Thursday, June 25, 2015

สงครามตัดราคาน้ำมันดิบยังไม่จบ ทองคำกับโลกยุคเงินเฟ้อต่ำ กรีซละครโรงใหญ่






วันนี้เราอัปเดตกันหลายเรื่อง ทั้งมุมมองแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ ราคาทองคำ แถมท้ายด้วยเรื่องกรีซนิดหน่อย

มาดูราคาน้ำมันดิบกันก่อน หลังจากที่ติดตามราคาน้ำมันดิบในยุคสงครามตัดราคาระหว่างกลุ่มโอเปก กลุ่มนอกโอเปก กับเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) กลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันดิบก่อสงครามราคาเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตนเองเอาไว้

มาดูกราฟ CL กัน กราฟนี้เป็นราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ของอเมริกา แต่ก็ใช้ดูได้เนื่องจากราคาน้ำมันดิบทั่วโลกอิงกันหมด ราคาน้ำมันดิบ WTI นิ่งๆแถว 60 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล บวกลบอยู่แถวนี้มานานหลายเดือนแล้ว นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกเองยังผลิตน้ำมันดิบเกินโควต้าของตัวเองที่ตกลงกันในกลุ่มว่าวันละ 30 ล้านบาเรล ก็ผลิตรวมกันอยู่ที่ประมาณ 31.5 ล้านบาเรลต่อวันมาหลายเดือนแล้ว นอกจากนี้ อิรัก ลิเบีย ยังมีแนวโน้มผลิตเพิ่ม รวมทั้งอิหร่านก็คงผลิตเพิ่มหลังจากที่ไม่ถูกคว่ำบาตรแล้ว

ตามหลักของสงครามราคาแล้วการตัดราคาต้องดำเนินไปนานพอควรเพื่อให้คู่แข่งออกจากตลาดไป ตอนนี้แนวโน้มการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานของอเมริกาลดลงเพราะขาดทุน มีการปิดหลุมเจาะ บริษัทพลังงานเจ๊งไป เนื่องจากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ราว 70 ดอลลาร์ขึ้นไป  และเมื่อพิจารณาจากกราฟราคาแล้ว ลุงแมวน้ำคาดว่าโอเปกคงต้องการคุมราคาน้ำมันดิบไปอีกพักใหญ่เพื่อให้เชลออยล์เจ๊งสนิท ประกอบกับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าด้วย ดังนั้นราคาคงอยู่แถวๆนี้แหละ 55-65 ดอลสำหรับ WTI ลุงคิดว่าในปี 2559 หรือ 2016 ราคาก็ยังคงอยู่แถวๆนี้ ดังนั้นกองทุนน้ำมันอาจดูไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าไร รวมทั้งราคายางพาราก็คงไปไม่ไกลจากนี้แล้วล่ะ คงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแถวๆนี้

ทีนี้มาดูราคาทองคำกันบ้าง หากราคาน้ำมันดิบอยู่แถวๆนี้ ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อของโลกในภาพรวมก็คงไม่ได้มากมายกว่านี้ ตอนนี้ชาติที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ไม่ว่าอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างก็เหนื่อยกับการเร่งอัตราเงินเฟ้อให้ถึงเป้า 2% แต่ก็ยังไม่ถึง เพราะเศรษฐกิจไปช้าๆ ดังนั้นในโลกยุคเงินเฟ้อต่ำ จะหวังให้ทองราคาพุ่งคงยาก ประกอบกับดอลลาร์ สรอ มีแนวโน้มแข็งค่าจากการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงคิดว่าจากนี้จนถึงปีหน้า 2016 ราคาทองคำคงอยู่ในกรอบ 1100-1230 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์ กองทุนทองคำก็คงไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าไร

แถมเรื่องกรีซ กรีซนี่ละครโรงใหญ่ สุดท้ายก็ตกลงกันได้ เพราะหากตกลงกันไม่ได้แปลว่ากรีซคงต้องถูกเนรเทศออกจากกลุ่มยูโรโซนที่ใช้เงินยูโรร่วมกัน ยูโรโซนอาจแตก หากระบบเงินยูโรพัง เยอรมนีพี่ใหญ่เสียประโยชน์เยอะเลยเพราะตอนนี้เงินยูโรอ่อนเอื้อการส่งออกของเยอรมนีเต็มๆ ป้าอังเกลาไม่อยากให้ยูโรพังหรอก อีกประการ หากกรีซออกจากยูโรและไปใช้เงินสกุลของตนเอง ประเทศไหนก็ไม่ค้าด้วยเพราะสกุลเงินไม่น่าเชื่อถือ ประชาชนกรีซเองจะเดือดร้อนหนักกว่านี้มาก นายกคงตกกระป๋อง ดังนั้นตอนนี้เล่นบทบาทต่อรองกัน อีกหน่อยก็อุ้มกันต่อไปคร้าบ

No comments: