Thursday, June 12, 2014

12/06/2014 กรณีศึกษา TRUE, ADVANC, DTAC วิเคราะห์เทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน



หุ้น TRUE


“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด ลุงแมวน้ำช่วยด้วยยยยย” เสียงกรีดร้องดังลั่น จนลุงแมวน้ำที่แอบงีบหลับอยู่ที่ข้างๆโขดหินตกใจตื่นและรีบออกมาดู

“อ้าว แม่ยีราฟนั่นเอง เกิดอะไรขึ้น ไฟไหม้เหรอ” ลุงแมวน้ำเห็นเป็นยีราฟสาวจอมมัธยัสถ์ ยืนหน้าซีดน้ำลายย้อยอยู่

“เปล่า ไฟไม่ได้ไหม้” ยีราฟตอบ “แต่พอร์ตของฉันไหม้ แดงแจ๋เลย กรี๊ดดดดดด”

เสียงกรีดร้องของยีราฟดังประมาณ 120 เดซิเบล จนลุงแมวน้ำหูอื้อ

“เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ พอร์ตแดงคืออะไร นี่แม่ยีราฟซื้อหุ้นเหรอ” ลุงแมวน้ำงง

“ใช่จ้ะลุง ฉันเพิ่งซื้อหุ้น ADVANC เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง พอซื้อก็ลงเลย สองวันนี้ลงไป 5% แล้ว” ยีราฟสาวโวย “ต้องโทษลิงจ๋อ แนะนำให้ฉันซื้อ”

“อ้าว จะไปโทษนายจ๋อได้ยังไง เงินของแม่ยีราฟ แม่ยีราฟตัดสินใจเอง กฎสำคัญของการลงทุนคืออย่าโทษใคร” ลุงแมวน้ำบอก

“จ้ะ จ้ะ ไม่โทษก็ได้ ว่าแต่ฉันจะทำยังไงดี” ยีราฟพูดพลางสะอื้น “นายจ๋อบอกว่าพื้ฐานเปลี่ยนไปแล้ว ให้ขาย ADVANC แล้วรีบไปซื้อ TRUE”

ช่วงสองสามวันมานี้หุ้นสื่อสารใหญ่ นั่นคือ TRUE, DTAC, ADVANC ขึ้นลงแรง ข่าวที่ปรากฏตามสื่อก็คือ หุ้น TRUE มีการเพิ่มทุนและมีพันธมิตรใหม่มาร่วมทุนด้วย นั่นคือ บริษัทสื่อสารใหญ่ของจีน ไชนาโมบาย (China Mobile) หลังจากที่เพิ่มทุนเรียบร้อยแล้วไชนาโมบายจะถือหุ้น TRUE ประมาณ 18% เงินที่เพิ่มทุนจะนำไปใช้คืนเงินกู้และใช้ในการดำเนินธุรกิจ บทวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่าพื้นฐานของหุ้น TRUE เปลี่ยนไปเมื่อได้พันธมิตรที่เข้มแข็งมาร่วมถือหุ้นด้วย รวมทั้งน่าจะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากอีกสองค่ายมาได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีข่าวอื่นประกอบอีก เช่น  DTAC เพิกถอนหุ้นจากตลาดหุ้นสิงคโปร์ รวมทั้งข่าวที่ว่า DTAC ถูกเพ่งเล็งเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ หากพบว่ามากเกินกำหนดก็จะไม่สามารถเข้าประมูลคลื่นความถี่ได้

ขณะเดียวกัน หุ้น ADVANC, DTAC อันเป็นหุ้นสื่อสารอีกสองค่ายที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันก็ร่วงแรงพอสมควร

“แล้วแม่ยีราฟซื้อหุ้นนี่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนยังไงบ้างล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ฉันอยากถือไปนานๆเพื่อกินเงินปันผลจ้ะ นายจ๋อบอกว่าหุ้นนี้จ่ายปันผลสม่ำเสมอและดีกว่าฝากธนาคาร” ยีราฟตอบ “เขาบอกว่าฉันควรเป็นแนววีไอ”

“นั่นแน่” ลุงแมวน้ำขำ “นายจ๋อเนี่ยนะแนะนำให้ลงทุนแนววีไอ”

“ใช่จ้ะ” ยีราฟตอบ

“ก่อนอื่น ลุงอยากบอกแม่ยีราฟว่าการลงทุนนั้นอย่าเชื่ออะไรเขาบอก ต้องใช้กาลามสูตร นั่นคือ อย่าฟังเขาเล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นสายวิเคราะห์ด้วยเทคนิคหรือสายปัจจัยพื้นฐานก็ต้องเลือกหุ้นด้วยตนเองได้” ลุงแมวน้ำพูด “เพราะหากฟังแต่คนอื่น เมื่อใดที่พลาดพลั้ง เงินน่ะเงินแม่ยีราฟเองนะ”

“จ้ะๆ” ยีราฟรีบรับปาก “ลุงอย่าเพิ่งเทศนาฉันเลย แนะนำฉันหน่อยว่าควรทำยังไง”

“ลุงจะอธิบายง่ายๆละกัน หากเป็นสายวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สัญญาณซื้อขาย รวมทั้งแม่ยีราฟต้องการลงทุนระยะสั้น ก็ว่าไปตามสัญญาณซื้อขาย แต่หากแม่ยีราฟคิดถือยาวๆ แม่ยีราฟก็ควรวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก เราลองมาดูกัน เอ้า ดูนี่”

ว่าแล้วลุงแมวน้ำก็หยิบเอากราฟของ TRUE ออกมาจากหูกระต่าย กางให้ยีราฟดู


หุ้น TRUE



“เราเริ่มกันที่หุ้น TRUE ก่อนละกัน แม่ว่าแม่ยีราฟไม่ได้ถืออยู่ แต่ว่าเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องกัน

“ในทางเทคนิค TRUE หลุดจากสามเหลี่ยมชายธงกรอบใหญ่ลงมาข้างล่าง ตามหลักการทางเทคนิคแล้ว ราคาน่าจะลงต่อ แต่เมื่อมีปัจจัยใหม่เข้ามา รูปแบบทางเทคนิคก็เปลี่ยนไป ล่าสุด หลังจากที่มีข่าวเรื่องไชนาเทเลคอม ก็เกิดแท่งเทียนขาวใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนเมื่อวานนี้เป็นรูปแบบดาวตก (shooting star) รวมทั้งเกิดช่อง (gap) ด้วย อย่าเพิ่งย่ามใจว่าแท่งเทียนขาวกับแก๊ปแปลว่าขาขึ้นแน่ๆ ควรรอดูอีกสักสองสามวัน เนื่องจากรูปแบบนี้ต่อไปอาจราคาอาจถอยลงมาปิดช่อง หรืออาจเป็นเกาะลอย (island of reversal) อันเป็นสัญญาณบ่งชี้การกลับทิศเป็นขาลงก็มีโอกาสได้เช่นกัน ดังนั้นต้องรอดูไปก่อน

“หากมองทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจุบัน TRUE มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 26.23 เท่า ขาดทุนสะสมประมาณ 6 หมื่นล้าน ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 24.5%

“ตอนนี้เท่าที่ลุงรู้ ดีลนี้ยังไม่จบ เนื่องจากยังไม่ได้ลงเงินกัน โอกาสเปลี่ยนยังมี นอกจากนี้ หุ้นนี้ขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน มียอดขาดทุนสะสมอยู่มาก และไม่ได้จ่ายเงินปันผลมานานหลายปีแล้ว ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งในอนาคตไชนาเทเลคอมมีบทบาทถือหุ้น 18% ถือว่าสัดส่วนไม่มากนัก จะเข้ามามีบทบาทในการบริหารอย่างไร และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้หรือไม่ หรือในทางใด เรื่องนั้นเรายังไม่กระจ่าง ดังนั้นจึงยังบอกไม่ชัดเจนว่าความสามารถในการทำธุรกิจในอนาคตว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ดังนั้นหากจะบอกว่าพื้นฐานเปลี่ยนไป ลุงว่าพูดตอนนี้ยังเร็วเกินไปสักหน่อย”

จากนั้นลุงแมวน้ำก็หยิบกราฟหุ้น DTAC ออกมา


หุ้น DTAC


“ในทางเทคนิค ราคา DTAC ร่วงและเกิดช่องขาลงหรือ falling window แต่ว่าแท่งเทียนที่ตามมาเป็นแท่งเทียนขาวใหญ่ แสดงว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามา ดังนั้นก็ต้องดูต่อไปอีกสองสามวัน หากราคาขึ้นมาปิดช่องได้ สภาพขาลงก็ถูกหักล้างไป

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน DTAC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.95 เท่า กำไรสะสมประมาณ 5,500 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 31.3%

“หุ้นนี้มีกำไรและจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ชัดว่าหุ้น DTAC เสียความสามารถในการแข่งขันไป ศักยภาพในการทำธุรกิจนี่สำคัญนะแม่ยีราฟ หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่

จากนั้น ลุงแมวน้ำก็ดึงเอากราฟหุ้น ADVANC ออกมาจากหูกระต่าย


หุ้น ADVANC


“เอาล่ะ ทีนี้ก็มาถึงตัวสำคัญที่ทำให้แม่ยีราฟร้องกรี๊ดมา หุ้น ADVANC ในทางเทคนิค ราคาหุ้นเป็นแนวโน้มขาลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ไม่กี่วันนี้ราคาเกิดแก๊ปขาลง แท่งเทียนถัดมายังไม่มีอะไร แต่ถัดมาอีกแท่งราคาไหลลงแต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา หน้าตาเป็นแบบค้อน (hammer)  ที่ลำตัวยาวหน่อย ในทางเทคนิคดูไม่ค่อยดีจริงๆด้วย แต่ก็ควรดูต่อไปอีกสักสองสามวัน ว่าราคาจะกลับขึ้นมาปิดแก๊ปได้หรือไม่

“ในทางปัจจัยพื้นฐาน ADVANC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 2.03 เท่า กำไรสะสมประมาณ 12,600 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือในปี 2556 ประมาณ 35.2%

“หุ้นมีกำไรและจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง ปันผลก็งามพอควร นี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตเช่นกัน หากยังไม่เสียศักยภาพไป ก็ยังแข่งขันได้อยู่ หลายเดือนมานี้มีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ จากนั้นยังมาเจอเรื่องไชนาโมบายอีก แต่ก็ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าความสามารถเสียไป

“สรุปว่าฉันควรทำอย่างไรจ๊ะลุง” ยีราฟถาม

“สรุปว่าแม่ยีราฟควรตัดสินใจเองจ้ะ” ลุงแมวน้ำตอบ

“ก็ฉันตัดสินใจไม่ถูกน่ะลุง” ยีราฟทำหน้าเบ้เหมือนกับจะร้องไห้ พร้อมกับอ้าปากกว้าง

“อย่าเพิ่งร้องกรี๊ดนะ” ลุงแมวน้ำรีบอุดหู “นี่แหละ ชีวิตและการลงทุน แม่ยีราฟต้องเรียนรู้และตัดสินใจเอง ถือเป็นบทเรียนละกัน ในทางเทคนิคแบบใช้สัญญาณซื้อขาย ตอนนี้ก็เกิดสัญญาณขายแล้ว เห็นแท่งสีแดงในกราฟไหม ก็ต้องว่าไปตามระบบ แต่ก็นั่นแหละ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง สัญญาณซื้อขายก็อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ การกลับเข้าไปซื้อใหม่ย่อมมีต้นทุนจากการซื้อขายและการเสียจังหวะ

“ส่วนในทางปัจจัยพื้นฐานสถานการณ์ตอนนี้ถือว่ายังฝุ่นตลบอยู่ หุ้นทั้งสามตัวแม่ยีราฟก็เปรียบเทียบความสามารถในการทำธุรกิจในอดีตได้ ส่วนในอนาคตนั้น ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน พื้นฐานทางธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนภายในชั่วข้ามคืนหรอก ลุงว่าอย่าเพิ่งร้อนใจ รอดูอีกสักนิดให้ฝุ่นหายตลบก่อนก็ได้ วิธีนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ เพราะเมื่อถึงวันที่แม่ยีราฟตัดสินใจได้ก็อาจเสียหายมากกว่าตัดสินใจในวันนี้ แต่การลงทุนในระยะยาวก็เป็นแบบนี้แหละ แม่ยีราฟต้องมีหัวใจของเถ้าแก่อยู่ด้วยหน่อยๆ 

“ทุกแนวทางมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ไม่มีอะไรดีพร้อมหรอก นี่แหละ ที่ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ที่สำคัญคือแม่ยีราฟต้องยึดหลักให้มั่น จะยึดแนวทางใด ก็หมั่นศึกษาหาความรู้ไว้ด้วย”

Wednesday, June 11, 2014

11/06/2014 การลงทุนหุ้นและกองทุนรวมในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ (healthcare industry) (3)






อุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ อภิมหาแนวโน้มแห่งศตวรรษ


“เมื่อครู่เราคุยกันถึงไหนแล้วล่ะ” ลุงแมวน้ำถามหลังจากที่ดูดน้ำปั่นจนชื่นใจ

“ลุงนี่ขี้ลืมเสียจริง” ลิงบ่น “เมื่อกี้ลุงบอกว่าหุ้นไบโอเทคโนโลยีนั้นเก็งกำไรกันสนุกไปเลยไง”

“อ้อ ใช่” ลุงแมวน้ำทวนความจำ “หุ้นซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคนี้จึงผันผวนสูง นี่ลุงพูดในภาพรวมเท่านั้น หุ้นบางตัวที่ผันผวนน้อยๆก็พอมี”

“มิน่าล่ะ ผู้ที่ซื้อกองทุนรวมแนวนี้จึงบ่นกันว่าซื้อแล้วติดยอดดอย เพราะว่าราคาผันผวน ขึ้นลงแรงนั่นเอง” ลิงจ๋อพูด

“จะพูดแบบนั้นก็ไม่เชิง กองทุนรวมในแนวอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพนี้หากมีหุ้นในกลุ่มไบโอเทคอยู่ในพอร์ตเยอะจึงจะผันผวนมาก หากในพอร์ตมีหุ้นในกลุ่มไบโอเทคน้อยหรือไม่มีก็ว่ากันไปคนละแบบ ที่จริงกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพในตลาดหุ้นอเมริกานั้นมีอยู่เยอะทีเดียว มีธีม (theme) ย่อยหลายแบบให้เลือกลงทุน แต่ว่าในบ้านเรามีกองทุนรวมในแนวนี้ให้เลือกอยู่ค่อนข้างจำกัด”

“ที่เมืองนอกมีให้เลือกเยะเลยเหรอลุง” ลิงถาม

“เยอะสิ การลงทุนในกลุ่มนี้มีหลากหลายมาก ทั้งหุ้น อีทีเอฟ กองทุนรวม ทีมีให้เลือกเยอะเนื่องจากอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่ง ที่ใครๆก็มองว่าเมกะเทรนด์ (megatrend) หรืออภิมหาแนวโน้มของโลกในศตวรรษนี้เลยทีเดียว” ลุงแมวน้ำตอบ

“เมกะเทรนด์ อภิมหาแนวโน้ม หมายความว่ายังไงล่ะลุง” ลิงสงสัย

“ลุงก็พูดให้ฟังแล้วอลังการงานสร้างน่ะ แปลง่ายๆก็คือมันเป็นกระแสโลกนั่นเอง เป็นการมองในภาพใหญ่ว่าสังคมทั่วโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง” ลุงแมวน้ำตอบ

“แล้วโลกจะเปลี่ยนไปยังไงบ้างล่ะลุง” ลิงถาม

“อภิมหาแนวโน้มหรือว่ากระแสโลกในศตวรรษที่ 21 นี้มีหลายเรื่อง อย่างเช่น เรื่องสิทธิสตรีก็เป็นกระแสโลกอย่างหนึ่ง นั่นคือ ในยุคนี้ ผู้หญิงทั่วโลกมีความเท่าเทียมกับชายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การทำงาน การดำเนินชีวิต ฯลฯ ซึ่งสังคมทั่วโลกก็ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นจึงบอกว่าเรื่องสิทธิสตรีเป็นเมกะเทรนด์” ลุงแมวน้ำตอบ

“แล้วเรื่องการดูแลสุขภาพนี้เป็นเมกะเทรนด์ยังไง ผมยังไม่เข้าใจ” ลิงยังสงสัยอีก

“เอาละ ลุงจะค่อยๆอธิบายให้ฟัง โลกในศตวรรษที่ 21 นี้มีอภิมหาแนวโน้มอยู่หลายเรื่อง ลุงขอยกมา 4 เรื่องที่ดำเนินควบคู่กันไปและเกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ความก้าวหน้าทางวิทยาการ ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การเติบโตของชุมชนเมือง และภาวะสังคมผู้สูงอายุ” ลุงแมวน้ำตอบ “ลุงจะค่อยๆขยายความให้ฟังทีละแนวโน้ม

“ด้านความก้าวหน้าทางวิทยาการ โลกในศตวรรษที่ 21 นี้จะพัฒนาองค์ความรู้ในวิทยาการสาขาต่างๆโดยต่อยอดจากองค์ความรู้เดิม ซึ่งผลจากวิทยาการด้านต่างๆที่รุดหน้านี่เอง ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุดหน้าไปด้วย ลุงจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ นั่นคือ ก่อน ค.ศ. 1700 ทั่วโลกยังเป็นสังคมเกษตรอยู่ แต่พอมีการคิดค้นจักรกลไอน้ำได้ในราวปี ค.ศ. 1700 จากนั้นโลกก็ค่อยๆเปลี่ยนจากสังคมเกษตรไปเป็นสังคมอุตสาหกรรม คนที่อยู่ในสังคมอุตสาหกรรมมีรายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับสังคมเกษตร ภายในช่วงเวลา 300 ปีนับแต่มีจักรกลไอน้ำ โลกก็เปลี่ยนไปโขทีเดียว

“ทีนี้พอมาถึงยุคคอมพิวเตอร์ คือตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี 1940 เป็นต้นมา วิทยาการต่างๆยิ่งเติบโตแบบก้าวกระโดด สังคมอุตสาหกรรมเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้คนมีรายได้มากมายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“เมื่ออุตสาหกรรมเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการผลิตข้าวของเครื่องใช้ต่างๆออกมามากมาย ประกอบกับผู้คนมีรายได้ดีขึ้น การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไป ชีวิตแบบเมืองเติบโตไปพร้อมๆกับการเติบโตของอุตสาหกรรม ชุมชนเกษตรลดน้อยลง ชุมชนเมืองมีมากขึ้น

“และนี่เองเป็นที่มาของเมกะเทรนด์ การเติบโตของชุมชนเมือง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า urbanization ผลจากความก้าวหน้าทางวิทยาการและทางเศรษฐกิจ ทำให้ชีวิตแบบชนบทหรือชีวิตชุมชนเกษตรเริ่มลดน้อยลง และชีวิตแบบสังคมอุตสาหกรรมหรือชุมชนเมืองขยายตัวมากขึ้นและมากขึ้น


แผนที่โลกแสดงความหนานแ่นของชุมชนเมือง ดินแดนใดที่มีสีเข้มแสดงว่าดินแดนนั้นมีสัดส่วนของชุมชนเมืองสูง จะเห็นว่าดินแดนแถบแอฟริกาและเอเชียมีชุมชนเมืองในสัดส่วนที่น้อยกว่าดินแดนอื่นๆ แต่สองดินแดนนี้ก็หนีกระแสโลกไม่พ้น ต่อไปก็กลายเป็นสีเข้ม และนี่คือโอกาสของธุรกิจหลายๆประเภท เช่น ธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม ฯลฯ


“ลุงพูดไปแล้ว 3 อภิมหาแนวโน้มแห่งศตวรรษที่ 21 วิทยาการ เศรษฐกิจ ชุมชนเมือง ทีนี้มาดูแนวโน้มที่ 4 นั่นคือ เมื่อชุมชนเมืองเติบโตขึ้น ผู้คนที่อยู่ในชุมชนเมืองส่วนใหญ่มีการศึกษาดี มีรายได้ดี มีโรงพยาบาลดีๆ ปัจจัยสี่มีครบครัน ชีวิตในชุมชนเมืองก็พัฒนาเป็นรูปแบบเฉพาะขึ้นมา นั่นคือ แต่งงานช้า มีลูกน้อย และอายุขัยยืนยาว”

“จริงด้วยสิลุง ผมก็สังเกตอยู่หมือนกัน” ลิงจ๋อพูดเสริมขึ้นบ้าง “ชีวิตในเมืองส่วนใหญ่เป็นดังที่ลุงว่าจริงๆ”

“เมื่อมีลูกน้อย และมีอายุขัยยืนยาว ที่จะเกิดก็ไม่เกิด ที่จะตายก็ไม่ตาย ผลก็คือ นับวันผู้สูงอายุจะมีมากขึ้น ดังนั้น เมกะเทรนด์ที่ดำเนินร่วมไปกับชุมชนเมืองก็คือภาวะสังคมผู้สูงอายุนั่นเอง ลุงเล่า 4 กระแสโลกที่เกี่ยวข้องกันให้ฟังครบแล้วนะ”


แผนที่โลกแสดงภาวะของสังคมผู้สูงอายุ ดินแดนใดมีสีเข้ม หมายความว่าดินแดนนั้นมีผู้สูงอายุในสัดส่วนสูง และหากเปรียบเทียบดูกับแผนที่ชุมชนเมือง ก็จะพบว่า ดินแดนใดมีชุมชนเมืองหนาแน่น ก็มักมีผู้สูงอายุในสัดส่วนสูงด้วย ดินแดนเอเชียและแอฟริกามีสัดส่วนผู้สูงอายุน้อยกว่าดินแดนอื่นๆ แต่ให้สังเกตว่าต่อไปเอเชียก็จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มเช่นกัน


“แล้วที่ลุงเล่าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพยังไง” ลิงยังสงสัยไม่หาย

“อ้าว นายจ๋อก็ลองจินตนาการดูสิ ว่า ชีวิตแบบชุมชนเมืองเป็นยังไงบ้าง ที่ว่าอายุขัยยืนยาวนั้นใช่ว่าจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ตรงกันข้าม ชีวิตแบบชุมชนเมืองทำให้เกิดโรคภัยต่างๆมากมาย ตั้งแต่มลพิษสะสมและเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็ง รูปแบบการใช้ชีวิต อาหารการกินแบบคนเมืองทำให้คนเมืองส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว นั่นคือ ความเครียด โรคเบาหวาน หัวใจ ไตเสื่อม โรคความความดันและหลอดเลือด ครั้นพอแก่ตัวลงโรคภัยต่างๆก็ยิ่งรุมเร้า มิหนำซ้ำ ไม่มีลูกหลานดูแลหรือมีแต่ดูแลไม่ไหวอีก


ภาพการ์ตูนล้อที่สะท้อนให้เห็นว่าระบบการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุแม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็ยังมีไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่บอกให้ชายคนขวามือว่าอีก 20 ปีค่อยมาขอรับบริการเเพราะจากคิวของผู้สูงอายุที่มารอรับบริการยาวมาก เนื่องจากอเมริกาเป็นสังคมผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงมากถึง 13.6% ของประชากรทั้งหมด และนี่คือโอกาสของธุรกิจดูแลสุขภาพในหลายๆสาขา รวมทั้งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันในอีกหลายๆประเทศด้วย เพราะว่าเป็นเมกะเทรนด์


“เห็นไหม นี่คือวิกฤตของวิถีชีวิตคนเมือง แต่ก็คือโอกาสของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในด้านต่างๆเนื่องจากคนเมืองมีเงิน ไล่เรียงมาตั้งแต่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ยา คลินิก โรงพยาบาล สถานพักฟื้น สถานฟื้นฟู ไปจนถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ วัสดุทางการแพทย์ต่างๆ รวมทั้งเป็นโอกาสของวิชาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์เฉพาะทาง พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล นักฟื้นฟู นักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ ตลอดไปจนถึงธุรกิจประกัน นั่นคือ การประกันชีวิตและการประกันสุขภาพ

“แนวโน้มแบบชุมชนเมืองและภาวะสังคมผู้สูงอายุนับวันจะขยายตัวออกไป ไม่ได้หดตัวลงเลย และตราบใดที่แนวโน้มแบบชุมชนเมืองและภาวะสังคมผู้สูงอายุยังดำรงอยู่ อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ก็เติบโตไปได้เรื่อยๆ


สัดส่วนของผู้สูงอายุในบางประเทศ ประเทศใดที่มีผู้สูงอายุเกินกว่า 7% จัดว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุ (แสดงด้วยตัวเลขสีแดงในตาราง)



“นี่แหละ คือคำตอบ ที่ว่าเหตุใดอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพจึงเป็นจึงเป็นอภิมหาแนวโน้มแห่งยุค” ลุงแมวน้ำสรุป “ลองดูภาพนี้แล้วจะช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้น ภาพเดียวแทนคำบรรยายได้หลายหน้ากระดาษเลย”


การเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรไปสู่สังคมเมืองเป็นแนวโน้มกระแสหลักของโลก วิถีชีวิตจะเปลี่ยนไปมาก เป็นโอกาสของธุรกิจมากมาย รวมทั้งอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพด้วย


“อ๋อ... ที่แท้มันยังงี้นี่เอง” ลิงลากเสียงยาว “ยังงั้นหุ้นหรือกองทุนรวมในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์นี้ก็ยังน่าลงทุนน่ะสิ”

“ก็ใช่น่ะสิ ลุงจะยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมสักตัวอย่างก็ได้ ลองดูภาพนี้” ลุงแมวน้ำพูด จากนั้นก็ดึงกระดาษอีกแผ่นหนึ่งออกมาจากหูกระต่าย คลี่ให้ลิงดู


ดัชนี CSI 300 ของตลาดหุ้นจีน (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่ในแนวโน้มขาลงมาหลายปีแล้ว ส่วนดัชนีย่อยในเซ็กเตอร์ไอที (CSI 300 IT Index เส้นสีเหลือง) ซึ่งถือว่าเป็นเซ็กเตอร์ดาวเด่นเซ็กเตอร์หนึ่งในตลาดหุ้นจีนก็คล้ายๆกัน แต่ที่แอบโตก็คือเซ็กเตอร์ดูแลสุขภาพ (CSI 300 Healthcare Index เส้นสีแดง) หุ้นจีนในเซ็กเตอร์นี้เป็นแนวโน้มขาขึ้น

“นี่คือกราฟของตลาดหุ้นจีน เรารู้กันดีว่าตอนนี้เศรษฐกิจจีนไม่เติบโตแรงเหมือนเมื่อก่อน พูดง่ายๆคือชะลอตัวไปบ้าง ตลาดหุ้นจีนก็ร่วงเอา ร่วงเอา แต่หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ของจีนยังเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ นักลงทุนหลายๆคนอาจคิดว่าเซ็กเตอร์ไอที เซ็กเตอร์สินค้าอุปโภคบริโภคของจีนน่าลงทุน แต่หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าเซ็กเตอร์เฮลท์แคร์ของจีนนั้นโตดีกว่าอีก ทั้งนี้ เพราะจีนมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมเมือง อีกทั้งยังมีภาวะสังคมผู้สูงอายุด้วย นี่คือตัวอย่าง” ลุงแมวน้ำอธิบาย

“แต่เมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพนี่เป็นมุมมองในภาพรวม หากจะเข้าลงทุนก็ต้องมองในภาพย่อยด้วยเพื่อดูในรายละเอียด จะได้เลือกซับเซ็กเตอร์และตัวหุ้นที่มีอนาคตไกลไว้ในพอร์ต รวมทั้งเข้าลงทุนในจังหวะอันเหมาะสม อย่าลืมว่าหุ้นที่รอวันเจ๊งก็มีเนื่องจากธุรกิจย่อมมีการแข่งขันกัน ใครไม่เก่งก็ม้วนเสื่อกลับบ้าน” ลุงแมวน้ำพูด

“ถ้าหากผมจะลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ จะลงทุนยังไงดีล่ะลุง ซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคโนโลยีฟังแล้วก็น่าเสียวไส้อยู่เหมือนกัน” นายจ๋อถาม

“ยังมีซับเซ็กเตอร์อื่นที่น่าสนใจและน่าเสียวไส้น้อยกว่าให้เลือก ผลตอบแทนดีด้วย” ลุงแมวน้ำตอบ “และเนื่องจากเรื่องสุขภาพเป็นอภิมหาแนวโน้มหรือว่าเป็นกระแสโลก ดังนั้นทั่วโลกก็จะเป็นไปคล้ายๆกัน แนวคิดในการลงทุนในสาขาย่อยหลายๆอย่างดูของฝรั่ง ญี่ปุ่น แล้วเอามาปรับใช้กับการลงทุนในไทยก็ได้ด้วย”

“เหรอๆ อะไรล่ะลุง บอกหน่อยเร้ว” ลิงรีบถาม

“ลุงคอแห้งอีกแล้ว น้ำปั่นก็หมด ขอลุงไปซื้อน้ำปั่นมาดูดให้ชื่นใจก่อน แล้วจะมาเล่าต่อ” ลุงแมวน้ำตอบ

Tuesday, June 10, 2014

10/06/2014 ผลคัดกรองหุ้นจากปริมาณการซื้อขาย และ กราฟหุ้น TRUE



ผลการสแกนหุ้นจากปริมาณการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบ 10 วันทำการ คัดมาให้ดูเฉพาะที่ปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนไปมากที่สุด 50 อันดับแรก


ช่วงนี้ตลาดหุ้นค่อยๆขึ้นทีละน้อย เงินบาทกลับมาแข็งค่า เงินต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกทั้งในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น เงินต่างชาติก็ไปๆมาๆแบบนี้เสมอแหละ อย่าตกใจกับการไหลจนเกินไป

ในระดับคลื่นย่อยก็ระวังการปรับตัว แต่ว่าในระยะยาว ตอนนี้ลุงแมวน้ำลงจากรถไฟสาย SET 1700 แล้วนะคร้าบ เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย SET 2000 แทน ลุงแมวน้ำขอเขียนเรื่องหุ้นและกองทุนรวมในอุตสาหกรรมสุขภาพให้จบเสียก่อน แล้วจะมาคุยเรื่องรถไฟสาย SET 2000 ^_^

เช้าวันนี้ลุงแมวน้ำมีของเล่นเล็กๆน้อยๆมาฝาก นั่นคือ ผลการสแกนหุ้นที่ลุงแมวน้ำเพิ่งทำมาสดๆร้อนๆ เอามาให้ดูกัน

การสแกนหุ้นของลุงแมวน้ำนี้สแกนจากปริมาณซื้อขาย คือเปรียบเทียบปริมาณซื้อขายของวันล่าสุด (คือเมื่อวาน) เทียบกับเมื่อ 10 วันทำการก่อนหน้า

การสแกนจากปริมาณการซื้อขายนั้นเป็นการคัดกรองในเบื้องต้น หากหุ้นตัวใดมีมูลค่าการซื้อขายเคลื่อนไหวมากขึ้นอย่างน่าสังเกต อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ในเบื้องต้นว่าอาจมีการแอบเก็บหุ้นหรือแอบขายหุ้น ก็ค่อยๆเข้าไปดูรายละเอียด

ในวันนี้ ลุงแมวน้ำเอาผลสแกนสำหรับหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงในรอบ 10 วัน มาให้ดูเป็นตัวอย่าง วิธีดูก็ไม่ยาก ดังนี้

คอลัมน์แรก ชื่อหุ้น

คอลัมน์ที่สอง บอกราคาล่าสุด (09/06/2014)

คอลัมน์ที่สาม บอกว่าปริมาณการซื้อขายในรอบสิบวันเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์

คอลัมน์ที่สี่ บอกว่ามูลค่าการซื้อขายล่าสุด มีมูลค่าเท่าใด คอลัมน์นี้เอาไว้ดูว่าหุ้นใดขาดสภาพคล่องนั่นเอง เนื่องจากหุ้นบางตัวแม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะเปลี่ยนแปลงไปมากในรอบสิบวันที่ผ่านมา แต่ก็ยังอาจเข้าข่ายขาดสภาพคล่อง หุ้นขาดสภาพคล่องต้องระวัง

ลุงแมวน้ำขอย้ำว่า นี่เป็นการคัดกรองหุ้นในเบื้องต้น ยังบอกไม่ได้ว่าตัวใดดีหรือไม่ น่าลงทุนหรือไม่ ต้องไปทำการบ้านต่อทีละตัวคร้าบ และผลการสแกนนี้ใช้สำหรับในสถานการณ์ปัจจุบัน หากเวลาผ่านไปก็ต้องสแกนกันใหม่คร้าบ

นอกจากนี้ ลุงแมวน้ำยังเอากราฟหุ้น TRUE มาให้ดู คงทราบกันดีว่ามีการเพิ่มทุนอีก โดยมีบริษัทโทรคมนาคมของจีนมาร่วมทุนด้วย การเพิ่มทุนและหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มน่าจะเป็นการเตรียมเพื่อรองรับการประมูลคลื่น 1800

ในทางเทคนิค กราฟหลุดจากสามเหลี่ยมชายธงลงมาข้างล่าง แปลความว่าว่าอาจลงต่อได้อีก และเนื่องจากสามเหลี่ยมชายธงนี้เป็นกรอบใหญ่ ครอบคลุมเวลาปีกว่า (ตั้งแต่ต้นปี 2013) ชายธงใหญ่หากหลุดก็อาจลงได้ลึกคร้าบ


หุ้น TRUE ตัดสามเหลี่ยมชายธงลงมาด้านล่าง

กราฟราคาหุ้น TRUE ในอดีต สมัยก่อนชื่อ TA (Telecom Asia) ร่วมทุนกับส้ม (Orange) ของฝรั่งเศส จากนั้นฝรั่งเศสก็ถอนทุนกลับไป ต่อมารีแบรนด์เป็นชื่อ TRUE และล่าสุดมีการเพิ่มทุนและไชนาโมบายล์มาร่วมถือหุ้นประมาณ 18%


Friday, June 6, 2014

06/06/2014 ECB ลดดอกเบี้ย และถนนทุกสายมุ่งสู่พลังงานทดแทน PPP, SOLAR, SPCG, WHA, GUNKUL, EPCO, IFEC, TFI ฯลฯ






ธนาคารกลางยุโรปลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจอีก


เมื่อคืนนี้ธนาคารกลางของยุโรป หรือที่เรียกว่า ECB (European Central Bank) ได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนอีก

ลุงแมวน้ำขอเท้าความหน่อยเพื่อความเข้าใจ คือขณะนี้เศรษฐกิจของยุโรปในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร แม้ว่าดัชนีหลายตัวจะบ่งชี้ว่าค่อยๆกระเตื้องขึ้นในภาพรวม แต่ก็ยังเรียกได้ว่าเศรษฐกิจติดหล่มอยู่ โดยเฉพาะ ปัญหาหนักอกของอีซีบีที่คิดว่าเป็นอุปสรรคของการฟื้นตัวของยูโรโซนก็คือ ภาวะเงินฝืด คือ  ประชาชนไม่ยอมควักกระเป๋าออกมาจับจ่ายใช้สอย เมื่อเงินไม่หมุน เศรษฐกิจก็ไม่สะพัด ก็ไม่พ้นจากหล่มเสียที

ทางอีซีบีนั้นใช้นโยบายอัดฉีดสภาพคล่องเช่นกัน แต่ว่าใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ได้อัดฉีดแบบไม่อั้นดังเช่นอเมริกา กลไกสำคัญที่อีซีบีใช้กระตุ้นเศรษฐกิจประการหนึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากใช้ดอกเบี้ยนโยบายในอัตราต่ำที่ 1 สลึง (0.25%) ก็แล้ว เงินก็ยังฝืดอยู่ ก็มีการลุ้นกันว่าอีซีบีโดยลุงมาริโอจะมีมาตรการแบบพิมพ์เงินมาอัดฉีดไม่อั้นแบบอเมริกาและญี่ปุ่นหรือไม่

ปรากฏว่ามาตรการเพิ่มเติมล่าสุด ก็คือประกาศเมื่อคืน (เวลาบ้านเรา) นี้เอง ปรากฏว่าอีซีบีไม่ทำคิวอีแบบปลายเปิด แต่ใช้การลดอัตราดอกเบี้ยอีก มาตรเพิ่มเติมล่าสุดก็คือ


  • ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 0.25% เหลือ 0.15%
  • ลดดอกเบี้ยเงินฝาก ที่ธนาคารต่างๆนำมาฝากไว้กับธนาคารอีซีบี จาก 0% เป็น -0.10% แปลง่ายๆก็คือ ธนาคารใดจะเอาเงินไปฝากธนาคารกลางต้องเสียค่าฝากเงิน 0.10%
  • ลดดอกเบี้ยเงินกู้มาร์จิน จาก 0.75% เหลือ 0.4% 


ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของลุงมาริโอก็คือ เพื่อกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆพยายามนำเงินไปหมุนบ้าง อย่าเอาแต่กองไว้ในธนาคารหรือเอามาฝากกับอีซีบี เมื่อเงินสะพัด อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น นั่นคือเศรษฐกิจหมุนเวียน

หากเป็นไปตามคาด นั่นคือ เมื่อเงินเฟ้อ แปลว่าเงินยูโรน่าจะอ่อนค่าลง แต่ที่ไหนได้ เมื่อคืน (เวลาบ้านเรา กลางวันของยุโรป) เงินยูโรอ่อนค่าไปวูบหนึ่ง จากนั้นก็กลับมาแข็งค่าขึ้นกว่าเดิม


ค่าเงินยูโรไม่ตอบสนองต่อมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี อ่อนค่ามาเดี๋ยวเดียวจากนั้นกลับแข็งค่าขึ้น (ดูแท่งเทียนแท่งสุดท้าย)

และนอกจากนี้ หากเงินยูโรถูกกดดันให้หมุน เงินส่วนหนึ่งจะหมุนออกไปหารายได้นอกประเทศ นั่นคือ ที่เรียกว่า ยูโรแครรีเทรด (Euro carry trade) อันเป็นการเอาเงินยูโรที่มีต้นทุนการกู้ยืมต่ำไปลงทุนแสวงหากำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าของประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศในเอเชีย ซึ่งน่าจะทำให้ค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น แต่ปรากฏว่าค่าเงินเอเชียแข็งขึ้นนิดเดียว และตลาดหุ้นเอเชียไม่ตอบสนอง นอกจากไม่ขึ้นแล้วหลายๆตลาดยังลงเสียด้วย


ค่าเงินเอเชียเช้าวันรุ่งขึ้น (คือเช้าวันนี้) หลังจากที่อีซีบีมีมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย แข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนเงินสิงคโปร์อ่อนค่าเล็กน้อย แสดงว่ามาตรการของอีซีบีไม่ค่อยมีผลทางจิตวิทยาต่อเอเชียเท่าไรนัก

ตลาดหุ้นเอเชียก็ไม่ค่อยตอบสนองทางจิตวิทยาต่อมาตรการของอีซีบี แทนที่จะขึ้นรับข่าวกลับลงรับข่าว


ดังที่เห็นแล้วว่าตลาดไม่ค่อยตอบสนองกับมาตรการของอีซีบีนัก ที่จริงมาตรการเหล่านี้หากใช้แล้วก็ต้องใช้ไปสักระยะแล้วจึงประเมินผลได้ ณ วันนี้ที่จริงก็ยังไม่เห็นผลอะไรหรอก แต่ที่ลุงแมวน้ำชี้ให้ดูคือผลทางจิตวิทยาหรือความคาดหวังของนักลงทุน ซึ่งนักลงทุนไม่ได้ตอบสนองอะไรนัก เมื่อชาวบ้านเขาไม่ตื่นเต้นกัน ดังนั้นเราก็ไม่ควรไปคาดหวังอานิสงส์ต่อตลาดหุ้นไทยจนเกินเหตุ



ถนนทุกสายมุ่งสู่พลังงานทดแทน


และอีกเรื่องหนึ่งที่ลุงแมวน้ำอยากพูดถึงและฝากเตือนนักลงทุนในวันนี้ ก็คือเรื่องการลงทุนในพลังงานทดแทน

หลายปีมานี้ มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เข้าไปลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนกันมากมาย ตอนนี้มีอยู่หลายสิบบริษัท ใครต่อใครก็อยากเข้ามาทำธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ทำอสังหาฯก็มาทำแสงอาทิตย์ เป็นโรงพิมพ์ก็มาทำแสงอาทิตย์ เป็นแวร์เฮาส์ก็มาทำแสงอาทิตย์ ผลิตเหล็กก็มาทำแสงอาทิตย์ จนลุงแมวน้ำเองก็งงว่าหุ้นเดี๋ยวนี้ทำธุรกิจข้ามเซ็กเตอร์จนจำไม่ได้ว่าทำอะไรกันแน่ เรียกได้ว่า ถนนทุกสายมุ่งสู่พลังงานทดแทนก็คงไม่ผิด

ที่ลุงแมวน้ำอยากจะเตือนก็เรื่องนี้แหละ เพราะว่าเท่าที่ลุงแมวน้ำสังเกต หุ้นใดพอออกข่าวว่าจะทำพลังงานทดแทน หุ้นก็วิ่งดีทีเดียว ใครๆก็เลยอยากทำบ้างกระมัง เพราะทำแล้วราคาหุ้นวิ่งดี บางทีมีแค่ข่าวโครงการแพลมออกมา ยังไม่ได้ลงมือทำจริงๆ ราคาหุ้นก็ขึ้นแล้ว เก็งกำไรกันสนั่น นักลงทุนเห็นว่าพลังงานทดแทนเป็นเทรนด์ที่กำลังแรง พอมีข่าวหุ้นตัวไหนก็วิ่งเข้าใส่ทันที บางทีก็ไปค้างอยู่บนยอดดอย

เรื่องธุรกิจพลังงานทดแทนนั้นที่จริงแล้วมีรายละเอียดพอสมควรทีเดียว หากคิดจะถือลงทุนยาวๆควรศึกษาให้เข้าใจในรายละเอียด วันนี้ลุงแมวน้ำขอเล่าคร่าวๆก่อนละกัน เน้นที่โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ วันหลังจึงค่อยลงรายละเอียด

การทำธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ลักษณะการดำเนินธุรกิจหรือว่าการทำมาหากิน หากแบ่งง่ายๆก็แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 2 กลุ่ม นั่นคือ

1. ผู้ที่ทำโรงไฟฟ้า (คือโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟ) เพื่อขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้า
2. ผู้ที่รับจ้างสร้างโรงไฟฟ้า คือ ออกแบบ รับเหมาก่อสร้างรวมวัสดุอุปกรณ์ 

ที่จริงแบ่งได้ย่อยกว่านี้อีก แต่วันนี้พูดคร่าวๆก็คิดเสียว่ากลุ่มใหญ่ๆก็มีเท่านี้

แบบแรก ผู้ที่ทำโรงไฟฟ้าเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านั้น จะได้ค่าตอบแทนแน่นอน ทำสัญญาขายกันกี่เมกะวัตต์ก็เป็นไปตามนั้นตลอดอายุของสัญญา ราคาดีด้วย เพราะการไฟฟ้าต้องการส่งเสริม จึงมีเงินพิเศษบวกให้จากค่าไฟปกติ (ที่เรียกว่าค่าแอดเดอร์หรือค่าฟีดอินทาริฟ ตามแต่กรณี) เบ็ดเสร็จแล้วโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าให้จะได้ค่าไฟหน่วยละ 6 บาทขึ้นไป ตามแต่ลักษณะการอุดหนุน และจะได้ตามนั้นตลอดอายุสัญญา ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ประเด็นสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าแบบนี้ก็คือ ต้องทำตามโควตาที่ได้รับมา จะทำมากกว่านั้นไม่ได้ และตอนนี้โควตาหมดแล้วด้วย เต็มจนปี 2563 แปลว่าใครที่จะลงทุนแบบนี้ จ้างเขาสร้าง แล้วเราดูแล รายได้จะแน่นอน รู้ล่วงหน้าเลย เพราะโควตามีแค่นั้น แต่รายจ่ายจะไม่แน่นอน เพราะโซลาร์ฟาร์มหรือโซลาร์รูฟแต่ละรายนั้นประสิทธิภาพไม่เท่ากัน เนื่องจากการออกแบบและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ หากออกแบบไม่ดี อุปกรณ์ประสิทธิภาพต่ำ การผลิตไฟฟ้าก็ต่ำ ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยไฟฟ้าสูง รวมทั้งใบอนุญาตตอนนี้ไม่มีแล้วด้วย ใครอยากทำตอนนี้ต้องไปซื้อต่อจากคนที่มีอยู่แล้ว ค่าเซ้งใบอนุญาตคิดกันเมกะวัตต์ละเป็นล้านบาท ก็เป็นต้นทุน

หรือหากไม่เซ้งใบอนุญาต หนทางที่สำเร็จรูปกว่านั้นก็คือไปซื้อโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้วมาเสียเลย หากเป็นประการนี้นักลงทุนก็ต้องศึกษารายละเอียดให้ดี เนื่องจากเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน โดยเฉพาะด้านพลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนแปลงเร็ว โซลาร์ฟาร์มเมื่อ 5 ปีก่อนกับเดี๋ยวนี้ ความทันสมัยก็ต่างกันมาก รวมทั้งประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วย ราคาที่ซื้อมาหเหมาะสมหรือไม่ นักลงทุนต้องมีข้อมูลเหล่านี้จึงค่อยพิจารณาเข้าลงทุน

อีกประการ หุ้นอะไรที่รู้รายได้แน่นอน หุ้นนั้นมักไม่ค่อยวิ่ง ราคาเรื่อยๆมาเรียงๆตามปัจจัย เพราะไม่มีอะไรให้ลุ้น

แบบที่สอง ประเด็นสำหรับธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบ รับจ้างสร้างโรงไฟฟ้าก็คือ ตอนนี้เป็นธุรกิจที่แข่งกันสูงพอควร ก็คล้ายๆงานรับเหมาก่อสร้างในสาขาอื่นๆ ฝีมือ ชื่อเสียง และการบริหารต้นทุน จึงเป็นตัวชี้ขาดว่าธุรกิจจะมีกำไรหรือไม่ บุคลากรที่มีฝีมือก็หาไม่ง่ายนัก ทีมงานก็สำคัญ ดังนั้นใครที่กระโดดเข้ามาในเซ็กเตอร์นี้ ไม่ใช่ว่าจะเห็นกำไรใสๆ

ดังนั้น นักลงทุนก็ควรพิจารณา ว่าหุ้นที่มีข่าวว่าจะทำพลังงงานทดแทนนั้น ทำในส่วนไหน ต้นทุนเป็นอย่างไร มีโอกาสรุ่งไหม และสัดส่วนรายได้ของธุรกิจเดิมเป็นอย่างไร รายละเอียดที่ต้องพิจารณามีเยอะทีเดยว อย่าเพิ่งเห็นว่าทำพลังงานทดแทนก็คิดว่าดีแน่และรีบวิ่งเข้าใส่

สุดท้ายนี้ ลุงเอากราฟราคาของหุ้นหลายบริษัทที่ทำเกี่ยวกับพลังแสงอาทิตย์ ได้แก่ PPP, SOLAR, SPCG, WHA, GUNKUL, EPCO, IFEC, TFI ลองดูรูปแบบของราคา และใครรู้บ้างว่าหุ้นแต่ละหุ้นนี้ที่ว่านี้เป็นผู้เล่นในส่วนไหนของธุรกิจพลังงานทดแทน เป็นเพียงข่าวหรือดำเนินการแล้ว และผู้ประกอบการมีความพร้อม มีความรู้ความชำนาญในธุรกิจนี้ระดับใด หากยังไม่เข้าใจ ควรหาความรู้ก่อนนะคร้าบ ใจเย็นๆ ^_^


หุ้น PPP

หุ้น SOLAR

หุ้น SPCG

หุ้น EPCO

หุ้น WHA

หุ้น GUNKUL

หุ้น IFEC

หุ้น TFI

Monday, June 2, 2014

02/06/2014 หุ้นกลุ่มสินเชื่อและการบริโภครับเศรษฐกิจฟื้นตัว



ยอดซื้อขายสะสมในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ฝั่งนักลงทุนต่างชาติ จากมกราคม 2013-พฤษภาคม 2014


เราดูหุ้นในกลุ่มที่น่าจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่เราได้รัฐบาลใหม่กันไป 2 กลุ่มแล้ว คือกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง วันนี้เราจะมาดูหุ้นในกลุ่มสินเชื่อและการบริโภคที่ทุกคนต่างก็มองตรงกันว่าน่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่ คสช สั่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวที่ค้างอยู่ให้แก่เกษตรกรโดยพลัน

แต่ก่อนอื่น ลุงแมวน้ำขอสรุปยอดซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างชาติให้ดูกันสักหน่อย ข้อมูลนี้นับยอดสะสมตั้งแต่ ต้นมกราคม 2013 จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2014 เรามาดูกันในภาพที่อยู่ภาพบนสุดของบทความ อยู่ข้างบน

จากภาพ ยอดสะสมทางตลาดพันธบัตรนั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมเป็นเงิน 437,000 ล้านบาท เดือนพฤษภาคมมีแรงขายออกมาบ้าง ราว -24,000 ล้านบาท

ทางด้านตลาดหุ้น เดือนพฤษภาคมต่างชาติขายสุทธิราว -11,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายสะสมจากต้นปี 2013 เป็นจำนวนถึง -209,840 ล้านบาทแล้ว แต่ดัชนีเซ็ตกลับไม่ยอมลง รายย่อยและกองทุนก็ซื้อกันสุดชีวิตเช่นกัน

ทีนี้มาดูหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อหรือว่าลีสซิงกันบ้าง ตอนนี้นักลงทุนหันมามองหุ้นลีสซิงกันทั้งประเทศแล้ว เพราะต่างรับรู้ข้อมูลและมองเหมือนๆกัน ว่าเมื่อ คสช จ่ายเงินที่ค่าค่าจำนำข้าวแก่เกษตรกร เกษตรกรก็จะมีเงินไปจับจ่ายใช้สอย ใช้หนี้บ้าง ซื้อข้าวของบ้าง ดังนั้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการเช่าซื้อและการบริโภค เน้นที่ธุรกิจในภูมิภาค น่าจะได้รับอานิสงส์ ยกตัวอย่างเช่น หุ้นลีสซิงจักรยานยนต์น่าจะได้รับอานิสงส์มากกว่าหุ้นลีสซิงรถยนต์ เพราะในภูมิภาคมอเตอร์ไซค์มีบทบาทมากกว่ารถยนต์ เป็นต้น

เรามาดูกราฟหุ้นที่อาจได้รับอานิสงส์กัน


GL ทำธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (หุ้นเช่าซื้อจักรยานยนต์มี 2 หุ้นคือ TK, GL) ปี 2013 ผลประกอบการแย่ลง พร้อมกับราคาที่ร่วงลงมา ไตรมาส 1Q2014 นี้ผลประกอบการก็ยังไม่ฟื้น หลังวันที่ 22 พ.ค. เป็นต้นมา ราคาขึ้นแรงเพราะความคาดหวัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หุ้นในกลุ่มนี้ไม่น่าได้อานิสงส์เร็วนัก เนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังสูงอยู่ คงคาดหวังเพียงแค่ว่าผลประกอบการปี 2014 น่าจะกระเตื้องขึ้นกว่า 2013 บ้าง อย่าคาดหวังสูง


TK ทำธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ราคาวิ่งหลังมี คสช เช่นกัน อย่าคาดหวังสูงเนื่องจากอานิสงส์ยังไม่น่าจะมาถึงเร็ว


GCAP เป็นหุ้นในตลาด MAI ทำธุรกิจสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถไถ เป็นสินเชื่อการเกษตรโดยเฉพาะ ไม่มีคู่แข่ง ทำอยู่เพียงรายเดียว ค่อนข้างเฉพาะทางเหมือนกัน เพิ่งเข้าตลาดมาไม่นาน งบการเงินก็เพิ่งเห็นแค่ปีเดียว ทั้งปัจจัยพื้นฐาน บรรษัทภิบาล และทางเทคนิค ยังบอกอะไรได้ไม่ชัด เพราะเป็นหุ้นเข้าใหม่ หลังมี คสช ราคาวิ่งแรงยิ่งกว่าลิสซิงมอเตอร์ไซค์เสียอีก 


SINGER ทำธุรกิจสินค้าเงินผ่อน พวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อก่อนทำลิสซิงมอเตอร์ไซค์ด้วย หลายปีก่อน ผลประกอบการลดลงไปมากเนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนราคาถูกเข้ามาตีตลาด รวมทั้งสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ก็ขาดทุนเนื่องจากมีจุดรั่วไหลมาก หลายปีมานี้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปโข สินเชื่อจักรยานยนต์ก็ตัดออกไป ปรับการตลาดและตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มีสินค้าเชิงพาณิชย์เพิ่มเข้ามา ได้แก่ พวกตู้หยอดเหรียญที่ใช้กันมากในต่างจังหวัด เช่น ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ตู้ขายน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ งบการเงินปี 2013 และ 1Q2014 ดีแบบเกินความคาดหมาย เนื่องจากสวนกระแสเศรษฐกิจได้ น่าจะปรับตัวมาถูกทิศทางแล้ว


TCCC ทำธุรกิจผลิตปุ๋ยเคมี เมื่อชาวนาไม่มีเงินก็เพาะปลูกไม่ได้ พอได้เงินมาก็รีบไปซื้อพันธุ์ข้าว ซื้อปุ๋ย เพื่อรีบเร่งปลูกข้าวให้ทันหน้าฝน ผลประกอบการสองสามปีที่ผ่านมาดูดี แต่เป็นหุ้นที่สภาพคล่องน้อย นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงก็คือ ปุ๋ยเป็นสินค้าที่รัฐควบคุมราคา จะขึ้นราคาตามใจไม่ได้ อย่างเช่นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการขอขึ้นราคาปุ๋ยก็ขึ้นไม่ได้ อะไรที่รัฐแทรกแซงหรือควบคุมราคา ต้องระวังอยู่เหมือนกัน


KTC ทำธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิต ก็อาจไม่ค่อยเกี่ยวกับธีมเศรษฐกิจต่างจังหวัดฟื้นตัวโดยตรงนัก แต่ผลประกอบการปี 2013 และ 1Q2014 ดีแบบเกินคาด เป็นหุ้นที่ดูมีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว 


ลุงแมวน้ำยกตัวอย่างธีมหุ้นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจภูมิภาค ก็มีทั้งที่น่าสนใจและที่ควรระวัง ก็เอามาคุยให้ฟัง แต่ลุงแมวน้ำก็ยังคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาซื้อ สนใจอะไรก็แค่เล็งไว้ก่อนละกันคร้าบ ^_^


Sunday, June 1, 2014

01/06/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ Morning Has Broken หลังวิกาลอันมืดมิดคือรุ่งอรุณอันสดใส






เช้าวันนี้อากาศสดใสมาก เมื่อคืนประมาณตีสอง ท้องฟ้าดำมืด มิดลมแรง มีแต่เมฆไม่เห็นแสงดาว หลังจากนั้นฝนก็ตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาพร้อมกับฟ้าร้องดังน่ากลัว ฝนตกยาวนานหลายชั่วโมง ราวกับจะไม่มีวันหยุดลง แต่สุดท้าย ฝนก็หยุดตก และตะวันก็ขึ้น ความมืดมิดและพายุก่อนฟ้าสางกลายเป็นเช้าวันใหม่อันสดใสและงดงาม

อย่ากระนั้นเลย เรามาโลกสวยกันดีกว่า วันนี้ลุงแมวน้ำเอาเพลงเก่าๆมาฝาก อยากเขียน เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำมานานแล้ว วันนี้ได้เขียนสักที ลุงอยากเขียนน่ะ ช่วยกันอ่านหน่อยนะ ^_^

เพลงนี้ชื่อเพลง Morning has Broken เพลงนี้เข้ากับบรรยากาศในเช้าวันนี้เป็นอย่างดี เพลงนี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจทีเดียว ทั้งบทเพลงและนักร้อง ซึ่งคลิปที่ลุงนำมาฝากนี้มีนักร้องอยู่สองคน คลิปแรกเป็นเวอร์ชันของ แคต สตีเวนส์ อันเป็นฉบับต้นตำรับ กับเวอร์ชันภาษาเยอรมันของนานา มูสโฮรี เพลงนี้เป็นเพลงในยุค 70s ก็สี่สิบกว่าปีมาแล้ว

เรามาดูความเป็นมาของเนื้อเพลงและทำนองเพลงกันก่อน

เพลง Morning has broken นี้เดิมทีทำนองเพลงนั้นเป็นทำนองพื้นบ้านของสกอตแลนด์ สืบย้อนไปได้จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ว่าทำนองเพลงนี้มีมาตั้งแต่ช่วง 190x แล้ว และต่อมามีกวีชาวอังกฤษได้ใส่เนื้อร้องเข้าไปเพื่อใช้เป็นบทเพลงสำหรับสรรเสริญพระเจ้า จนกลายเป็นเพลง Morning has broken และได้ตีพิมพ์บทเพลงนี้ในปี 1931

เนื้อร้องของเพลงนี้เนื่องจากประพันธ์โดยกวี ดังนั้นคำร้องจึงงดงามในแบบบทกวี ประกอบกับเพลงพื้นบ้านของสก็อตนั้นก็ไพเราะ จึงได้กลายมาเป็นบทเพลงที่งดงามทั้งคำร้องและทำนอง เพลงสก็อตในรูปแบบบทกวีที่ไพเราะและเรารู้จักกันดีอีกเพลงหนึ่งที่เราอาจนึกไม่ถึง นั่นก็คือเพลง Auld Lang Syne หรือ สามัคคีชุมนุม นั่นเอง

ทีนี้มาพูดถึงนักร้อง แคต สตีเวนส์ (Cat Stevens) กันบ้าง สตีเวนส์เป็นชาวอังกฤษ เกิดในอังกฤษแต่มีเชื้อสายกรีก ไซปรัส สวีเดน ปัจจุบันอายุประมาณ 65 ปีแล้ว

แคต สตีเวนส์ (Cat Stevens) ในวัยหนุ่มและในวัยหกสิบ


ในวัยหนุ่ม ราวๆปี 1968 สตีเวนส์ป่วยเป็นวัณโรคจนเจียนตาย ในช่วงที่ชีวิตทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยนั้นเอง สตีเวนส์จึงเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิต หลังจากที่หายแล้วสตีเวนส์จึงตั้งใจที่จะอุทิศชีวิตเพื่อรับใช้พระเจ้า และในปี 1971 สตีเวนส์ก็ออกอัลบัมชื่อ Teaser and the Firecat ซึ่งดังมากในอเมริกา จนได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว และเพลง Morning has broken ก็อยู่ในอัลบัมนี้เอง

ต่อมาในปี 1979 สตีเวนส์เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และวางมือจากวงการดนตรี และหลังจากนั้นอีก 28 ปี คือในปี 2006 สตีเวนส์จึงกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้งหนึ่ง และเพลง Morning has broken ก็ยังเป็นเพลงที่แฟนเพลงเก่าๆมักขอให้เล่นอยู่เสมอ

ในคลิปที่สองที่ลุงแมวน้ำนำมาฝากนี้ เป็นเสียงของนักร้องหญิงนามว่า นานา มูสโฮรี (Nana Mouskouri)


นานา มูสโฮรี (Nana Mouskouri) ในวัยสาวและในวัยใกล้แปดสิบ แว่นทรงนั้นคือเอกลักษณ์ของเธอ


นักร้องหญิงคนนี้เป็นนักร้องรุ่นเก่าระดับตำนานคนหนึ่ง ชื่อของเธออ่านยากหน่อย เนื่องจากเป็นภาษากรีก ชื่อของเธอออกเสียงว่า หน่าหนา มูสโฮรี

มูสโฮรีเป็นชาวกรีก ปัจจุบันอายุ 80 ปีแล้ว เป็นนักร้องที่มีความสามารถสูง เสียงไพเราะและร้องได้หลายภาษา มากกว่าหนึ่งโหล เช่น กรีก ฝรั่งเศส เยอรมัน ดัชท์ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ฮีบรู ฯลฯ

แม้ว่าหน้าตาจะเชย แต่มูสโฮรีมีผลงานเพลงมากมาย ออกอัลบัมเพลงในภาษาต่างๆหลายร้อยอัลบัม จัดคอนเสิร์ตทัวร์ในหลายประเทศ ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย ได้รางวัลต่างๆหลายรางวัล รวมทั้งยังเป็นทูตของยูนิเซฟในปี 1993 อีกด้วย

คลิปที่สองที่นำมาให้ฟังกันนี้เป็นคัฟเวอร์หรือเวอร์ชันภาษาเยอรมัน มีชื่อเพลงในภาษาเยอรมันว่า Schön Ist Der Morgen ที่จริงเวอร์ชันภาษาอังกฤษเธอก็ร้องเอาไว้ แต่ลุงแมวน้ำเลือกฉบับเยอรมันเพื่อให้เห็นความสามารถด้านภาษาของเธอด้วย

เอาละคร้าบ พอรู้ตำนานกันนิดหน่อยแล้ว เนื้อเพลงก็อยู่ด้านล่าง ไปดื่มด่ำกับเพลง Morning has Broken กันได้เลยคร้าบ


Morning Has Broken
As Sung by Cat Stevens

lyrics by Eleanor Farjeon

Morning has broken, like the first morning
Blackbird has spoken, like the first bird
Praise for the singing, praise for the morning
Praise for them springing fresh from the word

Sweet the rain's new fall, sunlit from heaven
Like the first dewfall, on the first grass
Praise for the sweetness of the wet garden
Sprung in completeness where his feet pass

Mine is the sunlight, mine is the morning
Born of the one light, Eden saw play
Praise with elation, praise every morning
God's recreation of the new day

Friday, May 30, 2014

30/05/2014 ส่องหุ้นเหล็กและวัสดุก่อสร้างต้อนรับรัฐบาลใหม่



ดังที่ลุงแมวน้ำได้คุยให้ฟังมาแล้วว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างอำนาจ ตอนนี้ คสช เป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจทั้งด้านบริหารและนิติบัญญัติ ต่อไปก็จะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มมาบริหารประเทศ ซึ่งคาดว่านโยบายด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของ คสช และรัฐบาลใหม่ น่าจะต่อเนื่องกัน

ขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาล คสช ใช้อำนาจบริหารไปพลางก่อน เท่าที่ติดตามข่าวดู ก็มีการเร่งรัดงบประมาณที่ค้างท่ออยู่ พร้อมกับร่างงบประมาณ 2558 เพื่อให้ทันใช้ ทางด้านการลงทุน คสช จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนภาครัฐเท่าที่ไม่สร้างหนี้ผูกพันกับรัฐบาลหน้า ดังนั้น เรื่องการลงทุนในช่วง คสช ก็คงทำได้เพียงระดับที่จำกัด ส่วนเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ก็ค่อยมาดูกันอีกทีหนึ่ง

ตอนนี้มีข่าวสะพัดว่า คสช จะพิจารณาปัดฝุ่นอภิมหาโครงการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท และโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลเก่า ทำให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างวิ่งกันฝุ่นตลบ ซึ่งในความเห็นของลุงแมวน้ำ ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะว่าโครงการ 2.2 ล้านล้านบาทและน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น พูดง่ายๆคือเป็นงบลงทุนที่รวมโครงการร้อยพ่อพันแม่เอาไว้มามัดห่อเข้าด้วยกัน โครงการที่ศึกษามาอย่างดีแล้ว ผ่านการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อชุมชน และพร้อมลงทุน มีเพียงส่วนน้อย ส่วนที่เหลือนั้นยังติดอยู่ในขั้นตอนต่างๆ แตกต่างกันไป ตั้งแต่ขั้นศึกษาความเป็นไปได้ ขั้นสิ่งแวดล้อมและผลกระทบชุมชน ขั้นประชาพิจารณ์ ฯลฯ

ดังนั้นลุงแมวน้ำอยากฝากเตือน อย่าคาดหวังสูงเรื่องปัดฝุ่นโครงการ 2.2 ล้านล้านกับโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน หวังเพียงแค่ว่ามีโครงการก่อสร้างภาครัฐมากระตุ้นเศรษฐกิจเท่าที่ศึกษามาดีแล้วและพอเป็นไปได้เท่านั้น อย่างเช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟรางคู่ ฯลฯ หวังน้อยเอาไว้ก่อน

เมื่อวานลุงแมวน้ำอัปเดตหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ให้ดูตัวอย่างกันไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาอัปเดตหุ้นในกลุ่มเหล็กและวัสดุก่อสร้างบางตัวกัน ส่วนกลุ่มอื่นคงต้องขอยกยอดวันต่อไป

วัสดุก่อสร้างที่สำคัญสำหรับโครงการก่อสร้างที่เป็นงานโยธาก็คือปูนซีเมนต์และเหล็ก การอัปเดตสถานการณ์ในวันนี้ลุงแมวน้ำเน้นด้านเทคนิคเป็นสำคัญ มีค่า P/E ให้ดูประกอบ แต่ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆลุงทำไม่ทัน >.<


หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง - ปูนซีเมนต์

เรามาดูหุ้นปูนกันก่อน ภาพรวมของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์นั้นด้านอุปทาน (supply) มีสูง ผู้เล่นก็มีหลายราย ด้านราคาปูนซีเมนต์ในตลาด ไตรมาส 1Q2014 ปรับตัวขึ้นมาจากไตรมาส 1Q2013 ประมาณ 7-8% แล้ว และลำพังปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในโครงการลงทุนภาครัฐในช่วงนี้อาจไม่มากนัก เพราะว่าในภาคอสังหาริมทรัพย์ดูยังไม่กระเตื้องเท่าไร ดังนั้นการลงทุนในหุ้นปูนควรระมัดระวังไว้บ้าง อย่าเก็งกำไรสวยหรูเกินไป


SCC ปูนใหญ่ มาร์เก็ตแค็ปใหญ่สุดในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปูนใหญ่มีรายได้จากหลายธุรกิจ ทั้งปูนซีเมนต์ กระดาษ ปิโตรเคมี ฯลฯ ตอนนี้เป็นแนวโน้มขาลง อีกทั้งเป็นหุ่นฝรั่ง หากต่างชาติยังขายอยู่ หุ้นปูนใหญ่ก็ขึ้นไม่ไหว 


SCCC ปูนกลาง เป็นแนวโน้มขาขึ้น แต่ค่าพีอีสูงพอควร ก็เริ่มจะแพงแล้ว ซื้ออนาคตกันไปเยอะแล้ว


SCP ทำคอนกรีตอัดแรง ราคาทะลุสามเหลี่ยมชายธงขึ้นข้างบนแล้ว รอทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 9.3 บาทอีกด่านหนึ่ง


CCP ทำคอนกรีต เทคนิคสวย ทะลุสามเหลี่ยมชายธง ผ่านแนวต้านสำคัญ และน่าจะอยู่ในคลื่นสามแล้ว


หุ้นหลุ่มเหล็ก

จากนั้นเรามาดูหุ้นในกลุ่มเหล็กกัน หุ้นกลุ่มเหล็กนี้มีเยอะทีเดียว มีผู้เล่นในหลายขั้นของสายผลิตภัณฑ์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเหล็กกลางน้ำ (คือนำเหล็กมาหลอมหรือแปรรูป) กับเหล็กปลายน้ำ (คือซื้อมาขายไป) แต่หากมองในแง่ตัวผลิตภัณฑ์ จะแบ่งง่ายๆได้เป็นเหล็กทรงกลมกับเหล็กทรงแบน เหล็กทรงกลม ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย เหล็กทรงกลมมักใช้ในงานโครงสร้าง ส่วนเหล็กทรงแบนเป็นเหล็กที่ใช้ในขั้นตกแต่ง เก็บงาน ดังนั้น ในกระบวนการงานก่อสร้าง เหล็กทรงกลมจะใช้ก่อนในงานช่วงแรก ส่วนเหล็กทรงแบนจะใช้ในงานขั้นหลัง

หลายปีมานี้ธุรกิจเหล็กในระดับโลกไม่ค่อยดี เพราะว่าเศรษฐกิจของจีนไม่ได้เติบโตพรวดพราดเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นอุปสงค์ของเหล็กจึงลดลง จีนเองก็ผลิตเหล็กออกมามากมาย เมื่อความต้องการน้อยลง ก็ต้องขายตัดราคากันเพื่อแย่งชิงออร์เดอร์ ดังนั้นราคาเหล็กในหลายปีมานี้จึงขึ้นไม่ไหวเพราะจีนถล่มราคาขาย

ส่วนเหล็กที่ผลิตได้ภายในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่ก็ขายในประเทศ เพราะส่งไปขายต่างประเทศก็แข่งกับจีนไม่ไหว แต่อย่างไรก็ตาม เหล็กในอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นสินค้าควบคุมราคา การตั้งราคาจึงมีกรอบจำกัด ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์พวกบ้าน คอนโด ก็ยังไม่ฟื้น ดังนั้น อย่าคาดหวังสูงกับหุ้นในกลุ่มเหล็กเช่นกัน ราคาเหล็กเส้นไตรมาสนี้ 1Q2014 ปรับตัวลดลงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1Q2013 สะท้อนว่าแนวโน้มราคายังไม่ดีขึ้น

ที่เล่ามานี้เป็นภาพกว้างของของธุรกิจเหล็ก คราวนี้มาดูราคาหุ้นเหล็กบางตัวกัน


TMT เป็นธุรกิจค้าเหล็ก (ซื้อมาขายไป) ราคายังไม่มีทิศทาง แนวต้านขั้นต้น 10.6 บาท

TSTH ผลิตเหล็กทรงกลม ผลประกอบการขาดทุนติดกันหลายปี เพิ่งมามีกำไรจิ๊ดเดียวในไตรมาส 1Q2014 ดังนั้นค่า P/E จึงส฿งลิ่ว ทางเทคนิคอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

CHOW ผู้ผลิตเหล็กทรงกลม มีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าด้วย และอยู่ในตลาด MAI ด้านเทคนิคน่าจะอยู่ในคลื่น 3 

BSBM ผลิตเหล็กทรงกลม เป็นบริษัทในเครือ SSI ค่า P/E 16.06 เท่า ด้านเทคนิค ราคาเพิ่งตัดทะลุสามเหลี่ยมชายธง แนวต้านสำคัญคือ 1.21 บาท 

MILL ผู้ผลิตเหล็กทรงกลมและเหล็กตัวซี ปี 2556 ขาดทุน และก่อนหน้านั้นก็กำไรน้อยมาก เมื่อผลประกอบการขาดทุนจึงไม่มีค่าพีอี ทางเทคนิคอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

SSI ผู้ผลิตเหล็กทรงแบน ผลประกอบการ 3 ปีก่อนหน้าขาดทุนติดกัน ปี 2554 ไปซื้อโรงเหล็กที่อังกฤษ ใช้เงินไปหลาย เพื่อหวังลดต้นทุนการผลิต แต่ก็มาโดนเหล็กจีนตีตลาด ไม่มีค่าพีอี ราคายังไม่มีทิศทาง 


หุ้นวัสดุก่อสร้างอื่นๆ - ยางมะตอย ท่อเหล็ก ท่อร้อยสายไฟ

นอกจากปูนและเหล็กแล้ว ยังมีวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าน่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ นั่นก็คือ หุ้นต่อไปนี้


TASCO ผลิตและจำหน่ายยางมะตอย ราคาแกว่งในกรอบ ทิศทางยังไม่ชัด แนวต้าน 54.75 บาท


ARROW ผู้ผลิตท่อร้อยสายไฟและข้อต่อ เป็นหุ้นในตลาด MAI ราคานิ่งแล้วกระชากแรงเมื่อไม่กี่วันมานี้ ราคาทะลุแนวต้านและยืนได้ แต่แนวโน้มยังไม่ชัดเนื่องจากราคาพิ่งขึ้นไม่กี่วันมานี้เอง

PAP ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็ก ราคาเพิ่งทะลุชายธงขึ้นมา แนวต้านอีกด่านหนึ่งคือ 4.8 บาท

วันนี้อัปเดตหุ้นกันหลายหุ้นเลยทีเดียว แต่ลุงไม่ได้เชียร์ซื้อนะคร้าบ ที่เล่ามามีทั้งหุ้นดีและไม่ดี รวมทั้งยังมีเรื่องภาวะอุปสงค์อุปทานที่ต้องประเมินด้วย ดังนั้นอย่าคาดหวังสูง



แนวคิดในการเลือกหุ้นทางเทคนิค เลือกหุ้นที่เพิ่งเข้าคลื่น 3

แต่สมมติว่าถ้าจะลงทุน ในทางเทคนิคก็ควรเลือกหุ้นที่รูปแบบทางเทคนิคชัดเจน นั่นคือ หาจุดจบของคลื่น C ใหญ่ให้พบ จากนั้นรอให้ราคาเข้าคลื่น 3 ค่อยเข้าลงทุน และหากปัจจัยพื้นฐานดี พีอีต่ำ ศักยภาพสูง มีบรรษัทภิบาลสูง ก็ยิ่งวิเศษ ^_^

ตัวอย่างหุ้นที่เพิ่งเข้าคลื่น 3 ก็ดังข้างล่างนี้ หา C ใหญ่เจอแล้ว ตอนนี้น่าจะเป็นคลื่น 3


ตัวอย่างหุ้นที่เพิ่งเข้าคลื่น 3

ตัวอย่างหุ้นที่เพิ่งเข้าคลื่น 3

แต่ลุงว่าตอนนี้หุ้นแกว่งแรงไปหน่อยนะ รอดูไปก่อนดีกว่า ให้ฝุ่นหายตลบค่อยมาดูอีกทีก็ยังไม่สาย