วันนี้ลุงแมวน้ำนำสรุปภาวะตลาดในรอบเดือนมาให้ดูกัน
ในรอบเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเฉลี่ยแล้วปรับตัวขึ้นไม่มาก ประมาณ 1% กลุ่มที่ขึ้นแรงกว่าเพื่อนคือกลุ่มยูโรโซน ประมาณ +3% ตามมาด้วยกลุ่มเอเชีย ส่วนสหรัฐอเมริกานั้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนไทยนั้นปรับตัว +1.9%
สำหรับจีนนั้น แม้ว่าดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของจีนจะเกินกว่า 50% ต่อเนื่องกันสองเดือนแล้ว คือถ้าต่ำกว่า 50% ถือว่าถดถอย นี่ถือว่าเกือบจะหลุดจากภาวะถดถอยแล้ว แต่ว่าดัชนีตลาดหุ้นของจีนไม่ตอบสนองเลย เดือนที่ผ่านมานี้ดัชนี CSI 300 ของจีนปรับตัวลงไป -5% และยังทำจุดต่ำสุดใหม่อีก ไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้เลย ดัชนี PMI ที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นภาวะชั่วคราวก็ได้เนื่องจากภาคการผลิตมักมีการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อรับเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน พ้นจากตรุษจีนแล้วอาจถดถอยลงไปอีก ส่วนดัชนีการผลิตของสหรัฐอเมริกาก็ดีขึ้นเช่นกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ อาจเป็นเพราะเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่อาจแน่ใจได้ว่าเศรษฐกิจของ จีน และ สรอ ฟื้นตัวแล้ว
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โลหะก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง
ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เดือนที่แล้วเงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้นนิดหน่อย เงินเยนอ่อนค่า เงินบาททรงตัว
ด้านตลาดพันธบัตร เดือนที่แล้วพันธบัตรอเมริกัน อายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนลดลง ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยนั้น ถ้าเป็นพันธบัตรอายุยาว 3 ปีขึ้นไป เส้นอัตราผลตอบแทนปรับสูงขึ้น ส่วนที่ต่ำกว่า 3 ปีเส้นอัตราผลตอบแทนปรับลดลง หมายความว่ามีกาารขายพันธบัตรอายุยาวออกไป น่าจะเป็นเพราะต้องการนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ส่วนพันธบัตรอายุสั้นและกลางที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำลงนั้นเพราะว่าเงินไหลมาพักในพันธบัตรอายุสั้นและกลางเพื่อรอจังหวะย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นนั่นเอง
No comments:
Post a Comment