Wednesday, August 3, 2011

02/08/2011 * W, C

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,139.61 จุด ลดลง 4.53 จุด ต่างชาติยังซื้อสุทธิ

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย BAY, THAI และมีสัญญาณซื้อ IVL ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 46 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อข้าวโพด (C) มีสัญญาณขายฟิวเจอร์สของ BANPU

กองทุนอีทีเอฟ EEM ที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่เกิดสัญญาณขาย

ตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดหุ้นปิดแเดงจนหาสีเขียวแทบไม่พบ ปรับตัวลดลงทั้งสามภูมิภาค ฝั่งเอเชียส่วนใหญ่ติดลบไปประมาณ 1% ส่วนตลาดยุโรปนั้นปรับตัวลดลงตั้งแต่ 1% ถึง 4% ด้วยความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจของกรีซ อิตาลีและสเปน ที่อาจลุกลาม ส่วนฝั่งอเมริกานั้น ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) ปรับตัวลงไปประมาณ 2%

ช่วงก่อนหน้านี้ดัชนีดาวโจนส์รวมทั้งตลาดหุ้นอื่นๆปรับตัวลดลงเนื่องจากกังวลว่าสภาของสหรัฐอเมริกาอาจผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้ไม่ทันเนื่องจากฝ่ายการเมืองคุยกันยังไม่ลงตัว แต่ว่าเมื่อกฎหมายผ่านสภาได้แล้ว ความกังวลกลับยังไม่หมดไป โลกกลับกังวลว่าการก่อหนี้เพิ่มของสหรัฐอเมริกายิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งการตัดลดงบประมาณภาครัฐลงจะทำให้ไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นเป็นเรื่องของจิตวิทยาหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเรื่องของอารมณ์ การคาดการณ์ตลาดเป็นรายวันให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

วันนี้ดัชนีหลายตัวเกิดสัญญาณขาย น้ำมันดิบปรับตัวลดลง ทองคำทำสถิติใหม่อีก แต่ลองสังเกตดูในรายละเอียดจะพบว่าดัชนีกลุ่มสินค้าเกษตร (DJUBSAG) ปรับตัวขึ้นมา 2.36% แรงกว่าทองคำเสียอีก เนื่องจากราคาข้าวโพด ข้าวสาลี ปรับตัวขึ้นมาก

กราฟราคาข้าวสาลี (W)



กราฟราคาข้าวโพด (C)





Tuesday, August 2, 2011

01/08/2011 * ตลาดโลกยังไม่พ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ W1DOW, Germany, Spain, Greece

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,144.14 จุด เพิ่มขึ้น 10.61 จุด ต่างชาติยังซื้อสุทธิ

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 48 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปิดเขียว ต่อมาตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดบวกไปกว่า 1% หลังจากนั้นก็ลงมาติดลบหนักตั้งแต่ 1% - 4% แล้วแต่ตลาดหุ้นของแต่ละประเทศ ส่วนตลาดสหรัฐอเมริกาก็ผันผวน ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) เปิดตลาดบวกไปประมาณ 100 จุด จากนั้นก็ดิ่งลงไปติดลบราว -100 จุด จากนั้นมาปิดตลาดที่ -10 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนีเกิดสัญญาณขาย ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงเกิดสัญญาณซื้อ

กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มเกษตรโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มเล็กน้อย ส่วนกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง



ตลาดโลกยังไม่พ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ


ลุงแมวน้ำเคยเกริ่นเอาไว้ว่าเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แม้เวลาผ่านมาระยะหนึ่งแล้วก็ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน ยังคงไม่พ้นจากช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

ลุงแมวน้ำประเมินสถานการณ์ตามปัจจัยทางเทคนิค ขณะนีั้ให้น้ำหนักไปในทางลบ กล่าวคือ มองว่าตลาดทุนโลกอาจกำลังเข้าสู่ขาลงที่ยาวนาน

ลุงแมวน้ำมีสมมติฐานอยู่ว่าขณะนี้ตลาดหุ้นโลกกำลังอยู่ในคลื่น B เมื่อไรที่จบคลื่น B ก็จะเข้าสู่คลื่น C อันเป็นระดับคลื่นใหญ่ ซึ่งหมายความว่าจะเป็นขาลงที่อาจกินเวลายาวนานหลายปี เดิมทีก็ประเมินเอาไว้ว่าหากอ้างอิงกับดัชนีดาวโจนส์ คลื่น B นี้น่าจะจบที่ดัชนี DJI ประมาณ 14,000 จุดกว่าๆ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์หลายๆอย่างขึ้นทำให้ดัชนีไปต่อไม่ได้ ยิ่งนานวัน ดัชนีก็เหมือนจะมีสัญญาณกลับทิศแนวโน้มหรือ trend reversal signal มากขึ้น นั่นหมายถึงว่าน้ำหนักของการกลับทิศเป็นแนวโน้มขาลงเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ดูดัชนีที่เป็นตัวแทนตลาดหุ้นทั้งโลก W1DOW, Dow Jones Global Index ขณะนี้ยังไม่ผ่านระดับ fibonacci 78.6% และยังเกิดยอดคลื่นที่ต่ำลง (lowering peak) อันเป็นรูปแบบของแนวโน้มขาลง แต่ยังไม่ชัดเจนนัก ดังภาพต่อไปนี้




ทางด้านยุโรป ดัชนีตลาดหุ้นตลาดหุ้นกรีซ (GD.AT) น่าจะอยู่ในคลื่น C ซึ่งคลื่น C นี้ดำเนินมาราวสองปีแล้ว คงยังไม่จบในเร็วๆนี้  ดังภาพต่อไปนี



ทางด้านดัชนี IBEX 30 ของตลาดหุ้นสเปน แม้ว่าเศรษฐกิจของสเปนยังไม่ถึงกับต้องผิดนัดชำระหนี้หรือต้องของกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แต่หากพิจารณาจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะพบว่าสเปนเข้าสู่คลื่น C ของเศรษฐกิจไปแล้ว และหากเป็นเช่นนั้นจริง อนาคตของสเปนคงจะแย่ลง กว่าจะจบคลื่น C ซึ่งคงยังอีกนาน ดังภาพต่อไปนี้



ทีนี้มาดูดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีอันเป็นประเทศเสาหลักของกลุ่มสหภาพยุโรปดูบ้าง ดังภาพต่อไปนี้


ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีมีรูปร่างคล้ายกับ W1DOW นั่นคือ เหมือนกับจบคลื่น B และกำลังเข้าคลื่น C และหากนำสถานการณ์ของประเทศที่เศรษฐกิจอ่อนแอในกลุ่มสหภาพยุโรป (เช่น กรีซ สเปน อิตาลี ฯลฯ) ที่อยู่ในคลื่น C แล้วมาประกอบ ตลาดเหล่านั้นน่าจะเป็นตัวฉุดให้เยอรมนีเข้าสู่คลื่น C ไปด้วย

จากเหตุผลทางเทคนิคดังกล่าว ดังนั้นขณะนี้ลุงแมวน้ำจึงประเมินว่าโอกาสที่ขณะนี้เศรษฐกิจโลกอยู่ในคลื่น C แล้วมีมากกว่าที่ว่าโลกยังไม่จบคลื่น B