Thursday, May 9, 2013

09/05/2013 * แนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น (3) แนวโน้มตลาดหุ้นปัจจุบัน

ลุงแมวน้ำเขียนบทความเรื่องแนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น ตอนที่ 1 และ 2 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 ก็ประมาณครึ่งปีมาแล้ว ที่จริงยังไม่จบ แต่ลุงก็เขียนค้างเอาไว้ ไม่ได้เขียนต่อจนจบ จนมีคนมาทวงนี่แหละ ก็เลยมีแรงเขียนขึ้นมา ก็ต้องขออภัยด้วยที่เขียนแล้วค้างเอาไว้เสียนาน

ความเดิมในสองตอนแรกอยู่ที่นี่ครับ ไปตามลิงก์ได้เลย

แนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น (1)

แนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น (2)

โดยแนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น ตอนที่ 1 อยู่ที่การสแกนหุ้น เป็นการดูหุ้นทั้งหมดอย่างคร่าวๆโดยการสังเกตความแรงของหุ้นแต่ละตัวเมื่อเทียบกับดัชนี SET หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือตัวใดแรงกว่าตลาดและตัวใดอ่อนกว่าตลาดนั่นเอง ตัวที่แรงกว่าตลาดถือว่าน่าสนใจเพราะว่ามีความสามารถในการทำกำไรดีกว่าตลาด ส่วนตัวที่อ่อนกว่าตลาดบ้างไม่มากนัก ก็อยู่ในข่ายที่น่าสนใจ เพราะว่าหุ้นอ่อนกว่าตลาดบ้างไม่ได้แปลว่าหุ้นแย่ แต่บางหุ้นก็อาจเป็นหุ้นที่เพิ่งวิ่งทีหลัง ก็ได้

แนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่นตอนที่ 2 อยู่ที่การตัดตัวเลือกด้วยกราฟ คือการนำหุ้นที่คัดได้จากขั้นที่ 1 นำมาพิจารณากราฟในเชิงเทคนิค แล้วเลือกเอาหุ้นตัวที่รูปแบบกราฟดูง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่เริ่มเข้าคลื่น 3 หรือเริ่มเข้าคลื่น 5

สำหรับแนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่นขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ลุงจะนำเสนอต่อไปเป็นการตัดตัวเลือกที่ได้มาจากขั้นที่ 2 ให้เหลือน้อยลงไปอีก ด้วยการใช้ปัจจัยพื้นฐานมาช่วย

แต่ก่อนที่ลุงแมวน้ำจะคุยถึงเรื่องการเฟ้นหาหุ้นเด่น หลายคนคงอาจสงสัยว่ามาหาหุ้นเด่นตอนนี้ไม่สายไปหรือไง ตลาดหุ้นไทยขึ้นไป 1600 กว่าจุดแล้ว ยังเข้าลงทุนได้หรือ ดังนั้นก่อนที่เราจะคุยเรื่องการเฟ้นหาหุ้นเด่นต่อ เรามาดูสถานการณ์ตลาดหุ้นกันก่อนว่าจะไปต่อได้หรือไม่ได้

เรามาดูกันที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ลุงแมวน้ำใช้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นอเมริกา ดังภาพต่อไปนี้



ตลาดหุ้นอเมริกาเพิ่งจะผ่านจุดสูงสุดตลอดกาลเดิม (คือยอดคลื่น 3) ที่ 14,300 จุดโดยประมาณ ไปได้ไม่นานมานี้เอง ตอนนี้ผ่านจะผ่าน 15,000 จุด ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้ในระดับคลื่นใหญ่ยังนับไม่ถูก ที่ลุงนับไว้ในภาพอย่าเพิ่งไปสนใจ แต่ดูในเบื้องต้น คลื่นในปัจจุบันน่าจะเป็นคลื่น 5 แบบคลื่นขยาย (extended wave) คือไม่ใช่คลื่น 5 ปกติแต่มีการยืดยาวออกไป คือหมายถึงตลาดขึ้นยาวนานเป็นพิเศษ ซึ่งคลื่นนี้ยังไม่น่าจบเร็วๆนี้

ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ลุงแมวน้ำคิดว่าตลาดหุ้นอเมริกายังไปต่อไปได้อีกไกลพอสมควร ก็เนื่องจากการอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบหรือที่เรียกว่าการผ่อนคลายเชิงปริมาณ QE นั่นเอง ตอนนี้อยู่ในโครงการ QE3 ซึ่งลุงแมวน้ำมองว่าวัตถุประสงค์ของการอัดฉัดเงินด้วย QE นั้นทางเฟด (FED) ต้องการทำให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดทุนและอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่ออัดฉีดเงินปริมาณมากก็จะเกิดเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อเงินก็ด้อยค่าลง คนที่มีเงินเก็บก็ต้องการเอาเงินเก็บมาลงทุนเพื่อให้งอกเงย ส่วนใหญ่ก็คือการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์และหุ้นนั่นเอง

เมื่อราคาบ้านขึ้น ราคาหุ้นขึ้น เศรษฐกิจก็เดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าวิธีการนี้คนรวยจะได้ประโยชน์มากกว่าคนจนก็ตาม แต่เฟดมองว่าก็น่าจะช่วยฉุดเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากหล่มได้ ตอนนี้ตลาดหุ้นและราคาบ้านในอเมริกายังฟื้นไม่เต็มที่ ลุงแมวน้ำคาดว่า QE3 จะส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดหุ้นได้อีกนานพอสมควร ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของราคาบ้าน

ทีนี้มาดูทางยุโรปกันบาง เรามาดูที่ตลาดหุ้นเยอรมนีกัน โดยลุงแมวน้ำใช้ดัชนีแดกซ์ (DAX) เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นเยอรมนี




จากภาพ เดิมลุงแมวน้ำคิดว่าตลาดหุ้นเยอรมนีอยู่ในคลื่น B แต่ตอนนี้ต้องปรับมุมมองใหม่แล้วเพราะว่าดัชนีทำลายสถิติจุดสูงสุดตลอดกาล 8105.69 จุด ของตลาดหุ้นเยอมนีไปได้เช่นกัน ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงต้องปรับมุมมองใหม่เป็นว่าตอนนี้ตลาดหุ้นเยอรมนีอยู่ในคลื่น 5 ซึ่งน่าจะเป็นคลื่นแบบคลื่นขยายที่ยืดยาวออกไปเป็นพิเศษ ประกอบกับทางยุโรปก็มีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดหุ้นเยอรมนีรวมทั้งตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปยังขึ้นต่อไปได้อีกไกลพอควร

ทีนี้มาดูตลาดหุ้นไทยกันบ้าง ดูกราฟดัชนี SET ในภาพต่อไปนี้




จุดสูงสุดตลอดกาลของตลาดหุ้นไทยคือยอดคลื่น 3 ในปี 2537 ตอนนั้นดัชนีไปสูงสุดที่ 1763.78 จุด ในวันนี้ ผลจากการที่ตลาดหุ้นยุโรปและอเมริกาเดินหน้าต่อไปได้จะทำให้ตลาดหุ้นขึ้นตามกันทั่วโลก และทำให้ลุงแมวน้ำคิดว่าตลาดหุ้นไทยก็ยังไปต่อได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นคาดว่าเราน่าจะอยู่ในคลื่น 5 ซึ่งหมายความว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะผ่าน 1763.78 จุดไปได้ และควรจะไปไกลกว่านั้นอีก

ประกอบกับในช่วงนี้ ที่ดัชนีเซ็ตฝ่าด่าน 1600 จุดไปได้ ช่วงนี้ตลาดหุ้นขึ้นแต่ปริมาณซื้อขายน้อย ประมาณวันละ 4-5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งต่างชาติยังขายสุทธิบ้างในบางวัน ลุงแมวน้ำว่าตลาดหุ้นไทยยังขึ้นต่อได้จนกว่าฝรั่งจะเข้ามาซื้อเยอะๆและปริมาณซื้อขายสูงๆแล้วนั่นแหละ อย่างน้อยก็อีกหลายเดือน ถึงตอนนั้นค่อยมาดูกันอีกทีว่าเมื่อไรตลาดจะวาย

สรุปว่าปี 2013 นี้ลุงว่าตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้ แต่หากพูดถึงความแรงยังไม่แน่ใจ เพราะว่าเมื่อปี 2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียรวมทั้งไทยมาแรง ปีนี้อาจเป็นปีที่ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปและอเมริกามาแรงก็ได้ แต่ถึงอย่างไรตลาดหุ้นไทยก็คงไม่ถึงกับขี้เหร่เพราะว่าอยู่ในคลื่น 5

นี่ก็เป็นมุมมองของลุงแมวน้ำต่อสถานการณ์ตลาดหุ้นในช่วงต่อไปข้างหน้า

ยังเหลืออีกตอนหนึ่งนะคร้าบ โปรดคอยติดตามอ่าน




No comments: