Sunday, June 29, 2014

29/06/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เติมฝันวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า (2)





ในครั้งก่อนลุงแมวน้ำเล่าเรื่องเกี่ยวกับบางกะเจ้า ปอดสีเขียวใกล้กรุงเทพฯพอเป็นสังเขปแล้ว วันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวบางกะเจ้ากัน

ก่อนอื่น ลุงขอเท้าความก่อนว่า บางกะเจ้านั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยา ดังนั้น ผู้ที่จะไปเที่ยวบางกะเจ้าจึงสามารถเลือกทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ตั้งแต่ เดินเล่นชมสวนสาธารณะ ชมเรือกสวนแบบดั้งเดิม ดูนก ผีเสื้อ และพรรณไม้ต่างๆ ชมชีวิตความเป็นอยู่แบบอนุรักษ์ ชมตลาดน้ำ เลือกซื้อสินค้า ขี่จักรยานออกกำลังกาย ตลอดไปจนถึงพักแรมแบบโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและเพื่อการพักผ่อน ฯลฯ

เห็นไหมว่าการไปเที่ยวบางกะเจ้านั้นสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง การเดินทางก็สามารถไปได้หลายทาง แต่ที่ลุงแมวน้ำจะพาพวกเราไปเที่ยวกันในวันนี้เป็นการไปขี่จักรยานเล่นเพื่อออกกำลังกายและเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ไปแบบครึ่งวัน ใช้ขนส่งมวลชน ไม่ต้องนำพาหนะไปเอง



สู่บางกะเจ้า ตั้งต้นกันที่คลองเตย


ลุงแมวน้ำจะตั้งต้นที่คลองเตย แล้วพาพวกเรานั่งเรือข้ามฟากไป ลุงจะเล่าด้วยภาพก็แล้วกัน ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลัง

ออกเดินทางกันได้เลยคร้าบ






การผจญภัยของลุงแมวน้ำในวันนี้ใช้เส้นทางคลองเตยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปบางกะเจ้า

ข้างบนเป็นแผนที่ ย่านคลองเตย มายังไงก็ได้ ให้มาถึงคลองเตยก็แล้วกัน จากนั้นไปตั้งหลักที่หน้าวัดคลองเตยนอก สำหรับลุง แนะนำว่ารถเมล์สาย 4, ปอ 4 รถผ่านหน้าวัด หรือจะนั่งรถเมล์สาย 47 ก็ได้ อู่รถเมล์สาย 47 อยู่ข้างๆวัดนั่นเอง





นี่เป็นบรรยากาศหน้าวัดคลองเตยนอก อยู่ใกล้กรมศุลกากร ขอย้ำว่าท่าเรือที่ข้ามไปบางกะเจ้านั้นอยู่ที่วัดลองเตยนอก นะคร้าบ เนื่องจากมีวัดคลองเตยในด้วย ชื่อคล้ายๆกัน อยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย อย่าหลงไปที่วัดคลองเตยใน

ที่หน้าวัดคลองเตยนอกเป็นด่านของทางด่วนด้วย  ใช้เป็นจุดสังเกตได้





จากริมถนนใหญ่ เดินเข้ามาในซอยวัดคลองเตยนอก เลียบกำแพงวัดมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าไปในวัด สักครู่เดียวก็จะเดินมาจนสุดทางซึ่งเป็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเรืออยู่ตรงนี้แหละ ซื้อตั๋วก่อนนะคร้าบ คนละ 10 บาท





เรือที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งตรงข้าม (ฝั่งตรงข้ามคือบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง) มีสองชนิด หากเป็นเรือใหญ่จะมาเป็นรอบๆ วันหนึ่งมีไม่กี่รอบ หากเป็นเรือเล็กก็คือเรือหางยาวดังที่เห็นในรูป นั่งได้เต็มลำ 5 คน แต่ว่าไม่ต้องรอครบห้าคนหรอก คนเดียวหรือสองคนก็ออกแล้ว ไม่ต้องคอยนาน แทบจะออกเรือทันทีเลยก็ว่าได้

เอาละ ขึ้นเรือได้ ระวังนิดหนึ่งนะคร้าบ ไม่ตกน้ำหรอก ลุงยังไม่เคยเห็นนักท่องเที่ยวตกน้ำเลย ^_^





เมื่อไปถึงฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยา นั่นแหละ ถึงบางกะเจ้าแล้ว ตรงท่าเรือนั้นมีร้านจักรยานให้เช่าอยู่ เช่าที่นั่นแล้วขี่ปร๋อไปเลย คิดค่าเช่าเหมาวันละ 100 บาท กี่ชั่วโมงก็ได้ ร้านจักรยานให้เช่านี้ปกติเปิดเช้า ประมาณ 8-9 โมง ไม่ได้มีเวลาทำการเป๊ะๆหรอก

วันนั้นลุงแมวน้ำไปถึงประมาณ 6 โมงครึ่ง ยังเช้าตรู่อยู่เลย ร้านจักรยานให้เช่ายังไม่เปิด >.<





ไม่เป็นไร ทุ่มทุนอีกนิดหน่อย ยังมีจุดให้เช่าจักรยานอีกจุดหนึ่ง อยู่ที่หน้าสวนศรีฯ ลุงก็นั่งมอเตอร์ไซค์ วินอยู่ที่ท่าเรือนั่นเอง นั่งไปที่หน้าสวนศรีฯ 15 บาท หรือจะเดินก็ได้ ก็สักสิบหน้านาที ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่อย่าเดินเลย เช้าๆแบบนี้น่าขี่จักรยาน สายๆแล้วแดดร้อน ทำเวลาหน่อยดีกว่า

อ้อ ขอแถมอีกหน่อย วินมอเตอร์ไซค์นี้ไปได้ทั่วบางกะเจ้า หากอยากไปช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเพียงอย่างเดียวก็นั่งมอเตอร์ไซค์ตรงไปที่ตลาดน้ำเลยก็ได้ ราคามาตรฐาน มีป้ายบอกราคาติดอยู่ที่วิน



เส้นทางจักรยาน เริ่มต้นที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์


ลุงก็ควบมอเตอร์ไซค์มาลงที่หน้าสวนสาธารณะ ชื่อ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ แต่ชาวบ้านเรียกสั้นๆว่าสวนศรีฯ ยังมีร้านจักรยานให้เช่าอีกเจ้าหนึ่ง (ที่จริงเจ้าของเดียวกัน) ร้านนี้ลุงเจ้าของร้านพักอยู่ที่ร้านนี้เลย ลุงแมวน้ำก็ไปเรียกที่หน้าบ้านเอาหน่อย แกก็ออกมาต้อนรับและจัดจักรยานให้ ^_^

สังเกตดูในรูป จะเห็นว่าที่ถนนทางเข้าสวนศรีฯนั้นมีรถยนต์มาจอดเรียงรายอยู่หลายคัน รถเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักปั่นจักรยานที่นำเอาจักรยานของตนเองใส่รถมา และมาขี่ท่องเที่ยวในบางกะเจ้า ใครสะดวกจะนำจักรยานมาเองก็ขับรถมาจอดที่หน้าสวนแล้วปั่นจักรยานท่องเที่ยวก็ได้

ร้านจักรยานที่หน้าสวนนี้คิดค่าเช่าวันละ 100 บาทเช่นกัน หรือจะเช่าเป็นรายชั่วโมงก็ได้ มีอัตราชั่วโมงละ 30 บาทให้เลือกด้วย เพราะจุดนี้ผู้เช่าจักรยานมักขี่เที่ยวในสวนศรีฯมากกว่าที่จะออกไปข้างนอก สวนก็ไม่ใหญ่มาก ขี่เดี๋ยวเดียวก็ทั่วแล้ว ดังนั้นจึงมีอัตรารายชั่วโมงให้เลือกด้วย



เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบใหญ่ (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)


เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบกลาง (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)


เส้นทางขี่จักรยานเที่ยวบางกะเจ้า วงรอบเล็ก (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดขยายได้)

เอาละ เมื่อเช่าจักรยานได้แล้วก็ออกเดินทางกัน ลุงนำเอาภาพแผนที่เส้นทางจักรยานรอบบางกะเจ้ามาให้ดูด้วย มี 3 เส้นทาง เป็นวงรอบใหญ่ กลาง และเล็ก วงรอบใหญ่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งวัด สวนกล้วยไม้ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ จุดตั้งต้นเส้นทางในแผนที่อยู่ที่สวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ ซึ่งเป็นส่วนขั้วปอดหรือขั้วกระเพาะหมูนั่นเอง (ด้านซ้ายมือของภาพ)



ชนบทในฝัน


ลุงแมวน้ำเลือกขี่ในเส้นทางวงรอบเล็ก เป็นระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร โดยลุงวางแผนว่าจะขี่วนเป็นวงกลมจากสวนศรีฯไปจนถึงตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จากนั้นก็ขี่วนกลับมา ไม่ได้ไปจนถึงสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์หรอก ก็ประยุกต์เส้นทางเอาหน่อย ลุงวางแผนเอาไว้ว่าขี่ชมบางกะเจ้าก่อน จากนั้นจึงค่อยมาขี่เที่ยวภายในสวนศรีฯเป็นลำดับสุดท้าย





เอาละคร้าบ ลุงแมวน้ำพร้อมแล้ว แมวน้ำขี่จักรยาน ออกเดินทางกันเลย ^_^





เส้นทางจักรยานจากสวนศรีฯมุ่งหน้าไปตลาดบางน้ำผึ้งนี้ ในช่วงนี้ยังเป็นซอยย่อยต่างๆ คือเป็นซอยเพชรหึงษ์ต่างๆ ยังไม่ได้ออกสู่ถนนใหญ่หรือถนนเพชรหึงษ์ รถยนต์น้อยมาก ขี่จักรยานได้อย่างปลอดภัย

คำว่าเพชรหึงษ์นี้มีทั้งเพชรและมีทั้งหึง ไม่ใช่เรื่องหึงหวงอะไรหรอก คำนี้ปรากฏอยู่ในวรรณคดี หมายถึงลมพายุชนิดหนึ่ง มีความรุนแรง เรียกว่าลมเพชรหึงษ์ ส่วนชื่อถนนเพชรหึงษ์นี้ไม่ได้มาจากลมเพชรหึงษ์ แต่ว่ามาจากชื่อป้อมเพชรหึงษ์อันเป็นป้อมโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ในบางกะเจ้านั่นเอง





บรรยากาศในบางกะเจ้าบางส่วนยังเป็นสวนชนบทอยู่ ดูสงบ ร่มเย็น สวนแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว แต่ที่ปล่อยเป็นสวนร้างไม่ได้ทำอะไรก็มีเยอะทีเดียว ต้นไม้แถวนี้ต้นเป็นไม้น้ำกร่อย คือทนน้ำเค็มได้ เช่น มะพร้าว ต้นจาก ฯลฯ ผลไม้อื่นๆที่ปลูกได้ เช่น มะกอก ตะลิงปลิง กล้วย ชมพู่มะเหมี่ยว และมะม่วง





ภาพพระออกบิณฑบาตรยามเช้าราวกับในชนบทต่างจังหวัดที่ห่างไกลออกไปจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ยิ่งชวนให้รู้สึกสงบ ร่มเย็น นิมนต์คร้าบ นิมนต์





ลึกๆเข้าไปมีแต่สวน ก็เปลี่ยวเหมือนกัน ยามกลางคืนเล่าเรื่องผีคงน่ากลัวอยูไม่น้อย สมัยก่อน ชนบทอยู่กันหลวมๆแบบนี้แหละ ยามกลางคืน ต้นจาก ต้นตาล ทอดเงาตะคุ่มสูงปรี๊ด ชาวชนบทก็นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ เล่าเรื่องผีสู่กันฟังน่ากลัวพิลึก ขนลุกขนพอง สาวๆร้องกรี๊ด เอามือปิดตา (แต่ถ่างนิ้วนิดหน่อย) แต่สมัยนี้อยู่กันอย่างแออัด เล่าเรื่องผีไม่ได้บรรยากาศเลย เฉยมาก >.<





อาชีพในท้องถิ่นบางกะเจ้า ทำการค้าเล็กๆน้อยๆอยู่ในชุมชน บ้านนี้รับปักเสื้อนักเรียน





เมื่อมีร้านรับปักเสื้อนักเรียน แสดงว่าแถวนี้ต้องมีโรงเรียน นี่ โรงเรียนอยู่นี่ เป็นโรงเรียนที่อยู่คู่กับชุมชน





อาชีพท้องถิ่นอื่นๆก็ยังมี อาชีพมาตรฐานโลกนั่นก็คือ ร้าวโชว์ห่วยหรือว่าร้านขายของชำ หลายๆคนก็เริ่มคิดกันว่าเมื่อเปิดเออีซีแล้วร้านเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ที่จริงไม่ค่อยเกี่ยวกับเออีซีหรอก เพราะแม้ไม่มีเออีซี ร้านเหล่านี้ก็เผชิญภัยคุกคามจากร้านสะดวกซื้ออยู่แล้ว





นี่ๆ ชนบทสุดๆ เหมือนในต่างจังหวัดเลย (ที่จริงบางกะเจ้าก็ต่างจังหวัดนั่นแหละ แต่ว่าบังเอิญอยู่ติดกรุงเทพฯ) ปั๊มน้ำมันนี้เป็นปั๊มที่พัฒนามาจากปั๊มน้ำมันหลอดแบบเก่า ที่เห็นหลอดสายยางติดตั้งบนถังน้ำมันแดงๆนั่นแหละ ปั๊มน้ำมันหลอดยังพอเห็นได้บ้าง แต่เหลือน้อยแล้ว เนื่องจากพัฒนามาเป็นตู้ที่เห็นในรูปนี้แทน

ที่เห็นในภาพนี้เรียกว่า ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ หยอดเหรียญแล้วเติมน้ำมันเอาเอง น้ำมันจะไหลออกมาตามจำนวนเงินที่หยอด เป็นที่นิยมในต่างจังหวัดยุคนี้ และสินค้าตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้เป็นสินค้าในกลุ่มหยอดเหรียญที่สร้างกำไรให้แก่หุ้น SINGER อย่างงดงาม




นี่ก็เป็นร้านกาแฟท้องถิ่น แต่ว่าแต่งให้โมเดิร์นหน่อย ก็ดูน่ารัก กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศดีเหมือนกัน





นี่เป็นร้านอาหารระดับหรูในบางกะเจ้า 


นี่แหละ ชนบทบางกะเจ้า ปอดของกรุงเทพฯ สงบร่มเย็น น่าเที่ยว แต่นี่เป็นส่วนที่อยู่ในซอยเพชรหึงษ์ หากขี่จักรยานเลยออกไปอีกจะเข้าสู่ถนนใหญ่ และไปถึงตลาดบางน้ำผึ้ง ภาพชนบทแบบนี้ก็จะเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้เห็นแบบนี้อีก เอาไว้สัปดาห์หน้าไปเที่ยวกันต่อนะคร้าบ ^_^

Wednesday, June 25, 2014

25/06/2014 การลงทุนหุ้นและกองทุนรวมในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ (healthcare industry) (4)



กำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของหุ้นในซับเซ็กเตอร์โรงพยาบาล ยา และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดีกว่าซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคเสียอีก อีกทั้งความผันผวนน้อยกว่า



หลังจากที่ลุงแมวน้ำดูดน้ำปั่นจนชื่นใจแล้วจึงคุยต่อ

“เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนแล้วล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ลุงดูดน้ำปั่นทีไรเป็นลืมเรื่องที่เราคุยกันทุกที” ลิงบ่น “ลุงบอกว่าในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพยังมีซับเซ็กเตอร์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีและเสียวไส้น้อยกว่าซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคโนโลยีไง”

“อ้อ ใช่ ลุงเล่าค้างไว้ตรงนั้นเอง” ลุงแมวน้ำพูดพลางดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากหูกระต่าย จากนั้นคลี่ออกแล้วพูดต่อ “เอ้า นายจ๋อ มาดูนี่



หุ้นโรงพยาบาล หุ้นยา และหุ้นวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์


“ตารางนี้เป็นข้อมูลทางปัจจัยพื้นฐานของซับเซ็กเตอร์ต่างๆในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพ ข้อมูลนี้ลุงเอามาจาก Yahoo Industry Center ซึ่งทางยาฮูก็มีการจัดแบ่งซับเซ็กเตอร์ในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพแตกต่างไปจากที่ลุงแมวน้ำเคยยกตัวอย่างมาให้ดู แต่ก็ไม่เป็นไร แม้จะแบ่งซับเซ็กเตอร์ไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่ สามารถใช้ดูเป็นแนวทางได้

“ตารางนี้แสดงซับเซ็กเตอร์พร้อมกับขนาดมาร์เก็ตแคป ค่าพีอีเฉลี่ยของซับเซ็กเตอร์ รวมทั้งยังแสดงค่า ROE, dividend yield, และค่า net profit margin เฉลี่ยของซับเซ็กเตอร์อีกด้วย”

“แล้วดูยังไงล่ะลุง” ลิงถาม “มีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด ผมดูไม่ค่อยเข้าใจ”

“เมื่อนายจ๋อซื้อหุ้น เรื่องที่นายจ๋อให้ความสำคัญที่สุดในการเลือกหุ้นคืออะไรล่ะ” ลุงแมวน้ำถาม

“ก็ผลกำไรน่ะสิลุง ถามได้” ลิงตอบ

“ใช่แล้ว สิ่งที่นักลงทุนสนใจมากที่สุดก็คือเงินที่ลงทุนไปนั้นให้ผลตอบแทนได้มากน้อยเพียงใด” ลุงแมวน้ำตอบ “ในเชิงการเทรด ก็หมายถึงการที่เราซื้อหุ้นในราคาถูกแล้วขายได้ในราคาแพงๆ แต่ในเชิงการทำธุรกิจ ก็หมายถึงว่าธุรกิจนั้นเอาเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปดำเนินธุรกิจแล้วธุรกิจนั้นมีกำไรเมื่อเทียบกับเงินลงทุนแล้วเป็นอย่างไร”

“ก็ยังงงอยู่เลยลุง” ลิงทำหน้างงๆ

“ไม่เป็นไร ในชั้นนี้ลุงสรุปง่ายๆก็แล้วกันว่า เมื่อนักลงทุนพิจารณาหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ตัวเลขทางการเงินค่าหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจก็คือค่า ROE (return on equity) ซึ่งค่านี้แสดงกำไรสุทธิของกิจการหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น ค่านี้ถือกันว่ายิ่งสูงก็ยิ่งดี โดยทั่วไปนักลงทุนมักหาหุ้นที่มีค่า ROE เกินกว่า 15%  เพราะนั่นแปลว่าเงินลงทุนของเราให้ผลตอบแทนที่ดี” ลุงแมวน้ำพูด

“ลุงพูดสั้นๆ ง่ายๆ แบบนี้แต่แรกก็หมดเรื่อง” ลิงจ๋อยิ้มออกมาได้ พลางก้มหน้าดูในตาราง “ไหน ลุง แล้วกลุ่มไหนมีค่า ROE สูงๆบ้างล่ะ”

“นายจ๋อดูที่ซับเซ็กเตอร์ไบโอเทคโนโลยีก่อน เห็นไหมว่า ROE ของซับเซ็กเตอร์นี้เฉลี่ยแล้วมีค่า 4.7% ในทางปัจจัยพื้นฐานถือว่าผลตอบแทนต่อเงินลงทุนยังไม่สูงนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าหุ้นในกลุ่มนี้แตกต่างกันมากนั่นเอง บางบริษัทก็ขาดทุนหนัก บางบริษัทก็กำไรมาก เฉลี่ยแล้วจึงได้ตัวเลขที่ดูไม่น่าประทับใจนัก” ลุงแมวน้ำอธิบาย “ทีนี้ลองดู 3 บรรทัดบนสุดของตารางนี้ เห็นไหมว่าค่า ROE เป็นอย่างไร”

“ว้าว” ลิงอุทาน “ซับเซ็กเตอร์โรงพยาบาล ค่า ROE สูงดีจัง ตั้ง 78.9%”

“สามบรรทัดแรกของตารางคือ 3 ซับเซ็กเตอร์ที่มีค่า ROE สูง คือให้ผลตอบแทนต่อเงินลงทุนสูง จะเห็นว่าโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนดีมาก คือ 78.9% รองลงมาคือซับเซ็กเตอร์ผู้ผลิตยารายใหญ่ มีค่า ROE 24.9% และตามด้วยซับเซ็กเตอร์ผู้ผลิตวัสดุทางการแพทย์ พวกที่ใช้แล้วทิ้งไป เช่น ชุดตรวจเบาหวาน ชุดตรวจการตั้งครรภ์ สายยาง เข็ม หลอดฉีดยา ฯลฯ ให้ค่า ROE 14.5% สามกลุ่มนี้ก็น่าลงทุนเช่นกัน” ลุงแมวน้ำพูด “หากดูจากตัวเลข สามกลุ่มที่ลุงว่านี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเงินลงทุนดีกว่ากลุ่มไบโอเทคอีก และราคาก็ผันผวนน้อยกว่า ผู้ที่ไม่ชอบความหวือหวาก็คงชอบ เพราะไม่ค่อยเสียวไส้ แต่หากชอบความตื่นเต้นผจญภัยก็ต้องไปกลุ่มไบโอเทค”

“เดี๋ยวก่อน ลุง นี่เป็นข้อมูลของตลาดหุ้นอเมริกานี่” ลิงจ๋อทักท้วง “แล้วผมจะเอามาใช้ประโยชน์อะไรได้ล่ะ”

“ได้สิ อย่าลืมว่านี่คือเมกะเทรนด์หรือเป็นกระแสโลก ตลาดหุ้นอื่นๆก็ยังสามารถยึดแนวทางนี้ได้ นั่นคือ หุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล ยา วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดี” ลุงแมวน้ำตอบ “และนอกจากนี้ เรายังสามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกหุ้นและกองทุนรวมได้อีกด้วย”

“งั้นเหรอครับ ถ้ายังงั้นขยายความต่อเลยลุง” ลิงจ๋อพูด “พูดถึงกำไรแล้วผมหายง่วงเลย”

“เดี๋ยวก่อน ลุงคอแห้ง...” ลุงแมวน้ำพูด แต่ยังไม่ทันจบประโยค

“โอ๊ย ไม่ต้องหยุดดูดน้ำปั่นแล้ว ลุงเล่าต่อก่อน กำลังอยากรู้” ลิงจ๋อดุ “ทำไมคอแห้งบ่อยจริง”

“อ้อ อ้อ อ้อ ยังไม่ดูดน้ำปั่นก็ได้ เฮ้อ...” ลุงแมวน้ำจ๋อย “ก็นี่แหละ ในตลาดหุ้นบ้านเราไม่มีหุ้นไบโอเทค มีแต่หุ้นโรงพยาบาล แต่จากข้อมูลนี้ลุงก็กำลังจะบอกว่าหุ้นโรงพยาบาลนี้ก็เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีไง ก็เลือกลงทุนได้ และนอกจากนี้ ตอนนี้เรายังมีหุ้นผู้ผลิตยา วิตามิน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้วด้วย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน  นอกจากนี้ เรายังมีกองทุนรวมในธีมสุขภาพที่ไปลงทุนในต่างประเทศด้วย 3 กองทุน เราก็ใช้หลักนี้ในการพิจารณาเลือกลงทุนได้”

“อ้อ ถ้ายังงั้นในบ้านเราก็มีหุ้นและกองทุนในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพให้เลือกพอสมควรเลยสินะ ถ้ายังงั้นมีหุ้นและกองทุนอะไรที่น่าลงทุนบ้างละลุง” ลิงจ๋อถาม

“ถามกันตรงๆแบบนี้เลยรึ” ลุงแมวน้ำหัวเราะ “ตอบตรงๆไม่ได้หรอก แต่เอาเป็นว่าลุงจะเล่าภาพกว้างของอุตสาหกรรมนี้ในเมืองไทยให้ฟังก็แล้วกัน”

“คร้าบ เชิญเลยลุง” ลิงจ๋อตอบ

“พูดถึงกลุ่มยา วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก่อนก็แล้วกัน เพราะมีหุ้นเพียงไม่กี่ตัว กลุ่มนี้เท่าที่ลุงนึกออกก็มีเพียง 2 หุ้น

หุ้น MEGA ผลิตยา ไวตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หุ้นนี้ทาง MSCI เลือกเข้าไปคำนวณดัชนี MSCI Small Cap Index ด้วย ตลาดหลักทรัพย์จัดให้ MEGA อยู่ในกลุ่มพาณิชย์ ดังนั้นบางคนจึงอาจนึกไม่ถึงว่าในอีกมุมหนึ่งก็เป็นหุ้นในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์

“กับอีกหุ้นหนึ่งคือ หุ้น APCO นี่ผลิตพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จัดอยู่ในกลุ่ม MAI ก็อยู่ในข่ายเฮลท์แคร์เช่นกัน”

“แล้วหุ้นโรงพยาบาลล่ะลุง บ้านเรามีหุ้นโรงพยาบาลอยู่ไม่น้อย แล้วจะเลือกยังไง” ลิงถาม

“ใช่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์บ้านเรามีหุ้นโรงพยาบาลอยู่ไม่น้อย โดยจัดอยู่ในกลุ่มการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลที่อยู่ในกลุ่ม MAI ด้วย ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในตลาดหลักทรัพย์ 16 แห่ง และที่ชวนให้งุนงงก็คือ หุ้นโรงพยาบาลเหล่านี้ถือหุ้นไขว้กันไปไขว้กันมาอีกด้วย กลายเป็นหุ้นในลักษณะเครือข่ายหรือพันธมิตรกัน” ลุงแมวน้ำพูด

“มีเครือข่ายไหนบ้างละครับ” ลิงจ๋อถาม

“ตอนนี้คนในวงการโรงพยาบาลก็พูดกันเล่นๆว่า โรงพยาบาลเอกชนมีอยู่แค่ 2 เครือข่าย คือ กลุ่มดุสิต กับกลุ่มนันดุสิต (non-dusit) คือหากจะมองกว้างๆก็มีแค่สองเครือข่ายแค่นี้แหละ คือ BGH และโรงพยาบาลที่ BGH ไปเทคโอเวอร์มาหรือไปถือหุ้นบางส่วน พวกนี้คือเครือดุสิต กับโรงพยาบาลอื่นๆที่กลุ่มดุสิตไม่ได้ถือหุ้น หรือถืออยู่น้อย ไม่ได้มีส่วนควบคุมการบริหาร ก็เรียกว่าเป็น non-dusit

“แต่ถ้าหากจะมองเป็นก๊กใหญ่ๆ ตอนนี้ก็น่าจะเป็น 3 ก๊ก คือ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BGH) อันประกอบด้วยโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) บำรุงราษฎร์ (BH) และโรงพยาบาลอื่นๆทั้งที่อยู่ในและนอกตลาดหลักทรัพย์อีกนับสิบโรงพยาบาล

“กับอีกกลุ่มคือ เครือโรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) ประกอบด้วย โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม (CMR) ศิขรินทร์ (SKR) วิภาราม แพทย์ปัญญา สินแพทย์ คือมีทั้งโรงพยาบาลทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน

“อีกกลุ่มคือ เครือบางกอกเชน (BCH) คือกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ การุญเวช และ WMC (World medical center)

“ข้อมูลเหล่านี้ไม่นิ่งนะนายจ๋อ กลุ่ม ก๊ก สัดส่วน เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะตอนนี้กลุ่มโรงพยาบาลไทยเทคโอเวอร์กันสนั่น หุ้นโรงพยาบาลเดิมทีเป็นหุ้นกลุ่มที่ทนต่อสภาพเศรษฐกิจ (defensive stock) โตไม่เร็วแต่ก็ไม่ลงแรง แต่ตอนนี้หุ้นโรงพยาบาลต้องนิยามกันใหม่แล้วว่าเป็นหุ้นเติบโตเร็ว (growth stock)  โรงพยาบาลใหญ่ มีโรงพยาบาลในเครือมาก พวกนี้บริหารแพทย์ บริหารต้นทุนได้ดี กำไรมาจากการลดต้นทุนด้วย พวกนี้ก็ราคาหุ้นขึ้นดีเพราะว่ากำไรเติบโตดี


เปรียบเทียบราคาหุ้นในรอบ 5 ปีของหุ้นโรงพยาบาลกรุงเทพฯ (BGH) เกษมราษฎร์ (BCH) และวิภาวดี (VIBHA) เทียบกันดัชนีเซ็ต (SET index) จะเห็นว่าหุ้นโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว ดีกว่าดัชนี ดังนั้น ในปัจจุบัน หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไม่ใช่หุ้นตั้งรับหรือ defensive stock แล้ว แต่ว่าเป็นหุ้นเติบโตสูง (growth stock)


“ส่วนพวกโรงพยาบาลเล็ก หรือโรงพยาบาลเดี่ยว ไม่มีเครือข่าย แม้ว่าผลประกอบการไม่ค่อยดี เนื่องจากต้นทุนสูง บริหารบุคลากรและบริหารต้นทุนให้ต่ำได้ยาก แต่ราคาหุ้นก็วิ่งดีเหมือนกัน เนื่องจากคาดหมายกันว่าสักวันหนึ่งอาจถูกเทคโอเวอร์ วันนี้ลุงพูดเฉพาะในภาพใหญ่ก่อน ลงรายละเอียดในตอนนี้ไม่ไหวเพราะว่าเยอะเหลือเกิน”

“ไม่เป็นไรครับลุง ผมฟังแล้วยังงงอยู่เหมือนกัน ลุงแมวน้ำพูดถึงกองทุนรวมด้วยดีกว่า” ลิงจ๋อซักต่อ



กองทุนรวมสุขภาพ (กองทุนรวมเฮลท์แคร์)


“กองทุนรวมโดยทั่วไปที่ลงทุนในหุ้นไทยมักมีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลอยู่ด้วย แต่ กองทุนรวมที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์โดยตรง ตอนนี้มีเพียง 2 กองทุน และเป็นกองทุนประเภท FIF (foreign investment fund) คือไปลงทุนในต่างประเทศทั้งสองกองทุนเลย นั่นคือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) ของค่ายบัวหลวง กับ กองทุนเปิดภัทร โกลบอล เฮลธ์แคร์ (PHATRA GHC) และ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้ปันผล (KF-HEALTHD)

“รายละเอียดเป็นยังไงบ้างละลุง สามกองทุนนี้ต่างกันยังไง” ลิงจ๋อถาม

“โอย ลุงคอแห้ง ไม่ไหวแล้ว ขอดูดน้ำปั่นก่อนค่อยเล่าต่อ” ลุงแมวน้ำพูด