Friday, April 22, 2011

20/04/2011 * อาลัย ดร.ปัญญา เปรมปรีด์


ผลงานหนังสือของ ดร.ปัญญา เปรมปรีด์ เจ้าของเว็บไซต์ www.drpunya.com



วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,107.36 จุด เพิ่มขึ้น 11.48 จุด ในที่สุดก็ผ่านหลัก 1,100 จุดไปได้ พร้อมกับปริมาณซื้อขายกว่า 40,000 ล้านบาท

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 45 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ด้านตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปิดเขียวอีก ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนีและแอฟริกาใต้ขึ้นแรง โดยเฉพาะดัชนีแดกซ์ (DAX) ของเยอรมนีเกิดสัญญาณซื้อ

เงินดอลาร์ สรอ ยังอ่อนต่อ

นานแล้วที่ลุงแมวน้ำไม่ได้เห็นวอลุ่มของดัชนี SET ขนาดกว่า 40,000 ล้านบาท การที่ปริมาณซื้อขายมีเพิ่มมากขึ้นอย่างปุบปับ (volume spike) เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการกลับทิศของแนวโน้มได้อย่างหนึ่ง แต่ในกรณีนี้ปริมาณซือขายค่อยๆเพิ่มขึ้นมาจากระดับสองหมื่นล้าน สามหมื่นล้าน จนมาถึงสี่หมื่นล้าน ดังนั้นจึงไม่ใช่กรณี volume spike ตรงกันข้ามปริมาณซื้อขายที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นนี้เป็นสัญญาณสนับสนุนแนวโน้มได้อย่างหนึ่ง



อาลัย ดร. ปัญญา เปรมปรีด์

เมื่อวานลุงแมวน้ำได้เข้าไปในกระดานสนทนาของเว็บไซต์ www.drpunya.com อันเป็นเว็บไซต์ที่ ดร.ปัญญา เปรมปรีด์ หรืออาจารย์ปัญญาทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่นักลงทุน ลุงแมวน้ำไม่ได้เข้าดูเว็บไซต์และกระดานสนทนาที่นี่มานานพอสมควรเนื่องจากทราบมาว่าท่านอาจารย์ไม่ค่อยแข็งแรงนักและไม่ได้ปรับปรุงเว็บไซต์มาเกือบหนึ่งปีแล้ว

การเข้าไปดูกระดานสนทนาในครั้งนี้จึงทำให้ลุงแมวน้ำเพิ่งได้ทราบว่าท่านอาจารย์ปัญญาได้จากไปแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ลุงแมวน้ำไม่ได้รู้จักอาจารย์ปัญญาเป็นการส่วนตัว แต่ได้อาศัยการศึกษาจากเว็บไซต์ของอาจารย์เป็นประจำ รวมทั้งอ่านหนังสือที่อาจารย์เขียนเกี่ยวกับหุ้น ดังนั้นแม้ว่าลุงแมวน้ำจะเป็นเพียงแค่แฟนคลับเว็บไซต์ของอาจารย์แต่ก็ถือว่าอาจารย์ปัญญาเป็นครูท่านหนึ่งของลุงแมวน้ำ

หลายปีที่ติดตามหาความรู้จากเว็บไซต์ของอาจารย์ปัญญาทำให้ลุงแมวน้ำมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนด้วยการใช้ปัจจัยทางเทคนิค รวมทั้งทำให้ลุงแมวน้ำมีทัศนคติที่ถูกต้องในการลงทุน ลุงแมวน้ำชอบบทความและการเขียนของอาจารย์ปัญญาที่อยู่ในเว็บไซต์ ความประทับใจอย่างหนึ่งก็คือการสอนให้ลงทุนก็เพื่อให้มีผลตอบแทนดีกว่าฝากธนาคารหรือสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ได้กำไรพอสมควร แต่ไม่ได้ชี้นำให้เกิดความโลภ ไม่ได้ปลูกฝังความคิดที่ว่าเทรดแล้วจะรวยให้แก่ผู้อ่าน ตรงกันข้าม กลับสอนให้ไม่ประมาท เท่าที่ทราบอาจารย์ใช้เวลาพอสมควรทีเดียวในการปรับปรุงเว็บไซต์ในแต่ละวัน เนื่องจากต้องป้อนข้อมูลหุ้นเข้าไปเองหลังจากที่ตลาดปิด จากนั้นรันโปรแกรม นำผลของโปรแกรมมาจัดทำรายงาน เขียนความเห็น และโพสต์ลงในเว็บไซต์ในตอนค่ำให้แฟนคลับได้อ่านกัน ทำอยู่อย่างนี้นานนับปีโดยไม่ได้หยุด เว็บบล็อกของลุงแมวน้ำก็ได้แนวความคิดมาจากเว็บไซต์ของอาจารย์ปัญญานั่นเอง ดังจะเห็นได้จากแนวทางในการนำเสนอรายงานประจำวันนั้นมีหลักการที่คล้ายคลึงกัน

อาจารย์ปัญญายังเป็นครูที่ใจดี ผู้ที่ติดตามเว็บไซต์ของอาจารย์เมื่อมีปัญหาจะเขียนถามก็ได้ โทรไปคุยก็ได้ มิหนำซ้ำไปหาที่บ้านก็ยังได้ เมื่อก่อนอาจารย์เคยเปิดบ้านเพื่อให้นักลงทุนที่ติดตามผลงานของอาจารย์มาเรียนรู้ในเรื่องโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นของอาจารย์โดยที่ไม่หวงวิชาความรู้

บัดนี้อาจารย์ปัญญาหรือ ดร.ปัญญา เปรมปรีด์ ได้จากไปแล้ว ลุงแมวน้ำขออุทิศบทความในวันนี้เพื่อระลึกถึงและแสดงความไว้อาลัยแก่ครูท่านนี้





Wednesday, April 20, 2011

19/04/2011 * ปรับมุมมองหุ้นไทย (SETI), ดอลลาร์ สรอ (DX) และทองคำ (GC) ถึงหัวเลี้ยวหัวต่อ

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,095.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด ใกล้ 1,100 จุดเข้าไปทุกทีแล้ว

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ THAI ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 45 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายยางไทย (RSS3) แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือ วันนี้ราคายางพาราลงติดพื้นอีกและแทบไม่มีการเทรดเนื่องจากมีแต่ตั้งขายแต่ไม่มีใครกล้าตั้งซื้อ ดังนั้นนักลงทุนที่เปิดสัญญาซื้อเอาไว้จึงขังถูกขังต่อไป

ด้านตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปิดเขียวอันเป็นการรีบาวด์จากเมื่อวาน ที่เมื่อลงแรงวันนี้ก็ขึ้นแรง เช่น อียิปต์ ตุรกี



ปรับมุมมองหุ้นไทย

ที่จริงลุงแมวน้ำเคยเกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์แล้วว่าได้ปรับมุมมองหุ้นไทยและดัชนี SET เสียใหม่ที่จากเดิมมองว่ายอดคลื่น 5 (สีน้ำตาล) อยู่ที่ SETI ประมาณ 1,150 จุด และหลังจากนั้นตลาดหุ้นน่าจะเข้าสู่คลื่น a-b-c (สีน้ำตาล) ที่อาจลงได้ลึก ดังภาพต่อไปนี้



แต่หลังจากดัชนีผ่านระดับ 1,150 จุดมาได้ ลุงแมวน้ำก็ต้องปรับมุมมองใหม่ เพราะแสดงว่าคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ยังไม่จบ และตอนนี้ยังเป็นคลื่นขาขึ้น 5 (สีน้ำตาล) อยู่ ซึ่งต้องนับคลื่นย่อยใหม่ ลุงแมวน้ำขอเวลาดูอีกสักระยะหนึ่งจึงจะปรับการนับคลื่นเสียใหม่

อย่างไรก็ดี ภาพในระยะยาวหรือมุมมองของดัชนี SET และตลาดหุ้นไทยในภาพใหญ่นั้นลุงแมวน้ำยังมองเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ ขณะนี้เราอยู่ในคลื่นใหญ่ 5 (สีดำ) ดังนี้



สำหรับในระยะสั้นนั้นดัชนี SET คงยังไม่จบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) เพราะดูจากค่าเงินสกุลต่างๆในเอเชียแบบเรียลไทม์เมื่อตอนเช้าของวันที่ 20 เม.ย. เงินบาทไทย (THB) นั้นแข็งค่ามาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) เงินรูเปียะของอินโดนีเซีย (INR) และเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ก็แข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน อันแสดงว่ามีเงินไหลเข้าในประเทศต่างๆที่กล่าวมา ดังภาพต่อไปนี้ (คลิกที่ภาพเพื่อดูในขนาดขยาย)



เมื่อเงินเข้ามาแล้วก็ต้องทำอะไรสักอย่างหรือหลายๆอย่าง เช่น ซื้อตราสารหนี้ หรือลงทุนในตลาดหุ้น ฯลฯ ดังนั้นในระยะสั้นๆหุ้นไทยน่าจะขึ้นต่อไปได้ รวมทั้งตลาดหุ้นของประเทศทั้งสี่ที่ลุงแมวน้ำกล่าวมาน่าจะแข็งกว่าตลาดโดยรวมของภูมิภาค



ดอลลาร์ สรอ (DX) และทองคำ (GC) ถึงหัวเลี้ยวหัวต่อ

นอกจากตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างแรงในช่วงนี้แล้ว ที่มาแรงอย่างต่อนื่องอีกอย่างหนึ่งก็คือทองคำ ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่เรื่อยๆโดยไม่หยุดจนมาถึงเกือบๆ 1,500 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ก่อนที่จะพูดถึงทองคำต่อไปมาดูค่าเงินดอลาร์ของสหรัฐอเมริกากันก่อน โดยพิจารณาจากค่าดัชนีดอลลาร์ สรอ (dollar index, DX) ดังภาพต่อไปนี้



จะเห็นว่า DX นั้นป้วนเปี่ยนอยู่แถวนี้มาะยะหนึ่งแล้ว แนวรับที่สำคัญมากก็คือที่ 74.325 และ 71.645 หน่วยตามลำดับ อันเป็นท้องคลื่นที่มีความสำคัญ ที่ 74.325 หน่วยนั้นนับเป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น 2 (สีน้ำเงิน) หาก DX ลงต่ำกว่าจุดนี้อาจตีความได้ 2 อย่าง คือ DX ยังไม่จบคลื่น 2 (สีน้ำเงิน) หรือ DX กำลังอยู่ในคลื่น C (สีน้ำเงิน)

และถ้าเมื่อไรที่ DX หลุดต่ำกว่า 71.645 หน่วยก็ค่อนข้างแน่ว่าค่าเงินดอลลาร์อยู่ในคลื่นขาลง C (สีน้ำเงิน) ไม่ใช่คลื่น 2

ผลจากสองเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ หากค่า DX อยู่ในคลื่น 2 เมื่อจบคลื่น 2 ก็จะเข้าสู่คลื่น 3 เมื่อนั้นราคาทองคำจะกลับทิศแนวโน้มเป็นขาลงและจบคลื่น 5 (แปลว่าต่อไปราคาทองคำคงลงได้ยาว)

แต่หาก DX อยู่ในคลื่น C แปลว่าราคาทองคำจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ แต่จะขึ้นต่อไปอีกไกล และคงต้องปรับการนับคลื่นของทองคำกันใหม่



ค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำจะเป็นเช่นไรอีกไม่นานน่าจะมีคำตอบ