Monday, May 10, 2010

07/05/2010 * SET, DJI, CL

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 768.55 จุด ลดลง 28.31 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย KTB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 31 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ทางด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

วันก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมาแรง ทำให้รูปแบบทางเทคนิคแท่งเทียนเกิดเป็น big black candle อีกทั้งดัชนีดาวโจนส์ยังลดลงมาลึกถึงประมาณ 38.2% เมื่อวัดระหว่างท้องคลื่น 2 (สีน้ำตาล) กับยอดคลื่นที่ผ่านมา รวมดัชนียังหลุดจากแนวของกรอบล่าง standard error channal อีกทั้งยอดคลื่นที่ผ่านมาก็เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เรียกว่าดาวโดจิ (doji star) จากสัญญาณที่เกิดขึ้นประกอบกับสัญญาณเดิมอื่นๆที่เราเคยคุยกันไปแล้ว ทำให้ความน่าจะเป็นที่ยอดคลื่นที่ผ่านมาเป็นการจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) และแนวโน้มกลับทิศทางแล้วสูงขึ้น ดังภาพต่อไปนี้



ส่วนดัชนี SET ของไทยนั้น หลังจากที่วันก่อนลุงแมวน้ำวิเคราะห์เอาไว้ว่าคลื่น 3 (สีน้ำตาล) น่าจะจบและเกิดการกลับทิศของแนวโน้มแล้วนั้น หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ดีดกลับขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิม ซ้ำยังเกิดสัญญาณที่เรียกว่า island of reversal ซ้ำอีกหลังจากที่วันก่อนเกิดไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักที่ว่าแนวโน้มกลับทิศทางไปแล้วให้มากยิ่งขึ้น ตามภาพต่อไปนี้



หลายคนอาจพิจารณาในเรื่องต้นทุนของฝรั่ง กล่าวคือ พิจารณาเอาจากยอดซื้อขายสุทธิและวันที่ฝรั่งซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง แล้วเอามาคะเนว่าฝรั่งมีต้นทุนคร่าวๆอยู่แถวไหน นักลงทุนบางคนอาจมองว่าฝรั่งมีต้นทุนที่สูงเพราะเพิ่งเริ่มซื้อมาไม่นาน แล้วจะมาขายตอนนี้ได้อย่างไร แต่มุมมองของลุงแมวน้ำเชื่อในรูปแบบทางเทคนิคมากกว่า เพราะฝรั่งที่ซื้อขายโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยซอฟต์แวร์ก็มาก โดยเฉพาะกองทุน ซึ่งเมื่อไรรูปแบบทางเทคนิคเกิดสัญญาณขายก็ต้องขายไม่ว่าจะมีต้่นทุนเท่าไร ก็เหมือนกับที่ลุงแมวน้ำและผู้ที่เทรดด้วยระบบคนอื่นๆซึ่งเมื่อถึงเวลาขายก็ต้องขาย จะมามองเรื่องต้นทุนหรือเสียดายไม่ได้ เพราะว่าเสียดายย่อมดีกว่าเสียใจ กรณี DJI เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ดัชนีในระหว่างวันร่วงลงถึงราว 1,000 จุดนั่นส่วนหนึ่งก็เพราะเกิดจากซอฟต์แวร์สั่งขายทุกราคาเพราะเกิดสัญญาณขายนั่นเอง

น้ำมันดิบ (CL) ก็เกิดสัญญาณกลับทิศอยู่หลายประการอันทำให้น่าเื่ชื่อได้ว่าขณะนี้เราอาจจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว และกำลังอยู่ในคลื่น 4 ลองมาดูสัญญาณกลับทิศหรือที่เรียกว่า trend reversal pattern ของน้ำมันที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ตามภาพ





  1. มีความสอดคล้องของระดับ fibonacci
  2. ราคาและ RSI เกิด bearish convergence
  3. รูปแบบแท่งเทียนที่ยอดคลื่นเป็น doji star
  4. รูปแบบแท่งเทียนเกิด big black candle ปกติเกิดแท่งเทียนเป็นแท่งดำ 1 แท่งก็แย่แล้ว หากเกิด 3 แท่งดำติดกันเรียกว่า three black crows ซึ่งยิ่งเพิ่มน้ำหนักในการกลับทิศแนวโน้ม แต่ราคาน้ำมันดิบเกิด แท่งดำ 4 แท่งติดกัน
  5. ราคาหลุดกรอบล่างของช่องความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (standard error channel) ทั้งช่องที่อยู่ในกรอบเวลานาน 8 เดือน (ช่องสีน้ำเงิน) และทั้งช่องที่อยู่ในกรอบเวลาประมาณ 3 เดือน (ช่องสีดำ)
ส่วนที่ยังขัดแย้งอยู่ก็ได้แก่
  1. คลื่นย่อย ยังนับได้ไม่ชัดเจน
  2. ระดับราคายังไม่ได้ความสูงที่ควรจะจบคลื่น 3 หมายความว่าหากจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ไปแล้วราคาควรจะเกิน 98 ดอลลาร์ตามกฎของคลื่นที่ว่าคลื่น 3 ต้องไม่สั้นที่สุด หากจบคลื่น 3 แถวนี้แปลว่าคลื่น 3 สั้นกว่าคลื่น 1 ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้
ดังนั้นในเรื่องของน้ำมันดิบคงต้องดูกันต่อไปจึงจะได้ข้อสรุปที่จัดเจนกว่านี้

ในวันต่อไปลุงแมวน้ำจะนำเอาดัชนีของตลาดหุ้นต่างประเทศที่สำคัญมาทบทวนดูแนวโน้มกันอีกครั้งหนึ่ง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ถือหน่วยลงทุนเนื่องจากมีกองทุนหุ้นของไทยจำนวนไม่น้อยที่ลงทุนในหุ้นของประเทศต่างๆ แต่ในเมื่อตลาดหุ้นดาวโจนส์ Dow Jones ของสหรัฐอเมริกาออกอาการกลับทิศขึ้นมา แล้วตลาดอื่นๆจะเป็นอย่างไร

No comments: