วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 983.53 จุด ลดลง 2.10 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 8 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายน้ำตาล (SB, sugar#11)
ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาและยุโรปส่วนใหญ่ปิดเขียว ส่วนตลาดฝั่งเอเชียปิดแดง ตลาดเกิดใหม่หรือ emerging market ดูไม่ค่อยดี ช่วงนี้ผันผวน ขึ้นแรงลงแรง โดยเฉพาะทางด้านเอเชีย ลองสังเกตจากกราฟดูว่าวันนี้ตลาดเวียดนามขึ้นแรง ตามมาด้วยตลาดแอผริกาใต้และอียิปต์ ในขณะที่ตลาดอินเดีย รัสเซีย ชิลี และเปรู ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ที่ขึ้นแรงลงแรงล้วนแต่เป็นตลาดเกิดใหม่ทั้งสิ้น ส่วนตลาดที่พัฒนาแล้วดูค่อนข้างดี
โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวของลุงแมวน้ำ (3)
เมื่อวานเราคุยกันถึงเรื่องสินค้าที่จะเทรดในโครงการลงทุน ฟิวเจอร์สของ KTB และ QH ถือว่าสอบผ่านแล้วใน 2 ประเด็น นั่นคือ ด้านราคาและสภาพคล่อง วันนี้เราจะมาพิจารณาอีก 2 ประเด็นที่เหลือ นั่นคือ รูปแบบทางเทคนิคหรือการพิจารณากราฟราคาในอดีต และประเด็นสุดท้ายก็คือการพิจารณาจังหวะเข้าลงทุน ซึ่งเราจะพิจารณาไปพร้อมๆกันเลย
ลองมาดูกราฟราคาของหุ้น KTB กันก่อน ดังภาพต่อไปนี้
จากการประเมินด้วยสายตา จะเห็นว่าการเกิดสัญญาณหลอกหรือ false signal ที่หลอกให้เราคืนกำไรนั้นมีอยู่บ้าง คือมีในระดับปกติที่พอเทรดได้ จะให้ไม่มีเลยคงเป็นไปไม่ได้ สัญญาณหลอกนี้หากมีมากดูจากกราฟด้วยสายตาก็จะมองออก แต่หากไม่แน่ใจว่าสัญญาณหลอกเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดต้องทดสอบด้วยการคำนวณจุดซื้อขายและคำนวณกำไรขาดทุนย้อนหลังเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ใช้เวลา
สำหรับการนับคลื่นนั้น จากภาพยังนับไม่ออก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากำลังอยู่คลื่นไหน เนื่องจากเห็นภาพเพียงในกรอบเวลาจำกัด ลุงแมวน้ำจึงอนุมานเอาว่าหุ้น KTB นี้คล้อยตามดัชนี SET ซึ่งดัชนีขณะนี้น่าจะอยู่ในคลื่น A หรือไม่ก็คลื่น 4 ดังนั้นตาดว่า KTB ก็น่าจะอยู่ในคลื่น A หรือ คลื่น 4 เช่นกัน
สรุปว่าในแง่กราฟราคา KTB มีรูปแบบราคาที่ไม่แกว่งตัวรุนแรง ไม่เกิดสัญญาณหลอกบ่อยๆ สามารถเทรดได้ ส่วนในแง่ความเหมาะสมด้านจังหวะเวลา หากอยู่ในคลื่น A ก็เหมาะสมที่จะเทรดทางด้านขายหรือเปิดสัญญาขาย หากเป็นคลื่น 4 ก็ไม่ควรเทรด ไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริง แต่ลุงแมวน้ำประเมินว่าน่าจะเป็นคลื่น A มากกว่า
ทีนี้มาดูกราฟราคาของ QH กันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้
กราๆของ QH อาจจะดูง่ายกว่าอยู่บ้าง เมื่อดูรูปแบบของกราฟ พบมีรูปแบบพื้นฐาน ดูง่าย นั่นคือ นับคลื่น 1-2-3-4-5-a-b-c ได้ สัญญาณหลอกพอมีบ้าง พอจะเทรดได้ (กราฟที่มีรูปแบบพื้นฐาน จำแนกลูกคลื่นได้ไม่ยาก พวกนี้ถือว่าเทรดได้ หากกราฟมีรูปแบบราคาซับซ้อน แกว่งตัวแรง นับคลื่นไม่ถูก พวกนี้ไม่ค่อยน่าเทรดนักเนื่องจากโอกาสเกิดสัญญาณหลอกค่อนข้างสูง)
จากการนับคลื่นน่าจะอยู่ในคลื่น A ซึ่งสอดคล้องกับดัชนี SET ดังนั้นทางด้านจังหวะเวลาถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับการเทรดในด้านขาย
สรุปว่าฟิวเจอร์สของหุ้น KTB และ QH มีคุณสมบัติผ่านทั้ง 4 ประการ สามารเลือกเข้าพอร์ตลงทุนได้ ดังนั้นเมื่อเกิดสัญญาณขายในวันที่ 24 มกราคม 2554 ซึ่งวันนั้นตลาดหุ้นไทยลงหนัก ทั้งดัชนี SET, SET50, S50 และหุ้นอีกจำนวนมากเกิดสัญญาณขาย ลุงแมวน้ำจึงเริ่มเข้าลงทุนด้วยการเปิดสัญญาขาย (open short position) ฟิวเจอร์ส KTB และ QH และถือว่าวันที่ 24 มกราคม 2554 นี้เป็นวันที่เริ่มต้นโครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาว
สรุปผลการลงทุนเมื่อสิ้นเดือนมกราคม เป็นดังนี้
จะเห็นว่าพอร์ตลงทุนเริ่มมีกำไรแล้ว แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไป ยังคงต้องติดตามดูกันอีกนาน และต่อไปลุงแมวน้ำจะสรุปผลโครงการลงทุนให้ดูกันทุกเดือนเช่นเดียวกับโครงการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ
ข้อควรระวังที่สำคัญยิ่งก็คือ ลุงแมวน้ำทำโครงการนี้เพื่อแสดงให้เห็นการวางแผนและการดำเนินการลงทุนส่วนบุคคลโดยใช้ฟิวเจอร์สและตราสารตลาดทุนอื่นๆเข้าช่วย ผู้ที่จะลงทุนแบบนี้ได้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน มีความรู้เกี่ยวกับอนุพันธ์ และต้องเคยฝึกฝนการเทรดอย่างเป็นระบบมาแล้ว ซึ่งความรู้ในส่วนพื้นฐานหล่านั้นลุงแมวน้ำไม่ได้พูดเอาไว้ในที่นี้เนื่องจากเนื้อที่ เวลา และข้อจำกัดอื่นอีกหลายอย่างทำให้ลุงแมวน้ำไม่สามารถอธิบายไปถึงรายละเอียดขั้นพื้นฐานได้
ฟิวเจอร์สนั้นเป็นตราสารที่อันตราย ต้องรู้จักใช้ ต้องรู้จักการระวังรักษาตัว ผู้ที่ฝึกใจ ฝึกวินัยในการลงทุนมาแล้วเป็นอย่างดีเท่านั้นจึงจะเทรดได้ประสบความสำเร็จ หากไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาแล้วโอกาสพังมีสูงมาก การฝึกวินัยการลงทุนนั้นคงสอนกันไม่ได้ทางเว็บบล็อก ต้องมีครูสอนจึงจะดี ดังนั้นหากผู้ใดที่อ่านบทความนี้และสนใจในการลงทุนเป็นโครงการเช่นนี้ หากเคยเทรดอย่างเป็นระบบมาแล้วก็สามารถนำไปประยุกต์ให้เหมาะกับตนเองได้ แต่หากยังไม่เคยฝึกการเทรดอย่างเป็นระบบมาก่อน ควรต้องไปเรียนรู้มาก่อน
Thursday, February 10, 2011
Tuesday, February 8, 2011
07/02/2011 * โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวของลุงแมวน้ำ (2)
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 985.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ BLA, ESSO, PTTAR, TOP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 8 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาและยุโรปส่วนใหญ่ปิดเขียว ส่วนตลาดฝั่งเอเชียปิดเขียวบ้างแดงบ้าง แต่ที่น่าสังเกตคือดัชนีหั่งเส็ง (Hang seng, HSI) ของฮ่องกงปรับตัวลงค่อนข้างมากต่างจากตลาดอื่นๆ
โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวของลุงแมวน้ำ (2)
โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวนี้ใช้เงินทุนจากการออมทั้งหมด 36,000 บาท โดยออมเดือนละ 1,000 บาท โดยเมื่อออมครบหนึ่งปีก็จะมีเงินออม 12,000 บาท ก็นำเงินมาลงทุนได้แล้ว ส่วนที่เหลือก็ทยอยออมต่อไป เมื่อมีจังหวะที่เหมาะค่อยนำส่วนที่ออมได้เพิ่มเติมนั้นมาลงทุน หากยังไม่มีจังหวะที่เหมาะสมก็ยังไม่ต้องทำอะไร ฝากธนาคารเอาไว้ก่อน
เงิน 12,000 บาทนี้ลงทุนอะไรได้บ้าง หากเป็นเมื่อสัก 10 ปีก่อนเงินเพียงนี้แทบจะลงทุนในตลาดหุ้นไม่ได้เลย แต่ในปัจจุบันโบรกเกอร์ต่างๆล้วนแต่ออกโครงการออมหุ้นออกมา เก็บเงินเพียงเดือนละ 1,000 บาทก็สามารถซื้อหุ้นได้ แต่สำหรับโครงการที่ลุงแมวน้ำจะทำนี้เป็นโครงการสำหรับผู้ลงทุนทำการเทรดเอง ไม่ได้ใช้โครงการออมหุ้นแต่อย่างใด
เนื่องจากเว็บบล็อกนี้เน้นที่การลงทุนในอนุพันธ์หรือว่าฟิวเจอร์ส ดังนั้นการวางแผนการลงทุนลุงแมวน้ำจึงมองหาฟิวเจอร์สที่เหมาะสมสำหรับโครงการลงทุนนี้เสียก่อน หากหาไม่ได้จึงค่อยไปพิจารณาอย่างอื่นต่อไป
ฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 (S50) ก็ใช้เงินวางมาร์จินเริ่มต้น (initial margin, IM) สูงเกินงบลงทุน ฟิวเจอร์สของทองคำยิ่งไม่ต้องพูดถึง เกินงบลงทุนเหมือนกัน
มาดูทางด้านฟิวเจอร์สของหุ้นหรือที่เรียกว่า single stock futures กันบ้าง ฟิวเจอร์สของหุ้นในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 14 ตัว อ้างอิงกับหลักทรัพย์ 14 หลักทรัพย์ ซึ่งฟิวเจอร์สของหุ้นแต่ละตัวนั้นใช้เงินวางมาร์จินเริ่มต้นไม่เท่ากันหรือพูด่งายๆว่าแต่ละตัวราคาไม่เท่ากัน อีกทั้งฟิวเจอร์สของหุ้นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีสภาพคล่องทุกตัว ในการเทรดเราจำเป็นต้องเลือกเทรดตัวที่มีสภาพคล่องพอสมควร มิฉะนั้นหากต้องการปิดสถานะจะทำไม่ได้ เหมือนกับหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง หากต้องการขายหุ้นตัวนั้นก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีคนซื้อ
จากการพิจารณาราคาและสภาพคล่อง ลุงแมวน้ำเลือกฟิวเจอร์สของหุ้นมาได้ 2 ตัว นั่นคือ ฟิวเจอร์สของหุ้น KTB กับ QH หากลงทุนใน KTB futures ต้องวางมาร์จิน 1,520 บาท ดังนั้นหากจะลงทุนในฟิวเจอร์สของ KTB ต้องเตรียมเงิน 9,044 บาท (ตามสูตร 3.5 เท่าของ IM + MM)
และหากต้องการลงทุนในฟิวเจอร์สของ QH ต้องวางมาร์จิน 380 บาท ซึ่งหมายความว่าต้องเตรียมเงินเอาไว้สำหรับการเทรด 2,261 บาท
หากต้องการลงทุนทั้งในฟิวเจอร์สของ KTB และ QH สองตัวต้องเตรียมเงินเท่ากับ 9,044 + 2,261 = 11,305 บาท ซึ่งยังอยู่ในงบลงทุน 12,000 บาท
การเทรดหุ้นหรือฟิวเจอร์สให้ประสบความสำเร็จนั้นขั้นตอนเริ่มต้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การพิจารณาคัดเลือกฟิวเจอร์สที่จะเทรด รวมทั้งการเข้าเทรดในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เหล่านี้จะเป็นปัจจัยไปสู่ความสำเร็จในการเทรด คำกล่าวที่กล่าวกันว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งเป็นความจริงทีเดียวสำหรับการลงทุนในหุ้นหรือฟิวเจอร์ส
ฟิวเจอร์สของ KTB และ QH ถือว่าสอบผ่านแล้วใน 2 ประเด็น นั่นคือ ด้านราคาและสภาพคล่อง ยังมีอีก 2 ประเด็นที่เราต้องพิจารณาก็คือ รูปแบบทางเทคนิคหรือการพิจารณากราฟราคาในอดีต และประเด็นสุดท้ายก็คือการพิจารณาจังหวะเข้าลงทุน
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ BLA, ESSO, PTTAR, TOP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 8 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาและยุโรปส่วนใหญ่ปิดเขียว ส่วนตลาดฝั่งเอเชียปิดเขียวบ้างแดงบ้าง แต่ที่น่าสังเกตคือดัชนีหั่งเส็ง (Hang seng, HSI) ของฮ่องกงปรับตัวลงค่อนข้างมากต่างจากตลาดอื่นๆ
โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวของลุงแมวน้ำ (2)
โครงการลงทุนสำหรับวัยหนุ่มสาวนี้ใช้เงินทุนจากการออมทั้งหมด 36,000 บาท โดยออมเดือนละ 1,000 บาท โดยเมื่อออมครบหนึ่งปีก็จะมีเงินออม 12,000 บาท ก็นำเงินมาลงทุนได้แล้ว ส่วนที่เหลือก็ทยอยออมต่อไป เมื่อมีจังหวะที่เหมาะค่อยนำส่วนที่ออมได้เพิ่มเติมนั้นมาลงทุน หากยังไม่มีจังหวะที่เหมาะสมก็ยังไม่ต้องทำอะไร ฝากธนาคารเอาไว้ก่อน
เงิน 12,000 บาทนี้ลงทุนอะไรได้บ้าง หากเป็นเมื่อสัก 10 ปีก่อนเงินเพียงนี้แทบจะลงทุนในตลาดหุ้นไม่ได้เลย แต่ในปัจจุบันโบรกเกอร์ต่างๆล้วนแต่ออกโครงการออมหุ้นออกมา เก็บเงินเพียงเดือนละ 1,000 บาทก็สามารถซื้อหุ้นได้ แต่สำหรับโครงการที่ลุงแมวน้ำจะทำนี้เป็นโครงการสำหรับผู้ลงทุนทำการเทรดเอง ไม่ได้ใช้โครงการออมหุ้นแต่อย่างใด
เนื่องจากเว็บบล็อกนี้เน้นที่การลงทุนในอนุพันธ์หรือว่าฟิวเจอร์ส ดังนั้นการวางแผนการลงทุนลุงแมวน้ำจึงมองหาฟิวเจอร์สที่เหมาะสมสำหรับโครงการลงทุนนี้เสียก่อน หากหาไม่ได้จึงค่อยไปพิจารณาอย่างอื่นต่อไป
ฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 (S50) ก็ใช้เงินวางมาร์จินเริ่มต้น (initial margin, IM) สูงเกินงบลงทุน ฟิวเจอร์สของทองคำยิ่งไม่ต้องพูดถึง เกินงบลงทุนเหมือนกัน
มาดูทางด้านฟิวเจอร์สของหุ้นหรือที่เรียกว่า single stock futures กันบ้าง ฟิวเจอร์สของหุ้นในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 14 ตัว อ้างอิงกับหลักทรัพย์ 14 หลักทรัพย์ ซึ่งฟิวเจอร์สของหุ้นแต่ละตัวนั้นใช้เงินวางมาร์จินเริ่มต้นไม่เท่ากันหรือพูด่งายๆว่าแต่ละตัวราคาไม่เท่ากัน อีกทั้งฟิวเจอร์สของหุ้นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีสภาพคล่องทุกตัว ในการเทรดเราจำเป็นต้องเลือกเทรดตัวที่มีสภาพคล่องพอสมควร มิฉะนั้นหากต้องการปิดสถานะจะทำไม่ได้ เหมือนกับหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง หากต้องการขายหุ้นตัวนั้นก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีคนซื้อ
จากการพิจารณาราคาและสภาพคล่อง ลุงแมวน้ำเลือกฟิวเจอร์สของหุ้นมาได้ 2 ตัว นั่นคือ ฟิวเจอร์สของหุ้น KTB กับ QH หากลงทุนใน KTB futures ต้องวางมาร์จิน 1,520 บาท ดังนั้นหากจะลงทุนในฟิวเจอร์สของ KTB ต้องเตรียมเงิน 9,044 บาท (ตามสูตร 3.5 เท่าของ IM + MM)
และหากต้องการลงทุนในฟิวเจอร์สของ QH ต้องวางมาร์จิน 380 บาท ซึ่งหมายความว่าต้องเตรียมเงินเอาไว้สำหรับการเทรด 2,261 บาท
หากต้องการลงทุนทั้งในฟิวเจอร์สของ KTB และ QH สองตัวต้องเตรียมเงินเท่ากับ 9,044 + 2,261 = 11,305 บาท ซึ่งยังอยู่ในงบลงทุน 12,000 บาท
การเทรดหุ้นหรือฟิวเจอร์สให้ประสบความสำเร็จนั้นขั้นตอนเริ่มต้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การพิจารณาคัดเลือกฟิวเจอร์สที่จะเทรด รวมทั้งการเข้าเทรดในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เหล่านี้จะเป็นปัจจัยไปสู่ความสำเร็จในการเทรด คำกล่าวที่กล่าวกันว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งเป็นความจริงทีเดียวสำหรับการลงทุนในหุ้นหรือฟิวเจอร์ส
ฟิวเจอร์สของ KTB และ QH ถือว่าสอบผ่านแล้วใน 2 ประเด็น นั่นคือ ด้านราคาและสภาพคล่อง ยังมีอีก 2 ประเด็นที่เราต้องพิจารณาก็คือ รูปแบบทางเทคนิคหรือการพิจารณากราฟราคาในอดีต และประเด็นสุดท้ายก็คือการพิจารณาจังหวะเข้าลงทุน
Subscribe to:
Posts (Atom)