วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 738.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย QH และมีสัญญาณซื้อ CPF ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 41 ตัว เท่ากับเมื่อวาน
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทองฝรั่งตลาด Comex (GC) เกิดสัญญาณซื้อ จึงเปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา
ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
หลังจากที่ในช่วงปีใหม่ลุงแมวน้ำได้สรุปสถานการณ์และแนวโน้มของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ กับฟิวเจอร์สที่อยู่ในพอร์ตจำลอง และฟิวเจอร์สสินค้าเกษตรที่สำคัญบางตัวไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูสรุปพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำว่าในระหว่างปีลุงแมวน้ำเทรดอย่างไรบ้าง
ลองพิจารณาตารางสรุปพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำต่อไปนี้
ในบรรดาฟิวเจอร์สทั้ง 9 ตัวในพอร์ตจำลอง ตรงคำว่า started from dd/mm/yyyy หมายถึงว่าวันที่พอร์ตจำลองเริ่มเทรดฟิวเจอร์สตัวนั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มเทรดตั้งแต่ต้นปี 2009 เมื่อเกิดสัญญาณซื้อขึ้นก็เปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา เหตุที่วันเดือนปีที่เริ่มเทรดของฟิวเจอร์สแต่ละตัวไม่เป็นวันเดียวกันก็เพราะว่าสัญญาณซื้อไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันนั่นเอง
ใต้คำว่า started from จะเห็นตัวหนังสือสีดำเข้ม ระบุว่า LONG, SHORT, NOACT หมายถึงสถานะในปัจจุบันของฟิวเจอร์สตัวนั้นว่ามีสัญญาซื้ออยู่ (LONG), มีสัญญาขายอยู่ (SHORT) หรือว่าอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร (NOACT)
สองส่วนนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของลุงแมวน้ำทุกวัน นักลงทุนที่ติดตามดูรายงานเป็นประจำคงทราบความหมายกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่เอามาทบทวนให้อีกครั้งหนึ่งเท่านั้น
ทีนี้ดูส่วนที่เพิ่มมาในรายงานสรุป นั่นก็ ฟิวเจอร์สทุกตัวจะมีข้อมูลเพิ่มขึ้นมา คือ long= , short= , last=
long= หมายถึงว่าตั้งแต่เริ่มเทรดมา เปิดสัญญาซื้อ (open long position) ไปกี่ครั้ง อนึ่ง การเปิดสัญญาซื้อเป็นการเปิดสัญญาซื้อจริงๆ ไม่รวมการซื้อเพื่อปิดสถานะ (คือไม่ใช่การซื้อเพื่อ cover short position)
short= หมายถึงว่าตั้งแต่เริ่มเทรดมา เปิดสัญญาขาย (open short position) ไปกี่ครั้ง อนึ่ง การเปิดสัญญาขายเป็นการเปิดสัญญาขายจริงๆ ไม่ใช่การขายเพื่อปิดสถานะ (คือไม่ใช่การขายเพื่อ cover long position)
last= หมายถึงว่าสถานะของสัญญาที่ถืออยู่ในปัจจุบัน (ไม่ว่าจะ long หรือ short ก็ตาม) ถือมาแล้วกี่วัน
ลองมาดูตัวอย่างกันที่ S50
ฟิวเจอร์ส S50 ระบุไว้ว่า long=3 short=1 last=23 หมายความว่าทั้งแต่เทรดมา
long=3 เปิดสัญญาซื้อไป 3 ครั้ง (เปิดแล้วปิดไปสองครั้ง ครั้งที่สามเปิดเอาไว้และยังถืออยู่)
short=1 เปิดสัญญาขายไปหนึ่งครั้ง (เปิดและปิดไปแล้ว)
last=23 สัญญาซื้อที่ถืออยู่นี้ถือมาแล้ว 23 วัน (คิดจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2010)
ฟิวเจอร์สตัวอื่นๆก็อ่านทำนองเดียวกัน
ปกติการเทรดฟิวเจอร์ส ถ้่าเทรดตามสัญญาณซื้อขาย เมื่อสัญญาณซื้อเกิดขึ้นให้เปิด long (ถ้า short อยู่ก็ให้ปิด short จากนั้นเปิด long) และเมื่อสัญญาณขายเกิดขึ้นก็ให้ short (ถ้า long อยู่ก่อนหน้านี้ก็ให้ปิด long จากนั้นเปิด short) ดังนั้นปกติจำนวนการ long และ short มักเท่ากัน แต่ลุงแมวน้ำใช้การนับคลื่นช่วยในการเทรด ขาขึ้นไม่ short ขาลงไม่ long ดังนั้นจำนวนการ long และ short จึงไม่เท่ากัน ซึ่งจะเห็นว่าฟิวเจอร์สเกือบทุกตัวจำนวน long มากกว่า short นั่นคือ แนวโน้มตลาดเป็นขาขึ้นและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นตัวเดียวคือ DX ที่เป็นขาลง จำนวน short จึงมากกว่า long
ในภาพรวมจะเห็นว่าระบบของลุงแมวน้ำเทรดน้อยครั้ง แต่ละครั้งถือยาว เช่น ยางพารา ถือมาแล้ว 61 วันทำการตลาด ทองก็เคยถือยาว 70 กว่าวัน ปกติเมื่อเข้าสู่คลื่น 3 มักทำกำไรได้ยาว ยกเว้นระบบที่อ่อนไหว ซื้อขายไว ระบบที่ไวเกินไปจะทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรในช่วงคลื่น 3
หวังว่ารายงานสรุปนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนตามสมควรในการวางกลยุทธ์การเทรดของตนเอง
Sunday, January 10, 2010
Friday, January 8, 2010
07/01/2010 * S, W
วันนี้มีการปรับปรุงข้อมูลเรียลไทม์ที่อยู่ทางด้านขวามือของบล็อกเล็กน้อย โดยเพิ่มรายงานราคาฟิวเจอร์สทองคำ (GF) ของตลาด TFEX หรือฟิวเจอร์สทองคำไทยเข้ามาไว้ด้วยเพื่อให้นักลงทุนสามารถดูราคาได้ตลอดเวลาเทรด
นนี้ดัชนี SET ปิดที่ 734.63 จุด ลดลง 1.10 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย LH, SCIB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 41 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำที่เคยขาดทุนหนักในน้ำมันดิบ ขณะนี้เกือบไม่ขาดทุนแล้ว
ดัชนีต่างประเทศวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ภาวการณ์ตลาดสำคัญในโลกโดยรวมช่วงนี้ยังทรงๆ ขึ้นนิด ลงหน่อย สำหรับ SET นั้นก็ทรงสลับอ่อน นักวิเคราะห์เริ่มประเมินกันว่าอาจหมดแรงไปต่อแล้ว แต่ลุงแมวน้ำยังประเมินว่าขณะนี้อยู่ในคลื่น 5 อันเป็นคลื่นขาขึ้น ยังไม่เปลี่ยนความคิดแต่อย่างใด
วันนี้มาดูสินค้าเกษตรกันต่ออีก 2 ตัวซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญในตลาดต่างประเทศ นั่นคือ ถั่วเหลือง (soybean) และข้าวสาลี (wheat)
ข้าวสาลี (W)
มาดูที่ข้าวสาลีกันก่อน คนไทยและคนเอเชียคุ้นเคยกับการรับประทานข้าว และบ้านเราปลูกข้าวเป็นสินค้าเกษตรหลัก ดังนั้นเราจึงมีการเทรดฟิวเจอร์สข้าว รวมทั้งในตลาดโลกก็มีการเทรดฟิวเจอร์สข้าวในรูปข้าวขาว (WBR) แต่เมื่อดูความสำคัญและขนาดของตลาดสินค้าข้าวในตลาดโลกแล้ว สินค้าเกษตรข้าวสาลีดูจะมีความสำคัญมากกว่าข้าวขาว
เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของข้าวสาลีกำลังอยู่ในคลื่น 5 และน่าจะเพิ่งเริ่มต้นคลื่น 5 ยังมีเส้นทางเดินของราคาอีกยาวไกลนักเพราะว่ายอดคลื่น 3 อยู่ที่ 1,282.5 ซึ่งยอดคลื่น 5 น่าจะต้องสูงกว่ายอดคลื่น 3
ถั่วเหลือง (S)
เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของถั่วเหลืองกำลังอยู่ในคลื่น B แต่ถึงจะเป็นคลื่น B ก็เป็นคลื่นใหญ่ที่กินเวลานาน ยังสามารถเทรดในแบบตลาดขาขึ้นได้อยู่
จากสินค้าเกษตรที่เป้นตัวหลักของการเทรดในตลาดโลกที่เราดูกันไปตั้งแต่เมื่อวานรวมทั้งวันนี้ รวม 4 ตัว ได้แก่ น้ำตาล ข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง นอกนั้นจะมีสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญในตลาดรองๆลงไป เช่น ฝ้าย กาแฟ โกโก้ ฯลฯ จะเห็นว่าทั้ง 4 สินค้าเกษตรหลักล้วนแต่อยู่ในคลื่นขาขึ้นคลื่น 5 ยกเว้นถั่วเหลืองที่อยู่ในคลื่นขาขึ้น B ดังนั้นน่าจะสรุปได้ว่าในปีนี้ตลาดสินค้าเกษตรน่าจะคึกคักมีแนวโน้มราคาไปต่อได้อีกมากพอสมควร แน่นอน การที่สินค้าเกษตรหลักมีราคาสูงขึ้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อการจัดการด้านอาหารเพื่อเลี้ยงประชากรโลก โดยเฉพาะประชากรที่ยากจน อดอยาก และหิวโหย และนี่แหละคือความโหดร้ายของระบบทุนนิยม ผู้เข้มแข็งดำรง ผู้อ่อนแอพ่ายแพ้ แต่ลุงแมวน้ำอยากบอกว่าทุนนิยมก็มีเมตตาธรรมได้ ขึ้นอยู่กับคน นั่นคือขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะใช้มันอย่างไร
หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดสินค้าเกษตร นอกจากตลาด AFET ของไทยเราที่สามารถเทรดฟิวเจอร์สสินค้าเกษตรได้บางชนิดแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนในสินค้าเกษตรผ่านทางกองทุนรวมได้อีกด้วย มีกองทุนของไทยหลายกองที่ไปลงทุนในสินค้าเกษตร โดยลงทุนกับกองทุน ETF สินค้าเกษตรอีกทีหนึ่ง ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องไปเปิดพอร์ตเทรดในต่างประเทศด้วยตนเอง
นนี้ดัชนี SET ปิดที่ 734.63 จุด ลดลง 1.10 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย LH, SCIB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 41 ตัว
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำที่เคยขาดทุนหนักในน้ำมันดิบ ขณะนี้เกือบไม่ขาดทุนแล้ว
ดัชนีต่างประเทศวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ภาวการณ์ตลาดสำคัญในโลกโดยรวมช่วงนี้ยังทรงๆ ขึ้นนิด ลงหน่อย สำหรับ SET นั้นก็ทรงสลับอ่อน นักวิเคราะห์เริ่มประเมินกันว่าอาจหมดแรงไปต่อแล้ว แต่ลุงแมวน้ำยังประเมินว่าขณะนี้อยู่ในคลื่น 5 อันเป็นคลื่นขาขึ้น ยังไม่เปลี่ยนความคิดแต่อย่างใด
วันนี้มาดูสินค้าเกษตรกันต่ออีก 2 ตัวซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญในตลาดต่างประเทศ นั่นคือ ถั่วเหลือง (soybean) และข้าวสาลี (wheat)
ข้าวสาลี (W)
มาดูที่ข้าวสาลีกันก่อน คนไทยและคนเอเชียคุ้นเคยกับการรับประทานข้าว และบ้านเราปลูกข้าวเป็นสินค้าเกษตรหลัก ดังนั้นเราจึงมีการเทรดฟิวเจอร์สข้าว รวมทั้งในตลาดโลกก็มีการเทรดฟิวเจอร์สข้าวในรูปข้าวขาว (WBR) แต่เมื่อดูความสำคัญและขนาดของตลาดสินค้าข้าวในตลาดโลกแล้ว สินค้าเกษตรข้าวสาลีดูจะมีความสำคัญมากกว่าข้าวขาว
เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของข้าวสาลีกำลังอยู่ในคลื่น 5 และน่าจะเพิ่งเริ่มต้นคลื่น 5 ยังมีเส้นทางเดินของราคาอีกยาวไกลนักเพราะว่ายอดคลื่น 3 อยู่ที่ 1,282.5 ซึ่งยอดคลื่น 5 น่าจะต้องสูงกว่ายอดคลื่น 3
ถั่วเหลือง (S)
เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของถั่วเหลืองกำลังอยู่ในคลื่น B แต่ถึงจะเป็นคลื่น B ก็เป็นคลื่นใหญ่ที่กินเวลานาน ยังสามารถเทรดในแบบตลาดขาขึ้นได้อยู่
จากสินค้าเกษตรที่เป้นตัวหลักของการเทรดในตลาดโลกที่เราดูกันไปตั้งแต่เมื่อวานรวมทั้งวันนี้ รวม 4 ตัว ได้แก่ น้ำตาล ข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง นอกนั้นจะมีสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญในตลาดรองๆลงไป เช่น ฝ้าย กาแฟ โกโก้ ฯลฯ จะเห็นว่าทั้ง 4 สินค้าเกษตรหลักล้วนแต่อยู่ในคลื่นขาขึ้นคลื่น 5 ยกเว้นถั่วเหลืองที่อยู่ในคลื่นขาขึ้น B ดังนั้นน่าจะสรุปได้ว่าในปีนี้ตลาดสินค้าเกษตรน่าจะคึกคักมีแนวโน้มราคาไปต่อได้อีกมากพอสมควร แน่นอน การที่สินค้าเกษตรหลักมีราคาสูงขึ้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อการจัดการด้านอาหารเพื่อเลี้ยงประชากรโลก โดยเฉพาะประชากรที่ยากจน อดอยาก และหิวโหย และนี่แหละคือความโหดร้ายของระบบทุนนิยม ผู้เข้มแข็งดำรง ผู้อ่อนแอพ่ายแพ้ แต่ลุงแมวน้ำอยากบอกว่าทุนนิยมก็มีเมตตาธรรมได้ ขึ้นอยู่กับคน นั่นคือขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะใช้มันอย่างไร
หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดสินค้าเกษตร นอกจากตลาด AFET ของไทยเราที่สามารถเทรดฟิวเจอร์สสินค้าเกษตรได้บางชนิดแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนในสินค้าเกษตรผ่านทางกองทุนรวมได้อีกด้วย มีกองทุนของไทยหลายกองที่ไปลงทุนในสินค้าเกษตร โดยลงทุนกับกองทุน ETF สินค้าเกษตรอีกทีหนึ่ง ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องไปเปิดพอร์ตเทรดในต่างประเทศด้วยตนเอง
Subscribe to:
Posts (Atom)