Wednesday, February 13, 2013

13/02/2013 * สงครามค่าเงิน

อัตราแลกเปลี่ยนเชิงเปรียบเทียบ เงินยูโร เยน ปอนด์ และบาท กราฟนี้เป็นแบบ X_USD ดูแบบราคาหุ้น คือขาขึ้นแปลว่าค่าเงินแข็ง


ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งอย่างแรงต้อนรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่และมาตรการกดดันค่าเงินเยนที่เห็นผล เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่ทันเปลี่ยนแปลงอะไรนัก แต่กำลังใจมาโขแล้ว สะท้อนได้จากอารมณ์ตลาดหุ้นนั่นเอง


ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ กราฟนี้เป็นแบบ USD_THB ต้องดูแบบตรงข้าม คือ ถ้าขาลงแปลว่าเงินบาทแข็ง ถ้าขาขึ้นแปลว่าเงินบาทอ่อน ระยะสั้นๆที่ผ่านมานี้เงินบาททรงตัวชั่วคราว แต่คาดว่าแนวโน้มแข็งค่าต่อ ยกเว้นหากมีการใช้มาตรการควบคุมเงินทุน

วันนี้เรามาติดตามดูอัตราแลกเปลี่ยนกันอีก ตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องสำคัญเพราะโลกยุคนี้เป็นยุคของสงครามค่าเงิน

ทบทวนกันนิดนึง กันยายน 2012 ลุงเบนแห่งเฟดหรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาประกาศใช้ QE3 แบบไม่อั้น จากนั้นตามด้วย QE4 หรือส่วนขยายของมาตรการ operation twist กดดันให้เงินดอลลาร์ สรอ อ่อนค่า เพราะว่าพิมพ์เงินตราออกมามากมายโดยไม่มีอะไรหนุนหลัง ปลายปี 2012 ญี่ปุ่นเปลี่ยนนายก นายกคนใหม่ประกาศใช้ QE ฉบับซามูไรแบบไม่อั้นช่นกัน พร้อมกับกดดันให้ธนาคารกลางของญี่ปุ่นทำให้เงินเยนอ่อนค่าให้ได้ ผลก็คือเงินเยนสั่งได้สมใจ อ่อนค่าอย่างรวดเร็วจนถึงวันนี้

เมื่อดอลลาร์อ่อน เยนอ่อน เงินยูโรก็กลับแข็งขึ้นมา ตอนนี้ทางยุโรป 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรร่วมกันก็ร้องจ๊ากเพราะค่าเงินแข็งบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ก็อีกนั่นแหละ ในยูโรโซนเองประกอบด้วยหลายประเทศ มากคนก็มากความ พี่รองฝรั่งเศสบอกว่าไม่ได้แล้ว อีซีบีต้องแทรกแซงเพื่อกดค่าเงินยูโรให้อ่อน ส่วนทางเยอรมนีพี่ใหญ่บอกว่าแทรกแซงไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ ทาง ECB หรือธนาคารกลางยุโรปเองคงปวดหัวไม่น้อย แต่ก็คงต้องหาทางทำให้เงินยูโรไม่แข็งค่าจนเกินไป ซึ่ง ECB เองก็มีมาตรการ QE แบบไม่อั้นเป็นอาวุธเช่นกัน

มาทางฝั่งอังกฤษบ้าง ลุงแมวน้ำไม่ค่อยได้พูดถึงอังกฤษ วันนี้ก็ขอพูดเสียหน่อยเพราะมีประเด็น อังกฤษใช้ QE เช่นกัน เริ่มตั้งแต่ปี 2009 มาจนถึงกันยายน 2012 ก็ใช้เงินอัดฉีดไป 375,000 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว แต่เศรษฐกิจของอังกฤษก็ยังไม่พ้นจากหล่มถดถอย ล่าสุดรัฐมนตรีคลังของอังกฤษก็ไปทาบทามให้มาร์ก คาร์นีย์ (Mark Carney) คนนี้ยังหนุ่ม อายุไม่ถึง 50 คงยังเรียกลุงไม่ได้ ผู้ว่าการธนาคารกลางของแคนาดาให้มารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางของอังกฤษ คนนี้เป็นชาวแคนาดา แต่ภรรยาเป็นคนอังกฤษ จะมารับตำแหน่งกลางปี 2013 นี้ ซึ่งคณะรัฐบาลของอังกฤษหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้น้ามาร์กคนนี้ฉุดเศรษฐกิจของอังกฤษขึ้นจากหล่มให้ได้ เพราะหากไม่เก่งจริงคงไม่ถึงกับอิมพอร์ตประธานธนาคารกลางมาจากนอกประเทศ คาดการณ์กันว่าอังกฤษภายใต้การบริหารธนาคารกลางของน้ามาร์กคนนี้จะต้องออก QE แบบไม่อั้นเป็นแน่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเต็มพิกัดและเพื่อกดค่าเงินปอนด์ให้อ่อนลง เพราะน้ามาร์กแย้มๆออกมาแล้วว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายครั้งใหญ่ คือไปตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อเอาไว้แล้วทำให้ถึงเป้าหมายนั้น (inflation targetting) ลองนึกถึงญี่ปุ่นตอนนี้ที่ใช้นโยบายเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ ญี่ปุ่นทุ่มไม่อั้นเพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมาย แบบนี้ไม่เรียกว่าสงครามค่าเงินก็ไม่ได้แล้ว รอดูกลางปีนี้

มาดูกราฟค่าเงินกัน กราฟค่าเงินแบบเปรียบเทียบข้างบนนี้ดูแบบกราฟราคาหุ้น คือหากเป็นขาขึ้นก็หมายถึงเงินแข็งค่า

สีน้ำเงินคือเงินยูโร จะเห็นว่าตอนนี้แข็งค่าผิดหูผิดตา คิดว่าทาง ECB คงไม่ปล่อยให้แข็งค่ามากเกินไป

สีเขียวคือเงินเยน ตอนนี้อ่อนค่าอย่างเร็ว เป้าหมายอาจประมาณ 100 เยน/ดอลลาร์ สรอ (ตอนนี้ยังไม่ถึง)

สีแดงคือเงินปอน์ด์อังกฤษ ตอนนี้ทรงตัว แกว่งขึ้นลงในกรอบมาประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ต่อไปธนาคารกลางอังกฤษคงกำลังหาทางเอาลงอยู่

เงินบาท สีน้ำตาล ตอนนี้อยู่ในขาขึ้น จากสถานการณ์ข้างบน แนวโน้มเงินบาทคงแข็งค่าได้อีก ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้น ค่าครองชีพ และราคาอสังหาริมทรัพย์ และท้ายที่สุดคือฟองสบู่ จะสั่งให้ลงคงยากเพราะไทยมีเศรษฐกิจขนาดเล็ก ช้างสารชนกัน เราได้แค่ผ่อนหนักเป็นเบาเท่านั้น คงไปฝืนไม่ได้ ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยกับค่าเงินบาททรงๆเพราะปัจจัยภายนอกส่วนหนึ่ง กับเงินต่างชาติเริ่มรีรอดูท่าทีว่าไทยจะมีมาตรการควบคุมเงินทุนหรือไม่ แต่คงเป็นการรีรอชั่วคราวเท่านั้น

ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ตอนนี้ราคาสินค้าเกษตรยังอ่อนตัว แต่หากต่อไปราคาสินค้าเกษตรผสมโรงปรับตัวขึ้นตามมาด้วยละก็  หากทั้งน้ำมันดิบและสินค้าเกษตรสองปัจจัยนี้ปรับตัวขึ้นเป็นเวลานาน จะเป็นส่วนผลักดันเรื่องเงินเฟ้อและฟองสบู่ให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

Tuesday, February 5, 2013

05/02/2013 * ตลาดยังไปต่อ

ว่างเว้นไม่ค่อยได้อัปเดตเว็บบล็อกมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้ลุงแมวน้ำมาสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างย่อๆให้ฟังละกัน

มาดูทางด้านสหรัฐอเมริกากันก่อน สัปดาห์ที่แล้วตัวเลขจีดีพี (GDP) ไตรมาสสี่ของ สรอ ออกมาติดลบ ตลาดเลยปรับตัวลงนิดหน่อย ส่วนเรื่องหน้าผ้าการคลังก็ซื้อเวลาออกไปได้อีก อัตราการจ้างงานดีขึ้น (แต่มีส่วนที่เป็นงานชั่วคราวด้วย) ถือเป็นข่าวดีได้นิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ในที่สุดดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ของตลาดหุ้นอเมริกันก็สามารถฝ่าด่าน 14,000 จุดไปได้ แต่ยืนได้เพียงวันเดียวก็โดนทุบร่วงลงมา แต่ร่วงลงมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปต่อไม่ได้ ตลาดหุ้นย่อมมีขึ้นๆลงๆเป็นธรรมดา ส่วนเงินดอลลาร์อเมริกันมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

ทางด้านยุโรป ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปออกมาดี ดัชนีตลาดหุ้นในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทีละนิดละหน่อย ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น แต่เมื่อคืน (04/02/2013) ยุโรปเข้าสู่โหมดกังวลอีกแล้ว ห่วงเรื่องสเปน อิตาลี ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงประมาณ -2%

ทางด้านเอเชีย ช่วงนี้ต้องจับตาดูจีนกับญี่ปุ่น จีนนั้นดัชนีฝ่ายจัดซื้อหรือที่เรียกว่า PMI ซึ่งสะท้อนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นอีก นักลงทุนเริ่มทยอยเข้าลงทุนในจีนเพราะว่ากลัวตกรถหากเศรษฐกิจจีนกลับฟื้นขึ้นมาได้จริง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทางด้านญี่ปุ่น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็ปรับตัวขึ้น เงินเยนอ่อนค่าต่อ นายกญี่ปุ่นบอกว่าน่าจะอ่อนไปได้ถึง 100 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินไหลออกจากเยนกระจายไปสู่เงินสกุลอื่นๆเพราะหนีค่าเงินเยนอ่อน

ส่วนไทย ตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทยในเดือนธันวาคมชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้านิดหน่อย แต่ตลาดหุ้นเดินหน้าฝ่าด่าน 1500 ไปได้ ทำจุดสูงสุดในรอบ 18 ปี เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าเพราะยังมีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ทีนี้เรามาดูเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกันบ้าง มาดูกราฟในเชิงเทคนิคกัน

กราฟเปรียบเทียบเงินตราสกุลสำคัญบางสกุลและทองคำ จะเห็นว่าเวินเยนของญี่ปุ่นอ่อนตัวฮวบฮาบ เงินเยนเคยติดอันดับเงินตราสกุลแข็งอันดับสองรองจากทองคำ แต่ว่าตอนนี้หลุดไปแล้ว อันดับสองคือเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ทองคำไม่ค่อยไปไหน ส่วนเงินตราสกุลยุโรปแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นยูโร ฟรังก์สวิส์ โครน โครนา ฯลฯ สอดคล้องกับภาวะตลาดหุ้นในยุโรปที่ปรับตัวดีขึ้น ยกเว้นปอนด์ที่อ่อนค่า


ค่าเงินดอลลาร์ สรอ ดูจาก ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) สองวันมานี้หลุดปลายชายธงลงมาด้านล่าง ให้ตามดูอีกวันสองวัน หากกลับขึ้นไปในกรอบชายธงไม่ได้ก็เกรงว่าเงินดอลลาร์ สรอ จะอ่อนฮวบลงมาอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้


เงินบาทไทย ช่วงนี้ทรงตัวมาหลายวันแล้ว แต่แนวโน้มแข็งค่าต่อไป 29 บาท คงได้เห็น



ค่าเงินยูโร เป้นแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน แต่ว่ายังเดินอยู่ในกรอบขาลงใหญ่ (กรอบสีน้ำเงิน) ดังนั้นให้ดูที่ประมาณ 1.39-1.40 หากผ่านไม่ได้คงร่วงยาว และที่แข็งค่าไม่ใช่เพียงเงินยูโร แต่ว่าเงินตะวันตกส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น ยกเว้นดอลลาร์ สรอ ไม่ว่าเงินดอลลาร์แคนาดา โครน โครนา ฟรังก์สวิส ไปจนถึงเงินรูเบิลของรัสเซีย ล้วนแข็งค่าขึ้นมาทั้งสั้น การที่เงินตะวันตกแข็งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเยนอ่อน และเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำให้ยังนิ่งๆทั้งๆที่ดอลลาร์ สรอ อ่อน เพราะว่าเงินยังมีที่ให้ไหลไปนั่นเอง


ราคาทองคำช่วงนี้อยู่ในกรอบขาลง แต่กำลังไต่ระดับทำแนวโน้มขาขึ้นและกำลังจะชนกรอบ หากชนแล้วทะลุไปได้ก็ขึ้นต่อได้ ต้องดูแถวๆ 1690 เป็นจุดชี้วัด แต่ในระยะยาวๆแล้วทองคำยังเป็นทรัพย์สินที่ถือได้อยู่ เพราะว่าช่วงที่ผ่านมานี้เยอรมนีมีท่าทีแปลกๆ เรียกทองคำที่ฝากไว้นอกประเทศกลับคืนเกือบๆ 700 ตัน อาจมีวาระซ่อนเร้น ไม่รู้ว่าเยอรมนีรู้อะไรลึกๆหรือเปล่า ขณะเดียวกัน จีนก็สะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการทำเงินหยวนให้เป็นเงินตราสากล ซึ่งในการนี้ต้องมีทองคำหนุนหลัง 


น้ำมันดิบเบรนต์ ทดสอบแนวต้านที่ 116.7 ดอลลาร์ สรอ แต่ยังไม่ผ่าน ชนแล้วติดอยู่ตรงนั้น รอดูอีกสองสามวันก็รู้


แนวโน้มตลาดหุ้น ตลาดสหรัฐอเมริกาน่าจะไปต่อเพื่อทดสอบแนวต้านเดิม คือ DJIA น่าจะไปทดสอบ 14,300 จุด เพราะลุงแมวน้ำคาดว่า สรอ น่าจะอยู่ในคลื่น 5 ส่วนยุโรปก็เช่นกัน เยอรมนีน่าจะอยู่ในคลื่น 5 ดังนั้นยังไปต่อได้

ส่วนตลาดหุ้นเอเชีย ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยแรงดี เงินไหลเข้าต่อเนื่อง ฟองสบู่เริ่มก่อตัว เงินบาทแข็งแต่เงินก็เฟ้อได้เพราะว่าเงินเข้ามามากเสียขนาดนี้ เงินเยอะก็ซื้อแหลก ซืิ้อหุ้น ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน คอนโด ตอนนี้มีการไปกว้านซื้อที่ดินต่างจังหวัดจากเกษตรกรมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อเก็งกำไร ต่อไปเกษตรกรจะไม่มีที่ดินของตนเอง ลูกหลานเกษตรกรคนรุ่นใหม่จะทิ้งถิ่นฐานเข้าเมือง กลายเป็นเศรษฐีใหม่ชั่วคราว เพราะว่าขายที่ไปแล้วได้เงินเยอะ ทิ้งชนบทสู่เมือง รูปการณ์จะเป็นว่ารู้จักใช้เงินแต่ไม่รู้จักหาเงิน แล้วต่อไปจะอยู่อย่างไร เงินหมดแล้วจะทำอย่างไร ที่ดินเกษตรก็กลายเป็นของนายทุนหมดแล้ว สถานการณ์ในระยะยาวน่าเป็นห่วงครับ

เอาละครับ คงได้ภาพกว้างกันไปพอสมควร แถมฟังลุงแมวน้ำบ่นอีกนิดหน่อย แล้วคุยกันใหม่คร้าบ ^__^