Thursday, November 1, 2012
01/11/2012 * ตลาดรีบาวด์แต่ยังไม่มีทิศทางชัด
วันนี้เป็นวันต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นสบาย สายลมเย็นแบบฤดูหนาวโชยมาอีกแล้ว ทั้งๆที่เมื่อวานฟ้าครึ้ม ฝนกตก อากาศสองวันต่างกันเป็นหนังคนละม้วนเลย
ลุงแมวน้ำลองอัปเดตในเว็บบล็อกดู เท่าที่ลองอัปเดตในเฟซบุ๊กดูเหมือนว่าจะเห็นภาพไม่ถนัดเท่าไร แต่ดูในเว็บบล็อกนี้เห็นถนัดตาดี
ลุงแมวน้ำปรับปรุงภาพเพิ่มขึ้นมาอีก มีเรื่องตราสารหนี้เข้ามาด้วย นั่นคือ อัปเดตอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยกับอเมริกัน อายุ 10 ปี (10 year government bond yield) เพิ่มมาให้ด้วย คราวนี้จะได้ครบครัน ทั้งหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยน และพันธบัตร อีกทั้งดูด้วยภาพ เข้าใจง่ายดีด้วย
เมื่อวาน วันสิ้้นเดือน เงินเดือนออกคงเฮฮากัน ตลาดหุ้นทั่วโลกในภาพรวมมีทั้งขึ้นและลง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังผันผวนและไม่ไปในทิศทางเดียวกัน คือยังเห็นทิศทางไม่ชัดนั่นเอง ตลาดหุ้นฮ่องกงกับญี่ปุ่นปรับตัวลง ฮ่องกงนี่แทรกแซงค่าเงินอย่างหนัก สองสัปดาห์แทรกไป 6 รอบแล้ว ส่วนญี่ปุ่นเองก็ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดโดยผ่านระบบสินเชื่อธนาคารเมื่อต้นสัปดาห์ ครั้งนี้อัดเข้าไป 11 ล้านล้านเยน เงินเยอะจนลุงแมวน้ำกดเครื่องคิดเลขไม่ถูก ก็ประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง คราวนี้หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นจะมหาศาลยิ่งขึ้นไปอีก และนอกจากนี้ผลจากการอัดฉีดสภาพคล่องน่าจะส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลง แต่จะอ่อนค่าลงได้มากขนาดไหนและกินเวลายาวนานขนาดไหน คงยังไม่มีใครตอบได้ รวมทั้งน่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียด้วย
ตลาดหุ้นยุโรปเขียวสวยในช่วงต้น แต่สุดท้ายก็ปิดแดง สหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน ตลาหดหุ้นอเมริกาหยุดหนีพายุมาสองวัน เมื่อเปิดมาก็เขียวสวย สุดท้ายก็ปิดอ่อน
ด้านค่าเงิน เงินดอลลาร์ สรอ สองสามวันนี้แม้จะปรับตัวในกรอบแคบแต่ก็แกว่งขึ้นลงแบบดูทิศทางไม่ออก แต่รวมแล้วปรับตัวไม่มาก อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดพันธบัตรอัตราผลตอบแทนลดลงหน่อย เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นนิดเดียว
ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ สรอ นิ่งๆ แต่เมื่อวานราคาทองคำปรับตัวขึ้น โลหะเงินขึ้นแรง สินค้าเกษตรก็ขึ้นโดยเฉพาะราคาข้าวโพดขึ้นแรงหน่อย ส่วนน้ำมันดิบ wti ขึ้น แต่น้ำมันดิบเบรนต์ลง ทิศทางราคาน้ำมันตอนนี้ดูยาก หากมองในระดับคลื่นใหญ่ยังเป็นคลื่นขาขึ้น แต่ในระยะสั้นๆไม่มีทิศทาง แกว่งไปมาอยู่แถวนี้
ตลาดหุ้นไทย ตลอดทั้งเดือนตุลาคม ฝรั่งขายสุทธิ 18,000 ล้านบาท เมื่อวานก็ขายอีกแม้ว่าตลาดหุ้นจะขึ้น แตดูเหมือนว่าเงินเหล่านี้จะยังไม่ได้ออกไปไหน ยังอยู่ในบ้านเรานั่นเอง
Tuesday, October 30, 2012
30/10/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (22/10/2012 - 26/10/2012) * ร่วงทุกกลุ่ม
วันนี้เรามาอัปเดตตลาดในรอบสัปดาห์กันครับ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดทุนโดยรวมปรับตัวลงทุกภูมิภาค สาเหตุน่าจะมาจากผลประกอบการไตรมาสสามของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ยอยประกาศออกมาต่อจากสัปดาห์ก่อนก็ไม่ประทับใจเช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดจึงลง แม้ว่าจะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีของอเมริกาที่ดีขึ้นกว่าที่คาดเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
ส่วนทางด้านยุโรปผลการประชุมสุดยอดผู้นำของสหภาพยุโรปไม่มีอะไรคืบหน้า อีกทั้งรัฐบาลท้องถิ่นของสเปนยังถูกลดอันดับเครดิต สถานการณ์ทางฝั่งยุโรปจึงยังไม่มีอะไรดีขึ้นนัก จะมีข่าวดีบ้างก็กลุ่มทรอยก้าขยายเวลาการปรับปรุงการคลังของกรีซออกไปอีกสองปี ทำให้กรีซพอมีเวลาหายใจนานขึ้นอีกหน่อย
สรุปแล้วภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงประมาณ -1.7% โดยเฉลี่ย ตลาดหุ้นเอเชียไม่แน่นอน มีทั้งที่ปรับตัวลงและปรับตัวขึ้น ที่ปรับตัวลงมักลงแรง เช่น ตลาดหุ้นจีน -3.6% ไต้หวัน -3.7% ออสเตรเลีย -2.1%
ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้น SETi ปรับตัวลง -2% แต่ S50 หรือว่าฟิวเจอร์สของ SET50 ลงแรงกว่า คือลงไปถึง -2.8% ก็ถือว่าตลาดไทยลงแรงกว่าตลาดโลกโดยเฉลี่ยอยู่บ้าง ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิตลอดทั้งเดือน คิดตั้งแต่ต้นเดือนก็หมื่นกว่าล้านบาท
ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมก็ปรับตัวลงเช่นกัน ทองคำลงนิดหน่อย -0.7% โลหะเงินลง -0.1% น้ำมันดิบ wti ลงแรง -4.6% ในขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ลงเพียง -0.5% สินค้าเกษตรลงต่ออีก -1.4% โดยเฉพาะพืชพลังงานลงแรงตามน้ำมันดิบ ข้าวโพด -3.1% น้ำตาล -4.4%
ด้านค่าเงิน สัปดาห์ที่แล้วเงินอัตราแลกเปลี่ยนไม่หวือหวา ปรับตัวในกรอบแคบ ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้น ดัชนีดอลลาร์ สรอ usd index +0.6% เงินสกุลยุโรปอ่อนตัว เงินเยนอ่อนตัว เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า ส่วนเงินบาทอ่อนค่า -0.13%
ด้านตลาดตราสารหนี้ สัปดาห์ที่แล้วก็ไม่หวือหวาเช่นกัน เส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยมีทั้งปรับตัวขึ้นและปรับตัวลง โดยพันธบัตรอายุ 18 ปีหรือต่ำกว่านั้นอัตราผลตอบแทนปรับตัวลงเล็กน้อยกับทรงตัว ส่วนพันธบัตรที่อายุมากกว่า 18 ปีมีอัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 10 ปีคงตัว ไม่ขึ้นไม่ลง ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันอายุคงเหลือ 10 ปีปรับตัวลง 2 จุดเบสิส ลงนิดเดียว
ตอนนี้สถานการณ์คงทรงๆ ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบไปก่อน เพราะทุกอย่างกำลังรีรอดูผลการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนถัดไป ต่อจากนั้นอีกไม่กี่วันก็คงเป็นการประกาศตัวผู้นำใหม่ของจีน หลังจากนั้นตลาดคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองข่าว
สถานการณ์ล่าสุด จนถึงวันที่ 29/10/2012 ซูเปอร์พายุเฮอริเคนหรือที่เรียกกันว่า แฟรงเกนสตอร์ม (Frankenstorm) ซึ่งเพี้ยนมาจากผีดิบแฟรงเกนสไตน์ พายุนี้มีชื่อว่าแซนดี (Sandy) ชื่อน่ารักแต่ฤทธิ์เดชเหลือร้าย กำลังเข้าถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาอยู่ กินพื้นที่หลายรัฐทีเดียว ผลจากพายุทำให้ชีวิตและทรัพย์สินเสียหายไปไม่น้อยทีเดียว อีกทั้งตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในนิวยอร์กต้องปิดชั่วคราวในวันที่ 29-30 ตุลาคม สองวันนี้อเมริกาไม่มีซื้อขายหุ้นเพราะตลาดปิด ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ น้ำมัน สินค้าเกษตร ฯลฯ เหล่านี้มีการเทรดเฉพาะในระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ที่เทรดในห้องค้าก็หยุดเช่นกัน
ผลจากพายุนี้ทำให้ราคาน้ำมันดิบ wti ลดลงเนื่องจากประเมินกันว่าธุรกิจหยุดชะงักไปหลายวันทำให้การใช้พลังงานลดลง ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ไม่ได้ลงด้วยเพราะคนละพื้นที่กัน
ทางด้านสถานการณ์น้ำมันดิบ ล่าสุดตะวันออกกลางยังไม่สงบดี ความวุ่นวายในซีเรียยังไม่จบ อีกทั้งอิหร่านประกาศออกมาแล้วเมื่อวานว่าตอนนี้นานาชาติกดดันด้วยการคว่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านเข้าตาจะต้องตอบโต้บ้างแล้ว ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะตอบโต้อย่างไร อาจหมายถึงการสกัดช่องทางส่งน้ำมันดิบของกลุ่มตะวันออกกลางก็ได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดทุนโดยรวมปรับตัวลงทุกภูมิภาค สาเหตุน่าจะมาจากผลประกอบการไตรมาสสามของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ยอยประกาศออกมาต่อจากสัปดาห์ก่อนก็ไม่ประทับใจเช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดจึงลง แม้ว่าจะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีของอเมริกาที่ดีขึ้นกว่าที่คาดเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
ส่วนทางด้านยุโรปผลการประชุมสุดยอดผู้นำของสหภาพยุโรปไม่มีอะไรคืบหน้า อีกทั้งรัฐบาลท้องถิ่นของสเปนยังถูกลดอันดับเครดิต สถานการณ์ทางฝั่งยุโรปจึงยังไม่มีอะไรดีขึ้นนัก จะมีข่าวดีบ้างก็กลุ่มทรอยก้าขยายเวลาการปรับปรุงการคลังของกรีซออกไปอีกสองปี ทำให้กรีซพอมีเวลาหายใจนานขึ้นอีกหน่อย
สรุปแล้วภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงประมาณ -1.7% โดยเฉลี่ย ตลาดหุ้นเอเชียไม่แน่นอน มีทั้งที่ปรับตัวลงและปรับตัวขึ้น ที่ปรับตัวลงมักลงแรง เช่น ตลาดหุ้นจีน -3.6% ไต้หวัน -3.7% ออสเตรเลีย -2.1%
ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้น SETi ปรับตัวลง -2% แต่ S50 หรือว่าฟิวเจอร์สของ SET50 ลงแรงกว่า คือลงไปถึง -2.8% ก็ถือว่าตลาดไทยลงแรงกว่าตลาดโลกโดยเฉลี่ยอยู่บ้าง ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิตลอดทั้งเดือน คิดตั้งแต่ต้นเดือนก็หมื่นกว่าล้านบาท
ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมก็ปรับตัวลงเช่นกัน ทองคำลงนิดหน่อย -0.7% โลหะเงินลง -0.1% น้ำมันดิบ wti ลงแรง -4.6% ในขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ลงเพียง -0.5% สินค้าเกษตรลงต่ออีก -1.4% โดยเฉพาะพืชพลังงานลงแรงตามน้ำมันดิบ ข้าวโพด -3.1% น้ำตาล -4.4%
ด้านค่าเงิน สัปดาห์ที่แล้วเงินอัตราแลกเปลี่ยนไม่หวือหวา ปรับตัวในกรอบแคบ ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้น ดัชนีดอลลาร์ สรอ usd index +0.6% เงินสกุลยุโรปอ่อนตัว เงินเยนอ่อนตัว เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า ส่วนเงินบาทอ่อนค่า -0.13%
ด้านตลาดตราสารหนี้ สัปดาห์ที่แล้วก็ไม่หวือหวาเช่นกัน เส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยมีทั้งปรับตัวขึ้นและปรับตัวลง โดยพันธบัตรอายุ 18 ปีหรือต่ำกว่านั้นอัตราผลตอบแทนปรับตัวลงเล็กน้อยกับทรงตัว ส่วนพันธบัตรที่อายุมากกว่า 18 ปีมีอัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 10 ปีคงตัว ไม่ขึ้นไม่ลง ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันอายุคงเหลือ 10 ปีปรับตัวลง 2 จุดเบสิส ลงนิดเดียว
ตอนนี้สถานการณ์คงทรงๆ ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบไปก่อน เพราะทุกอย่างกำลังรีรอดูผลการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนถัดไป ต่อจากนั้นอีกไม่กี่วันก็คงเป็นการประกาศตัวผู้นำใหม่ของจีน หลังจากนั้นตลาดคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองข่าว
สถานการณ์ล่าสุด จนถึงวันที่ 29/10/2012 ซูเปอร์พายุเฮอริเคนหรือที่เรียกกันว่า แฟรงเกนสตอร์ม (Frankenstorm) ซึ่งเพี้ยนมาจากผีดิบแฟรงเกนสไตน์ พายุนี้มีชื่อว่าแซนดี (Sandy) ชื่อน่ารักแต่ฤทธิ์เดชเหลือร้าย กำลังเข้าถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาอยู่ กินพื้นที่หลายรัฐทีเดียว ผลจากพายุทำให้ชีวิตและทรัพย์สินเสียหายไปไม่น้อยทีเดียว อีกทั้งตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในนิวยอร์กต้องปิดชั่วคราวในวันที่ 29-30 ตุลาคม สองวันนี้อเมริกาไม่มีซื้อขายหุ้นเพราะตลาดปิด ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ น้ำมัน สินค้าเกษตร ฯลฯ เหล่านี้มีการเทรดเฉพาะในระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ที่เทรดในห้องค้าก็หยุดเช่นกัน
ผลจากพายุนี้ทำให้ราคาน้ำมันดิบ wti ลดลงเนื่องจากประเมินกันว่าธุรกิจหยุดชะงักไปหลายวันทำให้การใช้พลังงานลดลง ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ไม่ได้ลงด้วยเพราะคนละพื้นที่กัน
ทางด้านสถานการณ์น้ำมันดิบ ล่าสุดตะวันออกกลางยังไม่สงบดี ความวุ่นวายในซีเรียยังไม่จบ อีกทั้งอิหร่านประกาศออกมาแล้วเมื่อวานว่าตอนนี้นานาชาติกดดันด้วยการคว่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านเข้าตาจะต้องตอบโต้บ้างแล้ว ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะตอบโต้อย่างไร อาจหมายถึงการสกัดช่องทางส่งน้ำมันดิบของกลุ่มตะวันออกกลางก็ได้
Subscribe to:
Posts (Atom)