Thursday, June 27, 2013

27/06/2013 * ได้เวลารีบาวด์ พร้อมตารางสแกนหุ้นเด่นรุ่นใหม่


วันนี้ลุงแมวน้ำมาอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดให้ฟังกัน

ความเดิมก็เริ่มมาจากคำแถลงของลุงเบนหรือว่าเฟด เมื่อหลายวันก่อน ที่แสดงความชัดเจนเรื่องขั้นตอนการยุติ QE ของอเมริกา ตอนนั้นตลาดหุ้นก็ตกใจทีหนึ่งแล้ว หลังจากนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นจีนก็ดิ่งเหวแบบวันเดียว ม้วนเดียว -6% เนื่องจากปัญหาการขาดสภาพคล่องของระบบธนาคารจีน จากนั้นก็ตามมาด้วยบทวิเคราะห์ของโกลแมนด์ แซคส์ ที่ปรับลดจีดีพีของจีนลง บทวิเคราะห์นี้ออกมาในจังหวะที่เหมาะเจาะมาก เหมือนจะถล่มตลาดหุ้นจีนซ้ำ

ปกติตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงจะไม่กระทบตลาดหุ้นอื่นๆ ดูจากกราฟในอดีตก็ได้ว่าตลาดหุ้นจีน กับญี่ปุ่น เวลาลงไม่ค่อยกระทบบ้านอื่นนัก ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นขาลง 20 ปี ตลาดหุ้นอื่นก็ขึ้นเอาๆ แต่เนื่องจากครั้งนี้ตลาดหุ้นจีนลงแรงมาก ประกอบกับนักลงทุนขวัญเสียจากลุงเบนมาก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นตลาดหุ้นอื่นจึงตกใจไปกับตลาดหุ้นจีนด้วยในครั้งนี้

ล่าสุด เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทางธนาคารกลางของจีนยืนยันแล้วว่าเรื่องปัญหาขาดสภาพคล่องนั้นไม่เป็นความจริง ทางการจีนสามารถดูแลสภาพคล่องได้ หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารที่อยู่ในระดับสูงก็ปรับตัวลดลง ที่จริงจีนมีปัญหาเรื่องระบบธนาคารสะสมมานานแล้ว ตอนนี้จีนพยายามสะสางอยู่ จึงเข้มงวดกับเรื่องสินเชื่อและการกวาดล้างสินเชื่อนอกระบบ ซึ่งย่อมมีผลกระทบกับระบบธนาคารอยู่บ้าง แต่ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีในระยะยาว ดังที่จีนเองก็บอกว่ายอมโตช้าๆแต่ว่ายั่งยืนดีกว่า

การขาดสภาพคล่องของธนาคารจีนนั้นจะว่าจริงก็จริง จะว่าไม่จริงก็ไม่จริง กล่าวคือ มีเงิน แต่ธนาคารไม่ยอมให้กู้ระหว่างกันเพราะว่าไม่ไว้ใจเครดิตกัน ดังนั้นพวกธนาคารที่เครดิตไม่ค่อยดีก็ขาดสภาพคล่องจริง ซึ่งเป็นปัญหาระยะยาวที่ทางการจีนจะต้องสะสางต่อไป

เอาละ เมื่อทางการจีนยืนยันว่าไม่มีปัญหา ตลาดหุ้นจีนก็หายตระหนก  ตลาดหุ้นอื่นๆก็พลอยหายตกใจไปด้วย

มาเมื่อวานนี้เอง 26/06/2013 ลุงมาริโอ ประธานธนาคารกลางของยุโรป หรือ อีซีบี (ECB) ก็แถลงว่าสำหรับกลุ่มยูโรนั้น เรื่องการดูแลอัดฉีดยังเต็มที่อยู่ เรื่องจะเลิกอัดฉีดนั้นยังอีกไกลนัก ไม่เหมือนกับลุงเบน พอลุงมาริโอพูดแบบนี้ ตลาดหุ้นยุโรปก็มีเฮ ดังจะเห็นได้จากเมื่อวานดัชนีตลาดหุ้นในยุโรปขึ้นแรงพอควร ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียในช่วงบ่ายเมื่อวานสดใสขึ้นด้วย

ถึงตอนกลางคืนของเมื่อวาน ซึ่งเป็นตอนกลางวันของอเมริกา มีการประกาศตัวเลขจีดีพีของสหรัฐอเมริกาไตรมาส 1 ซึ่งขยายตัว 1.8% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ (คาดเอาไว้ 2.6%)

แทนที่ตลาดหุ้นอเมริกาจะตกใจกับตัวเลขนี้ ตรงกันข้าม กลับดีใจ ตลาดหุ้นขึ้นใหญ่ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ลุงเบนก็ยังเลิกอัดฉีดไม่ได้ ยังต้องอัดฉีดไปเรื่อยๆ ยิ่งฟื้นช้า ก็ยิ่งต้องอัดฉีดไปอีกนาน ตลาดหุ้นจึงชอบ ยังงี้ก็มีด้วย ^_^

ก็คงได้เวลารีบาวด์กันแล้ว อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่ง เรามาดูกราฟกันก่อน จากนั้นในตอนท้าย ลุงแมวน้ำมีไฟล์สแกนหุ้นชุดใหม่ ชุดนี้ดีมาก น่าใช้ทีเดียว


ตลาดหุ้นจีนหยุดไหล อย่างน้อยก็ชั่วคราว เมื่อธนาคารกลางของจีนออกมาสยบข่าวเรื่องธนาคารขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง หลังจากนี้น่าจะรีบาวด์ หลังจากนั้นค่อยมาดูกันอีกทีว่าจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง


ตลาดหุ้นอเมริกามีเฮ หลังจากที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ของอเมริกาต่ำกว่าคาดการณ์ แสดงว่าลุงเบนยังเลิกอัดฉีดไม่ได้ นี่เรียกว่าเสพติดคิวอีอย่างแรงแล้วใช่ไหมเนี่ย


ราคาพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันเริ่มรีบาวด์ด้วยเช่นกัน หลังจากไหลรูดมาหลายวัน


ตลาดหุ้นไทยน่าจะทำคลื่นย่อยขาขึ้นแล้วเช่นกัน ดูไปเป็นขั้นๆ ฝ่าไปทีละด่าน 1470, 1510, 1540 ตามลำดับ


ราคาทองคำ หลังจากหลุดกรอบสามเหลี่ยมชายธงแล้วก็ยังลงไม่หยุด ราคาลงมาจากยอดคลื่นแล้ว -31.6%



สำหรับวันนี้ 27/06/2013 ลุงแมวน้ำคาดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีรีบาวด์ได้อีก ทั้งนี้ วันนี้ทั้งไทยและในต่างประเทศจะมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวทีเดียว ของไทยก็จะเป็นรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ของจีนจะเป็นตัวเลขทางภาคอุตสาหกรรมของเดือน พ.ค.

ตอนบ่าย ทางยุโรปจะมีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและของผู้บริโภค ตอนค่ำ อเมริกาประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก 

ตัวเลขเหล่านี้จะมีผลต่ออารมณ์ของตลาดในระยะสั้นด้วย ตามดูบ้างก็ไม่เสียหลาย



ตารางสแกนหุ้นเด่น รุ่นใหม่




และของดีที่ลุงแมวน้ำนำมาฝากในวันนี้ เป็นตารางสแกนหุ้นรุ่นใหม่ ดีกว่าเก่า เป็นการเทียบราคาจากวันที่ 22/05/2013 ถึง 25/06/2013 ว่าราคาขึ้นหรือลงกี่เปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดขาลง ใครลงแรง ใครสวนตลาดได้ เก่งไม่เก่ง ไปดูกันได้

พร้อมกันนั้น มีค่า P/E, P/BV และค่า Dividend yield ณ วันที่ 25/06/2013 ให้ดูกันด้วย ยังไม่พอ ยังมีการจัดเรียงลำดับหุ้น ตาม % การเปลี่ยนแปลง เรียงตามค่า P/E เรียงตามค่า P/BV และเรียงตามค่า dividend yield ให้เลือกดูตามใจชอบอีกด้วย

ตารางนี้ลุงแมวน้ำนำมาจาก setsmart.com 

จากนั้นลุงแมวน้ำก็คำนวณข้อมูลเพิ่มเข้าไป ตรงส่วนที่เป็นหัวคอลัมน์สีเหลืองนั่นแหละ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ที่ลุงแมวน้ำคำนวณเพิ่มก็คือ อัตราการรีบาวด์จากวันที่ 24 ถึง 26 มิถุนายน 2013 ณ ช่วงเวลานี้ SET index รีบาวด์ +4.42% ใครรีบาวด์แรงกว่าดัชนี ใครอ่อนกว่าดัชนี มาดูกันได้ พร้อมกันนั้น ยังคำนวณ P/E ณ วันที่  26/06/2013 ให้ดูอีกด้วย 

ดังนั้นในไฟล์นี้แต่ละหุ้นจะมี P/E สองค่า คือ ณ วันที่ 25 กับ 26 มิถุนายน

เอาละ เมื่อเข้าใจรายละเอียดกันแล้วก็ไปดาวน์โหลดกันได้เลยคร้าบ ^_^




Tuesday, June 25, 2013

25/06/2013 * สภาพคล่องจีนทำตลาดแดงเดือดซ้ำ และสรุปตลาดประสำสัปดาห์ (17/06/2013 - 21/06/2013)


หลังจากจากที่ลุงเบนให้ความชัดเจนเกี่ยวกับการชะลอและยุติการอัดฉีดสภาพคล่องหรือ QE3 ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียก็ตื่นตระหนกไปแล้วรอบหนึ่ง ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายก็เข้ามาแทรกอีก นั่นคือ ธนาคารในประเทศจีนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง อัตราการกู้ยืมระหว่างธนาคารด้วยกันพุ่งกระฉูด สาเหตุมาจากปัญหาหนี้เน่าที่ทับถมธนาคารอยู่ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเท่าไรกันแน่ เพราะทางการจีนก็ไม่บอก แต่ขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมนั้น วันนี้ไม่ใช่ขยะแล้ว แต่กลายเป็นระเบิดที่ซ่อนอยู่ใต้พรมแทน เนื่องจากธนาคารจีนขาดสภาพคล่อง ครั้นจะกู้ยืมระหว่างธนาคาร ธนาคารแต่ละแห่งต่างก็ไม่ไว้ใจกัน เพราะไม่รู้ว่าใครซุกหนี้เน่าเอาไว้เท่าไร ต่างก็ไมยอมให้ยืมกัน เพราะเรกงว่ายืมแล้วจะไม่ได้คืน ดังนั้นเงินสดจึงหายาก อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารจึงพุ่งสูง ซึ่งเดิมทีทางธนาคารกลางของจีนบอกว่าจะไม่อัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีก เพราะเกรงปัญหาฟองสบู่ จีนต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน แม้ว่าอัตราการเติบโตจะช้าลงบ้างก็ดีกว่าโตเร็วแต่มีปัญหาฟองสบู่

พอไม่อัดฉีด ก็กลายเป็นว่าธนาคารขนาดกลางและเล็กขาดสภาพคล่องถึงขั้นวิกฤต ถึงขั้นธนาคารอาจล้มได้ ในที่สุดธนาคารกลางของจีนก็ยอมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปช่วยเหลือเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไร แต่ดูเหมือนจะยังไม่พอ เพราะนี่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น อาการป่วยของระบบธนาคารที่แท้จริงคือเรื่องหนี้เน่ายังไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด ดังนั้นจึงระเบิดที่ซุกอยู่ใต้พรมตอนนี้ยังทำงานอยู่ และหากทางการจีนไม่รีบถอดชนวน ระบบเศรษฐกิจจีนอาจมีปัญหารุนแรง และมีหวังได้เห็นตลาดหุ้นแดงเดือดกันทั่วโลกอีกรอบหนึ่ง

จากปัญหาของจีนที่เพิ่งประทุขึ้นมานี้เอง ที่เป็นเหมือนความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เรื่องยุติ QE3 ของลุงเบนยังไม่ทันจะฝุ่นจาง ปัญหาเรื่องสภาพคล่องของธนาคารจีนก็เข้ามาอีก

เมื่อวาน 24/06/2013 ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงในวันเดียวกว่า -5% โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารลงหนักว่านั้น ประมาณ -8% และพลอยฉุดให้ตลาดหุ้นอื่นแดงไปด้วย รูปแบบทางเทคนิคเสียหายไปแล้ว ดังภาพต่อไปนี้


ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจากปัญหาธนาคารขาดสภาพคล่อง เดิมทีทางการจีนบอกว่าจะไม่อัดฉีดสภาพคล่องเพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาฟองสบู่ แต่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนแม้ว่าจะเติบโตช้าลงบ้าง แต่ในที่สุดก็ต้องยอมอัดฉีดเงินเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งยังไม่รู้จำนวนเงินที่ใช้ แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ ตลาดหุ้นจีนดิ่งลง -17.9% แล้วนับจากยอดคลื่นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม


ถ้าดัชนี CSI 300 ของจีนหลุดจาก 2110 จุดก็เป็นเรื่อง เพราะแปลว่ายังลงได้อีกมาก กลายเป็นคลื่นใหญ่ขาลงทีเดียว และแนวโน้มจะหลุดจาก 2110 ก็มีสูงเสียด้วย แต่ว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆมากมายเพียงใดยังยากบอกได้

ขณะเดียวกัน เมื่อวาน 24/06/2013 ตลาดหุ้นทั่วโลกก็รับข่าวเศรษฐกิจจีน ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลงประมาณ -0.9% ที่จริงลงลึกกว่านี้อีกในระหว่างวัน แต่ดีดกลับมาได้ตอนท้ายตลาด ขณะเดียวกัน ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวของอเมริกาก็ร่วงลงไปอีก


ตลาดหุ้นอเมริกาฝุ่นตลบต่อจากผลของปัญหาเศรษฐกิจของจีน จนถึงวันนี้ 24/06/2013 ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลงจากยอดคลื่นล่าสุด -4.87% แล้ว และราคาพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน อายุ 10 ปี และ 30 ปี ก็ปรับตัวลงจากยอดคลื่นล่าสุดเมื่อต้นเพือนพฤษภาคม -5.4% กับ -9.6% ตามลำดับ




ขณะเดียวกัน ทางฝั่งยุโรปก็แดงเช่นกัน ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลงไปแล้ว -9.8% 


ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลงจากยอดคลื่นล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม -9.8% แล้ว


เมื่อวาน 24/06/2013 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อ ดัชนี SET ปิดที่ 1364.09 จุด ซึ่งเดิมทีแม้ว่าดัชนีจะเคยไหลลงถึง 1350 จุดแต่ก็เป็นในระหว่างวันเท่านั้น หากคิดจากราคาปิด ดัชนี SET ยังไม่เคยหลุดจาก 1400 จุด เมื่อวานเป็นวันแรกที่ดัชนีปิดต่ำกว่า 1400 จุด 


ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากยอดคลื่นล่าสุด -17% แล้ว


ราคาทองคำหลุดจากกรอบสามหลี่ยมชายธงลงมาแล้ว อาจลงไปได้ถึง 1160 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์


ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนหนัก ราคาทองคำในที่สุดก็หลุดจากสามเหลี่ยมชายธงลงมาข้างล่าง พร้อมกับดอลลาร์ สรอ แข็งค่า แต่ขณะนี้ดอลลาร์ สรอ ดูจะเริ่มนิ่งแล้ว ทำให้เงินตราสกุลอื่นพลอยเริ่มนิ่งไปด้วย แต่ก็ยังไม่น่าวางใจ ดอลลาร์ สรอ อาจแข็งค่าต่อพร้อมกับราคาทองคำร่วงต่อ



อัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำในเชิงเปรียบเทียบ



สำหรับสรุปในรอบสัปดาห์ที่แล้วเราก็คงคุยกันมามากแล้ว ประเด็นหลักในสัปดาห์ที่แล้วก็คือความปั่นป่วนจากการประกาศของเฟดเรื่องการชะลอและยุติ QE3 ซึ่งถือว่าชัดเจนขึ้นมากแล้ว ตลาดในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงรับข่าวนี้เป็นหลัก ตลาดหุ้นอเมริกาเองตลอดสัปดาห์ปรับตัวลงไม่มาก ประมาณ -2% ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นลงหนักกว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงถึง -4.4%

สำหรับสัปดาห์นี้ ประเด็นจะไปอยู่ที่เศรษฐกิจจีนเป็นหลัก ต้องมาดูกันว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบสนองกับข่าวทางจีนมากน้อยเพียงใด ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้นลุงแมวน้ำไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่า 1350 จุดจะรับไหวไหม รวมทั้งไม่แน่ใจว่า window dressing ตอนสิ้นเดือนมิถุนายนจะทำงานได้จริงหรือไม่ เพราะรายย่อยก็รอขายตอนทำ window dressing อยู่นี่แหละ เมื่อรอขายกันทั้งประเทศก็อาจขึ้นไม่ไหว แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ตอนนี้ คิดว่าหากหลุด 1350 จุดก็คงไม่หลุด 1310 จุด ทั้งนี้ ลุงแมวน้ำดูจากราคาพันธบัตรรัฐบาลที่เริ่มนิ่งแล้ว ประกอบกับค่าเงินบาทก็เริ่มนิ่ง ดังนั้นตลาดหุ้นก็น่าจะเริ่มนิ่งได้แล้ว

ดัชนีราคาพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 7-10 ปี จากที่ราคาไหลลงแรง ตอนนี้เริ่มนิ่งแล้ว หมายความว่าแรงขายเริ่มชะลอตัวแล้ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยด้วย


ตลาดตอนนี้ผันผวนมาก อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น ก็ต้องรอดูตลาดอเมริกาเป็นหลัก เมื่อไรที่ตลาดอเมริกาไปต่อได้ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็จะตั้งหลักและไปต่อได้





 photo s5021062013weeklyreportcopy.gif