Tuesday, June 24, 2014

24/06/2014 ตลาดอ่อนแรง พลังงานทดแทนอันตราย ส่งออกอ่อนไหว ปิโตรเคมี ถ่านหิน โภคภัณฑ์ ต้องรอจีน



วันนี้เรามาอัปเดตตลาดกันคร้าบ

ก่อนอื่นคงต้องมาดูกันที่ปัจจัยมหภาคกันก่อน ดูภายนอกแล้วค่อยมาดูภายใน

สำหรับสถานการณ์โลก ขณะนี้เกิดความไม่สงบที่อิรัก กลุ่ม ISIL อันเป็นกองกำลังติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายสุหนี่พยายามล้มล้างการปกครองของรัฐบาลชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยบุกยึดเมืองต่างๆในอิรักและพยายามรุกเข้าเมืองหลวง ขณะที่รัฐบาลก็ต่อต้านอย่างเต็มกำลัง ความไม่สงบนี้เป็นเรื่องระดับภูมิภาค ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องในประเทศ เพราะทั้งสองกลุ่มต่างก็มีเพื่อนบ้านที่เป็นนิกายเดียวกันอยู่ อย่างเช่น ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี ฯลฯ ก็เป็นมุสลิมสุหนี่ ส่วนอิหร่านก็เป็นมุสลิมชีอะห์ นอกจากนี้ อเมริกายังมีผลประโยชน์ในบ่อน้ำมันในอิรักอีกด้วย ดังนั้นเรื่องอิรักจึงโยงกับอีกหลายชาติ

ขณะเดียวกัน ที่ยูเครน เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังไม่จบ รัสเซียถูกอเมริกาและยุโรปบอยคอตเนื่องจากเข้าแทรกแซงยูเครน

ปัจจัยมหภาคในสองภูมิภาคนี้ส่งผลต่อราคาทองคำและน้ำมันดิบ เมื่อราคาทองคำผันผวน อัตราแลกเปลี่ยนก็ผันผวนไปด้วย

ราคาทองคำ แนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่อยู่ในคลื่น 4 ใหญ่ ดังนั้นจึงผันผวนมาก

ราคาน้ำมันดิบ เล่นข่าวสถานการณ์ในอิรัก แนวต้านใหญ่คือ 110 ดอลลาร์ หากเรื่ออิรักซาลง ราคาน้ำมันดิบก็คงลดลง 


นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิต (PMI) ของยุโรปล่าสุดออกมาไม่ค่อยดี ส่วนของจีนดีขึ้น ส่วนของอเมริกานั้นตัวเลขสับสน มีทั้งดีขึ้นและไม่ดี นอกจากนี้ เริ่มมีกระแสความกังวลเรื่องอเมริกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดขึ้นมา

สำหรับประเทศไทย ตอนนี้ คสช เริ่มเข้ามาสะสางเรื่องระบบพลังงานของชาติอย่างจริงจัง ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะกระทบถึงผลประโยชน์ของบริษัทพลังงานต่างชาติที่เข้ามาในเมืองไทย แต่ละบริษัทล้วนแต่มีกำลังเงินและอิทธิพลทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน อเมริกาก็ลดระดับไทยให้อยู่ในบัญชี Tier 3 เพราะเรื่องการค้ามนุษย์ จากนั้นตามด้วยอียูประณามไทยอย่างเป็นทางการ และเริ่มใช้มาตรการบอยคอต

ช่วงนี้สถานการณ์ทั้งสนและนอกประเทศเริ่มรุมเร้าเข้ามา เรื่องอเมริกาลดระดับไทยนั้น ทางอเมริกาบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการรัฐประหารของไทย แต่ก็พ้องกับเหตุการณ์ที่ไทยกำลังเดินหน้าสะสางเรื่องพลังงานอย่างบังเอิญเหลือเชื่อเลยทีเดียว ส่วนทางอียูนั้นก็บังเอิญเหลือเชื่อเช่นกัน ที่จริงก็ไม่แปลกหรอก เพราะอียู ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เหล่านี้เป็นเสียงประสานของอเมริกาทั้งนั้น ต้นเสียงร้องอะไรลูกคู่ก็ต้องประสานเสียงตาม

ตลาดหุ้นไทย ดัชนีเซ็ตไปต่อไม่ไหวมาหลายวันแล้ว พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง 1485 จุดยังผ่านไม่ได้ มาได้แต็มที่เพียง 1477 จุด ประกอบกับปัจจัยภายนอกและภายในเริ่มโถมเข้ามา หลายวันมานี้เป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายน ลุงแมวน้ำคิดว่าดัชนีพยายามประคองตัวเพื่อให้ปิดบัญชีไตรมาส 2 ได้แบบดูดี แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ตอนนี้แรงเสียดทานที่มีต่อการบริหารประเทศของ คสช เริ่มมีมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยน่าจะถึงเวลาต้องปรับตัวสักช่วง


ดัชนี SET ช่วงนี้น่าจะเป็น window dressing เพื่อให้พอร์ตตอนสิ้นไตรมาส 2 ดูดี แต่ไม่น่าไปต่อเลยเนื่องจากมีสัญญาณกลับทิศหลายประการแล้ว 


แต่ลุงแมวน้ำยังมองโลกในแง่ดีอยู่ ลุงคิดว่าตอนนี้ประเทศไทยเหมือนกับกำลังรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือที่เรียกว่าทำคีโม ไม่มีใครอยากทำคีโมหรอก เพราะผลข้างเคียงมีมาก แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องทำ ระยะสั้นๆจะมีผมร่วงบ้าง ผอมบ้าง ท้องเสียบ้าง มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆนานา ก็ต้องสู้ต่อไป ลุงแมวน้ำยังเชื่อว่าผลสุดท้าย ประเทศไทยจะผ่านไปได้ด้วยดี บ้านเมืองเราจะดีขึ้นเพราะเราสามารถรักษามะเร็งร้ายได้ ดังนั้นช่วงนี้ก็ต้องทนๆ สู้ๆ กันไปก่อน >.<

นอกจากนี้ ยังต้องระวังกระแสขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด หากกระแสนี้จุดติดขึ้นมา คงได้เป็นขาลงกันทั้งโลกนานหลายเดือน เหมือนคราวที่กังวลเรื่องการลดวงเงินคิวอี 

ถัดจากเรื่องภาพรวมตลาด ลุงแมวน้ำขอแวะมาที่กลุ่มพลังงานทดแทน ตอนนี้หุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังขึ้นแรง นักลงทุนพยายามไล่ล่าหุ้นพลังงานทดแทนกันเป็นการใหญ่ ลุงแมวน้ำเห็นว่าตอนนี้ราคาวิ่งไปมากแล้ว หุ้นที่เป็นโซลาร์ฟาร์มนั้นคำนวณรายรับในอนาคตได้ง่ายและคลาดเคลื่อนไม่มาก คือรู้ว่าเป็นโรงไฟฟ้าขนาดกี่เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟฟ้าได้ปีไหน เราก็คำนวณรายได้จากการขายไฟฟ้าในปีนั้นได้แล้ว แต่สิ่งที่นักลงทุนยังไม่รู้ก็คือ ต้นทุนของโรงไฟฟ้า เนื่องจากโรงไฟฟ้ามีต้นทุนแตกต่างกัน ตามแต่การออกแบบและก่อสร้าง ยิ่งไปซื้อกิจการเขามายิ่งมีต้นทุนสูง ราคาหุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนในขณะนี้เท่ากับซื้ออนาคตล่วงหน้าไปหลายปีแล้ว นักลงทุนที่คิดจะเข้าตอนนี้ต้องระวังให้ดี


ราคาหุ้น EA

ราคาหุ้น SOLAR

ราคาหุ้น SPCG

ราคาหุ้น EPCO


ถัดจากนั้นก็มาเรื่องหุ้นส่งออก นักลงทุนควรระวัง เนื่องจากกลุ่มนี้ค่อนข้างอ่อนไหวในระยะนี้ เนื่องจากเราไม่รู้ว่าอเมริกาและชาติที่เป็นลูกคู่จะงัดมาตรการอะไรมาใช้กับไทยอีก นอกจากนี้ ตลาดส่งออกตั้งแต่ต้นปี 2014 เป็นต้นมาก็ไม่ได้ฟื้นตัวมากมายนักอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช่ระวังแค่หุ้นส่งออกกุ้ง แต่ควรระวังหุ้นส่งออกทั้งกลุ่มเลย


ราคาหุ้น TUF

ราคาหุ้น KCE
เรื่องหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนี้ลุงขอขยายความหน่อย คือ การค้าระหว่างเอกชน การส่งออกนำเข้าระหว่างประเทศนั้น เอกชนที่เป็นคู่ค้าคงไม่บอยคอตสินค้าไทยเพราะเหตุว่าไทยมีการรัฐประหาร เพราะนักธุรกิจก็ทำการค้าไป ส่วนภาครัฐของอเมริกาหรืออียูจะบอยคอตสินค้าไทยเพราะเหตุรัฐประหารก็ไม่ได้ เพราะการกีดกันเช่นนี้ผิดกฎขององค์การค้าโลก (WTO) สิ่งที่ภาครัฐของอเมริกา อียู หรือที่อื่นๆจะทำได้ก็คือการลดความร่วมมือ การลดการให้สิทธิพิเศษ หรือลดการสนับสนุน จะออกไปในแนวทางนี้มากกว่า กับอีกทางหนึ่งคือการหาข้ออ้างในการกีดกัน  หรือที่เรียกว่า non tariff barrier (NTB) ซึ่งกรณีนี้หากต้องการทำก็ทำได้โดยหาข้ออ้างสวยๆที่ไม่ผิดกฎของ WTO อย่างเช่นการบอยคอตสินค้าเพราะเหตุใช้แรงงานทาสนั่นไง ก็อ้างหลักมนุษยธรรม แต่ก็ได้เฉพาะสินค้าบางรายการที่เกี่ยวข้อง จะมาบอยคอตเหมารวมไม่ได้

ดังนั้น ที่ลุงแมวน้ำบอกว่าให้ระวังหุ้นส่งออกไว้บ้าง ไม่ได้เพราะเกรงการบอยคอต เพราะทำได้ยากดังที่ลุงว่า แต่เนื่องจากการส่งออกของไทยในปีนี้ไม่ค่อยกระเตื้องอยู่แล้ว ประกอบกับข่าวร้ายๆหลายด้านมากระทบ รวมๆแล้วก็เป็นบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเทรดมากกว่า


และท้ายที่สุด กลุ่มปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งกลุ่มเรือ เหล่านี้ต้องรอเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก ถ้าเศรษฐกิจจีนยังไม่ไปไหน ราคาพวกนี้ก็ยังไม่ไป ภาพสะท้อนของเศรษฐกิจจีนก็ดูจากดัชนีตลาดหุ้นจีนได้คร้าบ

ดัชนี CSI 300 ของตลาดหุ้นจีน ใช้สะท้อนภาพเศรษฐกิจจีนได้

ราคาหุ้น PTTGC สินค้ากลุ่มปิโตรเคมีอิงเศรษฐกิจจีนอยู่พอสมควร

ราคาหุ้น BANPU ผู้บริโภคถ่านหินรายสำคัญคือจีน ดังนั้นราคาหุ้นจึงอิงกับเศรษฐกิจจีนค่อนข้างสูง

Saturday, June 21, 2014

21/06/2014 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เติมฝันวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า (1)




พักผ่อน เติมฝัน ในวันฟ้าใสที่บางกะเจ้า



ปกติลุงแมวน้ำชอบไปออกกำลังกายในวันหยุดที่สวนสาธารณะ ส่วนใหญ่มักไปที่สวนลุมพินี เนื่องจากเดินทางสะดวก และยังมีของกินให้เลือกเยอะอีกด้วย ^_^

แต่ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา สวนลุมถูกใช้เป็นสถานที่ชุมนุมของมวลมหาประชาชน การไปออกกำลังกายที่นั่นจึงไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากผู้คนเยอะมาก ลุงแมวน้ำจึงต้องระเหเร่ร่อนไปตามสวนสาธารณะอื่นๆ บางทีก็ไปว่ายน้ำตามสระต่างๆ

มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ลุงแมวน้ำไปแล้วประทับใจและอยากมาชวนให้พวกเราไปพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายกัน นั่นคือ ที่ บางกะเจ้า

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับบางกะเจ้ากันก่อน แม้ว่าลุงแมวน้ำจะชวนพวกเราไปเที่ยวที่บางกะเจ้าเพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจกัน แต่จะไปเที่ยวที่ไหนทั้งทีก็อยากให้รู้ที่มาที่ไปของสถานที่นั้นไว้สักหน่อย รู้ไว้ใช่ว่า เอาไว้เป็นความรู้รอบพุง ก็เหมือนกับการลงทุนในหุ้นนั่นแหละ จะลงทุนในหุ้นสักตัวก็คือการลงทุนในธุรกิจอย่างหนึ่ง จะซื้อทั้งทีก็ควรจะรู้จักหัวนอนปลายเท้าของหุ้นนั้นบ้าง ^_^


บางกะเจ้าคืออะไร

บางกะเจ้านั้น มีความหมายสองนัย นัยแรกก็คือเป็นชื่อของตำบลหนึ่งในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และความหมายอีกนัยหนึ่งหมายถึงพื้นที่สีเขียวซึ่งกินเนื้อที่ถึง 6 ตำบลของอำเภอพระประแดง มีพื้นที่รวมกันประมาณ 12,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักพูดถึงบางกะเจ้าในความหมายหลัง คือหมายถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ

มีข้อสังเกตอยู่นิดหนึ่ง นั่นคือ คำว่า บางกะเจ้า ในอำเภอพระประแดงนี้เขียนว่า บางกะเจ้า แต่ก็มักมีผู้เขียนว่า บางกระเจ้า ซึ่งหากเขียนว่าบางกระเจ้าก็อาจทำให้สับสนได้เนื่องจาก บางกระเจ้า เป็นชื่อตำบลหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร


บางกะเจ้าสำคัญอย่างไร - ที่มาของปอดสีเขียวของกรุงเทพฯ

ปอดสีเขียวที่ลุงแมวน้ำพูดถึงนี้หมายถึงปอดที่เป็นพื้นที่เกษตร ไม่ใช่ปอดขึ้นรานะ ^_^

ลุงแมวน้ำคงต้องขอเท้าความถึงความเป็นมาของพื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้สักหน่อย คือย้อนไปเมื่อเกือบสี่สิบปีมาแล้ว คือราวๆปี พ.ศ. 2520 ในยุคของรัฐบาลป๋าเปรม รัฐบาลในยุคนั้นมีมติให้อนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ของกรุงเทพฯ คือ ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่สีเขียว

ก็คงต้องเข้าใจบริบททางสังคมในยุคนั้นกันสักหน่อย เนื่องจาก ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์เป็นต้นมา ลัทธิทุนนิยมเริ่มเฟื่องฟู ทุนจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในไทย ทำให้กรุงเทพฯเป็นชุมชนเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แถบสมุทรปราการก็มีโรงงานอุตสาหกรรมผุดขึ้นมามากมาย รัฐบาลในยุคป๋าเปรมจึงกันพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียว สำหรับทำเกษตรกรรม ไม่ให้ทำโรงงานหรือทำหมู่บ้านจัดสรร

ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ปีนั้นก็มีรัฐประหารพอดีเลย โดยคณะ รสช ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลน้าชาติ (พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัน) และตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลโดยมี  พล.อ.สุจินดา คราประยูรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาล พลเอกสุจินดา ได้อนุมัติโครงการ สวนกลางมหานคร เพื่ออนุรักษ์พื้นที่สีเขียวประมาณ 9,000 ไร่ ซึ่งครอบคลุมท้องที่ 6 ตำบลในอำเภอพระประแดง นั่นคือ ต.บางน้ำผึ้ง ต.บางยอ ต.บางกอบัว ต.บางกะสอบ ต.บางกะเจ้า และ ต.ทรงคะนอง พร้อมทั้งออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินบางส่วน

ในสมัยก่อน เมื่อทางราชการต้องการใช้พื้นที่ทำโครงการอะไร (เช่น ตัดถนน สร้างสวนสาธารณะ ฯลฯ) ก็จะใช้วิธีการเวนคืนจากเอกชน โดยให้ค่าตอบแทนต่ำๆ เพราะถือว่าประชาชนต้องเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม บางครอบครัวถูกเวนคืนจนหมดตัว คือทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต บ้านและที่ดินโดนเวนคืนไปหมดทั้งแปลงแต่ได้เงินมานิดเดียว จะไปซื้อที่ใหม่ก็เงินไม่พอ ชีวิตที่มั่นคงจึงกลายเป็นชีวิตลำเค็ญ ประชาชนกลัวและต่อต้านการเวนคืนที่ดินกันมาก การเวนคืนในครั้งนี้ก็เช่นกัน ประชาชนคัดค้านกันมาก ในที่สุดรัฐบาลจึงต้องใช้วิธีซื้อที่ดินจากเอกชนตามความสมัครใจในราคาท้องตลาดเพื่อมาทำโครงการ

โครงการสวนกลางมหานครจึงทยอยซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการเรื่อยมา ที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่สวน จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2542 ก็สามารถรวบรวมที่ดินได้ถึง 1,276 ไร่

พื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เกษตรกรรม โดยอนุรักษ์สวนแบบดั้งเดิมเอาไว้ และใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยมีการสร้างสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ชื่อ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ใช้เป็นแหล่งศึกษาและอนุรักษ์ระบบนิเวศและพืชพรรณท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล โดยคลองลัดโพธิ์ก็ตัดผ่านพื้นที่นี้ สามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯได้


สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกและผีเสื้อ

วิถีชีวิตของชุมชนบางกะเจ้าหลังมีโครงการสวนกลางมหานคร เป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับการพัฒนา



และยิ่งไปกว่านั้น โครงการสวนกลางมหานครนี้ นอกจากการอนุรักษ์แล้ว ยังมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ธำรงอาชีพและวัฒนธรรมของท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ด้วย เรียกว่าทั้งอนุรักษ์และพัฒนา และนอกจากนี้ การใช้รูปแบบการซื้อที่ดินจากเอกชนตามความสมัครใจในราคายุติธรรม ถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะแม้แต่ต้นทางก็เริ่มต้นมาอย่างยุติธรรม ไม่มีการบังคับแข็งขืนใจชาวบ้านในชุมชน

ดังนั้น พื้นที่บางกะเจ้านี้ไม่เป็นเพียงพื้นที่สีเขียวหรือเป็นสวนสาธารณะ ปอดของกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ของการอนุรักษ์ระบบนิเวศและพืชพรรณท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิถีชีวิตชุมชนอีกด้วย จึงเป็นพื้นที่ที่มีความหมายในหลายมิติ 

ต่อมาในราวปี 2004 ฟาน เคสเซล (Van Kessel) นักปั่นจักรยานชาวเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้บุกเบิกทัวร์ปั่นจักรยานในพื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้ จนบางกะเจ้าเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปั่นจักรยานทั้งไทยและต่างประเทศ มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานมากมายหลายเส้น ตั้งแต่วงรอบเล็กเป็นระยะทางไม่กี่กิโลเมตรไปจนถึงวงรอบใหญ่ที่เป็นระยะทางกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร ปั่นจักรยานชมเรือกสวน สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งยังได้ชมต้นไม้นานาพันธุ์ นก และผีเสื้ออีกด้วย

นิตยสาร  TIME ฉบับหนึ่งในปี 2006 คัดเลือกของดีที่สุดในเอเชียเอาไว้ และยกย่องบางกะเจ้าว่าเป็นโอเอซิสของเขตเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย

ส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ยกบางกะเจ้าให้เป็น The Best Urban Oasis of Asia

นิตยสารไทม์ (TIME Magazine) ปี 2006 มีฉบับหนึ่งได้รวบรวมของดีที่สุดในเอเชียเอาไว้ และบางกะเจ้านี้เป็นสถานที่ที่นิตยสารไทม์ยกย่องว่าเป็น The Best Urban Oasis of Asia (โอเอซิสของเขตเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย - โอเอซิสคือแหล่งน้ำกลางทะเลทราย มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตในทะเลทราย)


ปอดของกรุงเทพฯอยู่ที่ไหน - เดินทางไปอย่างไร

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อบางกะเจ้า แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ และไม่รู้ว่าจะไปยังไง คงไปยากแน่ๆเลย เรามาดูตำแหน่งแห่งที่ของบางกะเจ้ากัน การเดินทางไปไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องมีจักรยานส่วนตัว นั่งรถเมล์ไปนี่แหละ แล้วก็ไปเช่าจักรยานเอาที่นั่น สะดวกและง่ายอย่างที่นึกไม่ถึงเลย

พื้นที่บางกะเจ้านี้ เรียกว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ บางคนก็บอกว่าเป็นพื้นที่ทรงกระเพาะหมู ตกลงว่าจะเป็นปอดหรือกระเพาะหมูกันแน่ เราลองมาดูกัน

เมื่อลุงแมวน้ำคุยถึงเรื่องกราฟราคาหุ้น ลุงมักเอาภาพในหลายๆกรอบเวลามาให้ดูกัน เพื่อให้เห็นทั้งภาพในลักษณะมหภาค และระดับกลาง ไปจนถึงระดับย่อย เปรียบเหมือนกัน เพื่อให้เกิดมุมมองทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ในทำนองเดียวกัน ก็เหมือนกับเมื่อเราพูดถึงบางกะเจ้า ทำเป็นเป็นปอด หรือกระเพาะหมู ต้องดูจากในระดับมหภาคจึงจะเห็น ส่วนความสวนสดงดงามนั้น ต้องเข้าไปดูใกล้ๆในระดับรายละเอียดจึงจะเห็น

เราลองมาดูภาพในมุมสูง จากภาพถ่ายดาวเทียมกัน

พื้นที่บางกะเจ้าดูๆไปก็เหมือนปอด (กลีบบนคือบางกะเจ้า กลีบล่างไม่ใช่)

ภาพนี้เป็นภาพถ่ายดาวเทียมที่ดูจากระยะไกล ด้านล่างของภาพคือปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ออกอ่าวไทย จะเห็นว่าส่วนที่เป็นสีเข้มคือพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนที่เห็นเป็นสีอ่อนหรือออกไปทางสีขาว คือพื้นที่เขตชุมชนที่มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ส่วนที่วงด้วยเส้นสีเขียวดูไปก็คล้ายๆปอด (ต้องจินตนาการเอาหน่อย) มีสองกลีบ ปอดกลีบบนคือบางกะเจ้านั่นเอง ดังนั้นจะเรียกว่าปอดของกรุงเทพฯก็คลับคล้ายอยู่ ^_^

เส้นทางของแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเอาไว้ แล้วค่อยไหลมาออกอ่าวไทย พื้นที่สีเขียวบางกะเจ้านี้จึงมีความสำคัญในแง่การบริหารจัดการน้ำในยามน้ำหลากกรุงเทพฯอีกด้วย 

ใกล้เข้าไปอีกนิด แม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเอาไว้ ดูไปก็คล้ายกระเพาะหมูอยู่เหมือนกัน แม่น้ำเจ้าพระยาโอบบางกะเจ้าเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร เมื่อน้ำหลากกรุงเทพฯ การระบายน้ำจึงทำได้ช้าเพราะเแม่น้ำจ้าพระยาอ้อม โครงการในพระราชดำริคลองลัดโพธิ์เป็นจุดที่อยู่ตรงตำแหน่งคอคอดของกระเพาะหมูนั่นเอง คลองนี้ทำให้น้ำในเขตกรุงเทพฯชั้นในไหลออกทะเลเร็วขึ้นเพราะร่นระยะทางได้ 18 ก.ม.


ภาพล่างสุดแสดงรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาอีก ในภาพนี้ดูไปแล้วบางกะเจ้าก็คล้ายกระเพาะหมู นี่แหละ ปอดก็ได้ กระเพาะก็ได้ ^_^

มุมล่างซ้ายของภาพ ตำแหน่งคอคอดของพระเพาะ (หรือขั้วปอดนั่นเอง) คือคลองลัดโพธิ์ ตำแหน่งลูกศรเขียวคือสวนสาธารณะและสวนพฤกษ์ศาสตร์ กับตลาดน้ำ จุดท่องเที่ยวสำคัญในบางกะเจ้า

การเดินทางก็ง่ายมาก วันนี้ลุงเล่าคร่าวๆก่อน คราวหน้าจะเล่าละเอียดอีกทีหนึ่ง

นั่งรถเมล์สาย 4 หรือ 47 มาที่วัดคลองเตยนอก (วงกลมสีแดงด้านบนของภาพ) จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากมา (คนละ 10 บาท ออกตลอดเวลา) ก็เป็นบางกะเจ้าแล้ว มีจุดให้เช่าจักรยานที่ท่าเรือนั่นเอง ขี่ไปเที่ยวสวนหรือไปชมตลาดน้ำก็ได้ และสังเกตวงกลมสีเหลือง ที่ดินผืนนั้นเป็นสวนเก่าริมแม่น้ำ ขนาดประมาณเกือบ 300 ไร่ เป็นที่ดินของ N-Park ทำเลสวยทีเดียว ^_^

ตอนหน้าเรามาคุยรายละเอียดเรื่องการเดินทางและจุดท่องเที่ยวกันต่อคร้าบ