Sunday, September 27, 2009

25/09/2009 * DJIA, HSKI, SET, GC, GF, CL

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 721.57 จุด ลดลง 6.97 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 ขณะนี้มีหุ้นที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางอยู่ 13 ตัว โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ขาย EGCO, KSL ขณะนี้ถืออยู่รวม 46 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายยางโตคอม ขณะนี้ยาง น้ำมัน ถั่วเหลือง อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง ส่วนทองคำยังอยู่ในภาวะ uptrend

วันนี้ลุงแมวน้ำเพิ่มสัญญาณซื้อขายของดัชนีฟุตซี FTSE100 ของอังกฤษ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ SSECI ของจีน


ลองมาดูกันว่าหลังจากผ่านไปหลายวัน กราฟราคาของดัชนีและฟิวเจอร์สต่างๆเป็นอย่างไรกันบ้าง

มาดูกันที่

ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา


จากภาพ ขณะนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 3 ซึ่งคลื่นนี้ยังไม่จบและคาดว่าอาจใช้เวลานานอีกหลายเดือนกว่าจะจบ เป้าหมายของคลื่น 3 นี้อยู่ที่ดัชนีประมาณ 10,800-11,100 จุด ถ้าดูเป็นตัวเลขง่ายๆก็คือประมาณ 11,000 จุด

ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง
จากการที่ดัชนีมีการทำ new hi แปลว่าที่นับไว้เดิมนับผิด ดังนั้นจึงต้องปรับการนับคลื่นใหม่ เป็นดังนี้

จากภาพ ขณะนี้คลื่น 3 (สีม่วง) ยังไม่จบ และเมื่อจบคลื่น 5 (สีม่วง) จึงจะเป็นการจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล)
และถ้าเป็นไปตามการนับดังในภาพ แปลว่าดัชนีของฮ่องกงยังไปต่อได้อีกไกล ดัชนีน่าจะจบคลื่น 3 (สีม่วง) ที่ 25,500 จุด ส่วนคลื่น 3 (สีน้ำตาล) นั้นจะจบที่เท่าไรยังตอบได้ยาก

ดัชนี SET ของไทย
มีการปรับการนับคลื่นใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการนับคลื่นของดัชนีหั่งเส็ง

จากภาพ ขณะนี้เราน่าจะยังไม่จบคลื่น 3 (สีม่วง) และคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ซึ่งหมายความว่าดัชนีของไทยยังไปต่อได้อีกไกลพอสมควร

คลื่น 3 (สีม่วง) น่าจะจบที่ดัชนีประมาณ 780-800 จุด

ทองคำ (GC, GF)
ทองคำ (ฟิวเจอร์สทองคำของตลาด comex ใช้รหัส GC ส่วนฟิวเจอร์สทองคำของไทยใช้รหัส GF) ก็นับคลื่นได้ยากมาก ลุงแมวน้ำเปลี่ยนการนับมาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้ก็ต้องปรับการนับอีก เนื่องจากทองคำมีการทำ new hi ทะลุค่าเดิมที่ 1,002 ดอลลาร์ไปได้


จากภาพ ขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น 3 (สีม่วง) ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ในคลื่น 5 (สีน้ำเงิน)

การวิเคราะห์ราคา ก่อนอื่นเราต้องตามดูไปก่อนว่าราคาทองคำสามารถผ่าน 1,050 ดอลลาร์ไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้ เป้าหมายของยอดคลื่น 3 (สีน้ำตาล) น่าจะอยู่ที่ 1,180 ดอลลาร์ ส่วนยอดคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) นั้นยังตอบได้ยาก เป็นไปได้ตั้งแต่ 1,300 หรือ 1,500 หรือ 1,700 ดอลลาร์ ช่วงกว้างขนาดนี้มองกันตอนนี้ก็ยังไม่มีประโยชน์อะไร รอดูว่าจะผ่าน 1,050 ดอลลาร์ก่อนหรือไม่จะดีกว่า แต่ถ้าผ่าน 1,050 ดอลลาร์ไปได้ก็น่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบเศรษฐกิจของโลกนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก

มาดูกราฟราคาของทองคำไทย GF ดูบ้าง ฟิวเจอร์สทองคำในบ้านเราเพิ่งเทรดกันไม่นาน รูปแบบการแกว่งของราคาอาจยังไม่ตามตลาดต่างประเทศนัก แต่ต่อไปเมื่อปริมาณการซื้อขายมากขึ้น รูปแบบของราคาก็จะคล้ายคลึงกันยิ่งขึ้นแต่ต้องรวมปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนเข้าไว้ด้วย


น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบนี้ไม่ได้ปรับการนับคลื่น เพราะคิดว่าที่นับไว้เดิมน่าจะถูกอยู่แล้ว กล่าวคือ ขณะนี้เราได้จบคลื่น 5 (สีม่วง) ไปแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในคลื่นขาลง a-b-c ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์กว่าจะจบคลื่น c


การนับลูกคลื่นเพื่อช่วยเทรด

เพื่อนนักลงทุนอาจสงสัยว่าการนับลูกคลื่นนั้น ไม่เห็นมีความแน่นอนอะไร ถ้านับผิดก็นับใหม่ ผิดอีกก็นับใหม่อีก แล้วจะนับไปทำไม

คำตอบก็คือ ในการเทรดนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการซื้อ/ขาย ตามสัญญาณซื้อขาย ซึ่งการปฏิบัติตตามสัญญาณนั้นบางครั้งเราจะพบกับสัญญาณหลอก ทำให้ต้องคืนกำไรกลับไป (คืนให้ใครก็ไม่รู้ แต่ว่าเงินออกจากกระเป๋าของเรา) การนับลูกคลื่นเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยลดการคืนกำไร เพราะช่วยให้เราวางกลยุทธ์การเทรดได้ (เช่น เมื่อรู้ว่าเป็นคลื่นขาขึ้นก็ไม่ชอร์ต ฯลฯ) ถ้านับเก่งก็ลดได้มาก ถ้านับไม่เก่งก็ลดได้น้อย

หรือถ้าไม่อยากนับลูกคลื่นเลย ก็ปฏิบัติสัญญาณซื้อขายเพียงอย่างเดียว ส่วนใหญ่ก็ยังมีกำไร

ที่บอกว่าส่วนใหญ่ยังมีกำไรเพราะต้องรู้จักเลือกสินค้าที่จะเทรดด้วย ตัวอย่างก็ดูได้จากกำไร/ขาดทุนเป็นร้อยละจากตารางข้างล่าง จะเห็นว่าการเทรดฟิวเจอร์ของดัชนีทำกำไรได้ดี เช่น ฟิวเจอร์ของ SET, Dow Jones ที่ทำกำไรไปแล้วกว่า 200% นับจากต้นปีนี้

ส่วนฟิวเจอร์สของสินค้าเดี่ยว (ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือโภคภัณฑ์ก็ตาม) การแกว่งของราคาจะมีผลกับกำไร/ขาดทุน สินค้าที่เคลื่อนไหวไม่หวือหวาและมีแนวโน้มอยู่เสมอ (มี trend อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น uptrend หรือ downtrend ก็ตาม) จะทำกำไรได้ดี ส่วนสินค้าที่ราคาแกว่งหวือหวาหรือแม้ไม่แกว่งหวือหวาแต่ว่าแกว่งแบบ sideway เป็นประจำ พวกนี้ระบบตามแนวโน้มจะใช้ไม่ได้ดี เทรดแล้วโอกาสขาดทุนสูง ยกตัวอย่างเช่นทองคำกับน้ำมัน เทรดมาตั้งนานยังขาดทุน ส่วน US dollar index ที่ได้กำไรเพราะเพิ่งเข้ามาเทรดในปีนี้ ถ้าเข้ามาเทรดก่อนหน้านี้สักปีหรือสองปีป่านนี้อาจจะยังขาดทุนอยู่

No comments: