Tuesday, April 16, 2013

16/04/2013 สุขสันต์วันสงกรานต์ 2556 และ 4 ปีของเว็บบล็อกลุงแมวน้ำ






สงกรานต์ปี 2556 นี้ลุงแมวน้ำมาสุขสันต์วันสงกรานต์สายไปหน่อย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าปีนี้บรรดาสิงห์สาราสัตว์ในคณะละครสัตว์ลากลับภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์กันเป็นจำนวนไม่น้อย ที่โรงละครสัตว์จึงเงียบกริบ แถมยังมีฝนตกให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลุงแมวน้ำจึงเกิดอาการอยากพักผ่อนขึ้นมา ไม่อยากทำอะไรเลย พูดง่ายๆก็คือขี้เกียจนั่นแหละ ^_^ หลายปีมานี้ทำงานแบบไม่ค่อยได้พักผ่อน ปีนี้รู้สึกอยากขอพักให้เต็มอิ่มสักวันสองวัน จากนั้นก็วางแผนที่จะทำโน่น ทำนี่ หลายอย่าง ตั้งแต่จัดโขดหินที่รกรุงรังไปด้วยสินค้า สะสางงานอีคอมเมิร์ซที่คั่งค้าง ตลอดจนดูแลความเรียบร้อยภายในโรงละครสัตว์ อ้อ เลี้ยงกระรอกน้อยด้วย ฯลฯ แต่ทำไปทำมาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ได้อยู่อย่างเดียวคือนอน ที่เหลือก็ได้อย่างละเล็กอย่างละน้อย ไม่มากเท่าไร

ลุงแมวน้ำนอนพักผ่อนอยู่บนโขดหินแบบเต็มๆอยู่เกือบสองวัน คือวันเสาร์กับอาทิตย์ ปิดหู ปิดตา แต่ยังไม่ปิดจมูกเพราะกลัวขาดอากาศหายใจ ฝนตก อากาศเย็นสบายน่าพักผ่อนมาก รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเลย ระหว่างที่พักผ่อนอยู่นั้นก็คิดทบทวนอะไรหลายต่อหลายอย่าง


สวนเล็กๆภายในบริเวณโรงละครสัตว์ ใกล้กับโขดหินของลุงแมวน้ำ ในสวนเขียวขจี ร่มรื่น มีสัตว์ นก และแมลงนานาชนิด หลังฝนตกหอยทากน้อยสองตัวก็ออกมาเดินกระดืบๆหาของกิน


นึกขึ้นมาได้ว่าเว็บบล็อกของลุงแมวน้ำมาถึงตอนนี้ก็มีอายุครบ 4 ปีเต็มแล้ว ก็อย่างที่เขาพูดกันนั่นแหละว่าเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก

สามปีแรกลุงแมวน้ำปรับปรุงเว็บบล็อกอย่างขยันขันแข็ง ทำทุกวันเลย แต่พอมาปีที่สี่ก็เริ่มช้าอืดอาด ก็อย่างว่าละนะ แมวน้ำชรา เรี่ยวแรงเริ่มถดถอย ^_^ เหตุผลอีกอย่างหนึ่งก็คือในรอบปีที่ผ่านมาภาระการงานของลุงค่อนข้างมาก แต่ก็แปลกที่ช่วงสามปีแรกของลุงแมวน้ำมียอดไลก์ในเฟซบุ๊กรวมกันประมาณ 1000 ไลก์ แต่ในปีที่สี่นี้แม้ว่าจะปรับปรุงเว็บบล็อกช้ากว่าเดิม แต่ยอดไลก์ทั้งปีก็ประมาณ 1000 ไลก์ เท่ากับที่ได้มาในช่วงสามปีแรกเลยทีเดียว

และที่แปลกยิ่งกว่านั้น คือ บทความที่มีคนอ่านมากที่สุดกลับไม่ใช่บทความด้านการลงทุนหรือการวิเคราะห์หุ้น เศรษฐกิจ แต่กลับเป็นบทความเรื่องทำโยเกิร์ตสูตรเจไว้กินเอง ยอดคนดูตั้งหลายพันคนเชียว เรื่องตลาดน้ำขวัญเรียมก็มีคนดูเป็นพัน สงสัยว่าลุงจะเลิกทำเว็บบล็อกการลงทุน หันมาเอาดีทางทำเว็บบล็อกแนวเบาๆ โน่น นี่ นั่น น่าจะรุ่งกว่า ^_^

วันนี้ลุงขอคุยสบายๆ สัพเพเหระก็แล้วกันกันนะ ให้สมกับบรรยากาศวันพักผ่อนในเทศกาลปีใหม่ไทย

มาดูกระรอกน้อยสองพี่น้องกันก่อน ช่วงวันหยุดนี้ลุงแมวน้ำมีเวลาก็เลยดูแลใกล้ชิดหน่อย จับกระรอกน้อยใส่ในหูกระต่ายแล้วพาเดินไปไหนมาไหนด้วย เพราะว่ากระรอกน้อยชอบไออุ่น ลุงก็เดินอยู่แถวบริเวณโขดหินนั่นแหละ ไม่ได้ไปไกล แต่กระรอกน้อยชอบมาก ติดลุงแมวน้ำแจเลย จะไปไหนต้องขอไปด้วยตลอด



กระรอกน้อยสองพี่น้องเมื่ออายุได้ 40 วัน วันๆก็กิน นอน แล้วก็เล่น ไม่ทำอย่างอื่น ตอนนี้รู้เพศแล้วล่ะ เป็นเด็กหญิงทั้งคู่เลย ตัวพี่คือ ดญ.หัวโน จะมีพวงหางที่ฟูสวยกว่าน้องขาเจ็บหน่อย ทั้งสองตัวเวลานอนต้องกอดกันกลมแบบนี้เสมอ คงรักกันมาก ^_^ ตัวล่างในภาพที่นอนแบบโยคะคือหัวโน ส่วนตัวบนคือน้องขาเจ็บ


จ๊ะเอ๋!!! สองศรีพี่น้องปีนป่ายเก่งขึ้นทุกวัน เล็บเริ่มคมขึ้น มีอยู่วันหนึ่ง ไม่กี่วันมานี้เอง ทั้งสองตัวปีนขึ้นไปบนชั้นสามของกรงได้เป็นครั้งแรก  (กรงมี 3 ชั้น) ที่ชั้นสามจะมีบ้านเล็กๆอยู่หลังหนึ่ง ทั้งสองตัวพอเห็นบ้านก็เข้าไปหลับปุ๋ยอยู่ในนั้นทันที จนลุงต้องจับเอาตัวลงมา แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ขึ้นไปอีก เล่นอยู่แต่ชั้นล่างของกรง ยังไม่รู้ว่าที่ไม่ขึ้นไปอีกเพราะอะไรเหมือนกัน

เรื่องอีคอมเมิร์ซของลุงแมวน้ำไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไร ขายของได้เล็กๆน้อยๆ เพราะว่าลุงไม่ได้ทำเต็มเวลา ทำได้แค่ในยามว่างเท่านั้น ก็อยากให้คืบหน้ามากกว่านี้และเร็วกว่านี้ แต่ก็ยังไม่รู้จะทำยังไง เพราะเวลามีจำกัด อีกอย่างหนึ่งคงเป็นเพราะว่าลุงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในลำดับต้นๆกระมัง อย่างตอนที่ได้ลาภสัตว์ 8 เท้าเข้ามา (ไม่ใช่แมงมุมนะ แต่เป็นกระรอกสองตัว ^_^) ลุงก็ต้องจัดการดูแล จะดูดายก็ทำไม่ลง เลี้ยงกระรอกเพิ่มอีกสองชีวิตก็กินเวลาไปอีกโข เรื่องอีคอมเมิร์ซก็รอไปก่อน

หลังจากที่พักผ่อนและดูแลกระรอกน้อยแล้ว งานสำคัญที่ลุงตั้งใจว่าจะทำในช่วงหยุดสงกรานต์นี้ก็คือการตามหาหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง

ภาระสำคัญอย่างหนึ่งของลุงแมวน้ำที่ทำมานานแล้วก็คือการรักษาหมาจรจัดที่เป็นขี้เรื้อน ที่ว่าเป็นขี้เรื้อนนี้ไม่ได้เป็นโรคเรื้อนแบบคนหรอกนะ ขี้เรื้อนในหมาที่ทำให้หมาดีๆ ขนสวยๆ กลายเป็นหมาหนังกลับได้นั้นเกิดจากตัวไรที่ไปอาศัยอยู่ตามผิวหนังของหมา ทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้ อักเสบ ทำให้คันและขนร่วง หมาที่เป็นขี้เรื้อนนี้ เมื่อใดที่มีอาการคันจะทรมานมาก เป็นโรคที่ไม่ถึงตายแต่ว่าต้องทนทุกข์ทรมานยาวนาน ยิ่งหมาจรจัดเป็นหมาที่คนรังเกียจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเป็นขี้เรื้อนคนก็ยิ่งรังเกียจ มีแต่ไล่ให้ไปไกลๆ ดังนั้นโอกาสที่จะหาอาหารก็ยากยิ่งขึ้น
และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของงานอดิเรกอย่างหนึ่งของลุงแมวน้ำ นั่นคือการตระเวนรักษาหมาจรจัดที่เป็นขี้เรื้อน งานอดิเรกนี้ใช้เวลาพอสมควรทีเดียว เพราะการรักษาหมาตัวหนึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องให้ยาต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ไหนจะเดินทาง ไหนจะทำความคุ้นเคย ไหนจะตามหาหมาให้เจอ เพราะว่าหมาจรจัดนั้นเราไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่ บางวันไปแล้วหาไม่เจอก็ต้องไปใหม่อีก อย่างเจ้าหมาตัวที่ลุงไปรักษาในวันสงกรานต์นี้ก็ตามหาเพื่อให้ยามาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เจอสักที ก็เพิ่งมาเจอนี่เอง


หมาในภาพนี้เป็นหมาตัวเดียวกัน ลุงถ่ายไว้เมื่อประมาณ 7 ปีมาแล้ว ตอนที่ลุงไปเจอก็เป็นขี้เรื้อนดังที่เห็นในภาพบน ผิวหนังอักเสบ มีรอยเกาเป็นแผลน้ำเหลืองโชกเลย หลังจากที่รักษาแล้วก็ขนสวยงามดังรูปล่าง แต่ตัวนี้งานยากหน่อย เพราะว่าหายแล้วสักพักก็กลับมาเป็นซ้ำอีก ในสองปีลุงรักษาไปสามรอบ อยู่ไกลเสียด้วย สุดท้ายก็มาโดนรถชนตาย แต่ในช่วงหลังของชีวิตตอนที่หายจากขี้เรื้อนแล้วชีวิตก็มีความสุขขึ้นมากเพราะไม่คันแล้ว 


เอาละ สงกรานต์นี้แวะไปโน่นไปนี่ ยังไม่ได้สาดน้ำสักที เดี๋ยวเราไปสาดน้ำกัน ปีนี้ลุงแมวน้ำไปที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะว่าไปที่สีลมมาหลายปีแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ส่วนที่ตรอกข้าวสารนั้นไกลเกิน ลุงไปไม่ไหว

ที่เซ็นทรัลเวิลด์แม้จะมีพื้นที่เล่นสนุกไม่มากเหมือนกับที่ถนนสีลมซึ่งปิดถนนเล่นไปครึ่งสาย แต่ก็มีสีสันดีเพราะว่ามีสงกรานต์โฟมด้วย คือแทนที่จะฉีดน้ำก็เปลี่ยนเป็นฉีดโฟม สนุกไปอีกแบบ


สงกรานต์ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ บนลานแบ่งพื้นที่เป็นโซนฉีดน้ำกับโซนฉีดโฟม ในภาพนี้เป็นโซนฉีดน้ำ มีน้ำจากสายยางของทางผู้จัดฉีดจนเป็นเหมือนสายฝน และแต่ละคนที่มาเล่นก็พกปืนฉีดน้ำมาฉีดใส่กันด้วย


นอกจากโซนฉีดน้ำแล้วก็ยังมีโซนฉีดโฟม ที่เห็นในรูปเป็นเครื่องสีดำคล้ายพัดลม นั่นคือเครื่องฉีดโฟม เล่นโฟมกันสนุก โฟมนี้ไม่ค่อยลื่น เพราะไม่ใช่ฟองจากผงซักฟอก ลุงแมวน้ำลื่นไถลไปบนพื้นที่มีโฟมก็นุ่มพุงดีเหมือนกัน ^_^

ชาวต่างชาติมาเล่นน้ำสงกรานต์เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนเอเชีย พวกสิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ฮ่องกง ฝรั่งก็มีแต่ไม่มากนัก


ภาพนี้เป็นการเล่นสงกรานต์ตามท้องถนน มีให้เห็นประปราย แต่ส่วนใหญ่จะไปชุมนุมกันเล่นตามจุดเล่นสงกรานต์ใหญ่ๆมากกว่า 


ลุงแมวน้ำเอาสีสันในวันสงกรานต์ปี 2556 นี้มาเล่า และถือเป็นบทความในโอกาสครบรอบ 4 ปีของเว็บบล็อกลุงแมวน้ำอีกด้วย ย่างก้าวต่อไปก็จะเป็นปีที่ 5 แล้ว ลุงแมวน้ำก็อายุมากขึ้นทุกวัน จะทำได้ถึงแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ก็เอาเป็นว่าเราจะอยู่เป็นเพื่อนกันจนกว่าจะไม่มีคนอ่านหรือจนกว่าลุงแมวน้ำจะทำไม่ไหวก็แล้วกัน

สุขสันต์วันสงกรานต์คร้าบ (^___^)



Tuesday, April 9, 2013

09/04/2013 * สรุปตลาดในรอบสัปดาห์ (01/04/2013 - 05/04/2013)


ตลาดหุ้นไทยเป็นแนวโน้มขาลง หากภายวันวันสองวันนี้ SET ยังปิดได้สูงกว่า 1478 จุดก็มีโอกาสก่อตัวเป็นชายธงก่อนค่อยลง แต่หากวันสองวันนี้ปิดต่ำกว่า 1478 จุด ดัชนีคงไหลลงเร็ว


วันนี้เรามาสรุปภาวะตลาดและการลงทุนในรอบสัปดาห์ที่แล้วกัน

ภาพรวมในสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ทางฝั่งทวีปอเมริกาปรับตัวลงหมด ส่วนของสหรัฐอเมริกานั้นปรับตัวลงประมาณ -1% ตอนนี้ข่าวทางสหรัฐอเมริกามีทั้งดีปนร้าย ข่าวดีคืออัตราการจ้างงานดีขึ้น แต่ข่าวร้ายคือแรงงานอเมริกันถอดใจเลิกหางานกันมากขึ้น พวกนี้คือออกจากระบบไปเลย ไม่ได้นำมาคำนวณเป็นผู้ว่างงาน กับข่าวที่เก็งผลประกอบการไตรมาส 1 กัน บ้างก็ว่าน่าจะออกมาดี บ้างก็ว่าน่าจะออกมาแย่ลง ข่าวยังสับสน

ทางด้านทวีปยุโรป ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเยอรมนี ดัชนี DAX เกิดสัญญาณขายและมีรูปแบบกราฟเป็นแนวโน้มขาลง ดูแปลกๆ ทำเหมือนกับว่าจบคลื่นใหญ่เลย แต่ประเด็นนี้ขอรอดูอีกหน่อย เพราะหากจบคลื่นใหญ่จริงคงเป็นเรื่อง เพราะเท่ากับว่าคลื่นที่เพิ่งจบคือคลื่น B และขณะนี้ยุโรปอยู่ในคลื่น C ใหญ่ แต่อย่าเพิ่งกังวลมาก ลุงแมวน้ำแค่พูดเผื่อไว้ รอดูไปก่อน

ทางด้านตลาดหุ้นเอเชีย สัปดาห์ที่แล้วตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวลง ตลาดหุ้นจีนลงแรงจากปัญหาเรื่องไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ขณะนี้มีชาวจีนตายไปแล้ว 7 คน ตลาดค้าสัตว์ปีกในเซี่ยงไฮ้ถูกสั่งปิดและฆ่าไก่ไปเป็นจำนวนมากเพื่อควบคุมโรค ผลจากเรื่องนี้ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงแรงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นสายการบินทั้งในจีนและฮ่องกง ลงกันระเนระนาด ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันที่ยังดูดีเพราะไต้หวันหยุดในเทศกาลเช็งเม้ง 2 วัน สัปดาห์นี้เปิดมาก็ลงแรงเช่นกัน

แวะมาที่ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงแรงที่สุดในเอเชียก็ว่าได้ เพราะว่าลงไปถึง -4.6% โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ต่างชาติเริ่มขายรุนแรง หุ้นในกลุ่ม SET50 เกิดสัญญาณขายไปแล้วถึง 31 หุ้น ตลาดแบบนี้เป็นตลาดขาลงแล้ว ในตลาดขาลง หุ้นจะเด้งขึ้นไม่ได้มาก เพราะขึ้นมาก็ถูกขาย โดยเฉพาะพอร์ตของโบรกเกอร์หรือที่เรียกว่าพอร์ตเทรด พวกนี้ขายไวมาก ไม่ถือยาวอยู่แล้ว ส่วนต่างชาติก็ขายอยู่ รายย่อยก็เล่นสั้นชนิดที่ว่าไม่เอาหุ้นกลับบ้าน ดังนั้นปัจจัยจิตวิทยาเหล่านี้ทำให้หุ้นขึ้นต่อไม่ได้ เพราะขึ้นมาก็ถูกขาย ต้องรอให้ลงไปลึกๆก่อน ความผันผวนจะค่อยๆลดลง ถึงตอนนั้นจึงมีคนกล้าถือเก็บเอาไว้

สำหรับตลาดหุ้นไทย รอดูในวันสองวันนี้ หากดัชนี SET ปิดต่ำกว่า 1478 จุด แสดงว่ารูปแบบการลงเป็นแบบคลื่นขาลงแล้ว แต่หากปิดสูงกว่า 1478 จุด แสดงว่ายังมีโอกาสเด้งขึ้นลงเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง หากเป็นชายธงก็เป็นโอกาสโดดหนีให้ได้ราคาหน่อย หากเป็นคลื่นซิกแซกขาลงก็น่ากลัว เพราะว่าลงเร็ว

ทางด้านค่าเงิน สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินผันผวนมาก ธนาคารกลางของญี่ปุ่นเริ่มอัดฉีดเงินเข้ามาในตลาดด้วยการซื้อพันธบัตร รอบนี้อยู่ในวงเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท (ยังมีอีกหลายรอบ) ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นวิ่งฉิว ค่าเงินเยนอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรและเงินสกุลยุโรปอื่นๆก็แข็งค่าขึ้น ส่วนเงินบาทไทยสัปดาห์ที่แล้วแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ขณะนี้แข็งค่าอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนอ่านยาก ลุงแมวน้ำก็มึนเหมือนกัน

ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบ ทองคำ สินค้าเกษตร ปรับตัวลง น้ำมันดิบกับสินค้าเกษตรลงแรง ราคายางพาราปรับตัวลงถึง -10% ทีเดียว

วันนี้มีทั้งตารางและกราฟหลายภาพ โดยเฉพาะตารางมีส่วนช่วยในการมองสถานการณ์ได้ดี ดีกว่าภาพรายวันเสียอีก ลองชมกันนะคร้าบ


ดัชนี DAX ของเยรมนี กำลังทำคลื่นขาลงอยู่ อาจเป็นการจบคลื่น B และเข้าคลื่น C ก็ได้ แต่ยังไม่ชัด รอดูต่อไปอีกหน่อย แต่ก็ควรเตรียมตัวเอาไว้บ้าง เพราะหากเป็นคลื่น C จริงจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

เงินยูโรค่อยๆแข็งค่ามาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น

เงินเยนอ่อนค่าหนักเพราะผลจาก QE ฉบับซามูไร รอบนี้อัดฉีดเงินเข้าซื้อพันธบัตรถึง 1 แสนล้านเยนหรือประมาณ 3 แสนล้านบาท 

ราคายางพาราไทยตลาด AFET เป็นขาลงชัดเจน อาจลงไปได้ถึง 66 บาท




 photo s5009042013weeklyreportcopy.gif