แผ่นดินไหวระดับ 6 ที่เชียงราย เมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:08 น. ตามเวลาท้องถิ่น จุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดิน 7.4 กม. |
วันนี้ลุงแมวน้ำมีเรื่องคุยสองเรื่องเลย นั่นคือเรื่องแผ่นดินไหวและตลาดหุ้น เอ... มันเกี่ยวข้องกันไหมเนี่ย จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยวละน่า แผ่นดินไหวที่เชียงรายครั้งนี้รุนแรงมากเป็นประวัติการณ์ จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ลองอ่านดูไปก่อน
ตอนนี้ประโยคยอดฮิตที่คุยกันในตลาดหุ้นคงหนีไม่พ้น Sell in May and go away นั่นคือ เดือนพฤษภาขายแล้วเผ่น
ประโยคนี้นักลงทุนไทยไม่ได้คิดขึ้นมาหรอก ต้นตำรับน่าจะเป็นภาษาอังกฤษ โดยฝรั่งพูดกันก่อน จากการสังเกตที่ว่าเดือนพฤษภาคมมักเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นลง ก็จึงมีการพูดกันว่าพอถึงเดือนพฤษภาคมก็ให้ขายแล้วเผ่นไปตั้งหลักก่อน พ้นเดือนนี้แล้วค่อยกลับเข้าตลาดมาลงทุนกันใหม่ ซึ่งนักลงทุนไทยก็เอามาพูดกันขำๆด้วย หรือบางคนก็อาจเอามาใช้ คือขายแล้วเผ่นจริงๆ เพราะว่าทิศทางของตลาดหุ้นอเมริกากับของไทยช่วงนี้สอดคล้องกัน ฝรั่งลงไทยก็ลง
นักลงทุนไทยหลายคนก็ถือเอาคตินี้มาใช้บ้าง เพราะคิดว่าตลาดหุ้นทั้งของไทยและอเมริกาก็มี P/E ratio ที่ไม่ถูกแล้ว พูดง่ายๆคือหุ้นเริ่มแพงแล้วนั่นอง ก็เริ่มกังวลกันต่างๆนานา มันจะแพงเกินไปแล้วไหม ขึ้นมานานแล้วเดี๋ยวจะร่วงแรงไหม การเมืองยังวุ่นวายอยู่ทำไมหุ้นยังขึ้นได้ จะขายก่อนดีไหม บลา บลา บลา ฯลฯ
กาลามสูตรบอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่บอกต่อกันมา ก็คือ อย่าเชื่อพวก "เขาเล่าว่า..." นั่นเอง เราควรใช้ดุลพินิจของเราเองตัดสินใจ ไม่ใช่ตัดสินใจเพราะเขาเล่าว่า เงินของเรา ไปเชื่อเขาอยู่เรื่อยก็กระไรอยู่ >.<
เอาละ แล้วทีนี้จะพิจารณาอย่างไรจึงจะตัดสินใจได้ล่ะ
ลุงขอยกกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาละกัน ในความเห็นของลุงแมวน้ำ เรามาพิจารณากันทีละประเด็นก่อนก่อน
มองประเด็นปัจจัยพื้นฐาน P/E ratio ค่อนข้างแพงแล้วจริงไหม ตอนนี้ p/e ratio ของดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นอเมริกาอยู่ที่ 17.2 เท่าแล้ว ส่วนของ SET index อยู่ที่ 16.1 เท่า ถือว่าแพงพอควร แต่ยังไม่ถึงกับแพงมาก
มองประเด็นปัจจัยทางเทคนิค ดูภาพชุดนี้กัน
ดัชนี S&P 500 (GSPC), Dow Jones Industrial (DJI), และ SET index (SET) |
ภาพนี้เป็นภาพดัชนี S&P 500 (GSPC), Dow Jones Industrial (DJI), และ SET index (SET) มาดูภาพบนของชุดกันก่อน
ภาพแรกของชุดนี้เป็นดัชนี S&P 500 ตอนนี้รูปแบบทางเทคนิคก่อตัวเป็นขาลง แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วตลาดอเมริกาจะขึ้นมาบ้าง แต่เส้นแนวโน้มขาลงยังไม่ถูกทำลายไป
ภาพที่สอง ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ DJI รูปแบบทางเทคนิคกำลังทดสอบ triple top หรือยอดตองอยู่ ยังไม่ผ่าน
ภาพที่สาม ดัชนี SET รูปแบบทางเทคนิคเกิดยอดคลื่นที่ดัชนีประมาณ 1430 จุดและเป็นแนวต้านตามระดับฟิโบนาชชี 78.6% อันเป็นแนวต้านสำคัญ และยังไม่ผ่าน
ดังนั้นพูดง่ายๆว่าทั้งสามดัชนีกำลังทดสอบแนวต้านสำคัญอยู่ และตอนนี้ยังไม่ผ่าน
แล้วจะมีโอกาสผ่านแนวต้านที่ว่าได้ไหม
คำตอบทางเทคนิคก็คือ ยังไม่แน่ โอกาสที่จะทดสอบแล้วผ่านด่านแนวต้านสำคัญนี้ได้ก็พอมี และหากผ่านได้ ก็แปลว่าตลาดหุ้นเดินหน้าไปต่อ ถ้าหากผ่านไม่ได้ก็ต้องปรับตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มใหญ่ของทั้งสองตลาดนี้ยังเป็นขาขึ้น ดังนั้นแม้ตลาดจะลงก็คาดว่าน่าจะเป็นเพียงชั่วคราว
ถ้ายังงั้นขายไปตั้งหลักก่อนดีไหม
นี่แหละคำถามสำคัญที่ทุคนอยากรู้ แต่คงไม่มีใครตอบแทนใครได้หรอก ทุกคนต้องมีคำตอบสำหรับตนเอง เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องมาโทษใครในภายหลัง
หากแนวสายปัจจัยพื้นฐาน การตัดสินใจขายก็ต่อเมื่อราคาแพงเกินปัจจัยพื้นฐานไปมาก หรือว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไป ก็ต้องมีจุดตัดสินใจว่าเท่าไรจึงจะถือว่าแพงเกินไป
สำหรับสายปัจจัยเทคนิค ก็มีมุมมองหลายแบบ เช่น ถึงแนวต้านสำคัญก็ขายไว้ก่อน ผ่านแนวต้านได้ค่อยกลับไปซื้อใหม่ แพงขึ้นก็ไม่ว่า แต่ขอให้ผ่านได้ก่อนเถอะ แบบนี้ก็มี
สำหรับลุงแมวน้ำ ใช้สัญญาณซื้อขายกำกับ ดังนั้นต้องรอให้ราคาลงมาถึงระดับหนึ่งก่อน ถ้าราคาหลุดต่ำกว่าจุดนี้ก็ขาย ซึ่งแนวนี้จะตรงข้ามกับสายปัจจัยพื้นฐาน (ถ้าหุ้นพื้นฐานดี ยิ่งถูกยิ่งน่าซื้อ) ตอนนี้ยังไม่เกิดสัญญาณขาย ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงยังไม่ทำอะไร
และหากตลาดเกิดทดสอบด่านไม่ผ่านและปรับตัวลง ลุงแมวน้ำกมีสมมติฐานว่า กรณีที่ตลาดยังเป็นแนวโน้มใหญ่ขาขึ้นอยู่ ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวลงไม่ลึก แนวรับสำคัญคือ 1300 จุด (P/E ratio = 14.7) และ 1270 (P/E ratio = 14.3) คงไม่น่าลงลึกไปกว่านี้
ผู้ที่ใช้แนวคิดแบบผสมสองสำนัก คือทั้งสายปัจจัยพื้นฐาน และสายปัจจัยเทคนิคประกอบกัน ต้องระวังให้ดี หากเป็นมือใหม่แล้วผสมสองสำนักค่อนข้างอันตราย หลักคิดของตนต้องแจ่มชัด เข้าใจทั้งหลักการและวิธีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ไม่อย่างนั้นความรู้จะตีกันอยู่ในหัวนั่นเอง เพราะปัจจัยพื้นฐานบอกถูกน่าซื้อ แต่สัญญาณทางเทคนิค อินดิเคเตอร์บอกว่าราคาร่วงถึงจุดที่ให้ขาย โอ... แล้วจะซื้อขายถูกไหมเนี่ย >.<
ทางที่ดี หากเป็นมือใหม่ ศึกษาของสายใดสายหนึ่งไปก่อน ความรู้จะได้ไม่ตีกัน
วันนี้ลุงแมวน้ำคุยได้แค่เรื่องตลาด ยังไปไม่ถึงเรื่องแผ่นดินไหวเลย เอาไว้คุยกันต่อพรุ่งนี้คร้าบ