Thursday, August 13, 2015

หยวนอ่อนถล่มตลาดโลก




ปกติแล้วค่าเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ ค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากธนาคารกลางของจีนอิงค่าเงินหยวนกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา จีนปรับลดค่าเงินอ้างอิงลงไปถึง -3.5% ทำให้ตลาดหุ้น ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกปั่นป่วน


ตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกแดงยกแผงเมื่อจีนลดค่าเงินหยวนเป็นวันที่สอง แม้แต่ตลาดหุ้นจีนเองก็ยังลง


โพสต์ที่แล้วลุงแมวน้ำบอกว่าความเสี่ยงอยู่ที่จีน ผ่านไปได้วันเดียวก็เป็นเรื่องเลย >.<

สองวันที่ผ่านมานี้ทางธนาคารกลางของจีนได้ลดค่าเงินหยวนติดต่อกันถึงสองวัน หลายคนอาจงงว่าลดแล้วทำไม ผลกระทบจะใหญ่โตเพียงใด ก็ในเมื่อเงินตราสกุลอื่นก็มีขึ้นมีลงอยู่แล้ว วันนี้เรามาคุยให้เข้าใจที่มาที่ไปกันแบบง่ายๆ แบบแมวน้ำๆ จะได้ไม่ตกใจจนเกินควร

ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าเงินหยวนของจีนนั้นไม่ได้ขึ้นลงตามกลไกตลาดในระบบทุนนิยมตลาดเสรี แต่ว่าเงินหยวนนั้นผูกกับเงินดอลลาร์ สรอ แม้ไม่ถึงกับตรึงกับเงินดอลลาร์ สรอ อย่างแนบแน่นแบบเอาเชือกมัดไว้ติดกัน แต่เป็นการตรึงกันแบบหลวมๆเหมือนเอาเชือกผูกโยงกันไว้ คือพอขยับแกว่งไปมาได้บ้าง

วิธีการกำหนดค่าเงินหยวน ในแต่ละวันก็คือ ตอน 9.15 น ตามเวลาท้องถิ่นจีน ธนาคารกลางจะประกาศอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงออกมาค่าหนึ่ง และภายในวันนั้นก็ให้ซื้อขายกันในกรอบขึ้นลงไม่เกิน 2% ของราคาอ้างอิง ราคาอ้างอิงนั้นมาจากไหน ธนาคารกลางของจีนอิงกับเงินดอลลาร์ สรอ นั่นเอง  วันถัดไปก็ประกาศราคาอ้างอิงใหม่ ทำเช่นนี้ไปทุกวัน โดยอัตราแลกเปลี่ยนหยวน-ดอลลาร์สรอ ช่วงหลังนี้อยู่ที่ประมาณ 6.1 หยวน/ดอลลาร์ สรอ ไม่หนีจากนี้ไปเท่าไรนัก

เอาละ พักเรื่องเงินหยวนไว้ก่อน เรามาดูเหตุการณ์ประกอบ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้กัน

เหตุการณ์แรก คือการที่จีนพยายามขอเข้าไปมีบทบาท มีสิทธิ์มีเสียง ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ให้มากขึ้น แต่ก็ถูกกันท่า จีนก็ไม่ยอมแพ้ พยายามผลักดันให้ไอเอ็มเอฟรับเงินหยวนเข้าไปอยู่ในตะกร้าเงินทุนสำรองของไอเอ็มเอฟ ที่เรียกว่า เอสดีอาร์ (SDR, Special Drawing Rights) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 4 สกุล คือ ดอลลาร์ สรอ ปอนด์ เยน ยูโร ซึ่งปกติไอเอ็มเอฟจะทบทวนตะกร้าสกุลเงินนี้ทุก 5 ปี ครั้งต่อไปคือปี 2016 คือในปีหน้า

การเข้าไปอยู่ในตะกร้าเงินของไอเอ็มเอฟนั้นดีอย่างไร ที่จริงตะกร้าเงินนี้ไม่ได้มีบทบาทในโลกการเงินนัก แต่ว่่านี่คือศักดิ์ศรีและการยอมรับในระดับนานาชาติ จีนใช้การเข้าเป็นสกุลในตะกร้าเงิน SDR เป็นย่างก้าวทางยุทธ์ศาสตร์เพื่อทำให้เงินหยวนเป็นเงินตราสกุลหลักของโลกต่อไป

ทีนี้ป้าคริสทีน ลาการ์ด แห่งไอเอ็มเอฟก็บอกว่าจีนยังไม่ได้ปล่อยเงินหยวนให้เคลื่อนไหวเสรีตามกลไกตลาด การตรึงเงินหยวนกับดอลลาร์ สรอ แบบนี้ยังโกอินเตอร์ไม่ได้หรอก คงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะมาอยู่ในตะกร้าเงินของไอเอ็มเอฟ

เหตุการณ์ที่สอง ก็คือยอดส่งออกของจีนหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งออกของจีนเดือนกรกฎาคม 2015 เทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2014 ลดลง -8% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจทีเดียว และมีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อว่าจีดีพีของจีนตอนนี้เติบโต 7% ต่อปี แต่คาดว่าน่าจะต่ำกว่านั้นเพียงแต่จีนไม่ยอมบอกออกมา

ย้อนมาคุยเรื่องเงินหยวนต่อ เมื่อสองวันก่อน ธนาคารกลางของจีนก็ประกาศว่าการที่เงินหยวนผูกกับดอลลาร์ สรอ นั้น เมื่อดอลลาร์ สรอ แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินหยวนพลอยแข็งค่าตามไปด้วยเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ คิดไปคิดมาแล้วเงินหยวนแข็งค่ามากกว่าความเป็นจริงไปโข ดังนั้นขอปรับลดราคากลางเป็นพิเศษสักครั้งเพื่อให้ค่าเงินหยวนใกล้เคียงความจริง และต่อจากนี้ไปราคาอ้างอิงของเงินหยวนจะอิงกับดอลลาร์ สรอ น้อยลง แต่จะขึ้นอยู่กับอุปสงค์อุปทานที่แท้จริงของเงินหยวนในแต่ละวันมาพิจารณาด้วย

ปรากฏว่าธนาคารกลางของจีนลดค่าเงินหยวนลงอย่างฮวบฮาบ 2 วันติดกัน วันจันทร์ที่ผ่านมา เงินหยวนอยู่ที่ 6.1162 หยวน/ดอลลาร์ มาวันพุธเป็น 6.3306 หยวน/ดอลลาร์ เท่ากับในสองวันนี้ (อังคาร พุธ) ราคาอ้างอิงเงินหยวนลดลง -3.5% ก็คือลดค่าเงินหยวนลง -3.5% นั่นเอง

ทีนี้ตลาดก็แตกตื่นละสิ เพราะไม่รู้ว่าวันนี้ (วันพฤหัส) จะเกิดอะไรขึ้น จีนละลดค่าเงินหยวนลงอีกก๊อกหนึ่งไหม จะลดอีกกี่วันจึงจะจบ


วิเคราะห์ 


การที่จีนลดค่าเงินหยวนในช่วงนี้ถือว่าเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะเท่ากับจีนบอกไอเอ็มเอฟว่านี่ผ่อนคลายการคลื่อนไหวของเงินหยวนให้เสรีขึ้นแล้วนะ ดังนั้นอย่าลืมรับหยวนเข้าตะกร้าเงินด้วย จีนเร่งในเรื่องนี้เนื่องจากหากปี 2016 ยังเข้าไม่ได้ต้องรอไปอีก 5 ปี ไอเอ็มเอฟก็ชมเชย แต่ยังไม่รู้ว่าจะรับเข้าไหม

นอกจากนี้ เมื่อเงินหยวนอ่อนค่าก็ช่วยการส่งออกของจีนด้วย เพราะว่าตอนนี้ส่งออกกำลังย่ำแย่

ผลจากการลดค่าเงินหยวนทำให้ตลาดทั่วโลกแตกตื่น ต่างคนต่างก็คิดกันไปต่างๆนานา เช่น

อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ก็คิดว่าเงินหยวนอ่อน กำลังซื้อคงลดลง การนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์จากอินโดนีเซียกับออสเตรเลียคงลดลง ตลาดหุ้นอินโดก็ร่วง มาเลเซีย ไต้หวัน ที่ค่าขายกับจีนมาก ตลาดหุ้นมาเลเซีย ไต้หวันก็ร่วง

ญี่ปุ่นกับเกาหลีไต้ก็ตกใจเพราะเท่ากับว่าจีนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สินค้าส่งออกของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ คงเจอศึกหนัก ตลาดหุ้นสองตลาดนี้ก็ร่วง

เยอรมนี ฝรั่งเศส ขายรถยนต์ สินค้าหรู ให้จีนมากมาย เมื่อเงินหยวนอ่อน กำลังซื้อน่าจะลดลง ตลาดหุ้นเยอรมนี ฝรั่งเศส ก็ร่วง

สำหรับไทย ก็กังวลกันว่าจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทย (ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบ) ปีนี้การส่งออกไปจีนลดลงมาก หากเงินหยวนอ่อน กำลังซื้อย่อมลด จีนอาจหันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นที่ถูกกว่า เช่น เวียดนาม การส่งออกของไทยที่แย่ลงอยู่อาจแย่หนักยิ่งขึ้น หุ้น AOT ก็ร่วงไปแล้วเพราะตกใจว่านักท่องเที่ยวจีนอาจลดลง


ตอนนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ มองอะไรไม่ค่อยเห็น ลุงแมวน้ำว่าที่คิดกันตอนนี้ก็กังวลกันไปต่างๆนานา รอดูสถานการณ์กันสักพักก่อนดีกว่า อะไรๆอาจไม่เลวร้ายอย่างที่กังวลกัน แต่แน่นอน ต่อไปเงินหยวนจะผันผวนมากขึ้น รวมทั้งในระยะกลางหยวนยังมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก






และ ข่าวดีนิดหน่อย เมื่อคืนตลาดหุ้นอเมริกาไหลลงลึก แต่มีแรงรับ เกิดเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เรียกว่าค้อน (hammer) เป็นสัญญาณกลับทิศเป็นขาขึ้นประการหนึ่ง แสดงว่าตลาดหุ้นอเมริกามีแรงซื้อ ไม่ยอมลง รูปแบบทางเทคนิคยังไม่เสียหาย ลุงยังมองเช่นเดิมว่าตลาดหุ้นอเมริกากำลังเดินหน้าทดสอบแนวต้านใหญ่และมีโอกาสผ่านสูง ซึ่งจะเกิดโมเมนตัมเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยด้วย และหากเป็นไปตามนี้ สถานการณ์ในระยะสั้นคงยังไม่เลวร้ายเพราะได้อานิสงส์จากตลาดหุ้นอเมริกามาช่วย

No comments: