Tuesday, September 18, 2012

18/09/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (10/08/2012 - 14/08/2012) * ขึ้นกระจายรับ QE3



สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แห่งความผันผวนจริงๆ ผลจากการประกาศมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรกลุ่มยูโณโซนของ ECB กับการประกาศ QE3 ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ตลาดหุ้นขึ้นกันกระจาย บางตลาดขึ้นถึงประมาณ +7% ทีเดียว ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำกกับน้ำมันดิบขึ้นไม่มาก +2% ถึง +3% โดยประมาณ สินค้าเกษตรขึ้นแรงเป็นบางชนิด เช่น กาแฟ ยางพารา ประมาณ +10% l่วนสินค้าเกษตรหลัก ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง ขึ้นเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

อัตราแลกเปลี่ยนก็ผันผวน เงินดอลลาร์ สรอ อ่อน เงินสกุลอื่นแข็งค่ากันถ้วนหน้า แต่หากดูในรายละเอียดจะพบว่าเงินสกุลเอเชียแข็งค่ากว่าสกุลยุโรป นั่นคือ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์สิงคโปร์ เงินบาท แข็งค่ามากกว่าเงินสกุลมั่นคงของยุโรป เช่น ฟรังก์สวิส สวีเดนโครน นอร์เวย์โครนา ส่วนเงินยูโรนั้น +2.45% แปละเงินรูเบิลรัสเซีย +3.5% สองสกุลนี้ผันผวนหนัก

เงินบาทแข็งค่าถึง +1.5% ในสัปดาห์เดียว ต่อไปธุรกิจส่งออกคงลำบากขึ้นอีกเพราะค่าเงินบาทแข็งอีกทั้งคงยังไม่นิ่ง ลุงแมวน้ำขายสินค้าต่างประเทศก็คงลำบากขึ้นเหมือนกัน แต่ก็ยังต้องสู้ต่อไป ลุงแมวน้ำเฮดจ์ค่าเงินไว้ที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ สรอ ด้วยการเปิดสัญญาขาย (open short position) ฟิวเจอร์สของดอลลาร์ สรอ (USD futures) ไว้จำนวนหนึ่ง ดังนั้นต่อไปลุงแมวน้ำขายของก็คิดค่าเงินคงตัวที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ สรอ ก็พอ ไม่ต้องคอยปรับราคาขายตามอัตราแลกเปลี่ยน และช่วยให้ราคาสินค้าของลุงแมวน้ำไม่แพงนักด้วย

ตลาดหุ้นไทยก็ขึ้นได้พอควร +2.4% ต่างชาติซื้อบ้าง ขายบ้าง แต่ช่วงหลังดูจะซื้อมากกว่าขาย แต่หากพูดถึงเงินเข้าตอนนี้เงินต่างชาติยังอยู่ในประเทศไทยอยู่มาก โดยอยู่ในตลาดพันธบัตร คงต้องตามดูความเปลี่ยนแปลง

ทางด้านตลาดตราสารหนี้ การประกาศมาตรการ QE3 ทำให้มีแรงขายตราสารหนี้ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่พอคาดเดาได้ เนื่องจากทุกคนต่างก็คิดไปในทางเดียวกันว่าผลจาก QE ทั้งในภาคยูโรและในภาคสหรัฐอเมริกาจะทำให้เงินเฟ้อ ผลตอบแทนพันธบัตรอาจไม่เพียงพอที่จะสู้เงินเฟ้อ เงินจึงไหลไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันที่อายุมากกว่า 5 ปีปรับตัวสูงขึ้น และเช่นเดียวกับเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยที่มีอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะในกลุ่มพันธบัตรไทยที่อายุ 7 ปีขึ้นไปนั้นอัตราผลตอบแทนสูงขึ้น 10-20 จุดเบสิส


มาดูกราฟบางตัวกันดีกว่า แต่แนวโน้มคงเปลี่ยน ลุงเบนเฮลิคอปเตอร์สั่ง QE3 ผลคงทำให้ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น เงินเฟ้อคงเพิ่มสูงขึ้นตามมา คิดว่าคงต้องนับคลื่นใหญ่กันใหม่ ตลาดขาขึ้นในครั้งนี้ (หากเกิดขึ้นจริง) ลุงแมวน้ำเข้าลงทุนด้วยความสลดหดหู่ใจ นี่พูดจากใจจริง ไม่ได้ดราม่า คนรวยจะรวยยิ่งขึ้น ส่วนคนจนจะยิ่งจนลง ลุงแมวน้ำไม่คิดว่าลุงเบนสามารถใช้วิธีนี้แก้ปัญหาปากท้องของคนจนได้ มีแต่จะยิ่งจนลง รวมทั้งยังกระทบถึงประเทศอื่นๆให้ปั่นป่วนไปด้วย

ตอนนี้สหรัฐอเมริกากับยูโรโซนคือคนขับรถบรรทุกที่ง่วงนอนแล้วไม่ยอมนอนพักผ่อน กินกาแฟไปสองสามแก้วแล้วก็ยังง่วงอยู่ จึงตัดสินใจกินยาบ้าลงไป กินแล้วตาสว่าง ขับรถต่อได้ ต่อไปเมื่อคนขับรถคนนี้ฝืนไม่ไหวก็จะลืมตาขับแต่สมองไม่สั่งการ คือหลับในนั่นเอง แล้วอุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้น รถบรรทุกคันนี้คงชนรถคันอื่นหรือชนคนเดินถนน หรือทะลวงเข้าไปในร้านค้าข้างทาง จะมีผู้บริสุทธิ์ต้องมารับเคราะห์กรรมไปด้วยเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคนขับรถบรรทุกนี้




ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาผ่านแนวต้านสำคัญไปได้แล้ว



ตลาดหุ้นไทยก็ผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี



สินค้าเกษตร ถั่วเหลือง ทำราคาสูงสุดตลอดกาลใหม่ ช่วงปลายเดือนสิงหาคมกับต้นเดือนกันยายน ถั่วเหลืองกับข้าวโพดทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ พร้อมกับภาวะเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมที่เพิ่งสูงขึ้นในหลายๆประเทศ






Photobucket

No comments: