Thursday, May 29, 2014

29/05/2014 ที่ปรึกษายี้ กับอัปเดตหุ้นรับเหมารับรัฐบาลใหม่



เมื่อวานเราคุยกันในเรื่อง สามเหลี่ยมชายธง ดุลยภาพหลังตกใจ อันเป็นเรื่องรูปแบบทางเทคนิคหลังเหตุการณ์วิกฤต สำหรับวันนี้ เราจะมาดูหุ้นบางกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีหลังจากมีรัฐบาลใหม่ เราจะลองมาดูกราฟราคาเพื่ออัปเดตสถานการณ์กันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

แม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่มีรัฐบาลใหม่ แต่ลุงแมวน้ำคาดว่าคงใกล้มากแล้วล่ะ อีกทั้งช่วงนี้ คสช ก็ได้ประกาศแต่งตั้งผู้ที่มีความรอบรู้และประสบการณ์หลายคนมาเป็นที่ปรึกษาของ คสช เพื่อให้ คสช ทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเปิดเผยรายชื่อ หลายคนถึงกับร้องยี้เพราะไม่ถูกใจ เสียงคัดค้าน เสียงไม่พอใจ มีพอสมควรทีเดียว หลายคนก็มีความเห็นว่าที่ปรึกษาบางคนเป็นผู้ที่เคยร่วมงานกับรัฐบาลเก่า คืออยู่ในกลุ่มสายอำนาจเก่า ตั้งเข้ามาได้ยังไง คนนั้นก็ด่างพร้อยอย่างนั้น คนนี้ก็ด่างพร้อยอย่างนี้ เป็นต้น

ลุงแมวน้ำก็ขอออกความเห็นบ้างละกัน จริงอยู่ หลายชื่ออาจไม่ถูกใจประชาชน แต่ว่าลุงสังเกตว่า คสช ทำงานเรียบร้อย รวดเร็ว มีการแยกน้ำหนักของเรื่องราว เร็ว ช้า หนัก เบา อันบ่งบอกถึงว่ามีการเตรียมงานกันมาอย่างดี ดังนั้น ลุงแมวน้ำจึงยังมองในแง่ดีว่าการตั้งที่ปรึกษานี้น่าจะกลั่นกรองมาดีแล้ว ไม่ใช่รีบร้อนตั้งจนผิดพลาด อีกอย่างหนึ่งก็คือ ยังไม่เห็นผลงานกันเลย โบราณว่าอย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน

ประเด็นที่ว่าบางคนมีประวัติด่างพร้อย ลุงว่าไม่มีใครบริสุทธิ์ผุดผ่องหรอก เพียงแต่ต้องดูว่าด่างพร้อยในแง่ไหน หากไม่กระทบกับภาระหน้าที่สำคัญ ลุงว่าหากพิจารณาดีแล้วก็น่าลองให้โอกาสดูได้

หลายคนมองว่าที่ปรึกษาบางคนเป็นสายอำนาจเก่า ประเด็นนี้สามก๊กยังมีเขียนเอาไว้เลย การเอาชนะศัตรูที่ดีที่สุดก็คือแปรศัตรูให้กลายเป็นมิตร ตัวอย่างในสามก๊กก็คือการที่ขงเบ้งจับกุมเบ้งเฮ็กเจ็ดครั้งและปล่อยไปทั้งเจ็ดครั้ง อันเป็นกลยุทธ์จับเพื่อปล่อย ปล่อยเพื่อจับ

เบ้งเฮ็กเป็นเจ้าเมืองม่าน ยุยงให้เจ้าเมืองตามชายแดนด้านใต้ของเสฉวน (เสฉวนเป็นที่ตั้งแคว้นจ๊กก๊กที่ขงเบ้งอยู่) เป็นกบฏต่อจ๊กก๊ก ขงเบ้งก็พยายามปราบปราม โดยในกรณีนี้ขงเบ้งใช้กองทัพปราบปรามเบ้งเฮ็กถึงหกครั้ง เมื่อจับตัวเบ้งเฮ็กได้ ขงเบ้งก็ปล่อยตัวไปทั้งหกครั้ง จนในการรบครั้งที่เจ็ด เบ้งเฮ็กก็แพ้และถูกจับได้อีก แต่คราวนี้ได้สำนึก เพราะหากผู้ชนะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ขงเบ้ง เบ้งเฮ็กคงตายไปหลายรอบแล้ว ดังนั้นจึงกลับใจสวามิภักดิ์ ซึ่งขงเบ้งก็ให้เป็นเจ้าเมืองม่านต่อไปตามเดิม นับจากนั้นมา ชายแดนด้านใต้ก็สงบสันติ กลยุทธ์นี้ขงเบ้งจับตัวแล้วปล่อย แต่ปล่อยตัวเพื่อจับกุมหัวใจ

สำหรับลุงแมวน้ำคงขอรอดูผลงานกันก่อน หากไม่ไหวค่อยร้องยี้ในภายหลัง

ตอนนี้ คสช เปรียบเหมือนเป็นนักมวยขึ้นเวที กำลังชกกับคู่ต่อสู้อยู่ หากเคยดูมวยกันคงรู้ดีว่าแฟนมวยนั้นเวลาเชียร์มวยมักชอบสอนกลยุทธ์ ร้อยคนเชียร์ก็สอนร้อยอย่าง แต่ผู้ชมก็คงเข้าใจดีว่านักชกก็มีกลยุทธ์การต่อสู้ของตนเอง เวลาชกก็ต้องดำเนินไปตามนั้น ดังนั้นกับเส้นทางการปฏิรูปนี้ก็เช่นกัน เราเชียร์บ้าง ขัดข้องใจบ้าง แต่ก็คงเข้าใจดีว่าก็ต้องปล่อยให้ คสช ทำงานตามแผนที่ได้วางเอาไว้ไปก่อน หากโลไปเลมา เดี๋ยวก็เป๋จนได้ แล้วจะเสียการใหญ่

เอาล่ะ ทีนี้เรามาคุยกันเรื่องหุ้นบ้าง วันก่อนลุงแมวน้ำบอกว่าหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการมีรัฐบาลใหม่ นั่นก็คือหุ้นที่เกี่ยวกับการซ่อม สร้าง ต่างๆ วันนี้เราจะลองมาอัปเดตกันว่ากราฟราคาหุ้นในกลุ่มผู้รับเหมาบางตัวว่ามีรูปแบบทางเทคนิคอย่างไรบ้าง

เราจะเริ่มกันที่ผู้รับเหมารายใหญ่ก่อน จากนั้นจะไปดูผู้รับเหมาขนาดรองลงมา จากนั้นจะไปดูวัสดุก่อสร้างพวกอิฐ ปิน ปูน ทราย ดูกราฟพร้อมคำอธิบายไปได้เลยคร้าบ


STEC หนึ่งในสามผู้รับเหมารายใหญ่ ราคาค่อยๆขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2014 นักลงทุนเริ่มคาดหวังอนาคตและสะสมกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ทางเทคนิคเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่

CNT ผู้รับเหมารายรอง สองสามวันนี้เล่นแรงมาก ในทางเทคนิคติดแนวต้านสำคัญ ยังไม่แน่ว่าจะผ่านได้หรือไม่

UNIQ ผู้รับเหมารายรอง เก็งว่าได้อานิสงส์จากการรับงานรถไฟฟ้า สองสามวันนี้เล่นแรงมาก กราฟก่อตัวเป็นสามเหลี่ยมชายธงมาตั้งแต่ต้นปี เพิ่งตัดทะลุได้ แต่สัญญาณแท่งเทียนไม่สวย อาจทะลุแล้วไปต่อไม่ไหว 

NWR ถนัดพวกงานสร้างทาง ถนน สองวันนี้เล่นแรง ยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ อีกทั้งสัญญาณแท่งเทียนไม่สวย


SEAFCO ผลิตเสาเข็มเจาะ และรับเหมางานก่อสร้างฐานราก ระยะนี้เล่นแรงมาก ที่ผ่านมาเกิดสามเหลี่ยมชายธงเล็กๆและทะลุขึ้น แต่แท่งเทียนล่าสุดคือดาวตก (shooting star) อันบ่งชี้การกลับทิศเป็นขาลง ซึ่งต้องรอดูอีกสองสามวันเพื่อยืนยันสัญญาณ


ลุงแมวน้ำยกตัวอย่างมานี้ เพื่อศึกษา ไม่ได้เชียร์หุ้นตัวใดนะคร้าบ จะเห็นว่า หุ้นรับเหมารายใหญ่นั้นมีการซื้ออนาคตกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ส่วนผู้รับเหมารองนั้นราคาเพิ่งขึ้น แต่ราคาแกว่งแรงมาก หากเร็วและแรงขนาดนี้ สัญญาณซื้อขายอะไรก็เอาไม่อยู่ ต้องวัดดวงอย่างเดียวเลย >.<


วันนี้ดูกลุ่มผู้รับเหมาไปก่อน พรุ่งนี้ เรามาดูกลุ่มวัสดุ (อิฐหินปูนทราย ฯลฯ) สินเชื่อ และการบริโภคกันคร้าบ

Wednesday, May 28, 2014

28/05/2014 สามเหลี่ยมชายธง ดุลยภาพหลังตกใจ



วันนี้ลุงแมวน้ำจะคุยเรื่องรูปแบบทางเทคนิคหลังเหตุการณ์วิกฤตกัน

ดุลยภาพในธรรมชาติหรือว่าสมดุลธรรมชาติ เป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง นั่นคือ ทุกสิ่งต้องพยายามปรับตัวให้เข้าสภาวะสมดุล ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นการขี่จักรยาน เราต้องเลี้ยงตัวไปมาเพื่อรักษาสมดุลของรถจักรยานไม่ให้ล้มและเพื่อให้วิ่งต่อไปข้างหน้าได้ หรืออย่างเช่นการกินอาหาร หากมื้อนี้เรากินมากเกินไป ร่างกายจะบอกเราว่าอิ่มมากแล้ว และมื้อถัดไปเราจะรู้สึกแน่นท้องและกินได้น้อยลง นี่ก็คือการที่ร่างกายปรับสมดุลของการกิน ฯลฯ

นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆของสมดุลที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ และปรากฏการณ์ในตลาดหุ้นก็ทำนองเดียวกัน เมื่อมีเหตุการณ์ที่น่าแตกตื่นตกใจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย สมมติว่าเป็นข่าวร้ายละกัน เมื่อเกิดข่าวร้ายขึ้นอย่างฉับพลันกระทันหัน ตลาดจะตอบสนองด้วยการปรับตัวลงแรง แต่หลังจากนั้นก็จะมีการรีบาวด์ แต่ลองสังเกตกันดูไหมว่าหลังจากเหตุการณ์ตกใจ ตลาดมักเด้งขึ้นเด้งลงสักพักหนึ่ง เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปกันแน่ จนเมื่อสถานการณ์กระจ่างแล้วนั่นแหละ ราคาก็จะค่อยๆเข้าที่เข้าทาง จากนั้นเหตุปัจจัยใหม่ๆหลังจากนั้นก็จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนตลาดต่อไป

รูปแบบหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดตกใจมักเป็นรูปแบบการเด้งขึ้นเด้งลงเพื่อให้ราคาเข้าสู่ดุลยภาพ หรือว่าไปสู่ราคาที่เหมาะสม ซึ่งหากสังเกตดูดีๆจะพบว่ารูปแบบนี้ก็คือรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงนั่นเอง โดยหลังเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดตกใจมักเกิดรูปแบบสามเหลี่ยชายธงตามมา จากนั้นราคาจะค่อยๆลู่เข้าสู่ปลายชายธงอันเป็นความหมายว่าราคาเข้าสู่ดุลยภาพแล้ว และหลังจากนั้นปัจจัยใหม่ๆที่ตามมาก็จะรับช่วงต่อ ผลักดันให้ราคาค่อยทะลุปลายชายธงออกไป จะทะลุขึ้นหรือลงก็ต้องดูว่าปัจจัยใหม่ที่มารับช่วงต่อนั้นเป็นปัจจัยบวกหรือลบ 

เราลองมาดูตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดตกใจในอดีตพร้อมรูปแบบทางเทคนิคกัน

เหตุการณ์ 911 หรือการก่อการร้ายครั้งสำคัญในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 11 กันยายน 2001 (2544) ตลาดหุ้นไทยตกใจประมาณเดือนกว่า เกิดเป็นสามเหลี่ยมชายธงแล้วทะลุขึ้น

ตลาดหุ้นอเมริกาหลังเหตุการณ์ 911 ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจึงจะเข้าที่ เกิดเป็นสามเหลี่ยมชายธงแล้วทะลุขึ้น

เหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย 19 กันยายน 2549 ตลาดตกใจเพียงช่วงสั้นไม่กี่สัปดาห์ จากนั้นก็เข้าที่เข้าทาง เกิดรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงขนาดเล็ก จากนั้นทะลุขึ้น


ปลายปี 2006 (2549) หลังจากที่ตลาดหายตกใจจากเหตุการณ์รัฐประหารแล้ว ในปลายปีนั้นเอง ก็มีเหตุปัจจัยใหม่เข้ามา ตลาดก็ต้องตกใจอีกรอบ ด้วยเหตุการณ์ อุ๋ยร้อยจุด นั่นคือ การควบคุมเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นด้วยการกันสำรอง 30% ตลาดหุ้นลงปรับตัวลงไปต่ำสุดในวันเดียวถึง -19.5% เหตุการณ์ครั้งนี้ร้ายแรงกว่าการทำรัฐประหารมาก เพราะว่าตลาดตกใจอยู่หลายเดือนกว่าจะเข้าสู่ดุลยภาพ ทำให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงขนาดใหญ่ จากนั้นจึงทะลุปลายชายธงขึ้นไป


ในปี 2013 ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตกใจกลัวว่าอเมริกาจะลดหรือเลิกการอัดฉีดเศรษฐกิจหรือที่เรียกว่าคิวอี (QE) หลังจากที่ช็อคครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2013 ตลาดพยายามปรับตัวให้เข้าสู่ดุลยภาพซึ่งกินเวลาหลายเดือน แต่เนื่องจากข่าวลือเรื่องการลดคิวอีตามมาหลอนไม่เลิกรา ประกอบกับในช่วงปลายปีประเทศไทยเกิดความไม่สงบทางการเมือง ดังนั้นตลาดจึงก่อรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงถึงสองรูป แต่ละรูปกินเวลานานหลายเดือน อีกทั้งยังเป็นแบบตัดปลายชายธงลงข้างล่างอีกด้วย



เหตุการณ์รัฐประการ 22 พฤษภาคม 2014 ตลาดกำลังเดินเข้าสู่ดุลยภาพ อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ปลายชายธง จากนั้นก็รอดูว่าทะลุชายธงขึ้นหรือลง


จะเห็นว่าหลังเกิดเหตุตกใจหรือเหตุการณ์ช็อกตลาด ตลาดมักปรับตัวเข้าสู่ดุลยภาพด้วยรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง ส่วนใหญ่มักกินเวลานานแค่ไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน หลังจากนั้นปัจจัยใหม่จะมารับช่วงขับเคลื่อนตลาดต่อไป ซึ่งปัจจัยใหม่นี้เองจะเป็นตัวที่ทำให้ราคาตัดทะลุชายธงขึ้นหรือลง

สำหรับในตอนนี้ ประเทศไทยเพิ่งเกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2014 หากดูจากกราฟจะเห็นว่าลำพังปัจจัยรัฐประหารเกิดผลต่อตลาดเพียงเล็กน้อย เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมชายธงที่ก่อตัวมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว และขณะนี้ตลาดกำลังลู่เข้าสู่ปลายชายธงเพื่อหาจุดที่เกิดดุลยภาพ และหลังจากนั้นก็จะเกิดปัจจัยใหม่มารับช่วงให้ตลาดตัดทะลุชายธงขึ้นหรือลงต่อไป ซึ่งหากพิจารณาจากทรงของชายธง ลุงแมวน้ำคาดว่าการตัดทะลุปลายชายธงน่าจะเกิดในราวปลายเดือนมิถุนายน อาจก่อนหรือหลังจากนั้นเล็กน้อย 

นี่เองที่ลุงแมวน้ำบอกว่าไม่ใช่เวลาซื้อ เนื่องจากราคากำลังลู่เข้าปลายชายธง โอกาสทำกำไรมีเพียงการเทรดสั้นๆเท่านั้น จะเทรดทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงว่ารอไปก่อนดีกว่า