Tuesday, April 9, 2013

09/04/2013 * สรุปตลาดในรอบสัปดาห์ (01/04/2013 - 05/04/2013)


ตลาดหุ้นไทยเป็นแนวโน้มขาลง หากภายวันวันสองวันนี้ SET ยังปิดได้สูงกว่า 1478 จุดก็มีโอกาสก่อตัวเป็นชายธงก่อนค่อยลง แต่หากวันสองวันนี้ปิดต่ำกว่า 1478 จุด ดัชนีคงไหลลงเร็ว


วันนี้เรามาสรุปภาวะตลาดและการลงทุนในรอบสัปดาห์ที่แล้วกัน

ภาพรวมในสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ทางฝั่งทวีปอเมริกาปรับตัวลงหมด ส่วนของสหรัฐอเมริกานั้นปรับตัวลงประมาณ -1% ตอนนี้ข่าวทางสหรัฐอเมริกามีทั้งดีปนร้าย ข่าวดีคืออัตราการจ้างงานดีขึ้น แต่ข่าวร้ายคือแรงงานอเมริกันถอดใจเลิกหางานกันมากขึ้น พวกนี้คือออกจากระบบไปเลย ไม่ได้นำมาคำนวณเป็นผู้ว่างงาน กับข่าวที่เก็งผลประกอบการไตรมาส 1 กัน บ้างก็ว่าน่าจะออกมาดี บ้างก็ว่าน่าจะออกมาแย่ลง ข่าวยังสับสน

ทางด้านทวีปยุโรป ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเยอรมนี ดัชนี DAX เกิดสัญญาณขายและมีรูปแบบกราฟเป็นแนวโน้มขาลง ดูแปลกๆ ทำเหมือนกับว่าจบคลื่นใหญ่เลย แต่ประเด็นนี้ขอรอดูอีกหน่อย เพราะหากจบคลื่นใหญ่จริงคงเป็นเรื่อง เพราะเท่ากับว่าคลื่นที่เพิ่งจบคือคลื่น B และขณะนี้ยุโรปอยู่ในคลื่น C ใหญ่ แต่อย่าเพิ่งกังวลมาก ลุงแมวน้ำแค่พูดเผื่อไว้ รอดูไปก่อน

ทางด้านตลาดหุ้นเอเชีย สัปดาห์ที่แล้วตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวลง ตลาดหุ้นจีนลงแรงจากปัญหาเรื่องไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ขณะนี้มีชาวจีนตายไปแล้ว 7 คน ตลาดค้าสัตว์ปีกในเซี่ยงไฮ้ถูกสั่งปิดและฆ่าไก่ไปเป็นจำนวนมากเพื่อควบคุมโรค ผลจากเรื่องนี้ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงแรงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นสายการบินทั้งในจีนและฮ่องกง ลงกันระเนระนาด ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันที่ยังดูดีเพราะไต้หวันหยุดในเทศกาลเช็งเม้ง 2 วัน สัปดาห์นี้เปิดมาก็ลงแรงเช่นกัน

แวะมาที่ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงแรงที่สุดในเอเชียก็ว่าได้ เพราะว่าลงไปถึง -4.6% โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ต่างชาติเริ่มขายรุนแรง หุ้นในกลุ่ม SET50 เกิดสัญญาณขายไปแล้วถึง 31 หุ้น ตลาดแบบนี้เป็นตลาดขาลงแล้ว ในตลาดขาลง หุ้นจะเด้งขึ้นไม่ได้มาก เพราะขึ้นมาก็ถูกขาย โดยเฉพาะพอร์ตของโบรกเกอร์หรือที่เรียกว่าพอร์ตเทรด พวกนี้ขายไวมาก ไม่ถือยาวอยู่แล้ว ส่วนต่างชาติก็ขายอยู่ รายย่อยก็เล่นสั้นชนิดที่ว่าไม่เอาหุ้นกลับบ้าน ดังนั้นปัจจัยจิตวิทยาเหล่านี้ทำให้หุ้นขึ้นต่อไม่ได้ เพราะขึ้นมาก็ถูกขาย ต้องรอให้ลงไปลึกๆก่อน ความผันผวนจะค่อยๆลดลง ถึงตอนนั้นจึงมีคนกล้าถือเก็บเอาไว้

สำหรับตลาดหุ้นไทย รอดูในวันสองวันนี้ หากดัชนี SET ปิดต่ำกว่า 1478 จุด แสดงว่ารูปแบบการลงเป็นแบบคลื่นขาลงแล้ว แต่หากปิดสูงกว่า 1478 จุด แสดงว่ายังมีโอกาสเด้งขึ้นลงเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง หากเป็นชายธงก็เป็นโอกาสโดดหนีให้ได้ราคาหน่อย หากเป็นคลื่นซิกแซกขาลงก็น่ากลัว เพราะว่าลงเร็ว

ทางด้านค่าเงิน สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินผันผวนมาก ธนาคารกลางของญี่ปุ่นเริ่มอัดฉีดเงินเข้ามาในตลาดด้วยการซื้อพันธบัตร รอบนี้อยู่ในวงเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท (ยังมีอีกหลายรอบ) ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นวิ่งฉิว ค่าเงินเยนอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรและเงินสกุลยุโรปอื่นๆก็แข็งค่าขึ้น ส่วนเงินบาทไทยสัปดาห์ที่แล้วแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ขณะนี้แข็งค่าอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนอ่านยาก ลุงแมวน้ำก็มึนเหมือนกัน

ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบ ทองคำ สินค้าเกษตร ปรับตัวลง น้ำมันดิบกับสินค้าเกษตรลงแรง ราคายางพาราปรับตัวลงถึง -10% ทีเดียว

วันนี้มีทั้งตารางและกราฟหลายภาพ โดยเฉพาะตารางมีส่วนช่วยในการมองสถานการณ์ได้ดี ดีกว่าภาพรายวันเสียอีก ลองชมกันนะคร้าบ


ดัชนี DAX ของเยรมนี กำลังทำคลื่นขาลงอยู่ อาจเป็นการจบคลื่น B และเข้าคลื่น C ก็ได้ แต่ยังไม่ชัด รอดูต่อไปอีกหน่อย แต่ก็ควรเตรียมตัวเอาไว้บ้าง เพราะหากเป็นคลื่น C จริงจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

เงินยูโรค่อยๆแข็งค่ามาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น

เงินเยนอ่อนค่าหนักเพราะผลจาก QE ฉบับซามูไร รอบนี้อัดฉีดเงินเข้าซื้อพันธบัตรถึง 1 แสนล้านเยนหรือประมาณ 3 แสนล้านบาท 

ราคายางพาราไทยตลาด AFET เป็นขาลงชัดเจน อาจลงไปได้ถึง 66 บาท




 photo s5009042013weeklyreportcopy.gif

Thursday, April 4, 2013

04/04/2013 * ถอยดีกว่า


เมื่อวานตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงอีกแล้ว ตอนนี้ความผันผวนในตลาดหุ้นไทยมีมากขึ้นและมากขึ้น สังเกตได้จากการแกว่งที่มีกรอบกว้าง วันหนึ่งแกว่งได้หลายสิบจุด อย่างเมื่อวานก็ไป +11 จุดกว่าๆ จากนั้นก็ลงมาที่ -31 จุดกว่าๆ รวมแล้วแกว่งในกรอบ 40 กว่าจุด

เมื่อคืนตามเวลาบ้านเรา (วันทรด 03.04/2013) ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปก็ลง อเมริกาก็ลง โดยเฉพาะน้ำมันดิบลงแรง โดยน้ำมันดิบ WTI - 2.8% น้ำมันดิบเบรนต์ -3.2% ทองคำก็ร่วงตามลงมา -1.4% ส่วนสินค้าเกษตรร่วงหนักมาก่อนหน้านี้แล้ว

วันนี้เรามาดูสถานการณ์ทั้งในบ้านเราและตลาดโลกกัน ดูตามภาพไปเลยคร้าบ




มาที่ยุโรปกันก่อน โดยดูดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนี ดัชนีแดกซ์ยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (คือที่ 8092 จุด) แล้วก็ไหลลงมาและเกิดสัญญาณขาย ตอนนี้อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง แต่สัญญาณกลับทิศแนวโน้มเริ่มทยอยมาให้เห็นแล้ว รอดูต่อไปอีกหน่อยว่าจะกลับทิศหรือไม่




มาที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ดัชนี S&P 500 มาชนระดับสูงสุดเดิมของเมื่อก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ แต่ยังยืนไม่อยู่ จากนั้นก็ร่วงลงมา แล้วเข้าสู่ภาวะไร้ทิศทางแล้ว ต้องดูต่อไปว่าจะกลับทิศแนวโน้มเป็นขาลงหรือไม่




น้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงจากยอดสต็อกน้ำมันของอเมริกาที่เหลืออยู่บานเบอะ ถ้านับคลื่นน่าจะเข้าคลื่น c ย่อย คงลงต่อได้อีก รอบนี้น่าจะหลุด 90 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล




ทองคำ หลุดกรอบชายธงลงมาแล้ว แถมยังเกิดแท่งเทียนดำใหญ่ แนวโน้มลงต่อได้อีกมาก




สินค้าเกษตร ช่วงที่ผ่านมาเหมือนกับจะจบคลื่น c และเริ่มเข้าคลื่น 1 แต่ในที่สุดก็ไม่ใช่ ทั้งเดินแท่งเทียนดำใหญ่และเกิดช่อง (gap) ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันเป็นขาลง สินค้าเกษตรคงลงต่อได้อีก 




ยางพารา RSS3 ของไทย เดิมทีเหมือนกับว่าจะจบคลื่นแล้ว แถว 82 บาท และกำลังเข้าคลื่น 1-2 แต่ดูแล้วคงไม่ใช่แล้วล่ะ คลื่น c ยังไม่จบ แนวโน้มยางพาราคงหลุด 80 บาทลงไปในเร็วๆนี้





คราวนี้มาดูตลาดหุ้นไทยกันบ้าง เมื่อวานตลาดหุ้นลงแรงอีก น่าจะเป็นคลื่น 4 แล้วล่ะ เหลือแต่ว่าจะลงเลยหรือจะทำรูปแบบชายธงก่อนลงเท่านั้นเอง

เมื่อวานกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลงแรง ลองมาดูกราฟของหุ้นอสังหาฯบางตัวกัน ตัวเลขที่เป็น % ในภาพหมายถึงราคาปิดเมื่อวานลงมาจากยอดคลื่นแล้วกี่เปอร์เซ็นต์นั่นเอง