Tuesday, April 28, 2009

27/04/2009 *

วันนี้ SET ขึ้นต่ออีก 0.92 จุด แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่

ในกลุ่ม SET50 วันนี้โปรแกรมของลุงแมวน้ำซื้อ SCB, TUF รวมแล้วขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 43 ตัว เพิ่มจากเมื่อวาน 2 ตัว จะเห็นว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน หุ้นไทยขึ้นมาหลายวันแล้ว หลายๆคนคิดว่าถึงเวลาจะลงได้แล้ว แต่ก็ไม่ลงเสียที แม้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในโลกจะแดง ตลาดหุ้นไทยก็ยังขึ้นต่อได้ เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ว่าการเทรดหุ้นหรืออนุพันธ์โดยหาศัยการจับจังหวะนั้นไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน การเล่นโดยอาศัยการกะเก็งอยู่เสมอจะทำให้นักลงทุนถูกความโลภและความกลัวเข้าครอบงำ ในที่สุดก็ขาดทุน

การเล่นตามสัญญาณจึงเป็นทางเลือกที่ดีว่า เล่นโดยไม่ใช้อารมณ์ ซื้อขายตามสัญญาณ ในระยะยาวแล้วจะทำให้มีกำไรได้ แม้มีกำไรแต่ก็ไม่ควรโลภ พยายามอย่าคิดลงทุนในตลาดเพื่อหวังรวย ควรหวังแค่เพื่อเสริมรายได้หรือหาค่าขนมก็พอ เพราะจะทำให้เราไม่โลภ ความโลภจะนำไปสู่การทรดเกินตัว และนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด

ระยะนี้ข่าวเรื่องไข้หวัดหมู หรือที่จริงควรจะเรียกให้ถูกก็คือ "ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก" ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ในคนสายพันธุ์ใหม่ กำลังเป็นที่กล่าวถึง ลุงแมวน้ำจึงอยากจะพูดถึงเรื่องนี้บ้าง

ไข้หวัดเม็กซิโกนี้ที่จริงเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในคนนั่นเอง เป็นไข้หวัดใหญ่ไทป์เอ (human influenza type A) แต่เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ไป จึงกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรง

จากการตรวจในห้องปฏิบัติการทางด้านพันธุกรรม พบว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้มีชิ้นส่วนทางพันธุกรรมบางส่วนเหมือนในไข้หวัดหมูและไข้หวัดนก ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้มีการกลายพันธุ์โดยเกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูและไข้หวัดนก แต่ส่วนจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรนั้นยังไม่มีใครทราบ

ทางด้านความรุนแรงของโรค ไข้หวัดนกมีอัตราการตายสูงถึงประมาณ 60% หมายถึงว่าผู้ป่วยไข้หวัดนก 100 คนจะตาย 60 คน ส่วนไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลนั้นมีอัตราการตายประมาณ 3% และไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนี้เท่าที่ประเมินในขณะนี้พบว่ามีอัตราตาย 6% จะเห็นว่าความรุนแรงยังน้อยกว่าไข้หวัดนก แต่สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

แต่ความน่ากลัวก็คือ แม้ไข้หวัดนกจะมีอัตราการตายสูง แต่การติดต่อนั้นค่อนข้างยาก จำนวนผู้ตายเลยไม่มาก เพราะว่าระบาดได้ยาก แต่ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกนี้แม้มีอัตราตายต่ำกว่ากันมาก แต่การติดต่อค่อนข้างง่าย ดังนั้นจำนวนผู้เสียชีวิตจึงเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปแล้วธรรมชาติจะสร้างความสมดุลให้ โรคที่มีอัตราการตายสูงมักระบาดได้ยากกว่า

ในด้านไ้ข้หวัดนกนั้น ขณะนี้องค์การอนามัยโลกจัดการแพร่ระบาดอยู่ในระดับ 3 ระดับของการแพร่ระบาดเป็นดังนี้

ระดับที่ 1 พบการระบาดของเชื้อไวรัสในสัตว์
ระดับที่ 2 พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสติดต่อจากสัตว์สู่สัตว์ และมีความเสี่ยงติดเชื้อในคน
ระดับที่ 3 เริ่มพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสติดต่อจากสัตว์สู่คนแต่มีจำนวนน้อย และอยู่ในพื้นที่จำกัด
ระดับที่ 4 พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสติดต่อจากคนสู่คน โดยระบาดในระดับเมือง หรือจังหวัด
ระดับที่ 5 พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสติดต่อจากคนสู่คนในกลุ่มกว้างมากขึ้น หรือในระดับประเทศ และ
ระดับที่ 6 พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสติดต่อจากคนสู่คนในวงกว้าง หรือในระดับภูมิภาค

ส่วนไข้หวัดเม็กซิกันตอนนี้อยู่ที่ระดับ 4 แล้ว และโดยทั่วไป ขั้นที่สำคัญมากคือการก้าวจากระดับ 3 ไประดับ 4 ซึ่งจะก้าวข้ามผ่านได้ยาก แต่เมื่อผ่านไปได้แล้วมักหยุดไม่อยู่ กล่าวคือ การระบาดมักดำเนินต่อไปจนถึงระดับ 6 นั่นหมายความว่าโอกาสที่ไข้หวัดใหญ่เม็กซิกันจะระบาดไปทั่วโลกมีอยู่สูง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง สถานการณ์ด้านการลงทุนก็จะเป็นเช่นเดียวกับตอนที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส นั่นคือ ตลาดหุ้น ตลาดเงิน จะซบเซา ซึ่งรวมถึงน้ำมันและทองคำด้วย ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงอยากเตือนให้ระมัดระวังเรื่องการลงทุนเอาไว้ รักษาวินัยด้านการลงทุน เทรดตามสัญญาณและอย่าเทรดเกินตัว อย่าประมาทเป็นอันขาด ช่วงนี้หลายๆคนอาจกำลังคิดเพิ่มเงินลงในพอร์ตเพราะเห็นว่าหุ้นกำลังขึ้น แม้ลุงแมวน้ำเองก็วิเคราะห์ว่าตลาดกำลังอยู่ใน wave3 บ้าง wave 5 บ้าง อันเป็นคลื่นขาขึ้นซึ่งขึ้นแรงก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่าโลกนี้ไม่มีความแน่นอน ดังนั้นการลงทุนอย่างคงเส้นคงว่า ไม่โลภ จึงเป็นเรื่องสำคัญ

No comments: