Tuesday, November 20, 2012

20/11/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (12/11/2012 - 16/11/2012) * หน้าผาการคลังยังฉุดตลาด จีนน่าเป็นห่วง


ไฟสงครามคุกรุ่น อิสราเอลกับปาเลสไตน์เปิดศึกครั้งใหญ่ ถล่มกันด้วยขีปนาวุธ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตกันไปจำนวนไม่น้อย ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น สถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ยังตอบได้ยาก

ดัชนีตลาดหุ้นจีนทำจุดต่ำสุดใหม่ ต้อนรับผู้นำคนใหม่ ยังไม่น่าเข้าลงทุนเพราะยังไม่รู้ว่าก้นเหวอยู่ที่ไหน


เรามาดูสรุปภาวะตลาดในรอบสัปดาห์กัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา 12/11/2012 - 16/11/2012 ตลาดหุ้นทั่วโลกยังไหลลงต่อ สาเหตุก็มาจากเรื่องเดิมๆคือเรื่องหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโอบามา สมัยที่ 2 ยังคงทำงานติดขัดเพราะว่าฝ่ายนิติบัญญัติเป็นคนละพรรคกัน

ทางด้านสถานการณ์ต่างประเทศ สัปดาห์ที่แล้วมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจหลายเรื่อง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นตอบรับด้วยสีเขียว ขณะเดียวกันทางด้านจีนก็ประกาศผลการคัดเลือกผู้นำใหม่เช่นกัน แต่ตลาดหุ้นจีนตอบรับด้วยสีแดง

ด้านตะวันออกกลางค่อนข้างระอุ อิสราเอลกับปาเลสไตน์ถล่มกันหนัก นักวิเคราะห์บางรายมีความเห็นว่าอิสราเอลกำลังจะมีการเลือกตั้ง ต้องเรียกคะแนนเสียงกันหน่อยด้วยการเปิดศึกกับเพื่อนบ้านเพื่อแสดงความแข็งแกร่งเรียกคะแนนนิยม นักวิเคราะห์บางรายก็บอกว่าศึกครั้งนี้อาจบานปลายกลายเป็นการเรียกแขก หมายความว่าสหรัฐอเมริกาถือหางอิสราเอลอยู่ ส่วนโลกมุสลิมหลายประเทศก็ถือหางปาเลสไตน์อยู่ ทั้งยังมีเรื่องอิหร่านอีก ดังนั้นหากกลุ่มผู้ถือหางถูกดึงเข้ามาตะลุมบอนด้วยเรื่องจะบานปลาย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบมีการตอบสนองต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับพุ่งแรง

สำหรับตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวลงต่อ แต่ว่าไม่มากนัก เพียง -0.83% ถือว่าลงไม่มาก แต่ต่างชาติยังขายสุทธิอยู่ ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียถือว่าแข็งแกร่งทนแดดทนฝน ส่วนจีน อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เสียศูนย์

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างแกว่ง คือลงแล้วขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ สินค้าเกษตรก็ปรับตัวขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบ ทองคำปรับตัวในกรอบ ยังไม่แรง

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เงินสกุลอื่นก็อ่อนตัวลงเล็กน้อย ไม่มีอะไรหวือหวา

ตลาดตราสารหนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันปรับตัวลดลง ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวขึ้น พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 7 จุดเบสิส มาอยู่ที่ 3.49%

สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นแล้ว ราคายางพารากับสินค้าเกษตรขยับตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนทองคำแนวโน้มขาขึ้นก็มีกำลังพอสมควรแล้วเช่นกัน น่าจะขึ้นต่อ ส่วนดอลลาร์ สรอ สัปดาห์นี้น่าจะอ่อนตัว และเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้น

ตอนนี้มีกระแสแนะนำให้ลงทุนในหุ้นจีนกันค่อนข้างหนาหู สาเหตุพราะว่าดัชนีหุ้นจีนลงมาต่ำมากแล้ว น่าลงทุนได้ แต่ในความเห็นของลุงแมวน้ำ ขนาดจีนเปลี่ยนผู้นำ ตลาดยังไม่ตอบสนองในทางดี ตรงข้าม กลับไหลลงต่อ และทำจุดต่ำสุดใหม่อีก ในทางเทคนิคถือว่ายังมีโอกาสลงได้อีก ไม่ควรเข้าลงทุนในตอนนี้ อีกทั้งจีนจะเป็นเหมือนตัวชี้วัดของเอเชีย หากเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวหนัก ในที่สุดจะส่งผลกระทบถึงเอเชียโดยรวมด้วย


Photobucket

No comments: