Monday, November 5, 2012

05/11/2012 * แนวคิดในการเฟ้นหาหุ้นเด่น (2)

ในตอนที่แล้วเราได้คุยกันไปแล้วถึงการเฟ้นหาหุ้นเด่นขั้นแรก นั่นคือ การใช้ตารางเพื่อสแกนหุ้น หาหุ้นที่อ่อนกว่าตลาดนิดหน่อยไปจนถึงแรงกว่าตลาดนิดหน่อย โดยในตัวอย่างลุงแมวน้ำเลือกหุ้นขั้นต้นมาได้ 9 ตัว ดังนี้

หุ้นที่่อ่อนกว่าตลาด แต่น่าสนใจ ได้ PSL, TTA, DEMCO, BAT-3K

หุ้นที่แข็งกว่าตลาด ได้หุ้น SVI, TOP, THAI, HEMRAJ, SCC 

หลังจากนั้นเราจะมากรองหุ้นออกไปให้เหลือน้อยลงไปอีกในขั้นที่สอง


การเฟ้นหาหุ้นเด่นขั้นที่ 2 ตัดตัวเลือกด้วยกราฟ

ตัวกรองในขั้นที่สองนี้ยังเป็นตัวกรองด้วยการใช้ปัจจัยทางเทคนิค นั่นคือ การพิจารณาจากกราฟ

ในขั้นนี้ เมื่อเราได้หุ้นในขั้นต้นมาแล้ว เราก็เอากราฟราคาของหุ้นทุกตัวมาพิจารณา กราฟราคาหุ้นนี้ทางที่ดีควรมีราคาหรือว่าข้อมูลย้อนหลังหลายๆปี อย่างน้อย 10 ปี มากกว่านั้นได้ยิ่งดี หรือหากมีตั้งแต่หุ้นตัวนี้เริ่มเข้าเทรดได้ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะเราต้องใช้ดูทั้งในภาพใหญ่หรือในระดับคลื่นใหญ่ ตลอดไปจนถึงในระดับคลื่นระยะกลางหรือว่าคลื่นรายปี และละเอียดลงมาจนถึงคลื่นย่อยหรือในระดับภาพระยะสั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ได้มุมมองในเชิงเทคนิคเกี่ยวกับหุ้นให้ได้มากที่สุด ปกติแล้วลุงแมวน้ำจะดูทั้งกราฟราคารายเดือน (monthly chart) กราฟราคารายสัปดาห์ (weekly chart) และกราฟรายวัน (daily chart) 

สำหรับแหล่งที่จะหากราฟราคาหุ้นเหล่านี้ดูในสมัยนี้หาได้ไม่ยาก โบรกเกอร์ที่เราเทรดหุ้นทุกแห่งจะมีข้อมูลเหล่านี้ให้บริการอยู่ ผู้ที่เทรดแบบออนไลน์สามารถเรียกข้อมูลเหล่านี้มาดูได้

สำหรับการกรองในขั้นที่สองนี้ลุงแมวน้ำจะเปิดดูกราฟของหุ้นที่ผ่านเข้ารอบสองนี้ดูทุกตัว หุ้นใดที่เข้าเงื่อนไขต่อไปนี้ลุงแมวน้ำจะเก็บเอาไว้ หากไม่เข้าเงื่อนไขก็จะคัดออกไป เงื่อนไขในการคัดหุ้นก็คือ

  1. เป็นหุ้นที่มีรูปแบบของกราฟแบบพื้นฐาน รูปทรงกราฟชัดเจน นับง่าย ซึ่งก็คือกราฟที่เห็นคลื่น 1-2-3-4-5-a-b-c ได้ชัดนั่นเอง อะไรที่พอดูเข้าท่าว่าเป็นรูปแบบพื้นฐานก็จะเก็บไว้ ส่วนหุ้นตัวใดที่มีรูปแบบกราฟซับซ้อน หรือว่านับคลื่นไม่ถูก ก็คัดออกไป 
  2. อยู่ในคลื่น 3 (คลื่น 5 พออนุโลมได้หากเป็นระดับคลื่น 5 ใหญ่) คืออยู่ในคลื่นขาขึ้นนั่นเอง ส่วนคลื่น B เป็นขาขึ้นในขาลง เสี่ยงเกินไป (ยกเว้นคลื่น B ที่เป็นคลื่นใหญ่ แต่ในที่นี้ถือว่าคลื่น B ไม่เอาไว้ก่อน)
  3. เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่อง ส่วนใหญ่ลุงแมวน้ำถือว่าหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET50 หรือ SET100 มีสภาพคล่องใช้ได้ หากไม่อยู่ใน SET100 ต้องพิจารณาให้ละเอียด พวกหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำหรือว่ามีสภาพคล่องไม่แน่นอน บางช่วงเวลาก็สภาพคล่องต่ำ บางช่วงเวลาก็สภาพคล่องสูง แบบนี้ก็ควรคัดออกไป เนื่องจากหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำนั้นง่ายต่อการทำราคาหรือว่าปั่นได้ง่าย ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หุ้นปั่นนั้นใช้ปัจจัยอะไรก็สู่ไม่ไหว ขึ้นกับใจเจ้ามือเท่านั้น และถึงแม้ไม่ใช่หุ้นปั่น แต่หุ้นสภาพคล่องต่ำนั้นอาจทำให้เราติดหุ้น อยากออกก็ออกไม่ได้
เราลองมาดูหุ้นทั้ง 9 ตัวที่ผ่านการประกวดรอบแรกมาแล้ว ดูว่าแต่ละตัวมีกราฟเป็นอย่างไร หุ้นตัวใดควรคัดออกไปบ้าง เราเริ่มกันที่หุ้นที่อ่อนกว่าตลาดกันก่อน

หุ้นตัวนี้รูปแบบกราฟค่อนนข้างจะเป็นแบบคลื่นพื้นฐาน คือพอนับได้ว่าเป็น 1-2-3-4-5-a-b-c แต่ว่าสภาพคล่องน้อย   และขึ้นลงแรง คัดออกไปดีกว่า (สรุปคือ ทิ้ง)

หุ้นตัวนี้รูปแบบคลื่นค่อนข้างชัดว่าเป็นรูปแบบพื้นฐาน ราคาผันผวนขึ้นลงแรงอยู่เหมือนกัน ประเด็นสำคัญคือตอนนี้ราคาหุ้นน่าจะอยู่ในคลื่น 4 ซึ่งคงยังไม่จบ คลื่น 4 ไม่ควรเข้าลงทุน ดังนั้นเก็บไว้ก่อน ที่ว่าเก็บไว้ก่อนไม่ได้หมายความว่าเก็บเพื่อนำไปพิจารณาในรอบ 3 แต่เก็บเอาไว้ตามดูเท่านั้น ตามดูว่าเมื่อไรเข้าคลื่น 5 ค่อยมาว่ากัน สภาพคล่องมีหรือไม่ยังไม่ต้องพิจารณาก็ได้ เพราะว่าประเด็นเรื่องอยู่ในคลื่น 4 เป็นตัวตัดสิน ถึงแม้มีสภาพคล่องก็ยังไม่เอาอยู่ดี (สรุปคือ รอ)

ตัวนี้กราฟสวยเชียว หากดูในระดับกรอบเวลากว้างหรือกราฟรายสัปดาห์สักสิบปีย้อนหลัง จะเห็นว่าราคาหุ้นตัวนี้น่าจะจบคลื่น C ไปแล้ว ตอนนี้น่าจะกำลังอยู่ในคลื่นขาขึ้น 1-2-3 ซึ่งจากการนับคลื่นตามรูป คิดว่าน่าจะจบคลื่น 2 ไปแล้ว และกำลังเข้าคลื่น 3 ซึ่งในทางเทคนิคถือว่าคลื่น 3 เป็นคลื่นที่น่าลงทุนยิ่งกว่าคลื่นอื่นๆ สภาพคล่องก็มี ดังนั้นตัวนี้ลุงแมวน้ำจะเก็บหุ้นตัวนี้เอาไว้คัดในรอบสามต่อไป (สรุปคือ ผ่าน)

หุ้นตัวนี้หากดูจากกราฟ 10 ปีย้อนหลัง คิดว่าน่าจะจบคลื่น C ไปแล้ว และตอนนี้น่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 2 แต่ว่าคลื่น 2 นี้จบหรือยังก็ไม่รู้ ยังดูไม่ออก ดังนั้นหุ้นตัวนี้เก็บไว้ตามดูต่อไปก่อน (สรุปคือ รอ)

ที่ผ่านไปแล้วเป็นหุ้นในกลุ่มที่อ่อนกว่าตลาด ต่อไปเป็นหุ้นกลุ่มที่แรงกว่าตลาด


จากกราฟ หุ้นตัวนี้น่าจะอยู่ในคลื่น 3 แต่ว่าไม่ใช่ต้นคลื่น 3 เป็นคลื่น 3 ที่ดำเนินมาไกลแล้ว ซึ่งในที่สุดก็จะเข้าคลื่น 4 ซึ่งเป็นคลื่นที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าลงทุน แม้ว่ารูปแบบกราฟจะเข้าข่ายรูปแบบพื้นฐาน ดูง่าย สภาพคล่องก็มี แต่ว่าอาจจะกำลังอยู่ปลายคลื่น 3 ก็ได้ ลุงแมวน้ำไม่เลือกตัวนี้ดีกว่าเพราะไม่ค่อยปลอดภัย (สรุปคือ ทิ้ง)

หุ้นตัวนี้กราฟรูปทรงแปลกๆ ไม่เชิงว่าจะเป็นรูปแบบพื้นฐาน อีกทั้งแกว่งอยู่ในกรอบ SEC มาประมาณหนึ่งปีแล้ว ไม่หลุดจากกรอบเสียที แต่อีกไม่นานน่าจะรู้แล้วว่าทะลุกรอบ SEC ได้หรือไม่ หากทะลุขึ้นข้างบนได้ก็น่าจะเทรดได้ เก็บตัวนี้เข้าไปในการพิจารณารอบสามได้ (สรุปคือ ผ่าน)

หุ้นตัวนี้รูปแบบกราฟค่อนข้างดูง่าย ถือว่าเข้าข่ายรูปแบบพื้นฐานได้ อีกทั้งตอนนี้น่าจะกำลังเข้าคลื่น 3 แม้ยังไม่ชัดแต่อีกไม่นานก็น่าจะรู้ว่าใช่คลื่นสามหรือไม่ ให้ผ่านเข้ารอบสามได้ (สรุปคือ ผ่าน)

หุ้นตัวนี้รูปทรงพื้นฐานยังไม่ชัด แต่ที่ชัดคือขณะนี้กำลังอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมชายธง ยังไม่ทะลุปลายชายธงด้วย แบบนี้ไม่ควรเข้าลงทุน ควรรอดูให้ทะลุปลายชายธงขึ้นด้านบนไปก่อน ซึ่งอีกไม่นานก็น่าจะรู้ ดังนั้นให้ผ่านเข้ารอบสามได้ (สรุปคือ ผ่าน)

หุ้นตัวนี้มีรูปแบบพื้นฐาน ดูค่อนข้างง่าย อีกทั้งน่าจะจบคลื่น 4 ไปแล้ว กำลังเข้าคลื่น 5 อีกไม่นานก็รู้แล้วว่าใช่คลื่น 5 จริงหรือไม่ ที่จริงหุ้นในคลื่น 5 ไม่น่าเทรดเท่าไรนัก แต่ตัวนี้แรงกว่าตลาด และมีสภาพคล่องสูง อีกทั้งคลื่น 5 ในที่นี้เป็นคลื่นใหญ่พอควร น่าจะกินเวลาหลายเดือนหรืออาจเป็นปี ดังนั้นให้เข้ารอบสามไปก่อน หากจะคัดออกก็ไปคัดออกในรอบสามได้ (สรุปคือ ผ่าน)


สรุปว่ามีหุ้นที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้ารอบ 3 อยู่ 5 ตัว คือ TTA, SVI, THAI, TOP, SCC ส่วนหุ้นที่ตกรอบคือ BAT-3K, HEMRAJ และหุ้นที่รอสังเกตไปก่อน คือ DEMCO, PSL

แนวทางการพิจารณาด้วยรูปแบบกราฟทางเทคนิคของลุงแมวน้ำก็เป็นแบบนี้แหละ ลุงแมวน้ำแบ่งเป็นสามกลุ่ม คือ ทิ้ง ก็หมายความว่าตกรอบสองไปเลย ส่วน รอ นี่หมายความว่ารอดูรูปแบบให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน ซึ่งอาจใช้เวลาอีกนาน 

กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ ผ่าน หมายความว่าผ่านรอบสองนี้ไปได้ แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าจะซื้อลงทุนได้ ยังมีกระบวนการพิจารณาในรอบ 3 อีก ซึ่งในรอบสามนี้จะใช้ปัจจัยพื้นฐานเข้ามาช่วย

การที่จะให้หุ้นตัวใดตกรอบ รอ หรือว่าผ่านนั้น จากตัวอย่างคงเห็นว่านอกจากใช้รูปแบบทางเทคนิคแล้ว ยังมีการใช้ดุลพินิจด้วย ดังนั้นการดุลพินิจจึงเป็นเรืองที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แม้ว่าจะใช้ตารางสแกนหุ้นตารางเดียวกัน แต่ผลในการคัดหุ้นผ่านเข้ารอบหนึ่ง รอบสอง และรอบสาม และหุ้นในดวงใจ ของแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไป และนั่นหมายถึงผลตอบแทนที่ได้ก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งข้อนี้ต้องทำใจ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เราก็ทำของเราไป พัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ อย่าพยายามไปแข่งเรื่องผลตอบแทน อย่าไปคิดหวังว่าเราเป็นคนพิเศษที่จะเทรดได้เป็นร้อยล้านพันล้าน คนพิเศษมีเพียงไม่กี่คน เอาเป็นว่าเราเป็นนักลงทุนทั่วไปที่สามารถเอาชนะตลาดได้และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขทั้งกายและใจจนถึงวัยหลังเกษียณได้ก็เป็นพอ

ยังไม่จบนะคร้าบ ยังมีตอนต่อไปอีก ^__^


2 comments:

Anonymous said...

ไม่ทราบว่าลุงแมวน้ำจะเขียนภาคจบของเรื่องนี้ป่าวครับ รออ่านอยู่นานเลยครับ

ลุงแมวน้ำ said...

ขอบคุณที่เตือน ลุงแมวน้ำก็หลงๆลืมๆ ^_^

แล้วจะรีบเขียนต่อให้จบคร้าบ