ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว ฝนลดน้อย อากาศเริ่มเย็นลง ตอนนี้สวนข้างโขดหินของลุงแมวน้ำคึกคักจอแจเชียว มีผู้มาพักอาศัยอยู่ด้วยมากมายหลายชีวิต โดยเฉพาะนกเขา ตอนนี้ในสวนจ้อกแจ้กจอแจก็เพราะนกเขานี่แหละ
เดิมทีนกเขาที่เช่ารังนกของลุงอยู่เพื่อฟักไข่ (ไม่ได้เช่าหรอก เรียกเก๋ๆ ก็อยู่ฟรีนั่นแหละ) เพียงตัวเดียว นอกนั้นเป็นนกเขาที่ทำรังอยู่ในสวน ซึ่งลุงเห็นเพียงสองสามตัว ลุงก็เอาข้าวสวยผสมถั่วต่างๆที่ลุงหุงไว้กินเอง เอาไปโปรยให้นกกินวันละช้อนโต พวกนกเหล่านี้ชอบกันมาก เดี๋ยวเดียวหมด
ไปๆมาๆ ตอนนี้มีนกเขาอยู่ในสวนของลุงประมาณ 10 ตัว ไม่รู้ว่าได้ข่าวลุงเลี้ยงข้าวมาจากไหน แต่ก็มาป้วนเปี้ยนในสวนทุกวัน ลุงแมวน้ำต้องเพิ่มข้าวจากช้อนโตกลายเป็นหนึ่งทัพพีโต
นกเขาเหล่านี้ทำให้สวนครึกครื้นขึ้น เนื่องจากส่งเสียงจ้อแจ้ก เมื่อจิกข้าวจนหมดแล้วก็ไม่ไปไหน ยังคงอยู่ในสวนนั่นเอง นกพวกนี้ใจกล้ามาเสียด้วย ขนาดลุงแมวน้ำนอนผึ่งพุงบนโขดหิน มีถ้วยกาแฟและจานขนมวางอยู่ใกล้ๆตัว นกเขาก็ยังกล้ามาจิกขนมของลุง ล้วงคอลุงแมวน้ำเสียแล้ว ฮึ่ม >.<
อ้อ เกือบลืม วันนี้ลุงแมวน้ำไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่องนกเขาสักหน่อย แต่ตั้งใจจะเล่าเรื่องของลุงโคลน กลับมาเข้าเรื่องกัน
ลุงโคลนเป็นใคร ลุงโคลนเป็นหมาจรจัดที่ถูกรถชนและหล่นลงไปในหล่มโคลนเมื่อปี พ.ศ. 2555 มีผู้หวังดีแจ้งไปยังสมาคมพิทักษ์สัตว์ หน่วยกู้ภัยของสมาคมจึงไปช่วยเหลือ เมื่อช่วยเหลือมาแล้วจึงทำให้ทราบว่าลุงโคลนกระดูกสะโพกแตก อีกทั้งยังพบว่าเป็นมะเร็งตับอีกด้วย ลุงโคลนไม่สามารถผ่าตัดได้เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรงพอ อายุมากแล้วและยังป่วยหลายโรค อีกทั้งยังจรจัดได้กินบ้างอดบ้าง สุขภาพจึงไม่เอื้ออำนวย ลุงโคลนทั้งแก่และบาดเจ็บขนาดนี้ เป็นหมาที่ไม่มีใครต้องการ ก็อาจมีคนเมตตาสงสารแต่ว่าคงดูแลไม่ไหว ผลก็คือลุงโคลนหาบ้านอุปการะไม่ได้ สมาคมพิทักษ์สัตว์จึงเลี้ยงลุงโคลนไว้เอง และตั้งชื่อว่าลุงโคลนเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสถานที่ที่พบลุง นั่นคือในหล่มโคลน
ลุงโคลนขณะที่อยู่กับสมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) น่าจะป็นช่วงชีวิตที่บรรเจิดที่สุดเท่าที่หมาจรจัดแก่ๆและบาดเจ็บถูกทอดทิ้งจะมีได้ |
ด้วยการดูแลของสมาคมฯ ลุงโคลนรอดมาได้อย่างเหลือเชื่อ และกลายเป็นหมารับแขกของสมาคมไปในที่สุด หน้าที่คือคอยต้อนรับแขกที่มาที่สมาคม แต่ก็ต้อนรับแบบแก่ๆนั่นแหละ คือกระย่องกระแย่ง เพราะอายุมากแล้วทั้งกระดูกสะโพกแตก ใครที่พบเห็นต่างก็เอ็นดูลุงโคลน
มาในปีนี้ 2557 ลุงโคลนอาการไม่ดี ค่าเม็ดเลือดแดงต่ำ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และอาการป่วยอื่นๆ ขณะเดียวกัน ฐานะการเงินของสมาคมก็อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงเนื่องจากเงินบริจาคไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย บัญชีติดลบทุกเดือนเป็นระยะเวลานาน แต่ถึงกระนั้น ทุกคนก็ยังดูแลลุงโคลนเป็นอย่างดี พยายามประกาศหาสุนัขใจดีเพื่อให้เลือดแก่ลุงโคลน ก็ได้หมาใจดีสละเลือดให้ ค่าเม็ดเลือดแดงที่ต่ำของลุงจึงดีขึ้นบ้าง พาไปหาหมอ ไปรับเลือดเลือด (เหมือนการให้เลือดในคนไข้) ไปสวนฉี่ ดูแลเป็นอย่างดี
ลุงโคลนในยามที่ป่วยหนัก |
แต่สุดท้าย ลุงโคลนก็ไม่สามารถต่อสู้กับชีวิตได้ต่อไป ลุงโคลนจึงจากไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง หลังจากที่มีบ้านที่อบอุ่นอยู่เกือบสามปี ก็นับว่ายังดีที่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ลุงโคลนได้มีบ้าน มีอาหาร และได้รับความรักจากผู้คน ถือได้ว่าลุงโคลนได้มีช่วงชีวิตที่บรรเจิดที่สุดในบั้นปลายนี่เอง
แม้ลุงโคลนได้จากไปแล้ว แต่ลุงโคลนยังมีผองเพื่อนอยู่ด้วย มีทั้งหมาและแมว ซึ่งเป็นหมาแมวที่สมาคมฯช่วยเหลือมาและไม่สามารถหาบ้านให้ได้ จึงต้องรับเลี้ยงเอาไว้เอง แต่ขณะเดียวกัน ตอนนี้ภาวะการเงินของสมาคมอยู่ในขั้นลำบาก ต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่ พร้อมกับย้ายสถานที่ทำงานเพราะจ่ายค่าเช่าไม่ไหว ต้องขายทรัพย์สิน เช่นรถตู้ที่ใช้ในงานกู้ภัย ฯลฯ
สมาคมใกล้จะต้องปิดตัวเต็มทีแล้ว ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าปิดไปแล้วบางส่วน เหลืออยู่เพียงงานกู้ภัยและการดูแลรักษาหมาแมวที่ได้ไปช่วยมา
อ้อ และยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง นั่นคือ หัวใจของเจ้าหน้าที่ที่ยังพร้อมจะดูแลเพื่อนร่วมโลกผู้ยากต่อไปเท่าที่จะทำได้ ปัจจุบันแม้จะขาดทุนทรัพย์แต่สมาคมพิทักษ์สัตว์ยังช่วยผลักดันร่าง พรบ คุ้มครองสัตว์ที่เสนอโดยภาคประชาชน ยังประสานงานกิจกรรมทำหมันฟรี และอื่นๆ ฯลฯ
ผองเพื่อนของลุงโคลนคือหมาแมวที่หน่วยกู้ภัยของสมาคมช่วยมา และหาผู้อุปการะไม่ได้ สมาคมจึงรักษาและดูแลโดยไม่ทอดทิ้ง |
สมาคมพิทักษ์สัตว์นี้เป็นเสมือนบ้านที่คอยช่วยเหลือสัตว์โลกผู้ตกทุกข์ได้ยากจากการกระทำมนุษย์ เช่น การทำร้าย ทอดทิ้ง ฯลฯ แต่บ้านนี้คาดว่าใกล้ต้องปิดตัวเป็นการถาวรแล้วหากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ
ลุงรู้ดีว่ามีหลายๆคนและกลุ่มบุคคลที่แอบแฝงมาหาประโยชน์จากความเมตตาของผู้ใจดี คือ เอาหมาแมวจรจัดมาสร้างเรื่องดราม่าแล้วขอรับบริจาค แต่สุดท้ายก็เอาเงินไปใช้เอง มีพวกนี้แอบแฝงอยู่จริงและหากินได้โข หลายๆคนก็อาจเคยเจอมากับตนเอง แต่กับที่นี่ สมาคมพิทักษ์สัตว์ ลุงแมวน้ำรู้จักที่นี่มาในราวสิบปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำงานเพื่อช่วยพิทักษ์สัตว์มาตลอด เงินบริจาคไม่พอก็ควักกระเป๋ากันเอง จนท้ายที่สุดก็จวนเจียนจะต้องปิดตัวลง
ลุงแอบคิดแทนเจ้าหน้าที่ในสมาคม หลายคนอาจคิดว่าที่นี่ช่วยผู้อื่น แต่ทำไมเมื่อตนเองลำบากกลับไม่มีใครช่วย ไม่เคยทอดทิ้งผู้อื่น แต่ตนเองกลับถูกทอดทิ้ง ... ลุงเองก็สะท้อนใจ
อย่าให้พวกเขารู้สึกแบบนั้น ช่วยกันสนับสนุนพวกเขาให้ได้ทำงานพิทักษ์สัตว์ต่อไป
แวะไปดูเฟซบุ๊กของมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) และอ่านเรื่องราวอื่นๆเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมได้ที่
https://www.facebook.com/thaiagafanpage
ช่วยกันสนับสนุนได้ที่ 2 บัญชีนี้เลย ธ.กรุงเทพ กับกสิกรไทย (โปรดดูในรูปด้วย)
ชื่อบัญชี "สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสุขาภิบาล 3 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 056-0-18402-0"
ชื่อบัญชี "สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุขาภิบาล 3 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 735-2-29090-9"
No comments:
Post a Comment