วันนี้ลุงแมวน้ำมาอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดให้ฟัง วันนี้ล่าสุดมากๆ คืออัปเดตจนถึงเที่ยง 11/07/2013 คือเมื่อกี้นี่เอง
เท้าความกันนิดหนึ่ง ตอนนี้ข้อกังวลของวัลของนักลงทุนมีอยู่ 2 ฝั่งโลกเชียว คือทางฝั่งตะวันตกก็กลัวอเมริกาจะหยุดคิวอี ซึ่งตอนนี้ก็ชัดเจนขึ้นแล้วละว่าหยุดแน่ เงื่อนเวลาก็ชัดเจนขึ้น
ส่วนทางตะวันออกนั้นก็กังวลเรื่องเศรษฐกิจของจีน ปกติตลาดหุ้นบ้านเราไม่ค่อยสนใจตลาดหุ้นจีนเท่าไรนัก จีนจะขึ้นจะลงเราไม่สน แต่มาในระยะหลังนี้ข่าวที่เกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนชักจะมีมากขึ้น ที่ไม่เคยสนใจก็กลับเอามากังวลด้วย ดังนั้นช่วงนี้ที่ตลาดหุ้นจีนตกรูดจึงส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยด้วย เศรษฐกิจจีนกลายเป็นปัจจัยที่นักวิเคราะห์หุ้นหยิบมาใช้ด้วยในการวิเคราะห์หุ้นไทย
ตลาดหุ้นจีนที่ดูเหมือนว่าจะลงจนสุดแล้ว และกลับเป็นแนวโน้มใหญ่ขาขึ้นแล้ว พอมาถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ไหลลงอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเดือนเดียว ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงถึง -18% สาเหตุมาจากเรื่องตัวเลขต่างๆทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ประกอบกับทางธนาคารกลางของจีนเดินหน้าจัดการกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้นอกระบบหรือที่เรียกว่า shadow banking ซึ่งพวกนี้ก็ทำกำไรดี เนื่องจากเป็นสถาบันการเงินที่กู้เงินจากระบบธนาคารปกติ ซึ่งดอกเบี้ยต่ำ ไปปล่อยกู้นอกระบบโดยได้ดอกเบี้ยสูง ซึ่งธนาคารเงาเหล่านี้ฝังรากมายาวนานและเป็นสายเลือดที่หล่อเลี้ยงธุรกิจขนาดย่อย เนื่องจากธุรกิจรายย่อยส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบธนาคารปกติ
การจัดการของทางการจีนก็คือการตัดท่อน้ำเลี้ยง ไม่ปล่อยกู้ให้ธนาคารเงาพวกนี้ ซึ่งส่งผลให้เงินตึงตัวในระบบธนาคาร รวมทั้งธนาคารเองก็ระวังการปล่อยกู้แก่กันเพราะไม่เชื่อเครดิตกัน ธนาคารไหนจะเจ๊งบ้างก็ไม่รู้ ทำให้สภาพคล่องตึงตัวมาก ตลาดหุ้นจีนตกรูด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งต่อมาธนาคารกลางของจีนแถลงยืนยันว่าจะดูแลสภาพคล่องไม่ให้เกิดภาวะเงินตึงตัวขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนหยุดไหล
และเมื่อวานนี้เอง 10 ก.ค. 2013 มีการประกาศตัวเลขส่งออกของจีน ปรากฏว่ายอดส่งออกของจีนในไตรมาสที่ผ่านมาลดลง นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงก็ออกมาแถลงว่าจะใช้นโยบายที่ทำให้เศรษฐกิจจีนมีการเจริญเติบโต รวมทั้งมีอัตราเงินเฟ้อไม่เกินเป้าที่วางเอาไว้
แม้จะเป็นการพูดกว้างๆ ไม่ระบุตัวเลขอะไรให้ชัดเจน แต่ตลาดหุ้นจีนก็ตอบสนองเป็นอย่างดี เพราะคาดหวังว่าทางการจีนน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา โดยตลาดหุ้นจีนเมื่อวันที่ 10 ก.ค. นี้ปรับตัวขึ้นมา +2.8% รวมทั้งยังส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้นเอเชียดีขึ้นด้วย ตลาดหุ้นต่างๆในเอเชียจึงเขียนกันเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งในวันนี้ (11 ก.ค.) ตลาดหุ้นจีนยังขึ้นต่ออีกประมาณ +4.8% (ตอนที่ลุงพิมพ์อยู่นี้ตลาดยังไม่ปิด เลยได้แค่ประมาณเอา)
ทีนี้มาดูทางฝั่งตะวันตกกันบ้าง มาที่สหรัฐอเมริกา ดังที่ทราบการแล้วจากการประชุมของเฟดในเดือนมิถุนายน 2013 ว่าลุงเบนน่าจะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรและตราสาร MBS ลงในช่วงปลายปี 2013 นี้ และน่าจะยุติโครงการในช่วงกลางปี 2013
เมื่อคืนนี้เอง คือคืนวันที่ 10 ของบ้านเรา และเป็นกลางวันของอเมริกา เฟดก็เผยแพร่บันทึกการประชุมเฟดประจำเดือนมิถุนายนออกมา ซึ่งบันทึกการประชุมประจำเดือนนี้ออกเผยแพร่เป็นปกติอยู่แล้ว ในบันทึกนั้นมีรายละเอียดว่ากลุ่มผู้บริหารของเฟดนั้นเสียงแตกเรื่องการยุติคิวอี กล่าวคือ ประมาณครึ่งค่อนทีเดียวที่เห็นว่าควรยุติโครงการ QE ภายในปีนี้ และอีกส่วนหนึ่งเห็นว่าการจะหยุดได้ก็ควรมั่นใจได้ว่าอัตราการว่างงานนั้นลดลงและมีเสถียรภาพ คือไม่ใช่ลดลงเพียงชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็กลับไปสูงใหม่
หลังจากที่บันทึกการประชุมเผยแพร่ออกไป ตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อคืนก็เลยเซ็งๆ ปรับตัวลงนิดหน่อย แต่หลังจากที่ตลาดหุ้นอเมริกาปิดตลาดไปแล้ว ปรากฏว่าลุงเบนไปพูดที่เมืองเคมบริดจ์ โดยบอกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณอย่างสูง (ก็คือการอัดฉีดเงินอย่างมโหฬารนั่นแหละ) ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่ และอัตราการว่างงานที่ 7.6% ในขณะนี้ยังเป็นตัวเลขที่ไม่ดีพอ ตลาดก็ตีความเอาว่าคำพูดของลุงเบนนี้บอกใบ้ว่าคงเลิกคิวอีไม่ได้ง่ายๆหากเศรษฐกิจไม่ฟื้นจริง นักวิเคราะห์ฝรั่งบางคนถึงกับวิเคราะห์กันใหม่เลยว่า เท่าที่ผ่านมาตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรตีความสัญญาณของลุงเบนผิด ที่จริงลุงเบนตั้งใจจะบอกว่ากว่าที่ตลาดแรงงานจะมีอัตราว่างงานลดลงเหลือ 6.5% และมีเสถียรภาพนั้นยังต้องอัดฉีดกันอย่างหนักอีกนานต่างหาก ก็ว่าไปโน่น คือปกติลุงเบนจะระมัดระวังคำพูดมาก จะไม่พูดอะไรตรงๆเพราะว่าจะเป็นการมัดตัวเอง ลุงเบนมักพูดกำกวมเพื่อให้คนฟังไปตีความเอาเอง จึงมีการตีความกันไปต่างๆนานา
พูดแค่นี้แหละก็เป็นข่าวแล้ว ช่วงเช้ามืดของวันนี้ (11 ก.ค. เวลาบ้านเรา) ตลาดล่วงหน้าของอเมริกาก็ขึ้นแรงรับข่าว ประกอบการคำพูดของนายกหลี่เค่อเฉียงของจีน ทำให้วันนี้ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนขึ้นแรง รวมทั้งตลาดหุ้นย่านเอเชียก็พลอยคึกคักขึ้นมาด้วย ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET index ช่วงเช้า ปรับตัวขึ้น +3.18% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปก็ขึ้นแรง ตอนที่ลุงแมวน้ำจิ้มแป้นอยู่นี้ ตลาดหุ้นเยอรมนี +1.5% แล้ว
อ่านดูแล้วข่าวต่างๆดูเหมือนไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่สำคัญเลยเนอะ หลายคนอาจคิดว่าพูดแค่นี้ก็ขึ้นแล้ว คนใหญ่พูดก็งี้แหละ พูดแล้วทำให้เกิดความคาดหวัง คนเล็กพูดตลาดไม่ขึ้นหรอก ก็นี่แหละ ตลาดหุ้นคือตลาดอารมณ์ เดากันไม่ค่อยจะถูกหรอก
เรามาดูกราฟกันดีกว่า ลุงแมวน้ำเอากราฟล่าสุด ร้อนๆ มาให้ดูหลายรูป ดูรูปและคำบรรยายตามไปได้เลยคร้าบ
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นแรงมา 2 วันแล้ว คือ 10 กับ 11 ก.ค. รูปแบบทางเทคนิคเกือบเสียหายกลายเป็นคลื่นใหญ่ขาลง แต่ว่าแค่เกือบ ตอนนี้ยังไม่ใช่ และรีบาวด์ขึ้นมาแล้ว |
ตลาดหุ้นอเมริกาเริ่มเกิดแนวโน้มขาขึ้นแล้วเช่นกันตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน หลังจากร่วงลงมาช่วงหนึ่งเนื่องจากตกใจลุงเบน อีกไม่นานตลาดหุ้นอเมริกาน่าจะทำสถิติจุดสูงสุดใหม่ได้อีก |
เมื่อค่าเงินผันผวน ดูทิศทางยาก ราคาทองคำที่สัมพันธ์กับค่าเงิน ก็ย่อมดูทิศทางยากด้วยเช่นกัน แต่ในทางเทคนิค แท่งเทียนวันสุดท้ายเกิดเป็นรูปแบบดาวโดจิ แปลว่ามีโอกาสลงต่อ แม้ว่า ดอลลาร์ สรอ จะอ่อนค่าก็ตาม |
No comments:
Post a Comment