สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 ขณะนี้มีหุ้นที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางอยู่ 13 ตัว โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ขาย EGCO, KSL ขณะนี้ถืออยู่รวม 46 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายยางโตคอม ขณะนี้ยาง น้ำมัน ถั่วเหลือง อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง ส่วนทองคำยังอยู่ในภาวะ uptrend
วันนี้ลุงแมวน้ำเพิ่มสัญญาณซื้อขายของดัชนีฟุตซี FTSE100 ของอังกฤษ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ SSECI ของจีน
ลองมาดูกันว่าหลังจากผ่านไปหลายวัน กราฟราคาของดัชนีและฟิวเจอร์สต่างๆเป็นอย่างไรกันบ้าง
มาดูกันที่
ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา

จากภาพ ขณะนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 3 ซึ่งคลื่นนี้ยังไม่จบและคาดว่าอาจใช้เวลานานอีกหลายเดือนกว่าจะจบ เป้าหมายของคลื่น 3 นี้อยู่ที่ดัชนีประมาณ 10,800-11,100 จุด ถ้าดูเป็นตัวเลขง่ายๆก็คือประมาณ 11,000 จุด
ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง
จากการที่ดัชนีมีการทำ new hi แปลว่าที่นับไว้เดิมนับผิด ดังนั้นจึงต้องปรับการนับคลื่นใหม่ เป็นดังนี้

จากภาพ ขณะนี้คลื่น 3 (สีม่วง) ยังไม่จบ และเมื่อจบคลื่น 5 (สีม่วง) จึงจะเป็นการจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล)
และถ้าเป็นไปตามการนับดังในภาพ แปลว่าดัชนีของฮ่องกงยังไปต่อได้อีกไกล ดัชนีน่าจะจบคลื่น 3 (สีม่วง) ที่ 25,500 จุด ส่วนคลื่น 3 (สีน้ำตาล) นั้นจะจบที่เท่าไรยังตอบได้ยาก
ดัชนี SET ของไทย
มีการปรับการนับคลื่นใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการนับคลื่นของดัชนีหั่งเส็ง

จากภาพ ขณะนี้เราน่าจะยังไม่จบคลื่น 3 (สีม่วง) และคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ซึ่งหมายความว่าดัชนีของไทยยังไปต่อได้อีกไกลพอสมควร
คลื่น 3 (สีม่วง) น่าจะจบที่ดัชนีประมาณ 780-800 จุด
ทองคำ (GC, GF)
ทองคำ (ฟิวเจอร์สทองคำของตลาด comex ใช้รหัส GC ส่วนฟิวเจอร์สทองคำของไทยใช้รหัส GF) ก็นับคลื่นได้ยากมาก ลุงแมวน้ำเปลี่ยนการนับมาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้ก็ต้องปรับการนับอีก เนื่องจากทองคำมีการทำ new hi ทะลุค่าเดิมที่ 1,002 ดอลลาร์ไปได้


จากภาพ ขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น 3 (สีม่วง) ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ในคลื่น 5 (สีน้ำเงิน)
การวิเคราะห์ราคา ก่อนอื่นเราต้องตามดูไปก่อนว่าราคาทองคำสามารถผ่าน 1,050 ดอลลาร์ไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้ เป้าหมายของยอดคลื่น 3 (สีน้ำตาล) น่าจะอยู่ที่ 1,180 ดอลลาร์ ส่วนยอดคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) นั้นยังตอบได้ยาก เป็นไปได้ตั้งแต่ 1,300 หรือ 1,500 หรือ 1,700 ดอลลาร์ ช่วงกว้างขนาดนี้มองกันตอนนี้ก็ยังไม่มีประโยชน์อะไร รอดูว่าจะผ่าน 1,050 ดอลลาร์ก่อนหรือไม่จะดีกว่า แต่ถ้าผ่าน 1,050 ดอลลาร์ไปได้ก็น่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบเศรษฐกิจของโลกนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
มาดูกราฟราคาของทองคำไทย GF ดูบ้าง ฟิวเจอร์สทองคำในบ้านเราเพิ่งเทรดกันไม่นาน รูปแบบการแกว่งของราคาอาจยังไม่ตามตลาดต่างประเทศนัก แต่ต่อไปเมื่อปริมาณการซื้อขายมากขึ้น รูปแบบของราคาก็จะคล้ายคลึงกันยิ่งขึ้นแต่ต้องรวมปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนเข้าไว้ด้วย

น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบนี้ไม่ได้ปรับการนับคลื่น เพราะคิดว่าที่นับไว้เดิมน่าจะถูกอยู่แล้ว กล่าวคือ ขณะนี้เราได้จบคลื่น 5 (สีม่วง) ไปแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในคลื่นขาลง a-b-c ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์กว่าจะจบคลื่น c

การนับลูกคลื่นเพื่อช่วยเทรด
เพื่อนนักลงทุนอาจสงสัยว่าการนับลูกคลื่นนั้น ไม่เห็นมีความแน่นอนอะไร ถ้านับผิดก็นับใหม่ ผิดอีกก็นับใหม่อีก แล้วจะนับไปทำไม
คำตอบก็คือ ในการเทรดนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการซื้อ/ขาย ตามสัญญาณซื้อขาย ซึ่งการปฏิบัติตตามสัญญาณนั้นบางครั้งเราจะพบกับสัญญาณหลอก ทำให้ต้องคืนกำไรกลับไป (คืนให้ใครก็ไม่รู้ แต่ว่าเงินออกจากกระเป๋าของเรา) การนับลูกคลื่นเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยลดการคืนกำไร เพราะช่วยให้เราวางกลยุทธ์การเทรดได้ (เช่น เมื่อรู้ว่าเป็นคลื่นขาขึ้นก็ไม่ชอร์ต ฯลฯ) ถ้านับเก่งก็ลดได้มาก ถ้านับไม่เก่งก็ลดได้น้อย
หรือถ้าไม่อยากนับลูกคลื่นเลย ก็ปฏิบัติสัญญาณซื้อขายเพียงอย่างเดียว ส่วนใหญ่ก็ยังมีกำไร
ที่บอกว่าส่วนใหญ่ยังมีกำไรเพราะต้องรู้จักเลือกสินค้าที่จะเทรดด้วย ตัวอย่างก็ดูได้จากกำไร/ขาดทุนเป็นร้อยละจากตารางข้างล่าง จะเห็นว่าการเทรดฟิวเจอร์ของดัชนีทำกำไรได้ดี เช่น ฟิวเจอร์ของ SET, Dow Jones ที่ทำกำไรไปแล้วกว่า 200% นับจากต้นปีนี้
ส่วนฟิวเจอร์สของสินค้าเดี่ยว (ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือโภคภัณฑ์ก็ตาม) การแกว่งของราคาจะมีผลกับกำไร/ขาดทุน สินค้าที่เคลื่อนไหวไม่หวือหวาและมีแนวโน้มอยู่เสมอ (มี trend อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น uptrend หรือ downtrend ก็ตาม) จะทำกำไรได้ดี ส่วนสินค้าที่ราคาแกว่งหวือหวาหรือแม้ไม่แกว่งหวือหวาแต่ว่าแกว่งแบบ sideway เป็นประจำ พวกนี้ระบบตามแนวโน้มจะใช้ไม่ได้ดี เทรดแล้วโอกาสขาดทุนสูง ยกตัวอย่างเช่นทองคำกับน้ำมัน เทรดมาตั้งนานยังขาดทุน ส่วน US dollar index ที่ได้กำไรเพราะเพิ่งเข้ามาเทรดในปีนี้ ถ้าเข้ามาเทรดก่อนหน้านี้สักปีหรือสองปีป่านนี้อาจจะยังขาดทุนอยู่

No comments:
Post a Comment