Stollen cake) เค้กที่ว่านี้เป็นของหวานพื้นบ้านของเยอรมนี นิยมทำกินกันในช่วงคริสต์มาส ชื่อบอกว่าเป็นเค้กแต่ที่จริงหน้าตาและเนื้อสัมผัสออกไปทางขนมปังมากกว่า สโตลเลนเค้กนี้เป็นเค้กที่ผสมด้วยผลไม้เชื่อมและผลไม้แห้งต่างๆ เช่น ลูกเกด ซัลทานา (ที่เราเรียกลูกเกดเหลืองนั่นแหละ) แอปปริคอต ฯลฯ ด้านบนของเค้กโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งจนหนาเตอะ โรยบางๆก็ไม่ได้นะ ต้องโรยให้หนา รสชาติหวานมัน อร่อยมากๆ พูดแล้วน้ำลายไหลเลย ซู้ดดดดด... ลุงแมวน้ำเคยกินตอนที่ไปแสดงที่เยอรมนี แต่ที่จริงไม่ต้องไปถึงโน่นหรอก เดี๋ยวนี้ในบ้านเราก็มีขาย


สโตลเลนเค้ก ชื่อเป็นเค้กแต่หน้าตาเป็นขนมปัง อาหารพื้นบ้านของเยอรมนี เป็นขนมปังผลไม้รสชาติหวานมัน เอกลักษณ์ของสโตคลเลนเค้กก็คือโรยน้ำตาลไอซิ่งจนหนาเตอะ



วันหยุดนี้นึกถึงสโตเลนเค้กขึ้นมา หากนานๆกินทีและกินไม่มากก็คงไม่เท่าไรนัก แต่หากกินบ่อยๆคงแย่เหมือนกันเพราะทั้งหวานจัดและมันจัด ที่จริงอาหารที่หวานจัดและมันจัดไม่ได้มีแต่เฉพาะสโตเลนเค้ก แต่อาหารการกินแบบคนเมืองทั่วไปในปัจจุบันมีแนวโน้มรสจัดและแคลอรี่สูงเกือบทั้งนั้น มีทั้งหวานจัด เค็มจัด มันจัด ฯลฯ เพราะต้องการให้รสชาติเอร็ดอร่อยเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากินแล้วติดใจนั่นเอง หากไม่ติดใจก็อาจจะขายไม่ออก ดังนั้นคนเมืองกินอาหารรสจัดเหล่านี้จนชิน อาหารแบบคนเมืองจึงกลายเป็นอาหารทำลายสุขภาพไปโดยปริยาย เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันหลอดเลือด ความดันสูง โรคไต ฯลฯ

เมื่อนึกถึงสโตลเลนเค้กทำให้ลุงแมวน้ำได้ความคิดที่จะทำอาหารสุขภาพขึ้นมาอีกเมนูหนึ่ง นั่นคือ ขนมปังผลไม้

ขนมปังผลไม้ของลุงแมวน้ำนี้เป็นสูตรไขมันต่ำและน้ำตาลต่ำ ทำให้แคลอรีต่ำ แถมยังเป็นสูตรเจหรือมังสวิรัติอีกด้วย คือไม่มีผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ไม่มีนม ไม่มีไข่ และมีใยอาหาร (fiber) สูง

ส่วนประกอบของเค้กผลไม้ก็มีแป้งสาลีทำขนมปัง แป้งข้าวไรย์ดำ จมูกข้าวเจ้า (จมูกข้าวสาลีหรือ wheat germ ราคาแพง ใช้จมูกข้าวเจ้าดีกว่า หาไม่ยากด้วย) แป้งถั่วเหลือง งา เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด ผลไม้รวมเชื่อม กล้วยหอม และน้ำมันคาโนลา ลุงแมวน้ำมีเครื่องทำขนมปัง ก็เอาวัตถุดิบใส่ลงไปในเครื่องทำขนมปังให้หมด จากนั้นเครื่องก็นวดและอบให้เองจนเสร็จ ไม่ต้องนวดเองให้เมื่อยครีบ หลบไปนอนก่อนก็ยังได้ ^_^


ใช้เครื่องทำขนมปัง ไม่ต้องนวดแป้งเองให้เมื่อย ใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงไปในเครื่องแล้วก็นอนรอได้เลย

หน้าตาของขนมปังผลไม้ที่อบเสร็จแล้วก็เป็นแบบนี้ น่ากินไหม



ดูใกล้ๆ ขนมปังสีเหลืองทอง เนื้อแน่น มีธัญพืชข้าวไรย์ดำ ข้าวสาลีโฮลวีต จมูกข้าวเจ้า ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน งา และผลไม้รวม อาทิ ลูกเกด มะละกอ กล้วยหอม ฯลฯ



ขนมปังผลไม้ของลุงแมวน้ำหนึ่งแผ่นหนักประมาณ 65 กรัม ให้พลังงานประมาณ 180 กิโลแคลอรี มีค่าไกลซีมิกโหลด (glycemic load) ประมาณ 14.5 ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางที่ค่อนข้างต่ำ (ยิ่งต่ำยิ่งดี) นอกจากนี้ไขมันยังต่ำ มีโปรตีนและใยอาหารสูงอีกด้วย ดังนั้นสามารถใช้เป็นอาหารมื้อเบาๆที่มีแคลอรีต่ำและสารอาหารหลักครบถ้วนได้มื้อหนึ่งเลยทีเดียว

หากเป็นสโตลเลนเค้กที่ขายตามห้างทั่วไป น้ำหนักเท่ากันนี้ มักให้พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรีขึ้นไปและมีไขมันประมาณ 30 กรัมหรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสูตร ส่วนใหญ่เป็นไขมันอิ่มตัวเสียด้วยเพราะใช้เนยสด ส่วนค่าไกลซีมิกโหลดของสโตลเลนเค้กนั้นลุงแมวน้ำไม่มีข้อมูล แต่คาดว่าคงจะสูง ก็ดูในรูป น้ำตาลไอซิ่งหนาเสียขนาดนั้นจะไม่ให้ไกลซีมิกโหลดสูงได้ยังไง

ขนมปังผลไม้ของลุงแมวน้ำกินกับกาแฟ รสชาติพอใช้ได้ทีเดียว กินแล้วพอได้หายคิดถึงสโตลเลนเค้ก ขณะที่กินก็ลุงแมวน้ำก็ชมสวนพร้อมกับปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย ลุงแมวน้ำนึกถึงแฟนคลับที่มาชมการแสดงของลุงแมวน้ำคนหนึ่ง ผู้ชมคนนี้อายุประมาณหกสิบปี มีฐานะดีและมีตำแหน่งทางสังคมสูงทีเดียว รูปร่างอ้วน สูบบุหรี่ ชอบการกินเลี้ยงสังสรรค์ เป็นความดันโลหิตสูง เป็นเบาหวาน ต้องฟอกไต เคยทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจมาแล้ว แล้วยังมีอีกหลายโรค ลุงแมวน้ำฟังแกคุยเรื่องโรคแล้วจำได้ไม่หมด แต่เรียกได้ว่าชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์จริงๆ และมีโรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่สอง

ลุงแมวน้ำยังคิดเลยไปถึงชีวิตการลงทุน คนส่วนมากอยากรวย รวย และรวย ทำงานหนักเพราะอยากรวย เล่นหุ้นปั่นก็เพราะอยากรวยเร็วๆ ฯลฯ มีคำถามที่น่าคิดหลายคำถามทีเดียว หากรวยง่ายทำไมทุกคนจึงไม่รวยกันหมด เหตุใดบางคนยิ่งลงทุนก็ยิ่งหมดตัว บนเส้นทางของคนอยากรวยมีคนที่รวยได้จริงสักกี่คน และบนถนนคนอยากรวยนี้แต่ละคนต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรไปบ้าง และสุดท้ายแล้วได้อะไรกลับมา ความร่ำรวยใช่เป็นคำตอบของชีวิตหรือไม่ ? ? ?

ขนมปังของลุงแมวน้ำนี้แม้จะไม่อร่อยเท่ากับสโตลเลนเค้ก แต่ก็ถือเป็นทางสายกลาง อร่อยพอควร และทำให้มีสุขภาพที่ดี อีกทั้งกินแล้วสบายใจเพราะไม่ได้เบียดเบียนชีวิตอื่น เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตในแนวทางสายกลาง ความที่ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไปก็ทำให้เรามีความสุขได้ คือเป็นความสุขกับความพอดีของชีวิตนั่นเอง ความร่ำรวยนั้นขึ้นอยู่กับความรู้จักพอ เมื่อไรที่รู้พอเมื่อนั้นก็พบกับความร่ำรวยได้ แต่หากไม่รู้พอ แม้มีทรัพย์มากเพียงใดก็ยังไม่รู้สึกว่ารวย

เช้านี้ไม่เลวทีเดียว นอกจากได้ทำขนมปังกินเองแล้วยังทำให้ลุงแมวน้ำมีโอกาสเจริญสติไปด้วย

เอาละ หลังจากที่กินขนมปังรองท้องกันนิดหน่อยพร้อมกับชมสวนยามเช้าแล้ว เราไปออกกำลังกายกันดีกว่า ลุงแมวน้ำขอไปว่ายน้ำเล่นที่บึงสวนสุมสักหน่อย ไปละคร้าบ ^_^

No comments: