Thursday, March 15, 2012

14/03/2012 * Gold USD Ratio และ Crude oil USD Ratio

ค่าเงินวันนี้ 15/03/2012 (รายงานวันเทรดที่ 14/03/2012)


วันที่ 14 ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียแปซิฟิกแม้ส่วนใหญ่จะปิดเขียวแต่ในภาคบ่ายตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงอ่อนแรงกลายมาอยู่ในแดนลบ SET index 1164.36 จุด (+0.9%) ต่างชาติยังซื้อสุทธิ วันนี้ซื้อมากเสียด้วย 2066 ล้านบาท

ตลาดฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก แรงมากแรงน้อยไม่เท่ากัน ยกว้นแต่ตลาดหุ้นอังกฤษที่ปิดแดง ทางด้านฝั่งอเมริกาวันนี้อ่อนแรงลง ตลาดหุ้นบราซิลปิดแดง ส่วนของสหรัฐอเมริกาทรงตัว ดัชนี DAX ของเยอรมนี +1.2% (ผ่าน 7000 จุดไปแล้ว) และดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) +0.1%

อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 14 เงินดอลลาร์ สรอ ขึ้นต่อ ดัชนีดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา (usd index) อยู่ในกรอบ 80.15 ถึง 80.6 จุด ช่วงนี้กรอบการเคลื่อนไหนในระหว่างวันของ US dollar index ขยับสูงขึ้นวันละนิดทุกวัน เห็นได้ชัดว่าในระยะสั้นมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เงินสกุลยุโรปและเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลง

กลุ่มโลหะมีค่าราคาร่วง ทองคำลงต่ออีก -3.0% โลหะเงินลงหนักกว่าคือ -4% ส่วนโลหะอุตสาหกรรมวันนี้ลงแล้ว ทองแดง -1.7% กลุ่มพลังงานราคาก็ปรับตัวลง น้ำมันดิบ wti -1.0% น้ำมันดิบเบรนต์ -1.0% ส่วนสินค้าเกษตรราคาลงเล็กน้อย ดัชนีอยู่ที่ 79.04 จุด (-0.2%)

เช้านี้ (15/03/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ อยู่ที่ 80.6 จุด ยูโร 1.302 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 83.9 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 30.79 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 105.6 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 124.9 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1644 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์



Gold USD Ratio และ Crude oil USD Ratio


ผลจากดอลลาร์ สรอ แข็งค่าโดยปกติแล้วมักทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งน้ำมันดิบ ทองคำ และสินค้าเกษตร มีราคาลดลง ดังนั้นจึงหมายความว่าราคาทองคำกับน้ำมันดิบมักสัมพันธ์กันแบบตามกันไปด้วย

ในขณะนี้เราเห็นได้ชัดจากราคาทองคำที่ร่วงลงค่อนข้างมาก แต่ในน้ำมันดิบราคายังไม่ลดลงทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยพิเศษเข้ามา นั่นคือ สถานการณ์ความไม่สงบในโลกอาหรับ ดังนั้น ทิศทางราคาน้ำมันดิบจึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปัจจัยพิเศษว่ามีมากน้อยเพียงใด สามารถหักล้างกับปัจจัยเงินดอลลาร์ สรอได้หรือไม่ ซึ่งคงไม่มีใครตอบได้แน่ชัด นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรทั้งหลายยังขึ้นกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ และราคาน้ำมันดิบอีกด้วย ดังนั้นทิศทางของราคาสินค้าเกษตรตอนนี้จึงบอกได้ยากแล้ว ดังจะเห็นตัวอย่างได้ชัดจากราคายางพารา บางวันราคายางตลาดญี่ปุ่นขึ้นแต่ราคายางไทยไม่ขึ้น บางวันราคายางโตคอมลงนิดหน่อยแต่ราคายางไทยลงมาก นั่นก็เป็นเพราะผลจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนราคายางโตคอมขึ้นหรือลงก็เป็นไปตามปัจจัยของราคายางเองผสมกับปัจจัยของราคาน้ำมันดิบกับดอลลาร์ สรอ

จะเห็นว่าโลกของการลงทุนนับวันจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ที่เป็นสูตรตายตัวเดิมๆอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป สถานการณ์แบบนี้ขึ้นกับปัจจัยทางจิตวิทยามาก ดังนั้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคน่าจะได้ผลดีกว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน รวมทั้งการตามแนวโน้มไปเรื่อยๆเท่านั้นจึงจะเป็นคำตอบที่แท้จริง



วันนี้ลุงแมวน้ำเอาภาพมาฝากอีกภาพหนึ่ง เป็นกราฟแสดงสัดส่วนระหว่างราคาทองคำกับดัชนีดอลลาร์ สรอ (gold-usd index ratio) และสัดส่วนระหว่างน้ำมันดิบ wti กับดัชนีดอลลาร์ สรอ (crude oil-usd index ratio) ความหมายของกราๆสัดส่วนนี้เอาไว้ดูว่าราคาทองคำกับราคาน้ำมันดิบแพงเว่อเพียงใดเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ

จากภาพ เส้นกราฟสีน้ำเงินเป็นค่าสัดส่วนทองคำกับดอลลาร์ สรอ ส่วนเส้นสีแดงเป็นสัดส่วนของราคาน้ำมันดิบ wti กับดอลลาร์ สรอ จากกราฟจะเห็นว่าทิศทางของราคาทองคำ (เส้นสีน้ำเงิน) อ่อนตัวลงอย่างชัดเจน อย่างน้อยก็ในระยะสั้นกับระยะกลาง ส่วนราคาน้ำมันดิบ (เส้นสีแดง) ระยะสั้นอ่อนตัว แต่ระยะกลางยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ ตีความได้ว่าในระยะต่อไปราคาทองคำอาจร่วงต่อได้ ตอนนี้ไม่น่าใช่เวลาเก็บทอง ส่วนราคาน้ำมันดิบอาจไปต่อได้ทั้งที่ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าเนื่องจากน้ำหนักของปัจจัยพิเศษอาจมากกว่าน้ำหนักของค่าเงินดอลลาร์ สรอ


อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 14/03/2012 



ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 14/03/2012 

No comments: