Monday, July 12, 2010

09/07/2010 * CL, MSCI World Index, MSCI Emerging Markets Index

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 820.6 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ AOT, RATCH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 39 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีไทเอกซ์ (TAIEX, TWII) ของไต้หวันเกิดสัญญาณซื้อ

หากสังเกตในรายงานจะพบว่าในระยะนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของหลายประเทศทยอยกันเกิดสัญญาณซื้อ แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วพบว่าเป็นประเทศในเอเซีย ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง และไทย ในขณะนี้ทางฝั่งตะวันตก ได้แก่ ยุโรปและอเมริกายังเป็นสัญญาณขาย เราลองมาดูกราฟสองภาพต่อไปนี้กัน





ภาพบนเป็นกราฟของกองทุนอีทีเอฟ ISHARES MSCI WORLD (IWRD) ซึ่งเราใช้เป็นตัวแทนของดัชนี MSCI World Index ดังที่เราเคยคุยกันไปแล้วว่ากองทุนอีทีเอฟที่อิงดัชนีตัวใดตัวหนึ่งพอจะใช้ดูแนวโน้มของดัชนีตัวนั้นได้หากเราไม่มีข้อมูลจริงๆของดัชนีนั้นๆ แนวโน้มของดัชนีโลกดูไม่ดีเพราะหลังจากที่หลุดจากกรอบ SEC มาแล้วก็ยังทำจุดยอดคลื่นย่อยลดต่ำลงเรื่อยๆหรือที่เรียกว่า lower peak อันเป็นรูปแบบหนึ่งของแนวโน้มขาลง

ส่วนภาพล่างเป็นกราฟของกองทุนอีทีเอฟ iShares MSCI Emerging Markets Index (EEM) ซึ่งลุงแมวน้ำใช้เป็นตัวแทนของดัชนี MSCI Emerging Markets หรือว่าดัชนีตลาดเกิดใหม่ซึ่งเป็นการถ่วงน้ำหนักเพื่อให้เห็นภาพรวมของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ 21 ประเทศ อาทิ บราซิล ชิลี จีน อินเดีย เกาหลี ไต้หวัน รวมทั้งไทยด้วย จะเห็นว่าภาพรวมของตลาดเกิดใหม่แม้ว่าจะหลุดจากกรอบ SEC ลงมาเช่นกัน แต่ในรายละเอียดในช่วงสั้นๆที่ผ่านมาพบว่ามีการทำท้องคลื่นย่อยที่ยกสูงขึ้นหรือที่เรียกว่า higher trough ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของแนวโน้มขาขึ้น

จากที่เห็นนี้หมายความว่าในภาพรวมของตลาดเกิดใหม่นั้นแนวโน้มระยะสั้นๆดูเป็นขาขึ้น ซึ่งจากภาพนี้คงพอจะอธิบายได้ว่าเหตุใดตลาดในเอเซียรวมทั้งไทยช่วงนี้ดูดีขึ้นบ้าง แต่หากจะให้บอกว่าแนวโน้มระยะกลางกลับเป็นขาขึ้นแล้วคงยังไม่ได้เนื่องจากอาจเป็นเพียงแค่ correction ของแนวโน้มขาลงใหญ่ก็ได้หรือที่เราเรียกกันว่าการรีบาวด์ ยังต้องรอดูสัญญาณการกลับทิศของแนวโน้มอื่นๆมาประกอบกันด้วย

มาดูน้ำมันดิบกันบ้าง



จากภาพคงพอเห็นว่าน้ำมันดิบหลังจากหลุดกรอบ SEC มาแล้วในระยะสั้นมีการทำ higher trough แต่ก็คงยังบอกอะไรในระยะกลางไม่ได้เพราะหากมองในภาพแล้วจะเห็นว่าราคาน้ำมันดิบแว่งตัวในกรอบราคาราว 65-85 ดอลลาร์/บาเรลล์มานานหลายเดือนแล้ว แม้ว่าจะหลุดกรอบ SEC แต่ก็ยังไม่หลุดกรอบแนวรับแนวต้านที่ประมาณ 65-85 คงต้องดูกันต่อไป

No comments: