Sunday, August 18, 2013

18/08/2013 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ กาแฟแก้วโปรด และไปซื้อสินค้างานโอท็อปกัน




ปกติลุงแมวน้ำจะชอบเดินงานโอท็อป เพราะว่ามีสินค้าให้ชมมากมายหลายหลาก เดินดูนั่นดูนี่ก็เพลินดี อีกทั้งสินค้าก็มีราคาใช้ได้เดียว และที่สำคัญคือสินค้าเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่หาชมหรือหาซื้อไม่ได้จากร้านทั่วไปในกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้ผลิตอยู่ในต่างจังหวัดและไม่ได้วางจำหน่ายตามร้านในกรุงเทพฯ ดังนั้นหากเป็นในยามปกติ หากจะซื้อก็ต้องไปถึงแหล่งในต่างจังหวัด ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก ดังนั้นงานโอท็อปจึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ซื้อจะอุดหนุนผู้ผลิตโดยตรง

ปกติในแต่ละปีจะมีการจัดงานโอท็อปหลายครั้ง จนสองปีมานี้ลุงแมวน้ำก็งงเหมือนกัน เพราะว่าจัดบ่อยมาก แต่ว่างานแต่ละครั้งอาจมีผู้ค้ามาออกร้านมากน้อยไม่เท่ากัน ก็ต้องคอยสังเกตดูเหมือนกันว่าเป็นโอท็อปงานใหญ่หรือว่างานเล็ก

สำหรับลุงแมวน้ำแล้วชอบไปโอท็อปงานใหญ่ ไปปีละ 2 ครั้งก็พอ มากกว่านี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะว่าขี้เกียจเดินทาง การไปแต่ละครั้งลุงแมวน้ำก็จะไปซื้อสินค้าบางอย่างมาตุนเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นพวกข้าวอินทรีย์ และวัตถุดิบในการทำขนม ทำอาหารของลุงนั่นแหละ บางทีก็มีข้าวของเครื่องใช้บ้าง



กาแฟสูตรลุงแมวน้ำ ความสุขในราคาประหยัด

ก่อนจะไปงานโอท็อป เรามาดื่มกาแฟกันก่อน ลุงแมวน้ำชอบดื่มกาแฟคร้าบ แต่ว่าลุงไม่ติดกาแฟนะ ดื่มมา 30 กว่าปียังไม่ติดกาแฟสักที ^_^

กาแฟที่ลุงแมวน้ำชอบก็คือกาแฟคั่วบดหรือว่ากาแฟสดนั่นเอง ไม่ค่อยอชดื่มกาแฟอินสแตนต์เท่าไรนัก กาแฟสดหรือว่ากาแฟที่ชงแล้วมีกากเหลือน่ะทำจากกาแฟอาราบิกา รสชาติหอมละมุน ส่วนกาแฟอินสแตนต์ทำจากกาแฟโรบัสตา ซึ่งรสชาติเป็นรอง

ปกติลุงแมวน้ำดื่มกาแฟดำเพราะว่าชอบรสชาติแท้ๆ ขมๆ ของกาแฟ แต่ก็มีบางครั้งที่เติมนั่นเติมนี่เข้าไป เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ สมัยก่อนตอนที่ลุงแมวน้ำเดินทางไปแสดงในแถบยุโรป ลุงแมวน้ำจะชอบแว่บไปซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนอกติดครีบกลับมาด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกกาแฟ ช็อกโกแลต และขนมอื่นๆ โดยเฉพาะกาแฟคั่วบด ในยุโรปจะมีกาแฟอบกลิ่นวางขายด้วย ส่วนใหญ่มักเป็นกาแฟอบกลิ่นวานิลา เมื่อชงแล้วจะได้กาแฟซึ่งมีกลิ่นวานิลาอ่อนๆเจืออยู่ หอม อร่อยมาก ลุงช้อบ ชอบ ^_^ นานๆทีก็จะเจอกาแฟกลิ่นส้ม ก็อร่อยดีเหมือนกัน

ตั้งแต่ที่ได้ลองลิ้มรสกาแฟวานิลา ลุงก็ติดใจ แต่หาซื้อยากจัง ต่อมาลุงแมวน้ำก็เลยลองคิดหาทางทำเอง ลองมาดูกาแฟสดสูตรลุงแมวน้ำกัน ดื่มกาแฟกันก่อนแล้วจากนั้นลุงแมวน้ำจะออกไปซื้อสินค้าในงานโอท็อป




มาดูกาแฟกันก่อน ลุงแมวน้ำชอบกินกาแฟหลากหลาย ตอนเดินทางไปต่างประเทศก็มักซื้อกาแฟจากประเทศต่างๆติดครีบกลับมา ซื้อมาหลายๆถุง ชงดื่มได้ทั้งปี บางทีก็ฝากเขาซื้อบ้าง แม้แต่ตอนที่อยู่ในเมืองไทยลุงก็ยังชอบชิมกาแฟหลากหลาย เวลาเดินทางไปที่ต่างๆหากเจอกาแฟก็จะซื้อกลับมา อย่างเช่นกาแฟชาวเขา กาแฟปักษ์ใต้ ฯลฯ

หากอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ไปไหน ลุงก็ดื่มกาแฟตุงฮูนี่แหละ กาแฟนี่ห้อนี้เก่าแก่ อายุของแบรนด์ก็ร้อยกว่าปีแล้ว ลุงดื่มตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ ^_^ กาแฟตุงฮูนี่ใช้เม็ดกาแฟอะราบิกาที่ปลูกบนดอยในเชียงราย กาแฟนำเข้าก็มีบ้างเหมือนกัน





เมื่อก่อนเวลาลุงชงกาแฟลุงก็ใช้เครื่องต้มกาแฟ ก็แบบทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ต่อมานานวันเข้าก็ขี้เกียจ ไหนจะต้องล้างหม้อต้มกาแฟ ไหนจะต้องคอยซื้อกระดาษกรอง กระดาษกรองนี่ก็แพงอยู่เหมือนกัน

อย่ากระนั้นเลย ลุงก็ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นรอสัก 5 วินาที คะเนให้อุณหภูมิน้ำในแก้วกาแฟลดลงจาก 100 องศาเซลเซียสเหลือ 94 องศา (เพราะว่าปกติกาแฟต้องชงที่น้ำอุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียสจะได้รสชาติดีที่สุด) แล้วตักกาแฟใส่ลงไปคนๆๆ

จากนั้นก็ปล่อยให้กาแฟเย็นตัวลง และกากกาแฟนอนก้น แล้วก็ดื่มทั้งยังงั้นเลย เหลือก้นถ้วยเอาไว้หน่อยเพราะว่าเป็นกากกาแฟ ลุงเอาง่ายแบบนี้เลย ^_^





เอาละ ทีนี้ก็มีถึงสูตรลับในการทำกาแฟกลิ่นวานิลา ลองลองมาหลายวิธี ตั้งแต่เอากาแฟมารมกลิ่นวานิลาในหม้อ เหมือนกับการอบควันเทียนนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้ผล จนในที่สุดก็ทดลองมาจนได้สองวิธี

วิธีแรกก็คือเอาวานิลาผง ที่ใช้ทำขนมนั่นแหละ เติมลงไปในกาแฟเล็กน้อย กับวิธีที่สอง ใช้กลิ่นวานิลาบัตเตอร์ ตามที่เห็นในรูป ใช้เพียงสองสามหยดต่อกาแฟหนึ่งแก้ว วิธีนี้ได้กาแฟกลิ่นวานิลาบัตเตอร์ รสชาติอร่อยถูกใจลุงมาก กลิ่นวานิลาบัตเตอร์นี้ก็หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป ขวดเล็กๆ ราคา 30 กว่าบาท ในภาพเป็นขวดใหญ่เพราะลุงใช้ทำขนมด้วย เลยซื้อขนาดใหญ่หน่อยมา




บางครั้งลุงก็อยากดื่มกาแฟเติมน้ำตาลบ้าง ก็นี่เลย น้ำตาลปี๊บหรือว่าน้ำตาลปึก แต่นี่ไม่ใช่น้ำตาลปึกธรรมดา เพราะว่าน้ำตาลปึกธรรมดาปกติทำจากน้ำตาลมะพร้าว เราเอาไว้ทำขนม แต่น้ำตาลปึกที่ลุงใช้นี้เป็นน้ำตาลปึกจากมะพร้าวน้ำหอม รสชาติหอมละมุน ลุงว่าอร่อยกว่าน้ำตาลปึกทั่วไป ใช้ใส่กาแฟก็ได้ ใช้ทำเบเกอรี่ก็ได้ โดยเฉพาะวาฟเฟิลมะพร้าว หากใช้น้ำตาลปึกธรรมดารสชาติก็แบบหนึ่ง แต่หากใช้น้ำตาลมะพร้าวน้ำหอม รสชาติก็อร่อยไปอีกแบบ หาได้ที่ไหนเดี๋ยวลุงบอกข้างล่าง

กาแฟสูตรลุงแมวน้ำที่ว่ามานี้ประหยัดมาก ไม่ต้องล้างหม้อกาแฟ ไม่ต้องใช้กระดาษกรอง ดื่มกาแฟวานนิลาหอมกรุ่นปนรสหวานของมะพร้าวน้ำหอม ชมสวนสวยยามเช้า เป็นความสุขในราคาประหยัด แค่นี้ก็วิเศษแล้ว จะเอาอะไรกันนักหนา



ลุงแมวน้ำเที่ยวงานโอท็อป

หลังจากดื่มกาแฟกันแล้ว ลุงแมวน้ำก็ไปเดินงานโอท็อป ก็เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย สายตาก็สอดส่ายหาสินค้าที่น่าสนใจหรือว่าสินค้าแปลกๆ แต่เป้าหมายหลักของลุงอยู่ที่พวกอาหารมากกว่า โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ ลุงชอบมาซื้อในงาน ซื้อแล้วก็ตุนเอาไว้กินหลายเดือนเลย การซื้อข้าวโดยตรงจากผู้ผลิตเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการอุดหนุนเกษตรกรโดยตรง

เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ หากซื้อข้าวถุงจากตามห้าง ไม่ว่าจะเป็นข้าวธรรมดาหรือข้าวอินทรีย์ ปกติข้าวถุงตามห้างจะเป็นข้าวที่ผลิตโดยโรงสีรายใหญ่ หากเป็นข้าวปกติคือข้าวนาเคมี ก็จะเป็นดังที่เราทราบกัน คือมีการรมควันด้วยสารเคมีเพื่อป้องกันมอด ส่วนข้าวอินทรีย์จากโรงสีใหญ่นั้นกระบวนการอย่างไรลุงก็ไม่แน่ใจ

แต่หากซื้อข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรโดยตรง ข้าวพวกนี้เป็นข้าวจากนาอินทรีย์ที่เกษตรกรปลูกไว้กินเองเป็นหลัก และเก็บไว้ที่ยุ้งฉางของตนเอง ส่วนน้อยที่นำออกขาย ซึ่งเกษตรกรปกติจะเก็บไว้ในรูปข้าวเปลือก เมื่อจะนำข้าวออกขายก็จะนำข้าวเปลือกไปสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวขนาดเล็กในหมู่บ้านนั่นเอง สีแล้วก็บรรจุถุงและนำออกขายเลย ด้วยขั้นตอนเช่นนี้ จึงทำให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการรมควันข้าวด้วยสารเคมี เนื่องจากไม่มีความจำเป็น อีกทั้งเกษตรกรก็กินข้าวเหล่านี้เองด้วย ดังนั้นลุงจึงมักมาซื้อข้าวจากในงานโอท็อป เพราะว่ามั่นใจได้มากกว่า

ภาพต่อไปนี้เป็นรายชื่อเกษตรกรผู้ผลิตและขายข้าวอินทรีย์หลายราย ลุงก็เลือกรายที่ส่งให้ด้วย คือหมายถึงว่านอกงานโอท็อปสามารถโทรไปสั่งและจัดส่งมาที่กรุงเทพฯได้ ลองดูกันเลยนะคร้าบ จากนั้นตอนท้ายเป็นรายชื่อสวนมะพร้าวน้ำหอมกับกาแฟปักษ์ใต้


รายนี้เป็นเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ในจังหวัดอุทัยธานี ลุงเลือกจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯจะได้ประหยัดค่าขนส่ง มีข้าวอินทรีย์หลายชนิด รวมทั้งข้าวไรซ์เบอรี่ด้วย ข้าวไรซ์เบอรีนี่ลุงชอบ เพราะว่าสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ^_^

นี่ก็ผู้เกษตรกรจากจังหวัดอุทัยธานี มีข้าวอินทรีย์หลายชนิด จัดส่งให้ด้วย



นี่เป็นเกษตรกรข้าวอินทรีย์ จากจังหวัดชัยนาท รายนี้มีแป้งไรซ์เบอรีขายด้วย ลุงซื้อเอามาทำขนม ทำเบเกอรี่ แป้งไรซ์เบอรีนี่หายาก เห็นแต่รายนี้แหละที่ขาย




มาทางด้านภาคอิสานบ้าง หากต้องการกินข้าวอินทรีย์ซื้อจากภาคกลางก็ได้ ประหยัดค่าขนส่ง ประหยัดเชื้อเพลิงขนส่ง ลดการใช้ทรัพยากร แต่หากอยากกินข้าวฮางหรือข้าวงอกแบบอิสานก็ต้องซื้อจากอิสาน รายนี้ผลิตและจำหน่ายข้าวฮางอินทรีย์ มีหลายชนิด


รายนี้ก็เป็นข้าวอิสาน มีจมูกข้าวอินทรีย์ขายด้วย จมูกข้าวอินทรีย์คือข้าวอินทรีย์ที่นำมากระเทาะเปลือก ได้เป็นข้าวกล้อง ข้าวกล้องนี้จะมีบางส่วนแตกหัก ปลายข้าวหักพวกนี้เอามาบดเป็นผง ทำเป็นจมูกข้าวอินทรีย์ ใช้ผสมอาหารเป็นอาหหารเสริมให้เด็กก็ดี ผู้ใหญ่กินก็ได้ อุดมด้วยไวตามิน แร่ธาตุ น้ำมันรำข้าว ออริซานอล ฯลฯ จมูกข้าวอินทรีย์บดผงใช้ทำขนม เบเกอรี่ จะได้เบเกอรี่แนวสุขภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าได้ด้วย หาเจ้าที่ทำเป็นผงขายได้ยาก ก็มีเจ้านี้แหละ




นี่เป็นสวนมะพร้าวน้ำผอมและเป็นผู้ผลิตน้ำตาลปึกจากมะพร้าวน้ำหอม แต่ลุงแมวน้ำขอเสริมหน่อย ว่าที่บอกว่าน้ำตาลมะพร้าวน้ำหอม 100% นั้น ไม่ค่อยตรงนัก เพราะปกติน้ำตาลปึกต้องผสมน้ำตาลทรายด้วย ไม่อย่างนั้นจะไม่จับตัวเป็นก้อน นี่เป็นเรื่องทางเทคนิค ผู้ผลิตเองตอนขายก็บอกว่าใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย 10% แต่ไหงฉลากบอกไม่ค่อยตรงข้อเท็จจริง ปรับเสียหน่อยให้ตรงก็จะดี





สุดท้ายนี้เป็นกาแฟท้องถิ่น เป็นกาแฟผลิตแบบโบราณของปักษ์ใต้ ต้นกาแฟก็เป็นกาแฟพื้นบ้าน คนท้องถิ่นก็ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นอะราบิกา เอามาคั่วแล้วผสมน้ำตาลคั่วต่อให้เกิดคาราเมลเคลือบเมล็ดกาแฟ จากนั้นเอาไปบดด้วยการใส่ครกตำ ไปงานโอท็อปทีลุงก็ไปอุดหนุนกาแฟท้องถิ่นแบบนี้ เพราะว่านอกจากรสชาติแล้วยังเหมือนได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเก่าแก่ด้วย


นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งจากงานโอท็อป ลุงแมวน้ำคงเล่าไม่หมด เน้นที่รายชื่อผู้ขายบางรายมากกว่ากว่า เผื่อว่าพวกเราสนใจก็โทรไปคุย ไปอุดหนุนกัน


No comments: