เริ่มด้วยทางฝั่งยุโรปก่อน สัปดาห์ที่แล้ว มีการประกาศดัชนีฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนี ประเดือนเมษายนออกมา ปรากฏว่าดัชนี PMI เมื่อเดือนมีนาคมอยู่ที่ 49.0 จุด ส่วนเดือนเมษายนร่วงลงมาอยู่ที่ 48.1 จุด ลำพังแค่ดัชนีนี้มีค่าต่ำกว่า 50 จุดก็แย่แล้ว เพราะถือว่าเศรษฐกิจหดตัว นี่ตัวเลขยังลดอีกด้วย
อัตราการว่างงานในกลุ่มยูโรโซนก็พุ่งสูงขึ้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 12% แต่เดือนมีนาคมอยู่ที่ 12.1% และหากไปดูในรายประเทศจะพบว่าแม้แต่ในเยอรมนีเองที่เป็นประเทศพี่ใหญ่ของกลุ่มยูโรโซนก็มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ส่วนประเทศกรีซตอนนี้อัตราว่างงานอยู่ที่ 27.2% โปรตุเกสมีอัตราว่างงาน 17.5% ซึ่งวัยแรงงานที่ตกงานกันมากอยู่กลุ่มที่มีอายุน้อย พูดง่ายๆคือพวกวัยรุ่น หนุ่มสาว ว่างงานค่อนข้างมาก ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไปอีกด้วย
นอกจากนี้ ทางธนาคารกลางของยุโรปหรือ ECB ก็ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมา -0.25% เหลือ 0.50% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่าเพียงแค่การลดอัตราดอกเบี้ยคงช่วงเยียวยาเศรษฐกิจไม่ไหวแล้วหากไม่มีมาตรการอื่นๆมาช่วย ดังนั้นลดลงมาอีกก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
แม้สภาพเศรษฐกิจจริงของยุโรปจะยังย่ำแย่อยู่ แต่ตลาดหุ้นเยอรมนีกลับสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยดัชนี DAX ของเยอรมนีผ่านจุดสูงสุดตลอดกาลเดิม 8,105.69 จุด ไปปิดที่ 8,112.08 จุดได้ ตอนนี้ตลาดหุ้นยเอรมนีไม่ใช่คลื่น B แล้ว น่าจะเป็นคลื่น 5 ซึ่งเป็นคลื่นแบบมีส่วนขยายออกมา (extended wave) คือไม่ใช่คลื่น 5 ปกติ ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นว่าบางครั้งเศรษฐกิจจริงเรื่องหนึ่ง ตลาดหุ้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ในกรณีนี้ก็เช่นกัน
มาดูทางด้านสหรัฐอเมริกา ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เด่นที่สุดที่ฉุดให้ตลาดหุ้น สรอ พุ่งขึ้นมาก็คืออัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือเพียง 7.5% จากเดือนก่อน 7.6% ซึ่งอัตราการว่างงานนี้ต่ำสุดในรอบ 4 ปี แม้ว่าในขณะเดียวกันมีการประกาศตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ประจำเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกาออกมา ว่าหล่นลงมาอยู่ที่ 50.7 (เดือนมีนาคมอยู่ที่ 51.3 จุด) แต่ถึงกระนั้นตลาดหุ้นเลือกตอบสนองตัวเลขอัตราการว่างงานมากกว่า ดังนั้นดัชนี S&P 500 จึงฝ่าด่าน 1600 ขึ้นมาได้ เป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลใหม่ ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ก็เช่นกัน ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องและใกล้แตะ 15,000 จุดแล้ว
มาดูทางด้านจีน แม้ว่าดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน ประจำเดือนเมษายน จะลดลงเหลือ 54.5 จุด (เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 55.6) อันบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ตลาดหุ้นจีนในสุปดาห์ที่แล้วก็ปรับตัวขึ้นได้ +1.86% ทั้งนี้เพราะการคาดการณ์กันว่าทางการจีนต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา
สรุปแล้วในสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในทุกภูมิภาค ขึ้นกันเกือบทุกตลาด ท่ามกลางปัจจัยทางเศรษกิจที่ไม่เอื้ออำนวยนัก แต่ตลาดหุ้นอยู่ได้ด้วยความหวังมากกว่าความจริง เมื่อคาดว่าต่อไปจะดีขึ้น ตลาดก็ขึ้นต่อไปได้
สำหรับตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นไทยประตัวลง -0.25% ยังไม่สามารถฝ่าด่าน 1,600 จุดไปได้ ด้านอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่แล้วเงินบาทอ่อนค่าอย่างฮวบฮาบถึง -0.75% ในขณะที่เงินตราสกุลเอเชียและยุโรปส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากฝ่ายการเมืองกดดันธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างหนักเพื่อให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ทำให้มีการเก็งกำไรเงินบาทในทางอ่อนค่า และขณะเดียวกัน มีเงินไหลเข้าไปในตลาดพันธบัตรเนื่องจากซื้อเพื่อดักหน้าการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะมีการซื้อตราสารหนี้อายุสั้นกับอายุยาว 1-3 ปีกันมาก
นอกจากนี้ ลุงแมวน้ำยังสังเกตว่าสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันดิบ กับสินค้าเกษตร กำลังเริ่มมีสัญญาณกลับทิศ เป็นไปได้ว่าสินค้าโภคภัณฑ์จะถึงเวลาเทรดกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ประเด็นนี้ยังไม่ชัดนักเพราะว่าสัญญาณเพิ่งก่อตัว ให้ติดตามดูกันต่อไป
ที่ยกเว้นก็คือทองคำ ทองคำดูยาก ทางกองทุน SPDR ยังทยอยขายทองคำออกมา แต่ทองคำรูปพรรณที่เยาวราชกลับเกลี้ยงตลาด ลุงแมวน้ำว่ามีผลิตภัณฑ์อย่างอื่นตั้งเยอะแยะ ทำไมมามัวรอแต่ทองคำ ไปเทรดอย่างอื่นก่อนก็ได้ ^__^
ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินดอลลาร์ สรอ เป็นแนวโน้มขาลง ใกล้เกิดสัญญาณขายแล้ว ส่วนเงินยูโรกับเงินเยนเกิดสัญญาณซื้ออยู่ ดังนั้นคาดว่าในช่วงต่อไปยูโรกับเยนจะแข็งค่าขึ้น ส่วนเงินบาทน่าจะอ่อนค่าต่อไป
ิเอาละคร้าบ คราวนี้มาดูกราฟรายตัวกัน ลุงแมวน้ำอธบายตามภาพไปเลยก็แล้วกัน
ดัชนี DAX ของเยอรมนีทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ตอนนี้ต้องปรับมุมมองอย่างเป็นทางการแล้วว่าตลาดหุ้นเยอรมนีอยูในคลื่นใหญ่ 5 (ไม่ใช่คลื่น B) คลื่นใหญ่ 5 นี้คาดว่ายังไปต่อได้อีก |
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ส่อเค้าว่ากำลังกลับทิศ อาจจะกำลังเข้าสู่คลื่น 3 ย่อย คลื่นใหญ่ยังนับไม่ชัด ลุงเลยนับแต่คลื่นย่อยดูไปก่อน แต่ก็เป็นคลื่นระดับที่พอเทรดได้หากเข้าสู่คลื่น 3 จริง ดูไปอีกหน่อยก็รู้ |
เมื่อน้ำมันกำลังมา สินค้าเกษตรก็ดูเหมือนกำลังกลับทิศเป็นขาขึ้นด้วย สัญญาณยังน้อยอยู่แต่ว่าก็มีโอกาสกลับทิศได้ รอดูไปอีกหน่อย |
ยางพาราก็อาจกำลังกลับทิศเช่นกัน สินค้าโภคภัณฑ์พวกนี้มักตามกันทั้งกลุ่ม |
ทองคำดูยาก อาจไม่ขึ้นตามกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์แต่จะลง เมื่อดูยาก เลี่ยงไปดูตัวอื่นก็น่าจะดีกว่า |
ตลาดหุ้นไทย กำลังฝ่าด่าน 1600 จุด ซึ่งลุงแมวน้ำคาดว่าน่าจะผ่านไปได้ในเร็ววันนี้ เพราะขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก ยกเว้นจะมีเหตุการณ์พิเศษ |
ตอนนี้เงินดอลลาร์ สรอ กำลังอ่อนค่า เพราะเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ แต่ยังไม่เกิดสัญญาณขาย จวนแล้วละ |
เงินเยนตอนนี้กำลังป่วนเอเชีย รวมทั้งป่วนค่าเงินบาทด้วย เงินเยนกำลังก่อรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง อีกไม่นานก็จะรู้ว่าจะขึ้นแรงหรือจะลงแรง แต่ลุงแมวน้ำคาดว่าน่าจะเป็นแนวโน้มแข็งค่ามากกว่า |
เงินบาท ตอนนี้กำลังเป็นแนวโน้มอ่อนค่า และเกิดสัญญาณซื้้อแล้ว (แปลว่าอ่อนค่า) น่าจะอ่อนค่าต่อไปได้อีก |
No comments:
Post a Comment