Saturday, July 12, 2014

12/07/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เติมฝันวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า (3)



ทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึึ้ง ตลาดน้ำขึ้นชื่อของบางกะเจ้า



วันหยุดนี้ลุงแมวน้ำพามาเที่ยวบางกะเจ้ากันต่อ ในตอนที่แล้วลุงแมวน้ำขี่จักรยานตั้งต้นมาจากสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ลัดเลาะมาตามซอยเพชรหึงษ์เพื่อมุ่งสู่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ไปต่อกันเลยคร้าบ ลุงเล่าไปเรื่อยๆพร้อมกับภาพ ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลัง



เที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง





เอาละ ตอนนี้ลุงแมวน้ำออกมาถึงถนนเพชรหึงษ์แล้ว ออกมาจากซอยเพชรหึงษ์ 33 นั่นแหละ ลุงหยุดแล้วถ่ายย้อนเข้าไปในเส้นทางเมื่อขามา จักรยานสีฟ้าคันนั้นคือคันที่ลุงขี่มานั่นเอง ^_^




ถนนเพชรหึงษ์เป็นถนนคอนกรีตสองเลน เป็นถนนเส้นหลักของบางกะเจ้า พอเข้ามาในถนนใหญ่แล้วบรรยากาศชนบทแบบที่ผ่านมาในซอยย่อยหายไป กลายเป็นเส้นทางที่เริ่มจอแจ ยวดยานเริ่มมีมากขึ้น

พอโผล่เข้ามาในถนนใหญ่ปุ๊บก็เจอับป้ายประกาศขายที่ดินที่เสาไฟฟ้าปั๊บ ป้ายประกาศขายที่ดินยังมีให้เห็นต่อเนื่องไปตามถนนใหญ่ ราคาที่ดินที่ประกาศขายก็หลากหลายและแตกต่างกันมาก เท่าที่ลุงเห็น มีตั้งแต่ราคาตารางวาละ 9,000 บาทไปจนถึงตารางวาละ 90,000 บาท และขายกันตั้งแต่ไม่กี่ตารางวาจนถึงหลายไร่ ว้าว ราคาที่ดินแถวนี้ไม่เบาเลย ^_^

ทำไมที่สวนเก่าๆจึงได้แพงขนาดนี้ เดี๋ยวค่อยมาดูกัน แต่ว่าตอนนี้ขี่จักรยานเที่ยวกันก่อน




มีแผงขายดอกเกลือข้างทางด้วย แต่ว่าคงยังเช้าอยู่ เจ้าของแผงจึงยังไม่มา ดอกเกลือนี้หาซื้อได้ค่อนข้างยาก และมีราคาแพงกว่าเกลือแกงทั่วไป บางทีก็เรียกเกสรเกลือ

ที่จริงเกลือไม่ได้ผลิดอกออกเกสรได้หรอก ดอกเกลือนี้เป็นผลึกเกลือที่เกิดขึ้นบนผิวน้ำในนาเกลือ ผลึกเกลือนี้เกิดขึ้นในตอนรุ่งเช้าและลอยอยู่บนผิวน้ำได้เนื่องจากผลึกยังจับตัวกันไม่หนานัก แต่พอสายหน่อยผลึกเกลือที่ผิวน้ำก็จะหนาตัวขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้น และจะจมลงไป ดังนั้นการเก็บดอกเกลือหรือเกสรเกลือจึงต้องเก็บในตอนรุ่งเช้า ดอกเกลือนิยมใช้ทำอาหารเพราะมีรสชาติกลมกล่อมกว่าเกลือแกงทั่วไป และยังใช้ขัดผิวได้อีกด้วย ลุงก็อยากได้สักถุงเหมือนกัน แต่ว่าเขายังไม่มาขาย จึงอด >.<





ยิ่งใกล้ถึงตลาดบางน้ำผึ้ง บ้านเรือนสองข้างทางก็แออัดยิ่งขึ้น ร้านสะดวกซื้อ เทสโก้ ธนาคาร ร้านแว่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส หาได้แถวนี้หมด ตรงนี้เป็นแถวๆซอยเพชรหึงษ์ 26 ซึ่งลุงต้องเลี้ยวเข้าไปในซอยนี้เพื่อไปสู่ตลาดน้ำ




วินมอเตอร์ไซค์และศาลาคอยรถเมล์ รถประจำทางที่วิ่งในบางกะเจ้าก็เก๊า เก่า  >.<




ลุงแมวน้ำขี่จักรยานต่อไปอีกเดี๋ยวเดียวก็เห็นตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่ตลาดมีจัดลานกว้างไว้ให้เป็นที่จอดรถยนต์สำหรับผู้ที่ขับรถมาเองด้วย




ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 8 โมงเช้า ตลาดยังไม่เปิดดี บางเจ้าก็เปิดแล้วแต่บางเจ้าเพิ่งจะมาจัดร้าน ลุงแมวน้ำไม่กล้าจอดจักรยานทิ้งไว้หน้าตลาด เพราะกุญแจล็อกจักรยานก็ไม่มี เกิดรถหายละก็ลุงคงแย่ ลุงจึงจูงจักรยานเข้าไปชมตลาดด้วย  >.<





อาหารและขนม น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เห็นแล้วหิวขึ้นมาเชียว >.< ลุงแมวน้ำชมตลาดด้วยความทุลักทุเลนิดหน่อย จะซื้อขนมก็ลำบาก เพราะเกะเกะเจ้าจักรยาน ซอยที่เป็นพื้นที่ขายของนี้ยาวพอสมควร มีทั้งขนม เครื่องดื่ม ของกิน ของใช้ มากมาย




ด้านหนึ่งของตลาดที่เลียบลำคลอง สามารถจัดเป็นตลาดน้ำได้โดยนำเรือมาจอดขายของ ส่วนใหญ่เป็นของกิน


ลุงแมวน้ำจูงจักรยานเดินจนทั่วตลาด ตลาดตอนแปดโมงยังเปิดไม่เต็มที่จึงพอจูงจักรยานเข้าไปได้ หากเปิดขายเต็มที่ คนคงแน่น คงจูงจักรยานเข้าไปไม่ได้แน่ ได้แต่เดินๆ ดมๆ และชมๆ ขนมไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง

เกือบเก้าโมง อากาศร้อนอบอ้าวแล้ว ผู้คนก็เริ่มมาเที่ยวตลาดกันแน่นขึ้น ลุงแมวน้ำยังต้องไปเที่ยวสวนศรีนครเขื่อนขันธ์อีก รีบเร่งทำเวลาหน่อยดีกว่า จึงออกจากตลาด และขี่จักรยานย้อนกลับมาทางเก่า




แต่ในระหว่างทางนั้นเองลุงแมวน้ำก็ได้เห็นรถเก๋งป้ายแดงคันหนึ่ง ใหม่เอี่ยมอ่อง รถเก๋งป้ายแดงกับสภาพแวดล้อมที่เป็นเรือกสวน ทำให้รถดูเด่นสะดุดขึ้นมาเป็นพิเศษ นี่แหละตัวอย่างของกระบวนการ urbanization




พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของบางกะเจ้า และอยู่ในเส้นทางวงรอบเล็กที่ลุงแมวน้ำขี่จักรยานนี้ด้วย แต่ลุงแวะไม่ทัน เพราะไม่อยากชมสวนศรีฯยามใกล้เที่ยง จึงได้แค่นำภาพมาให้ดู



ในครั้งต่อไป ลุงแมวน้ำจะพาไปชมสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ พร้อมกับเล่าให้ฟังถึงสภาพการณ์ในท้องถิ่นบางกะเจ้า ซึ่งเพิ่งมีการประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่เมื่อต้นปี 2557 ซึ่งหลายฝ่ายเกรงกันว่าปอดสีเขียวใกล้กรุงเทพฯแห่งนี้อาจจะถูกทำลายไปเพราะผลของผังเมืองฉบับใหม่ และกลายเป็นชุมชนเมืองขึ้นมาแทน ซึ่งขณะนี้มีกระแสทัดทานผังเมืองนี้กันอยู่

ที่จริงปัญหาของบางกระเจ้าเป็นประเด็นโลกแตก นั่นคือ อนุรักษ์กับพัฒนา จะอยู่ด้วยกันได้ไหม จะไปด้วยกันได้อย่างไร แต่ลุงแมวน้ำเห็นว่าปัญหาแบบบางกะเจ้านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ กรณีมีมานานแล้วในพื้นที่ต่างๆ และอนาคตก็จะมีต่อไป ท่ามกลางกระแสของการพัฒนา หากเราไม่วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าและมีการบริหารจัดการที่เป็นธรรมเพื่อรับมือ

คราวหน้าเราไปบางกะเจ้ากันอีกนะคร้าบ

No comments: