Tuesday, December 21, 2010

20/12/2010 * SET, การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน (DCA หรือ BCA) (2)

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1006.51 จุด ลดลง 15.95 จุด ทั้งเดัชนี SET และดัชนี SET50 เกิดสัญญาณขาย

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย PTT, TUF ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 31 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย S50 ลุงแมวน้ำจึงปิดสัญญาซื้อ (cover long position) และเปิดสัญญาขาย (open short position) ไป นอกจากนี้ฟิวเจอร์ส PTTEP เกิดสัญญาณขาย

กลุ่มกองทุนเปิดอีทีเอฟ TDEX เกิดสัญญาณขาย

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดสำคัญทั่วโลกที่มีอยู่ในรายงานส่วนใหญ่ปิดแดง จีนและบราซิลปิดลดลงกว่า 1%

วันนี้ตลาดหุ้นของไทยติดลบเล็กน้อยมาตลอดช่วงเช้าและบ่ายต้นๆ แต่พอบ่ายแก่ๆดัชนี SET ก็ไหลลงอย่างรวดเร็ว ข่าวลือในห้องค้าว่ากันว่าตระหนกข่าวซ้อมรบของเกาหลีใต้ที่อาจเป็นชนวนสงครามเกาหลีรอบใหม่ ดัชนี SET, SET50 และ S50, TDEX เกิดสัญญาณขายในวันเดียวกัน สำหรับอนุพันธ์ S50 นี้เกิดสัญญาณหลอก (false signal) ไปถึง 4 ครั้งแล้ว ขาดทุนไปโข นี่เป็นตัวอย่างที่ลุงแมวน้ำอยากชี้ให้เห็นว่าตลาดหุ้นนั้นไม่มีอะไรแน่นอน มีความเสี่ยงสูง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่ว่า S50 เป็นฟิวเจอร์สที่เทรดได้ง่ายได้ผลตอบแทนดีในอดีตก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากได้เหมือนกัน ดังนั้นหากไม่มีการจัดการพอร์ตลงทุนที่ดี ขาดวินัยในการลงทุน รวมทั้งหากลงทุนเกินตัว ในที่สุดก็จะเสียหายจนอาจมีเงินไม่พอเทรดต่อไปได้

ในช่วงคืนกำไรก็เป็นเช่นนี้เอง ตามสถิติแล้ว SET สามารถเกิดสัญญาณหลอกได้ถึง 6-7 ครั้งติดๆกัน แต่หากเกาะแนวโน้มเอาไว้ได้ เมื่อไรที่แนวโน้มมาถึงตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาให้ทำกำไรดังเช่นหลายเดือนที่ผ่านมาที่ดัชนี SET ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สัญญาณซื้อเกิดนานนับเดือนโดยไม่มีสัญญาณขายที่เป็น false signal มาคั่นกลางเลย

มาดูกราฟของดัชนี SET กันว่ามีสัญญาณกลับทิศแนวโน้มเกิดขึ้นแล้วกี่ประการ
  1. เกิดคอนเวอร์เจนซ์ของดัชนีกับ RSI (bearish convergence)
  2. ดัชนีหลุดกรอบ SEC (standard error channel)
  3. คลื่นย่อยนับได้ครบ 5 ลูก
  4. fibonacci ได้ระดับ และมีความสอดคล้องของระดับ fibonacci



การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน (DCA หรือ BCA) (2)

เมื่อวันก่อนเราคุยกันถึงเรื่องการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนโดยการทยอยซื้ออย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานานๆ พร้อมทั้งทิ้งท้ายด้วยประเด็นที่ลุงแมวน้ำยังไม่กระจ่าง จึงลองทำพอร์ตจำลองเพื่อลงทุนแบบ BCA ขึ้นมา วันนี้เรามาดูกันต่อไป

ก่อนหน้านี้ลุงแมวน้ำคุยเรื่องกลยุทธ์การลงทุนในกองทุน LTF, RMF และลุงแมวน้ำได้คำนวณผลตอบแทนการลงทุนให้ดูกัน (ดูใน กลยุทธ์การลงทุน LTF, RMF ในตลาดขาลง) จากนั้นทิ้งท้ายเอาไว้ว่าปัจจุบันวิธีการลงทุนใน LTF, RMF ที่ปัจจุบันนิยมกันวิธีหนึ่งก็คือการลงทุนแบบ BCA โดย บลจ. เกือบทุกแห่งที่มีกองทุน LTF, RMF มักมีบริการซื้อหน่วยลงทุนให้ทุกเดือนโดยการตัดบัญชีธนาคารของลูกค้า มาในวันนี้ลุงแมวน้ำจะใช้ช่วงเวลาการลงทุนเดิมที่เคยใช้ในบทความเรื่อง LTF มาทำพอร์ตจำลองเพื่อจะได้นำผลตอบแทนมาเทียบกันกันได้

ช่วงเวลาในการลงทุนที่เราจะมาทำพอร์ตจำลองกันคือช่วง 26 สิงหาคม 2551 ถึง 7 กันยายน 2552 ช่วงนั้นดัชนี SET ไหลลงจาก 668 จุดลงมาอยู่ที่ 431 จุด จากนั้นกลับขึ้นไปที่ 682 จุดอีก ตามภาพต่อไปนี้




หากลงทุนในกองทุน LTF ที่ชื่อ KEQLTF อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนกับทุกสองเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เมื่อถึงเดือนกันยายน 2552 ผลตอบแทนการลงทุนจะเป็นดังนี้


หากลงทุนทุกเดือน ผลตอบแทน ณ เดือนกันยายน 2552 จะเป็น 34% แต่หากลงทุนทุกสองเดือน (คือซื้อ KEQLTF เดือนเว้นเดือน) ผลตอบแทนการลงทุน ณ ช่วงเวลาเดียวกันจะได้ 31.57%

และหากนำมาเปรียบเทียบกับกลยุทธ์การลงทุนใน LTF แบบอื่นๆ ผลตอบแทนที่เปรียบเทียบกันจะเป็นดังนี้




จะเห็นว่าผลตอบแทนการลงทุนด้วยวิธี DCA หรือ BCA นั้นน่าพอใจเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่เพิ่งอ่านบทความนี้หากงงกับผลการเปรียบเทียบในตารางขอแนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านเรื่อง กลยุทธ์การลงทุน LTF, RMF ในตลาดขาลง เสียก่อนเนื่องจากผลการเปรียบเทียบนี้เท้าความมาจากบทความเดิม

เมื่อเห็นผลตอบแทนแบบ BCA แล้วหลายคนอาจร้องว้าวว่าน่าสนใจมาก แต่ก็ดังที่ลุงแมวน้ำคุยกล่าวเอาไว้ว่าผลตอบการการลงทุนแบบ BCA นั้นมีโอกาสเป็นภาพลวงตาได้สูง ให้พึงระวัง

ที่ว่าจะเป็นภาพลวงตาได้อย่างไรนั้นเราจะมาคุยกันในวันต่อไป



2 comments:

Anonymous said...

อยากให้อธิบายตัวที่มี .1 ต่อท้ายทุกตัวเลยครับ
ทั้งของไทย และของเทศ ว่าหมายถึงหลักทรัพย์ตัวไหน เช่น ดัชนีราคาน้ำตาล ใช้ SB.1 ดูแนวโน้ม หุ้น KSL น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง ถึงแม้ไม่ได้
เทรดของต่างประเทศ แต่เอามาดูแนวโน้มได้ครับ

ขอบคุณครับ

ลุงแมวน้ำ said...

คำอธิบายชื่อย่อของฟิวเจอร์สตลาดโภคภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกาเท่าที่มีอยู่ในรายงานดูได้ที่หน้านี้ http://uncaseal.blogspot.com/2009/04/blog-post.html

ส่วนราคาสินค้าเกษตรกับหุ้นไทยบางตัวลุงแมวน้ำจะทำกราฟมาให้ดูกัน แต่เท่าที่เห็นไม่ค่อยตามกันแล้วซึ่งลุงแมวน้ำก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน อย่าง STA กับราคายางตอนนี้ไปตรงข้ามกันเลยเพราะราคายางพารากำลังขึ้น

KSL กับราคาน้ำตาลตลาดโลกก็ตามบ้างไม่ตามบ้างมาแต่ไหนแต่ไรเนื่องจากบ้านเราควบคุมราคาน้ำตาล

TVO กับน้ำมันถั่วเหลืองตลาดโลกตอนนี้ก็สวนทางกัน ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับเรื่องมาตรการควบคุมราคาน้ำมันพืชหรือไม่ ตัวนี้ลุงแมวน้ำไม่ค่อยได้ตาม

ลุงแมวน้ำ