Saturday, September 5, 2009

04/09/2009 * HSKI, NKI, KS11, SET, DJIA, CL, currency

วันนี้ SET ปิดที่ 668.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรมแกรมของลุงแมวน้ำไม่มีซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 43 ตัว แม้ตลาดจะขึ้น แต่หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขายกลับมีจำนวนมากกว่าหุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อ ซึ่งดูแปลกๆ

หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณขายมีถึง 10 ตัว คือ BANPU, BAY, BBL, EGCO, HANA, KBANK, PTT, TOP, TPC, TUF สังเกตว่ามีหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารตัวหลัก

หุ้นที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้อมี 4 ตัว คือ BIGC, MAKRO, PTTEP, SCB ซึ่งก็มีทั้งพลังงานและธนาคารเช่นกัน

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส ขณะนี้พอร์ตจำลองเปิดสัญญาทั้ง 4 ตัว ลอง 3 ตัว ชอร์ต 1 ตัว กำไรสุทธิในพอร์ตจำลองไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานมากนัก

วันนี้เราจะลองมาทบทวนดูสถานการณ์ของดัชนีตลาดต่างๆในโลกกันดู

เริ่มกันที่ตลาดเอเชียก่อน ดัชนีหั่งเส็งดูจะนับลูกคลื่นได้ง่ายกว่าตลาดอื่นๆ เพราะมีความชัดเจนมาก ดังนี้

จากภาพ ขณะนี้ตลาดได้จบคลื่นใหญ่ A ไปแล้ว และกำลังอยู่ในคลื่นใหญ่ B ขณะนี้ในระดับคลื่นรายเดือน (ตัวเลขในวงกลมสีน้ำตาล) จะเห็นว่าเราน่าจบคลื่น 3 แล้ว เหตุผลก็คือเกิด bearish convergence ระหว่างราคากับ RSI ค่า fibonacci ก็ค่อนข้างลงตัว อีกทั้งเกิดสัญญาณขายแล้วด้วย ดังนั้นจึงคาดว่าเรากำลังอยู่ในคลื่น 4 ซึ่งเป็นคลื่นขาลงในขาขึ้น

ทางด้านดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่น ขณะนี้เราก็น่าจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) เช่นกัน ซึ่งรูปแบบของดัชนีคล้ายคลึงกับของหั่งเส็ง ดังนี้


ทางด้านดัชนีคอสพี KOSPI ของเกาหลีใต้ ขณะนี้เราน่าจะอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) เช่นเดียวกับสองดัชนีด้านบน แต่ดัชนีของเกาหลีใต้นี้น่าจะยังไม่จบคลื่น 3 เพราะในระดับคลื่นย่อย (สีม่วง) น่าจะอยู่ในคลื่นย่อย 3 ของคลื่น 3 (สีน้ำตาล) อีกที ซึ่งแปลว่าดัชนี KOSPI ยังอาจขึ้นต่อไปได้อีกระยะหนึ่งจนกว่าจะจบคลื่น 3 ดังภาพต่อไปนี้


คราวนี้มาดู SET ของไทยกันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้ ลองมาดูการนับคลื่น SET แบบที่หนึ่ง

จะเห็นว่ารูปแบบของ SET ต่างไปจากดัชนีของเอเชียอีก 3 ประเทศด้านบน นั่นคือ ของเรานับคลื่นย่อยไม่ได้ คงมีแต่ 1-2-3-4-5 ไปเลย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะเป็น a-b-c ซึ่งน่าจะลงได้ลึก

แต่ทีนี้ลองนับคลื่นดูใหม่ หากจะพยายามฝืนนับให้ได้รูปแบบใกล้เคียงกับหั่งเส็ง นิกเกอิ และโซล ก็น่าจะต้องนับตามแบบที่สองนี้

ซึ่งแปลว่าขณะนี้เราน่าจะใกล้จบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) แล้ว แต่ลุงแมวน้ำไม่ค่อยเห็นด้วยกับการนับแบบที่สองนี้เท่าไร นับลูกคลื่น SET แบบแรกน่าดูจะสอดคล้องกับลัษณะของลูกคลื่นมากกว่าแต่ก็ไม่สอดคล้องกับรูปแบบของดัชนีเพื่อนบ้าน แต่นับอย่างใดถูกต้องรอเวลาให้เป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ไม่ว่าจะนับอย่างไร ส่วนที่ตรงกันก็คือเราใกล้จบคลื่น 5 (ไม่ว่าจะคลื่นใหญ่หรือคลื่นย่อยก็ตาม) เต็มทีแล้ว

มาดูดัชนีฝั่งตะวันตกกันบ้าง ดูดัชนีดาวโจนส์ DJIA

ดัชนีดาวโจนส์ดูจะไม่เหมือนกับฝั่งเอเชีย ยกเว้นจะไปคล้ายกับเกาหลีใต้ Dow Jones industrial index ขณะนี้ยังไม่จบคลื่น 3 และดูท่าจะไปต่อได้อีกไกล จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าในระยะต่อไปข้างหน้า ตลาดดาวโจนส์จะดีขึ้นจนดึงเงินจากเอเชียไหลไปฝั่งตะวันตก และตลาดเอเชียซบเซาไปชั่วคราว

ทองคำ ขณะนี้ยังนับคลื่นย่อยไม่ถูก ขอดูอีกสักระยะแล้วจะนำกราฟมาให้ดูกัน

น้ำมันดิบ CL ถ้าในกรอบเวลาระดับคลื่นใหญ่รายหลายปี เรากำลังอยู่ในคลื่นใหญ่ 5 (ตัวเลขสีน้ำเงิน) ถ้ามองในระดับรองลงมา เราน่าจะเพิ่งจบคลื่น 1 (สีน้ำตาล) ไป เนื่องจากนับคลื่นย่อย (สีม่วง) ได้ครบ 1-2-3-4-5 แล้ว ขณะนี้เราน่าจะกำลังดำเนินไปในคลื่น 2 (สีน้ำตาล) อันเป็นคลื่นขาลงในขาขึ้น ระดับราคาน้ำมันอาจลงไปถึงราคา 51-60 ดอลลาร์/บาร์เรล


มาดูค่าเงินสกุลต่างๆดูบ้าง ภาพข้างล่งานี้เป็นค่าของเงินสกุลต่างๆและทองคำมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นอัตราสัมพัทธ์กัน กล่าวคือ เงินสกุลใดที่มีค่าน้อย แสดงว่ายิ่งแข็งเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ตรงกันข้าม เงินสกุลใดที่มีค่ามาก (ตัวเลขมีค่าสูงๆ) หมายความว่าเงินสกุลนั้นอ่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์

จากภาพข้างล่าง จะเห็นว่าขณะนี้ทองคำเป็นสกุลที่แข็งมากที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์และเงินตราสกุลอื่นๆ (คลิกที่ตัวภาพเพื่อดูภาพขยาย)


Baht คือเงินบาท
AUD คือเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
CAD คือเงินดอลลาร์แคนาดา
GSD คือเงินปอนด์ของอังกฤษ
EUR คือเงินยูโร
JAP YEN คือเงินเยน
Gold คือทองคำ


No comments: