Friday, February 5, 2010

04/02/2010 * DJI, GC


วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 702.52 จุด ลดลง 5.13 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ MAKRO ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 7 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ทองคำและน้ำมันลงหนักเนื่องจากผลของกัชนีดอลลาร์ สรอ ที่อยู่ในคลื่น 3

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย


ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา ขณะนี้น่าจะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว แต่ปัญหาก็คือ ขณะนี้ DJI จบคลื่น B แล้วหรือยัง กล่าวคือ ขณะนี้ DJI อยู่ในคลื่น B ใหญ่ ซึ่งภายในประกอบด้วยคลื่นย่อย 1-2-3 ซึ่งคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ที่จบไปนี้อาจเป็นคลื่นย่อยในคลื่น 1 ของคลื่น B หรือเป็นคลื่น 3 ที่ทำการจบคลื่น B เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ยังยากบอกได้ แต่สิ่งที่บอกได้อย่างหนึ่งก็คือ เมื่อจบคลื่น 3 สีน้ำตาลไปแล้ว ขณะนี้ไม่ว่าเราอยู่ในคลื่น 4 (คลื่นย่อย) หรือ คลื่น A ก็ตาม ยังมีโอกาสลงต่อได้อีก ซึ่งนั่นหมายความว่าดัชนีตลาดสำคัญอื่นทั่วโลกน่าจะมีทิศทางตามกันไปด้วย



เรื่องทองคำที่มีผู้ถามมาว่าซื้อเพิ่มเข้าไปอีก ควรทำอย่างไร ไม่ทราบว่าผู้ถามเล่นกองทุนหรือว่าฟิวเจอร์สทอง ตอนนี้มีโอกาสลงลึกมากยิ่งขึ้นเนื่องจากดัชนีดอลลาร์ สรอ ยังไ่ม่จบคลื่น 3 ประกอบกับวันนี้ฟิวเจอร์สทองคำ GC เกิดแท่งเทียนในรูปแบบ big black candle ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงยังมองอย่างเดิมว่าทองคำอาจลงไปถึง 950 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ไม่อาจฟันธงได้เพราะว่าลุงแมวน้ำไม่รู้อนาคต การใช้สัญญาณซื้อขายจึงเป็นการลดความเสี่ยงสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ที่ผู้ถามถามว่าทำอย่างไรดี แสดงว่าผู้ถามน่าจะไม่ได้ใช้การเทรดในระบบสัญญาณซื้อขาย ขอตอบว่า

- ถ้าเป็นกรณีฟิวเจอร์ส ควรปิดไปก่อน เมื่อศึกษาการเทรดด้วยระบบแล้วจึงค่อยเข้าไปเทรดใหม่ ทองคำแกว่งแรงมาก อันตราย หากไม่มีระบบโอกาสเอาชนะตลาดได้แทบไม่มีเลย

- ถ้าเป็นกรณีกองทุนหรือทองคำแท่ง ก็ต้องดูนโยบายการลงทุน ว่าจะถือนานเพียงใด ถ้าตั้งใจเก็บนานเป็นหลายๆปีก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนเป็นรอบๆ ก็ควรออกมาตั้งหลักก่อน เพราะว่าลุงแมวน้ำนับคลื่นของทองคำเอาไว้ว่าขณะนี้เป็นคลื่น 4 ตามหลักแล้วควรยังเหลือคลื่น 5 ให้ทำกำไรในขาขึ้นได้อีก แต่ก็ต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วย เผื่อว่าลุงแมวน้ำนับผิด หรือถึงแม้นับถูกแต่หากเกิด failed wave 5 คลื่น 5 อาจจบเร็ว ดังนั้นการถอยออกมาก่อนจึงเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุน และควรหันมาศึกษาการลงทุนอย่างเป็นระบบเช่นกัน

No comments: