Sunday, November 29, 2009

27/11/2009 * HSKI, KS11, SET, DJIA, CL, DX, GC, Gold-dollar ratio

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 680.37 จุด ลดลง 5.36 จุด

แม้ดัชนี SET จะเป็นลบ แต่หุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BGH, MCOT ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 14 ตัว จำนวนหุ้นที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางกลับเพิ่มขึ้นมาอีก ขณะนี้เห็นชัดแล้วว่าดัชนี SET ยังอยู่ในคลื่น 4 และยังไม่จบคลื่นนี้

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์สวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย แม้ว่าทองคำและน้ำมันจะไหลลงมาแรง แต่ก็ดีดกลับขึ้นไปได้ รวมแล้วราคาลงมาไม่มากนัก

ในกลุ่มดัชนีต่างประเทศ เมื่อวานดัชนี DAX ของเยอรมนี และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเกิดสัญญาณขาย วันนี้ผลจากข่าวบริษัทอสังหายักษ์ของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ที่มีชื่อว่าดูไบเวิล์ดขอยืดระยะเวลาการชำระหนี้ขนาดหลายหมื่น ล้านดอลลาร์ สรอ ออกไปก่อนก็ส่งผลกระทบทางด้านเอเชีย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน และอินเดีย ล้วนแต่ร่วงลงมาแรงและเกิดสัญญาณขาย ส่วนดัชนีของสิงคโปร์และไทยลงไม่มากนัก

ลองมาดูกราฟของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญกัน ว่าพิษของดูไบเวิล์ดเป็นอย่างไร

ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง


ดัชนีคอสปีของเกาหลีใต้


ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนจะกระทบไม่มาก นับคลื่นดูแล้วยังไม่น่าจบคลื่น 3


ดัชนี SET ของไทย ลงไม่มากนัก แต่ก็เป็นสัญญาณขายอยู่แล้ว ดูแล้วยังไม่จบคลื่น 4 หากจะจบคลื่น 4 ควรหลุดต่ำกว่า 668


ดัชนีดอลลาร์ สรอ กรณีดูไบเวิลด์ยังไม่เห็นผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์อย่างชัดเจนนัก


น้ำมันดิบ แม้เกิดสัญญาณขาย แต่นับคลื่นแล้วยังไม่น่าจบคลื่น 3 ดังนั้นคาดว่าจะขึ้นต่อไปจนถึง 98 ดอลลาร์ต่อบาเรลเป็นอย่างน้อย


ทองคำ ถ้าใช้เทคนิคการวัดความสูงของคลื่น โอกาสจบคลื่น 3 แถวนี้ก็มีอยู่ แต่ถ้าพิจารณาจากระดับ fibonacci หรือจากเครื่องมือ RSI ก็ยังไม่น่าจบคลื่น 3 แถวนี้ คงต้องรอดูกันต่อไป


ค่าตัวหนึ่งที่น่าสนใจตัวหนึ่งก็คือค่าอัตราส่วนของราคาทองคำและดอลลาร์ (gold-dollar ratio) เดิมทีค่านี้ไม่เคยเกิน 14 แต่ขณะนี้ค่านี้ไปถึง 16 แล้ว และอาจไปต่อจนเกิน 16 ได้



No comments: