Tuesday, February 23, 2010

22/02/2010 * Gold/dollar datio, Oil/dollar ratio

วันนี้ตลาดเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเปิดทำการแล้ว

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 705.8 จุด เพิ่มขึ้น 5.36 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ BEC, BH, ESSO, MAKRO ขณะนี้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 22 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำของไทย GF จึงเปิดสัญญาซื้อ ส่วนสินค้าเกษตรตัวอื่นๆในตลาดสหรัฐอเมริกานั้น วันนี้ข้าวโพด (C) เกิดสัญญาณซื้อ (ไม่มีในรายงาน) ข้าวสาลี (W)และถั่วเหลือง (S) ก็ใกล้เกิดสัญญาณซื้อ

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย แต่ดัชนีนิกเกอิ (NIX) ดาวโจนส์ (DJI) และ SET ของไทยใกล้เกิดสัญญาณซื้อแล้ว

เนื่องจากลุงแมวน้ำพอมีความสามารถในการคำนวณอยู่บ้าง วันนี้เราจะมาดูค่าอัตราส่วนระหว่างราคาทองคำต่อค่าเงินดอลลาร์ กับอัตราส่วนระหว่างราคาน้ำมันต่อค่าเงินดอลลาร์กัน

อัตราส่วนระหว่างราคาทองคำต่อค่าเงินดอลลาร์หรือว่า gold/dollar ratio นั้นคำนวณจากราคาของฟิวเจอร์สทองคำหารด้วยราคาของฟิวเจอร์สดัชนีดอลลาร์ สรอ (GC/DX)

อัตราส่วนระหว่างราคาน้ำมันต่อค่าเงินดอลลาร์หรือว่า oil/dollar ratio นั้นนั้นคำนวณจากราคาของฟิวเจอร์สน้ำมันดิบหารด้วยราคาของฟิวเจอร์สดัชนีดอลลาร์ สรอ (CL/DX)

อัตราส่วนทั้งสองนี้คำนวณได้ง่ายๆ แต่ก็ดูมีความหมายน่าสนใจไม่น้อย ลองดูภาพต่อไปนี้


จากภาพ กราฟรูปล่างเป็นราคาฟิวเจอรส์ทองคำ ส่วนกราฟรูปบนนั้นประกอบด้วยเส้นกราฟ 2 เส้น เส้นสีน้ำเงินคือ gold/dollar ratio ค่าอยู่ทางแกน y ด้านขวามือ

ส่วนอีกเส้นหนึ่ง คือเส้นสีแดง คือ oil/dollar ratio ค่าอยู่ทางแกน y ด้านซ้ายมือ

จากภาพ จะเห็นว่าค่าของอัตราส่วนก็นับคลื่นได้เหมือนกัน เส้นสีน้ำเงินน่าจะกำลังทำคลื่น 5 อยู่ แปลความหมายได้ว่า อัตราส่วนของราคาทองคำกับค่าเงินดอลลาร์ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว (คือใกล้ถึงยอดคลื่น 5) หากค่าเงินดอลลาร์แข็ง ราคาทองคำอาจร่วงได้

ส่วนเส้นสีแดง เมื่อลองนับคลื่นดู ขณะนี้เราอาจอยู่ในคลื่น 1 ของคลื่นชุดใหม่ หรืออาจยังอยู่ในคลื่น B ของคลื่นชุดเดิมก็ได้ แต่ไม่ว่าขณะนี้จะเป็นคลื่น B หรือ 1 ก็ตาม โอกาสขึ้นต่อก็ยังมี เพราะจากระดับ fibonacci เพิ่งมาได้เพียง 38.2% เท่านั้น แปลความหมายได้ว่า แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งแต่ราคาน้ำมันก็จะยิ่งแพงขึ้นตามค่าเงิน

ด้วยเหตุนี้ ในสายตาของลุงแมวน้ำ ในช่วงต่อไปนี้การลงทุนในน้ำมันดูน่าสนใจมากกว่าลงทุนในทองคำ เพราะราคาน้ำมันขึ้นตามค่าเงินดอลลาร์ได้ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งแต่ราคาน้ำมันก็ไม่ร่วง และถ้ามองในเชิงกว้างความน่าสนใจก็อาจรวมถึงกลุ่มพลังงานและยางพาราด้วย แต่ราคาทองคำดูเหมือนว่าจะขึ้นตามค่าเงินได้ยาก ความเสี่ยงจึงน่าจะมีมากกว่า


No comments: